NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 1393 จากไป

บทที่ 1393 จากไป

เมื่อเอามือของตัวเองออกมา หลี่ฝางก็ฉีกเสื้อของตัวเองออกมา ก่อนจะพันแผลอย่างง่ายๆ ก็หันไปพลางเริ่มหาเงาของไอ้คนผอม

แต่ตอนนี้หลี่ฝางจะมาเสียเวลากับท่านนายพลหญิงคนนี้ไม่ได้แล้ว เขาต้องรีบไปเอาผลแก้วม่วงมาให้ได้ จากนั้นก็รีบกลับประเทศจีน

เมื่อเห็นเงาของหลี่ฝางไปอย่างเฉียบขาด ท่านนายพลหญิงก็มีความห่อเหี่ยวในแววตา ฝ่ามือนั้นยังมีความอุ่นของหลี่ฝางอยู่ แต่เธอกลับคิดว่าระหว่างทั้งสองคนนั้นมีช่องว่างที่ไม่อาจข้ามได้อยู่

เธอผิดเหรอ?ตั้งแต่แรก เธอไม่ควรขังหลี่ฝางไว้ในจวนของท่านนายพลเพราะความต้องการส่วนตัวใช่หรือเปล่า?

แต่การรักคนคนหนึ่งมันผิดเหรอ?เธอแค่อยากใช้ชีวิตกับหลี่ฝางไปคลอดชีวิตเท่านั้นเอง

“เฮ้!ตายหรือยัง?ผลแก้วม่วงล่ะ?” หลี่ฝางมองไปรอบๆ เมื่อหาไอ้คนผอมออกมาได้จากกองซากอิฐ ก็เห็นเพียงเลือดเต็มไปบนตัวของเขา โดยที่ไม่รู้ว่าตายหรือยัง

หลี่ฝางขมวดคิ้วก่อนจะใช้เท้าเตะร่างของไอ้คนผอม เพราะอยากมั่นใจว่าเขายังมีชีวิตอยู่ไหม

ผ่านไปไม่นาน ไอ้คนผอมขยับเล็กน้อย จากนั้นก็ไอออกมาอย่างกระอัก เหมือนจะลำสักฝุ่น

ยังมิตายก็ดีแล้ว

หลี่ฝางนั่งยองลงอย่างรังเกียจ ก่อนจะใช้มือยกไอ้คนผอมขึ้นมา แล้วก็ถามอีกครั้ง

“ผลแก้วม่วงล่ะ?รีบเอาออกมา”

เพียงเวลาเพียงครึ่งชั่วโมงไอ้คนผอมก็เข้าใกล้ความตายสองรอบแล้ว ตอนนี้เขาขี้ขลาดเป็นอย่างมาก เมื่อได้ยินเสียงของหลี่ฝางก็ตกใจจนร้องออกมา เขากลัวเป็นอย่างมาก

หลี่ฝางมองกับไอ้คนผอมที่เหมือนกับคนบ้า ในใจก็แอบคิดว่าไอ้คนผอมกลัวจนเป็นบ้าไปแล้วหรือเปล่า?

“หุบปาก!ถ้าไม่ยอมเอาผลแก้วม่วงออกมาดีๆ กูจะเอาหัวมึงไปเตะเล่นเลย!”

หลี่ฝางหมดความอดทนกับไอ้คนผอมจนตะโกนออกไป ไอ้คนผอมเลยเงียบลงได้ พลางสั่นเทาไปทั้งตัว จากนั้นก็ค่อยๆเอากล่องหยกเล็กๆออกมาจากอก

“ให้ ให้คุณ”

ไอ้คนผอมค่อยๆส่งกล่องหยกให้หลี่ฝางด้วยความระวัง จากนั้นก็หลบอยู่ด้านหลัง ราวกับหลี่ฝางเป็นสัตว์ประหลาดที่โผล่ขึ้นมาจากน้ำมันน่าเกรงกลัวเป็นอย่างมาก

เมื่อเห็นเขากลัวแบบนั้นหลี่ฝางก็ส่งเสียงด้วยความไม่แยแส จากนั้นก็เอากล่องหยกออกมา แล้วก็โยนไอ้คนผอมไปด้านข้างอย่างรังเกียจ

“หลี่ฝาง!คุณรีบไปเถอะ!คนของราชวงศ์จะมาถึงแล้ว!ถ้ายังไม่ไปเดี๋ยวคุณจะยุ่งยากเอาได้นะ!”

เมื่อหลี่ฝางได้ผลแก้วม่วงแล้ว จู่ๆท่านนายพลหญิงก็วิ่งออกมาอย่างร้อนรน ก่อนจะผลักหลี่ฝาง แล้วก็เร่งให้เขารีบจากไป

ท่านนายพลหญิงเพิ่งได้รับสายลับจากราชวงศ์ของประเทศญี่ปุ่น บอกว่าพวกราชวงศ์จัดคนมากฝีมือมาเป็นสิบคน แล้วจะจัดการหลี่ฝางอย่างไม่สนใจอะไรเลย

ท่านนายพลหญิงได้รับข่าวนี้แล้วก็ไม่กล้าดึงเวลาอีก เลยรีบมาบอกหลี่ฝางอย่างร้อนใจ

“ทำไมคุณต้องมาช่วยฉัน?” เมื่อเห็นท่านนายพลหญิงที่รีบมาบอกแบบนั้น หลี่ฝางก็ถามอย่างแปลกใจ

ตอนที่อยู่ในจวนของท่านนายพล หลี่ฝางก็ไม่ไว้หน้าเธอเลย แถมยังทำให้จวนของท่านนายพลทะเลาะปั่นป่วนเละเทะจนดูไม่ได้

แม้จะเป็นแบบนี้ สุดท้ายท่านนายพลหญิงยังอยู่ข้างกายเขา มันทำให้หลี่ฝางตื้นตันเล็กน้อย

“ก็……ก็ถือว่าเป็นคำขอบคุณของฉันที่เมื่อครู่คุณช่วยฉันก็แล้วกัน คุณอย่าถามอะไรมากเลย รีบไปเถอะ!ครั้งนี้ราชวงศ์จัดหาคนเก่งกาจมากมาย คุณจะไปก็คงไม่ทันแล้ว!”

ท่านนายพลหญิงมีแววตาเป็นประกาย ก่อนจะหาเหตุผลอะไรก็ได้มา จากนั้นก็เร่งให้หลี่ฝางรีบไป

อันที่จริงไม่ต้องให้เธอพูดอะไร หลี่ฝางเองก็รู้ว่าท่านนายพลหญิงนั้นช่วยตัวเองขนาดนี้ทำไม แต่เขาที่มีลูกและภรรยาแล้วเขาเลยรับความรู้สึกของท่านนายพลหญิงไม่ได้ ดังนั้นเขาเลยต้องทำเป็นไม่รู้อะไร

“ขอบคุณนะ จากนี้ถ้าคุณเจอเรื่องอะไร ก็มาหาฉันได้เลย ฉันจะตอบแทนคุณให้ได้อย่างแน่นอน”

แววตาของหลี่ฝางมองท่านนายพลหญิงอย่างสับสน เขาพูดแบบนี้ก่อนจะจากไปไกล

เมื่อเห็นเงาที่ค่อยๆหายไปของหลี่ฝาง ท่านนายพลหญิงก็เหมือนจะเป็นบ้าขึ้นมาทันที ก่อนจะตะโกนเรียกชื่อของหลี่ฝาง

เธอไม่อยากให้หลี่ฝางไป เธออยากให้หลี่ฝางอยู่ต่อ แต่น่าเสียดายที่ในตอนนี้หลี่ฝางจากไปไกลแล้ว เสียงตะโกนของเธอนั้นไม่สามารถเข้าถึงหูหลี่ฝางได้อีกแล้ว

“หลี่ฝาง คุณรอก่อนนะ เดี๋ยวฉันจะไปหาคุณที่ประเทศจีนแน่ๆ”

เมื่อเห็นเงาที่หายไปจากขอบฟ้า ท่านนายพลหญิงก็มีความแน่วแน่ เธอตัดสินใจแล้ว หลังจากที่เรื่องในจวนของท่านนายพลจัดการเสร็จแล้ว เธอก็จะไปที่ประเทศจีนเพื่อตามหาหลี่ฝาง

“ท่านนายพล หลี่ฝางล่ะ?” หลังจากที่หลี่ฝางไปไม่นาน ในจวนของนายกรัฐมนตรีก็มีชายชุดนินจาสีดำหลายคนเข้ามา มีชายคนหนึ่งที่มองท่านนายพลหญิงด้วยแววตาเหมือนเหยี่ยวพลางถาม

“เขาไปแล้ว พวกคุณมาช้าไปแล้ว” ท่านนายพลหญิงมองนินจาเหล่านั้นอย่างเย็นชา พลางพูดออกมาเบาๆ

เมื่อได้ยินดังนั้นนินจาที่อยู่ด้านหน้าสุดก็มีความอาฆาตออกมาจากร่างกาย พลางมองท่านนายพลหญิงด้วยแววตาเย็นชา น้ำเสียงที่พูดก็มีการตักเตือนอยู่ในนั้น

“ท่านนายพล คุณรู้ไหมว่าการกระทำของคุณมันถือเป็นกบฏของประเทศแล้วน่ะ?”

“พละกำลังของฉันทำอะไรหลี่ฝางไม่ได้ ถูกเขาใช้ดาบมาจ่อที่คอ แล้วขู่ให้ฉันปล่อยให้เขาจากไป ฉันแค่ร้องขอชีวิตเท่านั้น จะเรียกว่าเป็นกบฏ ได้อย่างไร?”

ท่านนายพลหญิงไม่กลัวคำขู่ของนินจาเลย ก่อนจะเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย เพื่อให้เห็นรอยเลือดบนคอ จากนั้นก็ถามกลับด้วยแววตาแดกดัน

ถึงอย่างไรก็ไม่มีใครรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นที่จวนของนายกรัฐมนตรี พวกเขาไม่มีหลักฐานก็ไม่สามารถทำอะไรท่านนายพลหญิงได้

เมื่อเห็นท่าทีโอ้อวดของท่านนายพลหญิง นินจาก็โกรธเป็นอย่างมาก พลางมองท่านนายพลหญิงอยู่นาน ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา

“เหอะ ท่านนายพล หวังว่าจากนี้คุณจะโชคดีได้แบบนี้ ช่วงนี้ท่าทีของคุณทำให้ราชวงศ์ไม่พอใจเป็นอย่างมาก ถ้ามีเรื่องประมาณนี้อีก เกรงว่าตำแหน่งท่านนายพลของคุณจะอยู่ได้ไม่นาน”

นินจาพวกนี้ขึ้นตรงกับราชวงศ์ พวกเขาสละชีพเพื่อราชวงศ์เท่านั้น อย่าคิดว่าท่านนายพลหญิงมีตำแหน่งสูงส่งในญี่ปุ่น แต่ท่าทีที่นินจาเหล่านี้ทำกับเธอมันไม่เคารพเท่าไหร่เลย แถมยังบอกได้ว่ามีความไม่แยแสอยู่ด้วย

หลังจากที่เตือนท่านนายพลหญิงด้วยเสียงเย็นชาแล้ว เหล่านินจาก็พาถ่อป่าจากไปอย่างไม่เต็มใจเท่าไหร่

ที่พวกเขาไม่ตามหลี่ฝางไป เพราะภารกิจหลักพวกเขาคือการปกป้องคนสำคัญของราชวงศ์ เลยไม่สามารถจากประเทศญี่ปุ่นไปได้ง่ายๆ

เมื่อข่าวที่พวกเขาจากประเทศญี่ปุ่นมันถูกเผยออกไปแล้ว พวกคนที่หลบซ่อนหวังไม่ดีกับราชวงศ์เริ่มจับตามองอย่างหิวกระหาย

ประเทศญี่ปุ่นไม่ได้สงบเหมือนกับที่มองผิวเผิน

หลังจากที่พวกนินจาไปหมดแล้ว ท่านนายพลหญิงถึงจะนั่งลงบนพื้นอย่างปลดปล่อย ที่ได้เผชิญกับพวกมากฝีมือที่แดนสูงกว่าเธอหลายสิบคนนั้น อันที่จริงเธอตกใจจนเหงื่อแตกเลยล่ะ

แต่ท่านนายพลหญิงก็ยังฝืนรับไว้ ไม่กล้าแสดงความกลัวออกมาเลยแม้แต่น้อย มีเพียงแบบนี้เท่านั้น ที่จะทำให้คนของราชวงศ์ไม่กล้าทำอะไรกับเธอจริงๆ ตำแหน่งของท่านนายพลนี้อันที่จริงมันก็ไม่ได้มั่นคงขนาดนั้น

ในวันนี้จวนของท่านนายพลได้รับบาดเจ็บมากมาย เจียเหอพ่อลูกตายไป มันทำให้เธอเสียคนสนับสนุนไปมากกว่าเดิม จวนของท่านนายพลในอนาคตคงจะเจอปัญหาหนักหน่วงแล้ว

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท