NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 1387 เป็นเรื่องใหญ่โต

บทที่ 1387 เป็นเรื่องใหญ่โต

ท่านนายพลหญิงเห็นคนพวกนี้ไม่ฟังคำสั่งตนซ้ำแล้วซ้ำเล่าก็โมโหมาก ถีบทหารองครักษ์ที่ใกล้ตนที่สุดกระเด็น พลางตำหนิเสียงดัง

“ท่านเจียเหอ ขอโทษด้วยครับ”เห็นท่านนายพลหญิงโมโหมากจริงๆ คนพวกนั้นก็ต้องเชื่อฟัง ทำได้เพียงโค้งคำนับให้เจียเหอ เตรียมพาตัวเขาออกไป

“อย่ามาแตะฉัน!ฉันไปเองได้!”เจียเหอมองท่านนายพลหญิงด้วยความเย็นชา สายตาเต็มไปด้วยความเจ็บปวดใจและผิดหวัง ความจริงใจที่ให้ไปถือว่าให้หมากิน ในใจเขาเต็มไปด้วยความหวังดีต่อท่านนายพลหญิง แต่เธอกลับไม่รับน้ำใจนี้แม้แต่น้อย

“ท่านนายพล ท่านได้เสียเจียเหอไปแล้ว หวังว่าวันข้างหน้าท่านจะนึกถึงมัน ความจริงใจที่เจียเหอมอบให้ ขอเก็บกลับไปตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป”

เจียเหอพูดจบสะบัดแขนเสื้อแล้วเดินออกไป ท่านนายพลหญิงได้ยินเช่นนั้นก็ตกใจมาก มองร่างของเจียเหอที่เลือนหายไป เหมือนสูญเสียของที่สำคัญมากๆไปอย่างไรอย่างนั้น

เธอค่อยๆยกมือขึ้นจะเรียกห้ามเจียเหอ แต่ความหยิ่งในศักดิ์ศรีทำให้เธอหยุด กัดฟันไปมา ท้ายที่สุดก็ไม่พูดออกไป

หลี่ฝางมองแผ่นหลังอันอ้างว้างของเจียเหอ จู่ๆก็รู้สึกว่าเขาน่าสงสาร ในเวลาเดียวกันก็รู้สึกว่าเขาไม่ควรได้รับมัน

“ไม่ตามเขาไปเหรอ?ครั้งนี้คุณคงทำให้เขาเจ็บปวดจริงๆ”ท้ายที่สุดหลี่ฝางก็พูดโน้มน้าวท่านนายพลหญิงออกมาอย่างอดไม่ได้

แม้เขาไม่ชอบท่านนายพลหญิง แต่เขาก็ไม่อยากให้ชีวิตเธอวุ่นวายเพราะตน

เมื่อก่อนตอนที่ตนยังไม่ปรากฏตัว แม้ท่านนายพลหญิงไม่ได้ชอบเจียเหอพวกเขา แต่อย่างน้อยเจียเหอพวกเขาก็รักท่านนายพลหญิงหมดหัวใจ

ตอนนี้ล่ะ เพราะการปรากฏตัวของตน ทำให้ท่านนายพลหญิงกับเจียเหอพวกเขามีช่องว่างระหว่างกัน นี่ทำให้หลี่ฝางไม่สบายใจจริงๆเขายังคงหวังว่าท่านนายพลหญิงได้รับความรักจากคนที่คู่ควรจริงๆ

“คนที่ฉันต้องการมีแค่คุณ”หลังจากท่านนายพลหญิงได้ยินที่หลี่ฝางพูด สายตาก็สั่นไหว จากนั้นกัดฟันพูดออกมา

เธอรู้ว่าเจียเหอรักตนมา สนมชายในจวนก็ล้วนรักเธอ แต่คนที่เธอรักมีแค่หลี่ฝาง และต้องการแค่หลี่ฝาง

มีบางคนที่ไม่สามารถแทนที่ได้จริงๆ

“คุณ!ช่างเถอะๆ ผมขี้เกียจสนใจคุณแล้ว ยังไงคุณก็ส่งข้อความออกไปแล้ว ตอนนี้ผมไม่มีอะไรต้องกลัวแล้ว ในเมื่อคุณไม่พาผมไปจวนของนายกรัฐมนตรี ผมไปเองก็ได้”

หลี่ฝางไม่เคยเห็นใครดื้อรั้นขนาดนี้มาก่อน เมื่อเห็นว่าตนพูดอะไรท่านนายพลหญิงก็ไม่ฟัง เขาจึงขี้เกียจพูดอะไรมากแล้ว ในเมื่อท่านนายพลหญิงปล่อยข่าวออกแล้ว ตอนนี้เขาไม่มีอะไรต้องสนใจอีกแล้ว

และยิ่งไม่จำเป็นต้องอยู่จวนท่านนายพลให้เสียเวลาต่อ เขาจะไปแย่งผลแก้วม่วงจากจวนของนายกรัฐมนตรีตอนนี้เลย จากนั้นกลับไปอธิบายและขอโทษฉินวี่เฟยและหยางฉง

พูดจบหลี่ฝางก็เหาะขึ้นไป มุ่งไปยังจวนของนายกรัฐมนตรี

อาศัยจากข้อมูลที่ตนสืบมา หลี่ฝางก็มาถึงหน้าประตูจวนของนายกรัฐมนตรีอย่างรวดเร็ว จวนของนายกรัฐมนตรีดูมีสง่าราศีกว่าจวนท่านนายพลเสียอีก แถมมีพื้นทีเยอะกว่าจวนท่านนายพลเป็นเท่าตัว

แค่ประตูก็สูงกว่าจวนท่านนายพลเป็นครึ่ง ที่ประตูมีผู้ชาย ญี่ปุ่นถือดาบซามูไรยืนอยู่อีกเป็นโขยง

หลี่ฝางโรยตัวลงมาหน้าประตูจวนของนายกรัฐมนตรีเสียงดังตูม ทำเอาพื้นหินอ่อนแตกกระจาย เสียงการเคลื่อนไหวนี้ทำให้ทหารองครักษ์เหล่านั้นตกใจมาก ตะโกนโวยวายเสียงดัง จากนั้นชักดาบซามูไรข้างเอวแล้วเล็งมาที่หลี่ฝาง

เดินนำมาโดยผู้ชายหน้าตาดุร้ายระดับสิบ วาดดาบไปสองสามที แล้วมองหน้าหลี่ฝางพลางพูดอะไรก็ไม่รู้

หลี่ฝางใช้นิ้วก้อยแคะหูไปมาอย่างเหลืออด จากนั้นล้วงโทรศัพท์ออกมาเปิดแอปแปลงเสียงแล้วพูดใส่โทรศัพท์

“ไปบอกนายกรัฐมนตรีของพวกนาย ว่าพ่อหลี่ฝางของเขามาแล้ว รีบเสนอหน้าออกมาหาฉัน”

พูดจบหลี่ฝางก็กดแป้นเปลี่ยน จากนั้นเสียงภาษาญี่ปุ่นแบบหุ่นยนต์ก็ดังออกมาจากโทรศัพท์

ทหารองครักษ์ที่นำหน้าคนนั้น ได้ยินที่หลี่ฝางพูดก็ตะโกนออกมาทันที สองเท้ากระทืบพื้นอย่างรุนแรง แล้วพุ่งมาโจมตีหลี่ฝางทั้งอย่างนั้น

การเคลื่อนไหวของทหารองครักษ์คนนี้เร็วมากจนคนธรรมดามองไม่ทัน แต่สำหรับหลี่ฝางกลับเหมือนภาพสโลว์โมชั่น

“จิ้ เจ้าพวกนี้ไม่รู้จักประมาณตนเลย?”

หลี่ฝางยืนกอดอกอยู่กับที่ พูดออกมาอย่างไม่ค่อยพอใจ จากนั้นพวกทหารองครักษ์ก็มองไม่ชัดว่าเขาลงมือยังไง คนนำหน้าที่เดิมทียังอวดดีอยู่ได้ลอยกระเด็นออกไปแล้ว

พวกทหารองครักษ์เดิมทีที่อวดดีก็ตกใจจนพูดอะไรไม่ออก ต่างพากันอ้าปากค้างจนแทบจะใส่ไข่ได้ทั้งลูก

คนนำหน้าคนนั้นกระเด็นจากตรงหน้าหลี่ฝางเขาไปในประตูจวนของนายกรัฐมนตรี ทำให้ฉากกั้นสีแดงเป็นรูปปร่างคนขนาดใหญ่

ท้องฟ้าเงียบสงบไปราว30กว่าวินาที จากนั้นทหารองครักษ์คนอื่นๆจึงค่อยๆส่งเสียงดังออกมา พากันกรูเข้าไปโจมตีหลี่ฝาง

บางครั้งคนเยอะมีพลังมากก็จริง แต่สถานการณ์แบบนี้จะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อจุดแข็งของทั้งสองฝ่ายไม่แตกต่างกันมากนัก

ทหารองครักษ์ทุกคนในจวนของนายกรัฐมนตรีดูเหมือนมีพลังแค่กำลังภายในตอนปลาย สูงสุดก็แค่แดนเต๋า ต่อให้พวกเขาบุกโจมตีพร้อมกัน ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลี่ฝาง

แสงสีขาวส่องผ่านฝูงชน วินาทีต่อมาก็มีเสียงร้องครวญครางออกมา ไม่ถึง1นาที ทหารองครักษ์อวดดีกลุ่มนั้นค่อยๆทิ้งชุดเกราะ ล้มลงไปกับพื้นพลางกุมแขนขาร้องคร่ำครวญ

“ไม่ได้เรื่องจริงๆ”จัดการคนพวกนี้เสร็จ หลี่ฝางตบฝ่ามือด้วยใบหน้าที่ผ่อนคลาย พูด5คำนี้เสร็จก็เดินตรงเข้าไปในจวนของนายกรัฐมนตรี

เมื่อเขาก้าวเข้ามาในจวนของนายกรัฐมนตรี ก็ได้ยินเสียงคนนับร้อยกรูกันมาจากด้านใน พลางตะโกนเสียงดังพุ่งมายังหลี่ฝาง

“ทำไมจวนของนายกรัฐมนตรีมีแต่พวกไก่อ่อน?มิน่าท่านนายพลหญิงถึงเอาอำนาจวเองกลับมาได้”

หลี่ฝางเหลือบมองคนนับร้อยนี้คร่าวๆ พบว่าพวกเขาล้วนเป็นหมารับใช้ที่มีพลังแค่แดนนอกสูงสุด

เขาไม่อยากเสียเวลากับคนพวกนี้ ขยับกระดูกและกล้ามเนื้อเบาๆ แล้วปล่อยพลังในตัวออกมาทั้งหมด ได้ยินเสียงดังวืด คลื่นพลังที่ออกมาจากตัวหลี่ฝางแพร่กระจายไปทั้ง4ทิศทาง

หลังจากหมารับใช้แสนดุร้ายพวกนี้ถูกคลื่นพลังโจมตี ล้วนชูอาวุธในมือขึ้นยืนแข็งทื่อเหมือนตอไม้อยู่ที่เดิม ไม่กี่วินาทีผ่านไป อาวุธของพวกเขาก็หล่นลงพื้น และคนก็ร่วงลงไปตามๆกัน

เขายังไม่ได้แม้แต่ใช้กระบวนท่าอะไร แค่ปล่อยพลังอันแข็งแกร่งที่สุดของตัวเองออกไป ก็สามารถจัดการคนนับร้อยได้ในคราวเดียวแค่นี้ก็เห็นได้แล้วว่าพลังแดนดั่งเทพของหลี่ฝางนั้นน่าสะพรึงกลัวแค่ไหน

“นะ……นี่คือพลังที่แท้จริงของหลี่ฝางงั้นเหรอ?”ท่านนายพลหญิงที่รีบตามทีหลังเห็นภาพอันเหลือเชื่อตรงหน้า พูดออกมาอย่างตกตะลึง

เธอมองร่างสูงตระหง่านของหลี่ฝาง ก็ตอกย้ำความมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้หญิงของหลี่ฝางอีกครั้ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน