NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 1402 ชิราอิชิ ฮานาซากิตามมา

บทที่ 1402 ชิราอิชิ ฮานาซากิตามมา

“ไท่ซาง นายหาวันดีๆ ไปจดทะเบียนสมรสกับหยูหลิงฮุ่ยเถอะ เด็กก็คลอดแล้ว นายก็ควรจะให้สถานะกับเธอนะ”

ตอนนี้ในใจของหลี่ฝางที่จริงแล้วเอียงไปทางหยูหลิงฮุ่ยแล้ว เขายังหวังว่าไท่ซางจะสามารถใช้ชีวิตร่วมกับหยูหลิงฮุ่ยได้อย่างดี

”ฉันรู้แล้ว” ก่อนหน้านี้ ที่จริงไท่ซางหลีกเลี่ยงหยูหลิงฮุ่ยมาตลอด ไม่ยินดีที่จะเผชิญหน้ากับเธอและเด็กในท้อง จนเมื่อครู่วินาทีที่ได้ยินนางพยาบาลบอกว่าหยูหลิงฮุ่ยเสียเลือดมาก จู่ๆ เขาก็คิดได้

เขาเป็นผู้ชายคนนึง ถ้าหากเด็กเป็นลูกของเขาจริงๆ งั้นเขาก็ควรจะรับผิดชอบ

“คลอดแล้ว แม่และลูกปลอดภัยค่ะ”

ผ่านไปอีกประมาณหนึ่งชั่วโมงกว่า ก็มีข่าวดีดังผ่านออกมาจากในห้องฉุกเฉิน หลังจากไท่ซางได้ยินว่าทั้งแม่และลูกปลอดภัยก็รู้สึกตื่นเต้นจนมือสั่น

ต่อมาหยูหลิงฮุ่ยกับลูกก็ถูกเข็นออกมา หยูหลิงฮุ่ยเพราะว่าเหนื่อยล้ามากเกินไปจึงหลับไปแล้ว มือซ้ายของเธอ ในผ้าห่มผืนเล็กห่อหุ้มคนตัวเล็กๆ อยู่หนึ่งคน

คนตัวเล็กนั้นหรี่ตาครึ่งนึง ใบหน้าที่สงบทำปากพะงาบๆ ไท่ซางมองเจ้าตัวเล็กอยู่ครึ่งค่อนวัน ในใจก็เกิดความรู้สึกประหลาดอย่างบอกไม่ถูก

ก่อนที่เจ้าตัวน้อยนี้เกิด ไท่ซางยืนยันว่าจะทำการตรวจดีเอ็นเอ ก่อนที่จะสามารถยืนยันได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าเด็กคนนี้เป็นลูกของเขา เขาก็ไม่คิดที่จะยอมรับเด็กคนนี้เป็นลูก

แต่หลังจากที่เขาได้เห็นเจ้าตัวน้อย จู่ๆ เขาก็มีแรงผลักบางอย่างที่อยากจะเป็นพ่อของเจ้าตัวน้อย ไม่ว่าเด็กคนนี้จะใช่ลูกของเขาหรือไม่ เขาก็ยังตัดสินใจที่จะเลี้ยงเขา

“ละ ลูกพี่ ฉันมีลูกสาวแล้ว ฉันมีลูกสาวแล้ว!”

ไท่ซางยื่นนิ้วออกไปแตะที่ใบหน้าของเจ้าตัวเล็กอย่างระมัดระวัง หลังจากได้สัมผัสถึงความนุ่มนิ่มของเจ้าลูกตัวน้อย ก็ตื่นเต้นจนแทบจะกระโดดโลดเต้น และดึงหลี่ฝางมาตะโกนร้องด้วยสีหน้ามีความสุข

เจ้าตัวน้อยถูกเสียงนี้ของเขาทำให้ตกใจ และร้องไห้อุแว้ออกมา ฉินวี่เฟยหยิกเข้าไปที่แขนของเขาอย่างแรง และจ้องเขาอย่างไม่สบอารมณ์

“แหกปากโวยวายทำไม ทำลูกตกใจร้องไห้เลย”

พอดุไท่ซางเสร็จ ฉินวี่เฟยก็รีบก้มลงไปอุ้มเจ้าตัวน้อยขึ้นมา และโอ๋เธออย่างคุ้นเคยสุดๆ

ไท่ซางมองเจ้าตัวเล็กที่ร้องไห้โฮ ก็ทำหน้าช่วยไม่ได้ ยื่นมือออกไปอยากจะอุ้มเจ้าตัวเล็ก แต่กลับถูกฉินวี่เฟยจ้องเขม็งจนไม่กล้าทำอะไรมั่วซั่ว

“มือนายไม่มีรู้จักหนักเบา อย่าเพิ่งมาอุ้มเด็ก!เมื่อก่อนคอร์สเรียนการตั้งครรภ์นายก็ไม่เคยไปเรียนสักครั้ง นายรู้ว่าต้องอุ้มเด็กยังไงมั้ย? หลีกไปหลีกไป เห็นนายแล้วหงุดหงิด”

ฉินวี่เฟยหลีกเลี่ยงมือของไท่ซางอย่างไม่สบอารมณ์ พลางโอ๋เจ้าตัวเล็กพลางเดินเข้าห้องพักผู้ป่วยไป

คนอื่นๆ มองดูท่าทางตกต่ำของไท่ซาง อยากจะหัวเราะแต่ก็ไม่กล้าหัวเราะ กลั้นเอาไว้ลำบากสุดๆ หลี่ฝางทิ้งคำพูดเย็นชาไว้สองคำ “สมควร” จากนั้นก็รีบเดินตามฉินวี่เฟยไปอย่างเร็ว

ไท่ซางมองแผ่นหลังของพวกเขา และเกาหัวอย่างช่วยไม่ได้ เห็นทีเหมือนเขาจะทำตัวเองซะแล้ว รู้แบบนี้ตอนแรกดีกับหยูหลิงฮุ่ยแม่ลูกมากกว่านี้หน่อยก็ดี

ชีวิตใหม่กำเนิดแล้วในที่สุดก็ทำให้ตระกูลหลี่ที่กำลังเจ็บปวดได้มีเสียงหัวเราะมากขึ้น โดยเฉพาะเมี๋ยวชุ่ย ทุกๆ วันมีเด็กสองคนอยู่เป็นเพื่อน ก็คงรู้สึกร่าเริงขึ้นไม่น้อย

หลังจากที่หลี่ฝางจัดการพวกเธอเสร็จแล้ว ก็ได้นำคนไปที่เผ่ากู่อีกครั้ง เตรียมที่จะให้เซียนผู้ยิ่งใหญ่กำจัดเทพอ้านในร่างกายของเขาทิ้งอย่างสมบูรณ์

“หลี่ฝาง!เดี๋ยว!”

ขณะที่ทุกคนกำลังเช็คอินขึ้นเครื่องอยู่นั้น เสียงเล็กๆ ที่คุ้นเคยก็ดังเข้ามาในหูของหลี่ฝาง

หลี่ฝางหันหน้าไปมองชิราอิชิ ฮานาซากิที่อยู่ไม่ไกล และขมวดคิ้วพูด “เธอมาได้ยังไงเหนี่ย?”

ครั้งก่อนข่าวที่เขากับชิราอิชิ ฮานาซากิจะแต่งงานกันแพร่ไปทั่วทั้งโลก แต่โชคดีที่ข่าวซุบซิบแบบนี้มันดังเร็ว และก็ไปเร็วเช่นกัน ขอแค่พวกหลี่ฝางไม่สนใจ ไม่นานก็จะหายไปเอง

เดิมที่คิดว่าเรื่องนี้จะสิ้นสุดเท่านี้ คิดไม่ถึงว่าชิราอิชิ ฮานาซากิจะตามมาประเทศจีน แถมยังมาหาเขาถึงที่

ฉินวี่เฟยกันหยางฉงหลังจากเห็นชิราอิชิ ฮานาซากิสีหน้าก็เปลี่ยนไปทันที ไม่มีความรู้สึกดีต่อเธอเลยแม้แต่น้อย

ชิราอิชิ ฮานาซากิมองไปที่พวกฉินวี่เฟยก่อน จากนั้นก็กัดริมฝีปาก และเดินเข้าไปทางหลี่ฝาง

“หลี่ฝาง ตอนนี้ฉันไม่ใช่นายพลหญิงของประเทศญี่ปุ่นแล้ว ฉันเป็นแค่ชิราอิชิ ฮานาซากิ ฉันรู้ว่านายจะไปเผ่ากู่ไปหาเซียนผู้ยิ่งใหญ่ช่วยขจัดเทพอ้านในร่างนาย ครั้งนี้ที่ฉันมาหานาย ก็เพื่อมาแสดงความในใจของฉันให้นายรู้”

“ฉันชอบนาย ชอบนายมากๆๆ ฉันรู้ว่าเมื่อก่อนมีหลายอย่างที่ฉันทำผิด ทำให้นายกับฉินวี่เฟยพวกเธอมีปัญหากัน ตอนนี้ฉันขออภัยนายและพวกเธอ ขอโทษนะ”

“ฉันหวังว่านายจะให้โอกาสฉันสักครั้ง ลองยินยอมรับความรักที่ฉันมีต่อนาย ฉันอยาก ให้ฉินวี่เฟยพวกเธอสามารถอยู่ด้วยกันอย่างสงบสุข แบบนั้นพวกเธอไม่ช้าก็เร็วก็จะยอมรับฉันได้”

คำพูดประโยคนี้ของชิราอิชิ ฮานาซากิราวกับระเบิดลูกนึง ทำให้บรรยายที่เดิมทีสบายๆ กลายเป็นกระอักกระอ่วนขึ้นมาทันที จนหยางฉงถึงขั้นจะหันหน้าเดินออกไป ดีที่ฉินวี่เฟยที่อยู่ด้านข้างดึงเธอไว้ทัน

“ไม่ต้องรีบร้อน ฉันอยากจะดูว่าหลี่ฝางเขาจะตอบผู้หญิงคนนี้ว่ายังไง” ฉินวี่เฟยเหลือบมองหลี่ฝางอย่างเย็นชา สองมือกอดอก และรอประโยคหลังจากนี้อย่างเงียบๆ

หลี่ฝางถูกฉินวี่เฟยกับหยางฉงจ้องจนขนที่หลังลุกซู่ เขาเอือมชิราอิชิ ฮานาซากิจริงๆ ในตอนนั้นที่เขาถูกยังไม่ชัดเจนพอเหรอ? หล่อนถึงกับตามมายันประเทศจีน แถมยังมาสารภาพรักกับตนต่อหน้าภรรยาของตนอีก หล่อนอยากจะให้ตนตายหรือยังไงเหนี่ย!

“ชิราอิชิ ฮานาซากิ ฉันไม่รู้ว่าเธอไม่เข้าที่ฉันพูด หรือว่ายืนหยัดไม่ยอมเลิกรา ฉันจำได้ว่าตอนที่อยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น ฉันได้พูดไปแล้วว่าฉันไม่ได้ชอบเธอ แถมฉันก็พูดไปแล้วว่าชีวิตนี้ของฉันจะมีแค่ฉินวี่เฟยกับหยางฉงสองคนที่เป็นผู้หญิงของฉัน”

“ดังนั้นเธอกลับไปเถอะ ฉันไม่สามารถตอบรับความชอบของเธอ และคบกับเธอได้ ฉินวี่เฟยกับหยางฉงพวกเธอก็ไม่ยอมรับเธอ เธอกลับไปเป็นนายพลที่ญี่ปุ่นเถอะนะ”

หลี่ฝางในตอนนี้แม้แต่คำไร้สาระยังไม่อยากจะพูดกับชิราอิชิ ฮานาซากิ ผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่คนหัวดื้อธรรมดาจริงๆ แต่เป็นแบบที่ถ้าไม่ถึงเป้าหมายก็จะไม่ยอมแพ้แบบนั้น

“นายอย่าเพิ่งรีบร้อนปฏิเสธฉัน ตอนที่ฉันอยู่ที่จวนของท่านนายพล พวกเราสองคนก็มีความสัมพันธ์ที่ดีกันไม่ใช่เหรอ? ฉันไม่เชื่อว่านายจะไม่มีความรู้สึกต่อฉันเลยแม้สักนิด แล้วก็ฉันคิดว่าฉันไม่ได้ด้อยไปกว่าภรรยาของนายทั้งสองคนเลย กลับกัน ฉันยังเหมาะสมที่จะเป็นภรรยานายมากกว่าพวกหล่อนอีก”

“นายต้องรู้นะ พวกเราชาวยุทธอายุขัยจะยาวกว่าคนธรรมดาทั่วไปมาก ฉินวี่เฟยกับหยางฉงพวกหล่อนเป็นแค่คนธรรมดา พวกหล่อนอย่างมากก็มีอายุได้ห้าสิบหกสิบปีก็ตายแล้ว ส่วนนายยังมีชีวิตยาวนานที่เหลือให้เดินต่อ ฉันก็เป็นจอมยุทธ เวลาที่จะอยู่กับนายนั้นมากกว่าพวกหล่อนนานมาก”

“จะให้พูด พวกหล่อนเป็นคนธรรมดา ยิ่งนานวันก็ยิ่งนำเรื่องวุ่นวายมาให้นาย นายเป็นคนของอีกโลก ไม่ช้าก็เร็วก็ต้องไปจากโลกนี้ นายสามารถแหกกฎสวรรค์เพื่อพวกหล่อนได้มั้ย?”

คำพูดของชิราอิชิ ฮานาซากิราวกับเข็มเล็กๆ ทิ่มแทงเข้าไปในใจของฉินวี่เฟยกับหยางฉง ทำให้พวกเธอเจ็บจนหายใจไม่ได้

เรื่องพวกนี้ไม่ใช่ว่าพวกเธอไม่รู้ แต่แค่หลีกเลี่ยงมาโดยตลอด ตอนนี้ถูกชิราอิชิ ฮานาซากิพูดต่อหน้า จึงกลายเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้อย่างไม่ต้องสงสัย

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท