NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 1391 สัตว์ประหลาด

บทที่ 1391 สัตว์ประหลาด

“หลี่ฝาง วันนี้เป็นวันตายของแก!” จู่ๆ ด้านหลังของหลี่ฝางก็มีเสียงที่เต็มไปด้วยความโกรธแค้นดังขึ้นอย่างเย็นชา

หลี่ฝางหันไปมอง ก็เห็นเจียเหอและพ่อของเขายืนอยู่ที่ประตูของกรมคลัง พลางมองตัวเองด้วยใบหน้าตื่นตัว

เมื่อเห็นใบหน้ายิ้มเยาะของพ่อของเจียเหอ สัตว์ประหลาดเหล่านี้ก็น่าจะเป็นเขาที่พามันมา

“เจียเหอ คิดไม่ถึงเลยว่าแกจะมีเอี่ยวกับอาซาโทสด้วย ฉันดูถูกคุณไปจริงๆ”

หลี่ฝางมองเจียเหอพลางพูดอย่างเย็นชา

“ฉันไม่เข้าใจเลยว่าคุณกำลังพูดถึงอะไรอยู่ แต่ฉันรู้เพียงว่าวันนี้มันเป็นวันตายของคุณ”

เจียเหอไม่รู้จริงๆว่าที่หลี่ฝางว่าอาซาโทสนั้นคือใคร แต่มันก็ไม่ส่งผลอะไรหรอก หลังจากที่พ่อเขารู้ว่าเจียเหอถูกท่านนายพลหญิงลงโทษสถานเบาแล้ว ก็พาคนทะลวงเข้ามาในจวนของท่านนายพล แล้วช่วยเจียเหอออกมา จากนั้นก็พาสิ่งที่เรียกว่าสัตว์ประหลาดของถ่อป่ามาที่จวนของนายกรัฐมนตรีด้วย

ได้ยินว่าพละกำลังของถ่อป่านั้นถึงแดนดั่งเทพแล้ว เลยเกิดจิตรู้สำนึกของตัวเองขึ้นมา เหมือนกับสิ่งที่ราชวงศ์วิจัยอย่างลับๆ และก็ไม่รู้ว่าพ่อของเจียเหอนั้นเอามันออกมาได้อย่างไร

“เหอะ ปากเก่งกว่าความสามารถเยอะเลยนะแก วันนี้ฉันอยากจะเห็นสักหน่อย ว่าแกหรือฉันที่ต้องตาย!”

หลี่ฝางหัวเราะเสียงแข็ง จากนั้นก็โยนไอ้คนผอมไปที่มุมมืด ยังไม่ได้ผลแก้วม่วงมาอยู่ในมือเลย ไอ้คนผอมนี่จะยังตายไม่ได้

แต่สิ่งที่เรียกว่าสัตว์ประหลาดของถ่อป่านั้นเหมือนจะอ่านใจของหลี่ฝางออก ไอ้คนผอมเพิ่งจะไปอยู่ตรงมุม แล้วถ่อป่าก็เข้าโจมตีเขาทันที

หลี่ฝางม่านตาหดลง จากนั้นก็วาร์ปไปขวางอยู่ด้านหน้าไอ้คนผอม มือทั้งสองข้างก็จับที่เขี้ยวยักษ์ในปากของถ่อป่า จากนั้นจึงพยายามสลัดเปลี่ยนทางของถ่อป่าไป

“ออกมาเดี๋ยวนี้!” หลี่ฝางจับเขี้ยวของถ่อป่า ก่อนจะยกมันขึ้นเหนือหัว หลังจากที่ตะโกนด้วยความโกรธแล้ว ก็พาถ่อป่ากระโดดออกนอกกรมคลังไป

อิฐที่พื้นนั้นก็แตกสลายกลายเป็นผุยผงกรมคลังก็สั่นไหว ก่อนจะทนไม่ไหวจนพังทลายลงมา

เจียเหอกับพ่อของเขาเองก็รีบออกมาพร้อมกัน พลางหลบอยู่หลังภูเขาปลอมแล้วดูมองหลี่ฝางกับถ่อป่าต่อสู้กัน

ถ่อป่าถูกหลี่ฝางยั่วให้หงุดหงิด จากนั้นก็กระอักเลือดออกมาพร้อมกับแผดเสียงของปีศาจ กลิ่นน่าสะอิดสะเอียนที่ออกมาจากปากของมันเกือบให้หลี่ฝางอ้วกอาหารที่กินไปเมื่อคืนก่อนออกมาแล้ว

เขาพะอึดพะอมตามสัญชาตญาณ จากนั้นก็รีบถอยออกไปไกลหลายเมตร เพื่อรักษาระยะห่างของตัวเองกับสัตว์ประหลาดนี้

สัตว์ประหลาดตัวนี้มันกินอะไรเข้าไปน่ะ ปากเหม็นขนาดนี้ น่ารังเกียจจริงๆเลย

หลี่ฝางปัดอากาศตรงหน้าอย่างรังเกียจ จากนั้นก็หายใจอากาศสดชื่นเข้าไปแทน

“โคร่ง……” จู่ๆ ถ่อป่าก็แผดเสียงออกมาด้วยความโกรธอีกครั้ง ก่อนจะใช้แรงที่ขาหลังทั้งสอง และเหยียบจนพื้นเป็นหลุมลึก จากนั้นก็ปรี่เข้าไปหาหลี่ฝาง

อย่าเห็นว่าถ่อป่านั้นตัวใหญ่ แต่ความเร็วนั้นกลับเร็วจนทำให้มองไม่ทัน ขนาดเงายังเกือบจะมองแทบไม่เห็น หลี่ฝางเองก็มีแววตาเปลี่ยนไป รวบรวมจิตใจ จากนั้นก็ปล่อยสติของตัวเองเพื่อไปหยั่งรู้ที่อยู่ที่แน่ชัดของถ่อป่า

อาจจะเป็นเพราะความรู้สึกไวของสัตว์ พละกำลังของถ่อป่าเลยมากกว่าหลี่ฝางแล้วเล็กน้อย

มันทำให้ในใจของหลี่ฝางนั้นหนักขึ้น นี่เป็นสิ่งที่เขาคาดไม่ถึง หรือว่าวันนี้เขาจะต้องเอาชีวิตมาทิ้งไว้ในปากของสัตว์ประหลาดตัวนี้เหรอ?

“ท่านพ่อ สัตว์ประหลาดตัวนี้มันจะฆ่าหลี่ฝางได้เหรอ?นอกจากนี้เครื่องบังคับในมือคุณมันจะไม่เสียการควบคุมใช่ไหม?ถ้าเกิดเสียการควบคุมล่ะก็ พวกเราจบเห่กันหมดแน่”

เจียเหอที่หลบอยู่หลังภูเขาปลอมมองหลี่ฝางกับถ่อป่าที่กำลังสู้กันอย่างกังวล พลางถามอย่างไม่มั่นใจ

พ่อของเจียเหอกลับแน่นิ่งกว่าเขามาก ก่อนจะกำเครื่องบังคับในมือของตัวเองพลางพูดด้วยความมั่นใจ

“คุณวางใจเถอะ เพียงแค่สิ่งนี้มันอยู่ในมือเรา สัตว์ประหลาดตัวนั้นก็จะเชื่อฟังเรา จะว่าไป ครั้งนี้การฆ่าหลี่ฝางนั้นเป็นภารกิจสูงสุด เพียงแค่เราฆ่าหลี่ฝาง ครอบครัวของพวกเราก็จะสามารถไต่เต้าราชวงศ์ได้แล้ว เมื่อเป็นแบบนี้ แม้แต่นังแพศยานั่น ก็ไม่กล้ามาดูถูกคุณแล้ว”

เมื่อมีการรับประกันจากเขาแบบนี้แล้ว เจียเหอก็วางใจลงได้มาก จากนั้นก็มองหลี่ฝางที่เริ่มเสียเปรียบ ในตาก็มีความตื่นเต้นรอคอยไม่เบา

“ฆ่าเขาเลย!ฆ่าเขาเลย!กัดหัวเขาออกมาเลย!ฉีกแขนให้ขาดด้วย!”

เจียเหอดูอย่างเร้าอารมณ์ด้านข้าง แถมยังตะโกนให้ถ่อป่าฆ่าหลี่ฝางอีกด้วย

หลี่ฝางที่เอาแต่หลบนั้นรำคาญใจมาก ถ้าไม่ใช่ว่าตัวเองกำลังถูกสัตว์ประหลาดตัวนี้ยุ่มย่ามจนหลุดออกมาไม่ได้ เขาจะต้องบิดหัวของเจียเหอทิ้งทันทีแน่ๆเลยล่ะ

“แก……แกมองอะไร!หลี่ฝางแกตายซะเถอะ!”

เจียเหอถูกหลี่ฝางมองด้วยแววตาแบบนั้นในใจก็เริ่มร้อนรนขึ้นมา แต่เพราะกลัวเสียหน้า เลยพยายามฝืนพูดออกไป

ให้ตายเถอะ!ทำไมคนคนนี้มันกวนขนาดนั้น!

ในใจหลี่ฝางนั้นด่าออกมาแล้ว จากนั้นเขาก็มองไปที่ถ่อป่าที่ติดอยู่กับด้านหลังของตัวเองด้วยความอาฆาต พลางคิดว่าจะสลัดสัตว์ประหลาดออกไปสักพัก แล้วเอาหัวของเจียเหอมาให้ได้ได้อย่างไร

“หลี่ฝาง!” ในตอนนั้นเอง ท่านนายพลหญิงก็รีบมา หลังจากที่เธอเห็นหลี่ฝางกำลังสู้กับสัตว์ประหลาดอยู่ ก็รีบตะโกนเรียกชื่อของเขาเสียงดังทันที

ในตอนนั้นเอง ถ่อป่าหันไปมองท่านนายพลหญิง จากนั้นก็ปรี่เข้าไปหาท่านนายพลหญิงทันที

พวกเจียเหอกับหลี่ฝางสามคนรู้สึกว่าไม่ได้การแล้ว พ่อของเจียเหอเลยรีบกดหยุด ส่วนหลี่ฝางก็รีบเหอะไปหาท่านนายพลหญิงด้วยความเร็วสูงสุด

ท่านนายพลหญิงเองก็คิดไม่ถึงว่าสัตว์ประหลาดตัวนี้มันจะปรี่เข้ามาหาตัวเองกะทันหันแบบนี้ เลยอึ้งอยู่กับที่ ขาทั้งสองข้างก็อ่อนลงไปคุกเข่ากับพื้น จนลืมที่จะหนีเลย

“พ่อ!คุณรีบหยุดสัตว์ประหลาดนั้นสิ!”

แม้ท่านนายพลหญิงจะอ่านใจของเจียเหอออก แต่เจียเหอก็ยังรักท่านนายพลหญิง เมื่อเห็นว่าถ่อป่ากำลังจะกินท่านนายพลหญิงเข้าไป เขาก็รีบเร่งพ่อของตัวเองอย่างร้อนใจ

พ่อเขารีบกดหยุด แต่ลังเลจนเป็นนิสัย แม้ถ่อป่าจะไม่มีจิตที่จะจู่โจมแล้ว แต่ตัวยักษ์ของมันกลับหยุดไม่ทัน เลยปรี่เข้าไปหาท่านนายพลหญิงราวกับเป็นภูเขาลูกเล็ก

“ท่านนายพล!”

ขณะที่เจียเหอคิดว่าท่านนายพลหญิงกำลังจะถูกบดขยี้จนแหลกนั้น ก็มีเงาหนึ่งมาขวางไว้หน้าท่านนายพลหญิง

เห็นเพียงหลี่ฝางใช้มือหนึ่งกอดท่านนายพลหญิงที่ตกใจจนทำอะไรไม่ถูกเอาไว้ในอ้อมกอด จากนั้นก็ใช้อีกมือหนึ่งกดหัวของถ่อป่าเอาไว้

ตอนที่หลี่ฝางแตะโดนตัวถ่อป่านั้น พลังอันแข็งแกร่งก็แพร่กระจายออกไป จนม้วนเป็นลมใหญ่ ก่อนจะพัดพวกเจียเหอสองพ่อลูกกลิ้งไปมาที่พื้น

กรมคลังที่สั่นไหวอยู่แต่แรกแล้วก็เกิดเสียงดังขึ้น จนราบเป็นหน้ากลอง จวนของนายกรัฐมนตรียิ่งถูกลมพัดหนักเข้าไปใหญ่ มีต้นไม้มากมายที่ถูกพักจนล้มลงกับพื้น

“หลี่ หลี่ฝาง……” ท่านนายพลหญิงซบอกของหลี่ฝาง ก่อนจะพูดด้วยความไม่แน่ใจ

เธอคิดไม่ถึงว่าหลี่ฝางจะมาช่วยเหลือตัวเองอย่างไม่สนใจตัวเขาเองแบบนี้ มันทำให้ในใจของเธอสั่นไหวเป็นอย่างมาก

“คุณไม่มีสมองหรือไง?รู้ไหมว่าสัตว์ประหลาดนั้นฉันเองยังยากจะรับมือไหว แล้วคุณรีบวิ่งออกมาทำไมกัน!”

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท