NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 1375 พ่อของเจียเหอเข้ามาแทรกแซง

บทที่ 1375 พ่อของเจียเหอเข้ามาแทรกแซง

“แต่……แต่คุณจะไม่สนใจไม่ได้นะ!คุณเป็นคนทำร้าย ถ้าคุณไม่สนใจล่ะก็ ท่านนายพล และครอบครัวของเราจะทำอย่างไรล่ะ?เมื่อวานพ่อฉันโทรมาหาฉัน บอกว่าธุรกิจกว่าครึ่งของที่บ้านจะล้มละลายแล้ว ฉันจะเป็นอย่างไรก็ได้ แต่จะทำให้ครอบครัวของฉันลำบากไปด้วยไม่ได้ ท่านหลี่ ฉันขอร้องคุณล่ะ คุณก้มหัวขอโทษเจียเหอเถอะ!”

หลังจากที่จื่อยีได้รับโทรศัพท์จากที่บ้านแล้ว ก็แทบจะไม่ได้นอนเลย เขาลังเลอยู่นาน ถึงได้บากหน้ามาหาหลี่ฝาง

เขาไม่คิดเลยว่าเรื่องมันจะหนักหนาขนาดนี้ ถ้าเขารู้ว่าหลี่ฝางจะลงมืออย่างรุนแรงนั้น เขายอมให้ตัวเองเป็นคนเสียโฉมยังจะดีกว่า

หลี่ฝางมองจื่อยีพลางขมวดคิ้ว จากนั้นก็เงียบไปเกือบนาที ก่อนจะถอนหายใจพลางพูดออกมา

“ฉันรู้แล้ว เดี๋ยวฉันจะไปคุยเรื่องนี้กับพ่อของเจียเหอเอง คุณวางใจเถอะ เรื่องที่ฉันก่อ ฉันจะรับผิดชอบเอง แล้วจะไม่มีทางกระทบถึงพวกคุณและครอบครัวของพวกคุณ”

เมื่อพูดคำนี้จบ หลี่ฝางก็ก้าวออกไปด้านนอก จื่อยียังยืนอึ้งอยู่ที่เดิม โดยไม่มีท่าทีจะเข้าใจความหมายของหลี่ฝางเลย

เพิ่งจะเดินออกจากประตู หลี่ฝางก็หยุดยืนนิ่ง เขามองไปรอบๆ เพราะอยากจะหาทางไปที่โถงด้านหน้า แต่หาอยู่นาน ก็ไม่เจอทางเลย

“ท่านหลี่ คุณกำลังจะไปไหน?” จื่อยีรีบตามไป เมื่อเห็นท่าทีที่หลี่ฝางเหมือนกำลังหาอะไรอยู่ ก็ถามอย่างสงสัย

“หาพ่อของเจียเหอไง นี่คือทางไปที่โถงด้านหน้าเหรอ?คุณบอกทางไปหน่อยสิ” หลี่ฝางหวนคิดถึงทางในจวนของท่านนายพล พลางพูดไปด้วย

“ท่านหลี่ตามฉันมาเถอะ”

ถึงแม้จื่อยีจะไม่รู้ว่าหลี่ฝางจะไปโถงหน้าในตอนนี้ทำไม แต่ตอนนี้เขาเองก็ไม่มีวิธีอื่นแล้ว เลยทำได้เพียงนำหลี่ฝางไปที่โถงหน้าอย่างไม่สบายใจเป็นอย่างมาก

“ให้ตาย ท่านนายพลของพวกคุณว่างจนต้องสร้างจวนของท่านนายพลใหญ่ขนาดนี้เลยเหรอ?เดินทีก็เหนื่อยตาย เฮ้ จื่อยี อย่าขยับ เดี๋ยวพี่พาไปสัมผัสประสบการณ์การบินล่องสักหน่อย”

จื่อยีพาหลี่ฝางเดินไปมา สิบนาทีแล้วก็ยังไม่ถึงโถงด้านหน้าอีก มันดูเหมือนสวนพิศวง หลี่ฝางทนต่อไปไม่ไหวจริงๆ

มือหนึ่งก็กดอเอวของจื่อยีเอาไว้ อย่างเต็มแรง จากนั้นสองคนก็ลอยขึ้นไปอยู่กลางท้องฟ้า

การลอยขึ้นไปกะทันหันนั้นมันทำให้จื่อยีตกใจจนหัวใจแทบหลุดออกมา แขนขาก็ทำอะไรไม่ถูก ขนาดหลี่ฝางที่พาไปนั้นยังสั่นไปด้วยเลย

“เอ๊ะ!อย่าขยับไปนะ!” เมื่อเห็นทั้งสองคนจะตกลงไป หลี่ฝางรีบออกแรงมากกว่าเดิม เพื่อให้จื่อยีที่ขยับนั้นอยู่นิ่ง ก่อนจะบินไปอย่างสงบอีกครั้ง

ผ่านไปสักพัก จื่อยีก็ไม่ได้กลัวขนาดนั้นแล้ว ถึงแม้แรงทั้งเนื้อทั้งตัวจะยังเนื้อเต้นอยู่บ้าง แต่แววตาทั้งคู่นั้นกลับกวาดสายตามองไปรอบๆ จวนของท่านนายพลด้วยความตื่นตาเป็นอย่างมาก

“ท่านหลี่ คุณเก่งมากเกินไปแล้ว!ฉันโตมาขนาดนี้ยังไม่เคยลอยบนฟ้าแบบนี้เลย!ขนาดท่านเจียเหอที่เก่งที่สุดในจวนยังทำไม่ได้เลย”

จื่อยีมองวิวรอบๆ จวนอย่างชื่นชม พลางพูดกับหลี่ฝางด้วยน้ำเสียงชื่นชม

ท่าทีที่เขาทำต่อหลี่ฝางที่เหมือนจะเป็นศัตรูในตอนนั้น กลายมาเป็นเพื่อนที่ดีในตอนนี้ แถมยังมีท่าทีสนิทสนมอีกด้วย ขนาดท่าทีและน้ำเสียงที่พูดนั้นยังดีกว่าแต่ก่อนมาก

ถึงแม้เรื่องการเหาะนี้มันจะเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับหลี่ฝาง แต่คนก็มีความต้องการคำชื่นชม เมื่อได้ยินจื่อยีชมแบบนี้ ในใจของหลี่ฝางก็รู้สึกสบายอารมณ์เป็นอย่างมาก

เพราะกำลังบินอยู่กลางอากาศ ดังนั้นเลยมองได้อย่างกว้างขวาง หลี่ฝางก็หาตำแหน่งของโถงด้านหน้าได้ในเวลาไม่นาน จากนั้นก็พาจื่อยีร่อนลงไปทันที

“ใครกัน!” มีคนสองคนลอยลงมาจากท้องฟ้ากะทันหัน จนทำให้ซามูไรในจวนของท่านนายพลต่างตกใจ จากนั้นก็ควักเอามีดซามูไรออกมา พลางเล็งไปหาพวกหลี่ฝางทั้งหมด

จื่อยีมองมีดซามูไรสิบกว่าเล่มที่ชี้มาทางตัวเอง ก่อนจะตกใจจนไม่กล้าขยับ แต่หลี่ฝางกลับนิ่งเฉยเป็นอย่างมาก เขาไม่ได้ใส่ใจพวกซามูไรที่อยู่ตรงหน้าเลย แต่กลับกระแอมเล็กน้อยก่อนจะตะโกนเข้าไปในจวน

“ท่านนายพล คุณอยู่ไหม?”

ท่านนายพลหญิงด้านในนั้นกำลังดื่มชาอยู่กับพ่อของเจียเหอแล้วก็เขา หลังจากที่ได้ยินเสียงของหลี่ฝางสีหน้าของเธอก็นิ่งไปเป็นอย่างมาก

เจียเหอมีผ้าพันแผลพันอยู่ครึ่งหนึ่ง ผ้าก๊อซสีขาวนั้นยังมีรอยเลือดอยู่บางๆ ด้วย หลังจากที่ได้ยินคำของหลี่ฝางใบหน้าที่ยังมีรอยยิ้มของเขาในตอนแรกก็นิ่งลง ก่อนจะเกือบบีบแก้วชาในมือแทบแตก

ชายวัยกลางคนที่ดูร่ำรวยที่นั่งอยู่ข้างๆ นั้นมองเจียเหอเล็กน้อย ก่อนจะวางถ้วยชาในมือลงอย่างอ่อนโยนเป็นอย่างมาก พลางตำหนิออกมา

“เจียเหอ ก่อนหน้านี้พ่อสอนคุณอย่างไร?เจอเรื่องอะไรก็ตามต้องนิ่งไว้ อย่าได้ด่วนทำอะไรไป”

เจียเหอที่หน้าดำคร่ำเครียดเมื่อได้ยินคำของชายวัยกลางคนแล้วก็อึ้งไป จากนั้นก็เก็บความเกลียดในตา อารมณ์ก็เย็นลงเป็นปกติ พลางโน้มตัวไปด้านหน้าเบาๆ ก่อนจะพูดกับชายวัยกลางคน

“พ่อสอนฉันถูกแล้ว เจียเหอวู่วามเกินไป”

เมื่อชายวัยกลางคนเห็นเจียเหอกลับมาใจเย็นแล้ว ท่าทีใบหน้าของเขาก็ดูดีขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะพยักหน้าเบาๆ จากนั้นก็หันไปมองท่านนายพลหญิง

“ท่านนายพล คนที่ตะโกนอยู่ด้านนอกใช่คู่ครองของท่านนายพลในอนาคตหรือเปล่า?พอดีว่าฉันเองก็อยากเจอคู่ครองของท่านนายพลในอนาคตเหมือนกัน ตอนนี้ท่านเชิญเขาเข้ามาเลยดีกว่า”

อันที่จริงตอนแรกชายวัยกลางคนไม่รู้ว่าคนที่ตะโกนตรงหน้าประตูคือใคร แต่จากนั้นเมื่อเห็นสีหน้าของท่านนายพลหญิงกับเจียเหอเขาก็เดาออกทันที

หลังจากที่ท่านนายพลหญิงได้ฟังคำพูดของชายวัยกลางคนแล้วอารมณ์บนใบหน้าก็แทบจะทนไว้ไม่อยู่ เลยมองไปทางประตูเล็กน้อย พลางพูดอย่างกลัวถูกจับผิด

“คือ……ครอบครัวเรายากที่จะได้มาเจอกันพร้อมหน้าพร้อมตา อย่าให้คนอื่นๆ มารบกวนอีกเลย”

ตอนนี้ท่านนายพลหญิงนั้นปวดหัวเป็นอย่างมาก เธอคิดไม่ออกเลยว่าหลี่ฝางจะมาหาด้วยตัวเองแบบนี้ วันนี้พ่อของเจียเหอมาเพื่อหาทางออก ตอนแรกเธออยากคุยเรื่องธุรกิจกับเจียเหอ ว่าเรื่องนี้มันจะสามารถเปลี่ยนให้เป็นเรื่องเล็กได้ไหม

ยังไม่ทันได้พูดออกมา ตัวก่อเรื่องก็มาถึงแล้ว แล้วจะให้เธอคุยอย่างไร?

“คู่ครองของท่านนายพลในอนาคตจะเป็นคนอื่นได้อย่างไร?จากนี้ถ้าท่านนายพลแต่งงานกับเขา ลูกของฉันก็ยังต้องยกน้ำชาให้เขา แถมจะได้คุยเรื่องบาดหมางใจก่อนหน้านี้กับเขาและลูกฉันด้วย ถ้าแก้ความเข้าใจผิดนี้ได้เร็ว มันก็ดีต่อทุกคนไม่ใช่เหรอ?”

ชายวัยกลางคนนี้เหมือนจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ในตอนแรก พูดเพียงไม่กี่คำก็ตัดทางของท่านนายพลหญิงไปหมดแล้ว เขาพูดอย่างไรก็มีเหตุผล ตอนนี้แม้ท่านนายพลหญิงจะไม่ให้หลี่ฝางเข้ามา เขาก็ต้องเข้ามาอยู่ดี

“เหอะๆ ……ในเมื่อคุณพูดแบบนี้แล้ว ฉันก็ทำได้เพียงให้เขาเข้ามา” ท่านนายพลหญิงหัวเราะอย่างทำตัวไม่ถูก พลางโบกมือให้สาวใช้อย่างจนปัญญาเป็นอย่างมาก เพื่อบอกให้เธอไปพาหลี่ฝางเข้ามา

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท