ช้าก่อนคุณป๋อ! ครั้งนี้ขอเป็นรักสุดท้าย – ตอนที่ 75 ป๋อจิ่งชวน คุณเป็นถูเฝ่ยเป็นพวกเล่นยาไปแล้วเหรอ! / ตอนที่ 76 ถูเฝ่ย หืม?

ตอนที่ 75 ป๋อจิ่งชวน คุณเป็นถูเฝ่ยเป็นพวกเล่นยาไปแล้วเหรอ! / ตอนที่ 76 ถูเฝ่ย หืม?

ตอนที่ 75 ป๋อจิ่งชวน คุณเป็นถูเฝ่ยเป็นพวกเล่นยาไปแล้วเหรอ!

“คุณผู้ชาย?” อวี๋ซงมองเขาผ่านกระจกมองหลัง

ป๋อจิ่งชวนค่อยๆ เก็บปากกาที่อยู่บนกระดาษจากนั้นเขาก็รวบเอกสารทุกอย่างไปวางไว้อีกทางก่อนจะเงยหน้ามองมายังอวี๋ซง

เสียงเย็นเอ่ยขึ้น “ไปซื้อยาแก้ฟกช้ำมาหน่อย”

อวี๋ซงแทบจะถึงบางอ้อในทันที เขาตอบรับไปหนึ่งคำ “ครับ” จากนั้นก็เปิดประตูรถแล้วตรงเข้าไปในร้านยา

“คุณชายกลับมาแล้วเหรอคะ” แววตาของไหลหรงเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้ม นายหญิงคนนี้พูดอะไรไว้ไม่เคยผิดเลยจริงๆ

“อืม”

ป๋อจิ่งชวนขานรับเสียงเรียบก่อนจะเปลี่ยนรองเท้าแล้วเดินเข้าไปยังห้องรับแขก

สายตาเย็นชากวาดไปทั่วห้องรับแขกหนึ่งครั้งก็ไม่เจอร่างอันคุ้นตา เขาจึงหมุนตัวเตรียมจะขึ้นไปด้านบน ทว่ากลับได้ยินเสียงที่แผ่วเบาแว่วดังมาจากทางห้องครัว

“เขาชอบทานอาหารทะเลหรือเปล่าคะ ปู? กุ้ง? ดูเหมือนว่าจะไม่…”

“เขาเหรอ เขาดูเหมือนไม่ค่อยเลือกกิน แต่พักหลังๆ ท้องไส้ไม่ค่อยจะดีหากเป็นของที่เผ็ดมากๆ ก็จะไม่ค่อยกล้ากิน…”

“แต่ก็เอาเถอะ ก่อนหน้านี้ทำงานหนักเข้าสังคมบ่อยกระเพาะจะรวนก็ไม่แปลกหรอกนะ”

“อยากได้ผลไม้มาจัดจานไหมคะ ฉันจะไปหยิบมาให้…”

ขณะที่เฉินฝานซิงวิ่งออกมา ก็เจอเข้ากับชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ที่กำลังมองมาที่เธอจากตรงกลางของห้องรับแขก

เธอค่อยๆ ชะงักเท้าลงอย่างประหลาดใจ “คุณกลับมาแล้วเหรอคะ”

เพียงคำนั้นหลุดออกจากปากเธอ เธอก็รู้สึกเหมือนมีบางสิ่งที่ไม่ถูกต้อง

น้ำเสียงแบบนี้ ทำไมมันถึงได้เหมือนกับคู่ข้าวใหม่ปลามันที่ภรรยารอสามีกลับมาบ้านยังไงอย่างงั้น

นัยน์ตาสีนิลมองหญิงสาวตรงหน้าไม่ละสายตา เสื้อผ้าคุ้นตาที่สวมอยู่นั้นคือชุดเดิมที่เขาเห็นเมื่อตอนบ่าย

เพียงแค่ในตอนนี้เธอได้สวมทับมันด้วยผ้ากันเปื้อนสีฟ้าอ่อนผืนหนึ่ง สายคาดรอบเอวถูกมัดไว้ข้างหลัง ยิ่งทำให้ช่วงเอวที่ผอมบางอยู่แล้วดูเล็กลงอย่างเห็นได้ชัด

ทว่าแสงสะท้อนในตาของเขากลับค่อยๆ ขุ่นลง

“ใครสั่งให้คุณทำเรื่องพวกนี้”

เมื่อต้องเผชิญกับเจ้าของน้ำเสียงอันแข็งกร้าว เฉินฝานซิงก็แอบไปไม่เป็นเล็กน้อย

“ใครจะมาสั่งฉันทำเรื่องพวกนี้ได้ถ้าไม่ใช่ตัวฉันเอง”

ป๋อจิ่งชวนมองเธออย่างเรียบเฉย ก่อนจะก้าวยาวๆ ไปหยุดตรงหน้าของเธอแล้วลากข้อมือเธอขึ้นไปยังชั้นบน

ตรงไปยังห้องของป๋อจิ่งชวน เฉินฝานซิงถูกกดให้นั่งลงไปบนเตียง

“ป๋อจิ่งชวนคุณจะทำอะไร?” เฉินฝานซิงชักจะหงุดหงิดขึ้นมาแล้ว เธอเคยชินกับป๋อจิ่งชวนสุภาพอ่อนโยนและสูงส่งราวกับหยกล้ำค่า แต่กลับรับไม่ได้เล็กน้อยกับความหยาบคายของเขาในตอนนี้

“ขึ้นไปบนเตียง”

“คุณ…” เฉินฝานซิงไม่ได้เอ่ยสิ่งได้ออกมา เธอโกรธจนส่งเสียงไม่ออกได้แต่จ้องเขาอยู่อย่างนั้น

เสียแรงที่ก่อนหน้านี้เคยคิดว่าเขาเป็นสุภาพบุรุษที่มีเสน่ห์และรูปงามดั่งหยกล้ำค่าดั่งสายรุ้งงามคนหนึ่ง!

จนกระทั่งเธอถูกผลักลงบนเตียงและโดนถลกเสื้อขึ้นอย่างเอาแต่ใจ ในตอนนั้นแหละเธอถึงได้ตะเบ็งเสียงร้องออกมา

“ป๋อจิ่งชวน คุณเป็นถูเฝ่ย [1] เป็นพวกเล่นยาไปแล้วเหรอ!”

ถูเฝ่ย?

ริมฝีปากบางของเขานิ่งงันไปเล็กน้อย

คำคำนี้เป็นคำที่แปลกใหม่มาก

เพียงแค่มันเป็นคำที่หลุดมาจากปากของผู้หญิงที่ดูนิ่งเฉยและสุภาพงดงามมาตลอดก็ยิ่งทำให้มันดูน่าสนใจ

แสงสะท้อนวูบไหวขึ้นจากนัยน์ตาดุจหยกดำของเขา ฝ่ามืออุ่นร้อนกดร่างที่ไม่ซื่อสัตย์ของเธอเอาไว้สายตาค่อยๆ เคลื่อนลงมาหยุดอยู่ที่เอวบาง

ดวงตาสีนิลถูกฉาบไปด้วยความคลุมเครือ

เห็นได้ชัดว่าร่างอันขาวเนียนดังหยกและเกล็ดน้ำแข็งกลับถูกกลบด้วยรอยช้ำสีคล้ำ

เขาก้มหน้าลงไปหยิบยาขึ้นมา ก่อนริมฝีปากบางจะขยับอีกครั้ง

“คำว่าถูเฝ่ยสองคำนี้มาได้ยังไง”

เฉินฝานซิงเดือดปุดๆ

“หักแขนคนอื่น ทุบรถคนอื่น ตอนนี้ก็ยังมาใช้กำลังกับฉันอีก ไม่เรียกถูเฝ่ยแล้วจะให้เรียกว่าอะไร! จะให้ฉันคิดว่าคุณยังเป็นสุภาพบุรุษที่สุภาพสูงส่งและสง่างามราวหยก…” ล้ำค่า

เธอไม่ทันได้พูดจบ จู่ๆ เธอก็สัมผัสได้ถึงความเย็นที่เอวของเธอไปพร้อมๆ กับความรู้สึกเจ็บ

เธอนิ่งสนิท ราวกับนึกบางอย่างขึ้นมาได้ทันใดนั้นเองใบหน้าขุ่นเคืองก็ได้ถูกระบายไปด้วยสีแดง เธอขบริมฝีปากแน่นมุดหน้าหลบลงไปใต้ผ้าห่ม

เธอเข้าใจเขาผิดไป

ตอนที่ 76 ถูเฝ่ย หืม?

สัมผัสจากปลายนิ้วนั้นให้ความรู้สึกเย็นเล็กน้อย แต่การกระทำกลับนุ่มนวล

ครีมเนื้อเหลวค่อยๆ บรรจงเกลี่ยลงไปยังบริเวณที่ฟกช้ำ

กลิ่นหอมจางๆ ของยาค่อยๆ ฟุ้งไปในอากาศ เฉินฝานซิงกำผ้าห่มผืนบางใต้ร่างของเธอเอาไว้แน่นไม่เงยหน้าขึ้นมอง

“ทำไมไม่พูดต่อล่ะ เมื่อกี้ยังพูดเก่งอยู่เลยไม่ใช่เหรอ หืม?”

“อยู่นิ่งๆ”

ฝ่ามืออุ่นร้อนทำเอาเส้นประสาทของเฉินฝานซิงตึงเกร็งและในขณะที่ร่างของเธอแข็งทื่ออยู่นั้นเสียงของป๋อจิ่งชวนก็ได้แว่วดังขึ้นจากด้านหลังของใบหู

“รอให้ยาแห้งก่อนแล้วค่อยลุก”

เธอไม่ได้ขยับเขยื้อนไปไหนต่อ หลังจากนั้นไม่นานน้ำเสียงอึดอัดก็ได้ดังขึ้นอย่างช้าๆ

“ขอโทษนะคะ เมื่อกี้ที่ฉัน…เข้าใจคุณผิดไป”

เสียงหัวเราะทุ้มแว่วขึ้นในอากาศ เสียงนั้นดังขึ้นชั่วขณะก่อนที่ป๋อจิ่งชวนจะยืดตัวขึ้น

“ถูเฝ่ย?”

“…ขอโทษ”

เธอทำตัวไม่ถูกจึงทำได้เพียงเอ่ยขอโทษออกไปอย่างเก้อเขิน

“ผมคิดไม่ถึงว่าชีวิตนี้จะมีคนนิยามผมด้วยสองคำนี้”

เฉินฝานซิงขบริมฝีปากด้วยความกลืนไม่เข้าคายไม่ออกอย่างถึงที่สุด น้ำเสียงก็ยิ่งแสดงออกถึงความอึดอัดลงเรื่อยๆ

“…ฉันเองก็เพิ่งเรียกคนอื่นแบบนี้เป็นครั้งแรก”

“ครั้งแรก? ผมควรรู้สึกเป็นเกียรติ?”

“ยังไงก็…ต้องขอโทษจริงๆ ค่ะ”

เมื่อเห็นว่าชายหนุ่มได้ผละมือออกไปจากตัวเธอพร้อมทั้งลุกออกจากเตียง เฉินฝานซิงถอนหายใจออกมาเบาๆ ก่อนหยัดตัวขึ้นแล้วดึงเสื้อให้ปิดมาลงอย่างระมัดระวัง

เมื่อเธอหันไปก็กลับได้เห็นร่างอันสูงสง่าของชายหนุ่มที่อยู่ข้างหลังเธอ

“คำขอโทษก็เป็นเพียงแค่ลมปากไม่ได้ดูจริงใจอะไร”

หัวใจของเธอสั่นไหวเบาๆ “…แล้วคุณต้องการอะไร”

“แกล้งเสียสติ”

ดวงตาสุกใสวูบไหวเล็กน้อย

“เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ผมรู้สึกกระวนกระวายที่จะทำอะไรสักอย่าง คุณนี่กวนใจเก่งจริงๆ”

“ป๋อจิ่งชวน คุณ…พูดเองว่านี่เป็นช่วงจีบ…สุภาพบุรุษพูดแล้วห้ามคืนคำ…”

“สุภาพบุรุษ? เหอะ…” เขาขำเสียงต่ำ “เปล่า ผมเป็นถูเฝ่ย”

เป็นครั้งแรกที่ทำให้เฉินฝานซิงอยากจะกัดลิ้นตัวเอง

ทำไมถึงได้วู่วามพูดกับป๋อจิ่งชวนไปแบบนั้น

เขาเอาคำพูดของเธอมาตอกหน้าเธอแบบนี้จะให้เธอตอบโต้เขายังไง

“แล้วรู้รึเปล่าว่าผู้หญิงของถูเฝ่ยได้มายังไง”

——

[1] ถูเฝ่ย มาจากตัวอักษรจีนที่เขียนว่า “土匪” เป็นคำที่ใช้เรียกโจรท้องถิ่น

ช้าก่อนคุณป๋อ! ครั้งนี้ขอเป็นรักสุดท้าย

ช้าก่อนคุณป๋อ! ครั้งนี้ขอเป็นรักสุดท้าย

Status: Ongoing

หลังจากแม่ของเธอจากไป เฉินฝานซิง ก็ถูกพ่อและย่าแท้ๆ ของตัวเองขับไสไล่ส่งไปตายเอาดาบหน้าในประเทศต่างแดนอันแสนทุรกันดาร ทว่าเธอไม่ใช่ผู้หญิงเคี้ยวง่ายอย่างที่คิด ด้วยสมองและสองมือ ในที่สุดเฉินฝานซิงก็หนีกลับมาจากนรกขุมนั้นได้

เธอตัดสินใจแยกตัวออกมาจากครอบครัวสารพัดพิษและใช้ชีวิตอยู่ตามลำพัง คอยทุ่มเทพัฒนาบริษัทของคู่หมั้นที่เกือบจะต้องปิดตัวลงและบริษัทเล็กๆ ที่แม่ของเธอทิ้งไว้ กระนั้นความสัมพันธ์รักแปดปีกลับได้มาแค่ความเชื่อใจที่แสนเปราะบาง เพราะคู่หมั้นกลับไปหลงเชื่อคำโกหกของน้องสาวต่างแม่ที่ชอบตีสองหน้าของเธอเสียได้

ในขณะที่แผลใจจากคนรักเก่ายังไม่ทันหายดี ศรัทธาที่มีในชีวิตคู่ก็เริ่มถดถอย เธอเลือกหันหลังให้กับความรักโดยการขดตัวเป็นตัวเม่นและใช้หนามแหลมๆ นั้นปฏิเสธทุกคนที่เข้าหา ทว่าอยู่มาวันหนึ่ง ป๋อจิ่งชวน ผู้ชายจอมเผด็จการคนนั้นก็ก้าวเข้ามาพร้อมหยิบยื่นความรักครั้งใหม่ให้กับเธอโดยไม่เปิดโอกาสให้เธอได้ปฏิเสธมันเลยสักนิด!

“การตัดสินใจจีบคุณคือเรื่องของผม สุดท้ายแล้วคุณจะปฏิเสธหรือไม่นั่นก็เรื่องของคุณ แต่ผมจะปฏิเสธคำปฏิเสธของคุณ!”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน