ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น – บทที่ 2021 อย่าเชื่อคนเคียงหมอนมาก + ตอนที่ 2022 ครั้งนี้จะไม่ยอมปล่อยเธอไปแน่

บทที่ 2021 อย่าเชื่อคนเคียงหมอนมาก + ตอนที่ 2022 ครั้งนี้จะไม่ยอมปล่อยเธอไปแน่

ตอนที่ 2021 อย่าเชื่อคนเคียงหมอนมาก

หลายวันก่อนเหมยเหมยยังถามเหยียนหมิงซุ่นว่าจะบอกความจริงเกี่ยวกับตัวตนที่แท้จริงของโอหยางซานซานให้เหมยซูหานรับรู้ดีหรือไม่ เหยียนหมิงซุ่นบอกว่าแล้วแต่เธอ จะบอกหรือไม่บอกล้วนขึ้นอยู่กับอารมณ์ของเธอ

ตอนแรกที่ไม่พูดออกมาเพราะต้องการจะกุมอำนาจเหนือกว่า ไม่อยากให้เฮ่อเหลียนเช่อได้ทันตั้งตัว ตอนนี้ลูกคลอดออกมาแล้ว อู่เยวี่ยไม่มีประโยชน์ใดอีก สถานะของเธอคงไม่ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญอะไรแล้ว

อีกทั้งอีกไม่กี่วันเหยียนหมิงซุ่นก็จะเปิดโปงตัวตนที่แท้จริงของอู่เยวี่ยซึ่งนี่เป็นแผนที่เขากับโจวจื่อหัวปรึกษากันเอาไว้ เขาต้องการจะบอกเฮ่อเหลียนเช่อให้รู้ว่าแผนชั่วร้ายทุกอย่างของอีกฝ่ายล้วนอยู่ในกำมือของเขา

ฉะนั้นต่อให้ตอนนี้เธอไม่บอกเหมยซูหาน อีกไม่กี่วันเหมยซูหานก็จะเห็นความจริงจากบนหน้าหนังสือพิมพ์อยู่ดี

เหมยซูหานใจหล่นตุบพลางถาม “หมายความว่าไง? โอหยางซานซานมีสถานะตัวตนอะไรอีกเหรอ?”

เขาคิดว่าเหมยเหมยถามเช่นนี้ต้องมีความนัยบางอย่างตามสัญชาตญาณ

หรือว่าโอหยางซานซานคือสายลับงั้นหรือ?

เหมยซูหานเครียดขึ้นมาในทันทีแล้วรีบเอ่ยถามว่า “เธอเป็นสายลับที่คู่อริส่งตัวมาเพื่อให้ทำร้ายอาเช่อใช่ไหม?”

เหมยเหมยกลอกตาทีหนึ่ง จินตนาการช่างสูงส่งเหลือเกิน

แต่นี่ก็พิสูจน์แล้วว่าระหว่างเหมยซูหานกับเฮ่อเหลียนเช่อคือรักแท้

“นายคิดมากไปแล้ว โอหยางซานซานไม่ใช่โอหยางซานซาน เธอเป็นคนอื่นปลอมตัวมา”

“ใคร? เป็นคนที่ฉันรู้จักไหม?” เหมยซูหานถาม

เหมยเหมยพยักหน้า “ใช่ เป็นคนที่เรารู้จักกันดีเลยล่ะ อีกอย่างเป็นเพื่อนสนิทของนายด้วยนะ อีกทั้งยังเป็นคนที่ตายไปแล้วฟื้นคืนชีพด้วย”

เหมยซูหานทำหน้าฉงน พอครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งสีหน้าก็พลันถอดสีแล้วโพล่งออกมาว่า “อู่เยวี่ยเหรอ? เธอไม่ได้ตายเหรอ? เป็นไปไม่ได้ ฉันเห็นเธอตกตึกเองกับตา จะไม่ตายได้อย่างไร?”

เหมยซูหานส่ายศีรษะเป็นพัลวันอย่างไม่เชื่อในคำพูดของเหมยเหมย ตอนนั้นอู่เยวี่ยตกลงมาจากตึกสี่ชั้นพร้อมกับร่างกายที่มีรอยแผลจากใบมีดนับหลายสิบจุด ต่อให้เป็นมนุษย์เหล็กก็ต้องตายแล้วเธอรอดมาได้อย่างไร?

หนำซ้ำศพของอู่เยวี่ยยังมีเฮ่อเหลียนเช่อเป็นคนชันสูตร อีกทั้งยังส่งศพไปเผาที่ลานเผาศพจนเหลือเพียงเถ้ากระดูก หรือว่าเธอได้รับความเมตตาจากกวนอิมฟื้นคืนชีพงั้นเหรอ?

เหมยซูหานไม่เคยสงสัยในตัวเฮ่อเหลียนเช่อมาก่อน เขาเชื่อใจอีกฝ่ายอย่างเต็มเปี่ยม เมื่อนั้นเฮ่อเหลียนเช่อบอกเขาเองกับปากว่าอู่เยวี่ยตายแล้ว แปลว่าหล่อนต้องตายไปแล้วอย่างแน่นอน

เหมยเหมยแค่นหัวเราะทีหนึ่ง “อันนี้ก็ต้องไปถามอาเช่อของนายแล้วล่ะว่าตอนนั้นเขาทำอะไรไปบ้าง? แล้ววางแผนอะไรอยู่?”

เหมยซูหานยังไม่เชื่ออยู่ดี

เหมยเหมยบอกหลักฐานมัดตัวที่แน่นหนาออกมา “โอหยางซานซานแพ้อาหารทะเล อู่เยวี่ยแพ้ถั่วลิสง นายจะลองดูสักครั้งก็ได้นะ”

พูดจบเธอก็เตรียมตัวกลับแต่ก็เอ่ยเตือนอีกที “เห็นแก่ที่เรารู้จักกันมาหลายปี ฉันขอเตือนนายสักหน่อยว่าอย่าเชื่อคนเคียงหมอนมากนัก บางครั้งระแวงไว้บ้างก็เป็นสิ่งที่จำเป็นนะ”

เหมยซูหานอดถามไม่ได้ “เหมยเหมยเธอก็ทำแบบนี้กับเหยียนหมิงซุ่นเหมือนกันเหรอ?”

ตอนนี้เขาเห็นเหมยเหมยเป็นน้องสาว แต่การพ่ายแพ้ให้เหยียนหมิงซุ่นก็ยังเป็นปมในใจของเขาอยู่ดี เขาคิดว่าตัวเองไม่ได้แย่ไปกว่าเจ้าก้อนน้ำแข็งอย่างเหยียนหมิงซุ่นเลยนี่นา!

เหมยเหมยแค่นเสียง “แน่นอนว่าไม่ เฮ่อเหลียนเช่อจะมีสิทธิ์เทียบกับพี่หมิงซุ่นได้อย่างไรเล่า เพราะระหว่างฉันกับพี่หมิงซุ่นไม่มีความลับต่อกัน”

เหมยซูหานหัวเราะเยาะตัวเอง ที่แท้แล้วในใจของเหมยเหมยเหยียนหมิงซุ่นก็เป็นบุคคลที่พูดความลับต่อกันได้ ส่วนเขากลับเป็นได้เพียงคนนอกคนหนึ่งเท่านั้น

เขาแพ้ตั้งแต่เริ่มแล้ว

บางทีนั่นอาจจะเป็นแค่ฝันก็ได้!

หลังจากเหมยเหมยกลับบ้านไปก็บอกเหยียนหมิงซุ่นถึงเรื่องที่เหมยซูหานสงสัย

“พี่ พี่ว่าเหมยซูหานจะเดาถูกไหม? เราลองไปสืบข้อมูลคุณหมอเกาคนนั้นดูดีไหม?” เหมยเหมยถาม

……………………………

ตอนที่ 2022 ครั้งนี้จะไม่ยอมปล่อยเธอไปแน่

เหยียนหมิงซุ่นไม่ได้ตกใจนักเพราะความจริงเขาก็คาดเดาแบบนั้นเช่นกัน สถานการณ์ระหว่างอู่เยวี่ยกับเสี่ยวเป่าน่าประหลาดเกินไป เขาถึงได้ไปสอบถามผู้เชี่ยวชาญหลายคน

ผู้เชี่ยวชาญบอกว่ามีความเป็นไปได้ที่คุณแม่จะวางยาที่มีฤทธิ์คล้ายยาเสพติดให้เด็กถึงทำให้เด็กอยู่ห่างเธอไม่ได้ กลายเป็นว่าต้องพึ่งพายาชนิดนั้น

แต่เหยียนหมิงซุ่นกับผู้เชี่ยวชาญต่างไม่เชื่อความจริงนี้ในเมื่อเสือร้ายยังไม่กินลูกตัวเอง หากอู่เยวี่ยทำเรื่องที่เลวยิ่งกว่าสัตว์เดรัจฉาน นี่เป็นเรื่องที่เห็นได้น้อยนักบนโลกใบนี้

แต่ก็เป็นความจริงที่มีความไปได้สูงที่สุด เหยียนหมิงซุ่นตัดสินใจส่งคนไปตามสืบคนรอบตัวอู่เยวี่ย ซึ่งคุณหมอเกาเป็นหนึ่งในผู้ต้องสงสัยสำคัญ

ตอนนี้เหมยซูหานก็เริ่มสงสัยไปในทิศทางเดียวกันทำให้เหยียนหมิงซุ่นยิ่งเชื่อในการกระทำชั่วช้ายิ่งกว่าสัตว์เดรัจฉานของอู่เยวี่ยมากขึ้นไปอีก

เขาบอกข้อสันนิษฐานของผู้เชี่ยวชาญให้เหมยเหมยรู้ เหมยเหมยสบถด่าอย่างโกรธเกรี้ยว “เลวยิ่งกว่าสัตว์เดรัจฉาน ชั่วช้ายิ่งกว่าเหอปี้อวิ๋น พี่ จะปล่อยให้สัตว์เดรัจฉานตัวนี้มีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ต่อไม่ได้แล้วนะ”

ถึงขนาดวางยาเด็กทารกที่เพิ่งคลอด อู่เยวี่ยทำได้ลงคอได้อย่างไรกัน?

เหยียนหมิงซุ่นพยักหน้ารับ “ครั้งนี้จะไม่ปล่อยให้หล่อนหนีไปได้อีกแล้ว”

ถ้าปล่อยให้อู่เยวี่ยหนีลอยนวลไปได้อีก เหยียนหมิงซุ่นอย่างเขาก็ไม่ต้องอยู่ในวงการนี้ต่อไปแล้ว เอาหัวชนฝาผนังตายเสียเถอะ

ถึงแม้อยากให้อู่เยวี่ยตายเสียเดี๋ยวนี้แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องค่อย ๆทำไปทีละก้าว ฉะนั้นการที่อู่เยวี่ยยังมีลมหายใจอยู่อีกระยะหนึ่ง เห็นแล้วมันช่างสะอิดสะเอียนใจจริง ๆ

เหมยซูหานยังค้างคาใจกับคำพูดของเหมยเหมยอยู่ เขาไม่อยากเชื่อว่าเฮ่อเหลียนเช่อจะโกหกตน แต่เหมยเหมยพูดเป็นตุเป็นตะจนทำให้ความแน่วแน่ของเขาเริ่มสั่นคลอน

หรือว่าอาเช่อโกหกเขาจริง ๆ?

อาหารทะเลกับถั่วลิสงหรือ?

จะลองดูสักครั้งดีไหมนะ?

ตอนเย็นเฮ่อเหลียนเช่อจะมาทานข้าวกับเหมยซูหานเพราะระยะนี้เสี่ยวเป่าเริ่มติดอู่เยวี่ยหนักขึ้นเรื่อย ๆ เฮ่อเหลียนเช่อกับหนิงเฉินเซวียนยังหนักใจและรู้สึกน้อยใจยิ่งกว่า

หากเป็นแบบนี้ต่อไปต่อให้เสี่ยวเป่าหย่านมก็หาทางกำจัดอู่เยวี่ยทิ้งได้ยาก เพราะเสี่ยวเป่าอยู่ห่างอู่เยวี่ยไม่ได้เลย หากกำจัดอู่เยวี่ยทิ้งเสี่ยวเป่าก็อยู่ไม่รอด

นี่ไม่ใช่จุดจบที่เขากับหนิงเฉินเซวียนต้องการ ฉะนั้นตอนนี้ทำได้เพียงอดทนเท่านั้น

แต่เขากลับอดทนสั่งสมอารมณ์จนแน่นอก เพราะนังแพศยาอู่เยวี่ยปีกกล้าขาแข็งมากขึ้นเรื่อย ๆ วันนี้ยังกล้าแข็งข้อใส่เขาว่าจะรับช่วงดูแลบริษัทแห่งหนึ่งที่อยู่ภายใต้การดูแลของเขาด้วย

หากไม่ตกลงเธอจะพาเสี่ยวเป่าออกไปหางาน

ถึงขนาดอาศัยข้ออ้างที่ว่าเสี่ยวเป่าอยู่ห่างจากเธอไม่ได้มาเป็นข้อต่อรองกับเขา!

“ทานผักเยอะ ๆหน่อย อย่าทานแต่เนื้อสิ” เหมยซูหานคีบผักเขียวใส่ถ้วยเฮ่อเหลียนเช่อ

เฮ่อเหลียนเช่อไม่ได้ว่าง่ายยอมทานผักแต่โดยดีอย่างแต่ก่อน แต่กลับเขี่ยผักไปข้างถ้วยข้าวและไม่ยอมทาน บ่งบอกว่าตอนนี้เขากำลังอารมณ์เสียมาก ไม่อย่างนั้นคงไม่ทำตัวงอแงแบบนี้

“ไม่ชอบทานก็ไม่ต้องทาน”

เหมยซูหานเองก็ไม่ฝืนใจเขาเลยคีบผักมาใส่ถ้วยตัวเอง

เฮ่อเหลียนเช่อรู้สึกผิดเล็กน้อย “ขอโทษ วันนี้ฉันอารมณ์ไม่ค่อยดีเท่าไร”

“มีเรื่องเครียดอะไรลองระบายออกมาหน่อยไหม บางทีอาจจะอารมณ์ดีขึ้นก็ได้” เหมยซูหานโน้มน้าวเสียงอ่อนโยน

เฮ่อเหลียนเช่อสีหน้าย่ำแย่เลยบอกเรื่องที่อู่เยวี่ยข่มขู่เขา “นังแพศยา รอฉันหาวิธีได้ก่อนเถอะ ฉันจะทำให้หล่อนทรมานเจียนตายชนิดที่ตายทั้งเป็นเลย กล้าข่มขู่ฉันเหรอ!”

เหมยซูหานผุดความคิดหนึ่งขึ้นมาได้เลยถาม “นายคิดจะทำอย่างไรต่อไป?”

“จะทำอย่างไรได้ล่ะ ตอนนี้เสี่ยวเป่าอยู่ห่างจากหล่อนไม่ได้เลยจำเป็นต้องทำให้หล่อนพอใจ นายลองหาสักบริษัทที่ไม่เตะตาให้หล่อนก็พอ”

เฮ่อเหลียนเช่อกัดเนื้อติดมันคำหนึ่งอย่างแรงพร้อมสายตาฉายแววเยือกเย็น ก่อนจะประทับชื่ออู่เยวี่ยไว้ในบัญชีดำ

…………………………………

ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น

ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น

จุดจบที่ความตาย กลับกลายเป็นจุดเริ่มต้นบันดาลให้เธอได้ย้อนกลับไปในปี 1985

เธอตื่นขึ้นมาอีกครั้งในร่างตัวเองวัย 12 ปี!

เมื่อได้รับชีวิตที่เหมือนได้เกิดใหม่คราวนี้ เธอจึงตัดสินใจลิขิตชะตาด้วยสองเป้าหมาย…

หนึ่ง… มีชีวิตอย่างอิสรเสรี ไม่สนใจสายตาใคร และไม่รับความรักอันน้อยนิดที่ญาติมิตรมีให้

สอง… แก้แค้น สิ่งที่พี่สาวกับอดีตคนรักติดค้างไว้ เธอจะต้องเอาคืนให้หมดในชาตินี้!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท