เสน่ห์คมดาบ – เสน่ห์คมดาบ – ตอนที่ 153

เสน่ห์คมดาบ - ตอนที่ 153

“เหอะๆ” อันลิซ่าหัวเราะอย่างอารมณ์ดีและพูด “เจ้าจำแคลร์ ฮิลล์จากการประลองได้หรือไม่? คนที่เป็นตัวแทนของตระกูลหลี่น่ะ”

บรานอึ้ง เครย์? แคลร์! เด็กผู้นั้นไม่ใช่เด็กผู้ชาย แต่เป็นเด็กผู้หญิง ในตอนนี้ความสงสัยในใจของบรานได้คลี่คลายทั้งหมดแล้ว ไม่แปลกใจเลยที่สัตว์เวทย์ระดับสี่จะกลัวนาง ที่แท้นางก็คือแคลร์ ฮิลล์ผู้ทรงพลังนี่เอง ภาพของการเอาชนะฮว๋าอี้หลินนั้นยังเต็มตา นางอายุเพียงสิบสี่ปีแต่มีความแข็งแกร่งขนาดนั้นเลยจริงๆ

“เอาล่ะ ไปกันเถอะ แคลร์ไม่ได้ใส่ใจหรอก สำหรับนางแค่นี้เป็นเรื่องสบายๆ เจ้าไม่จำเป็นต้องใส่ใจหรอก” อันลิซ่ามองไปที่ลูกน้องเก่าของนาง นางรู้ว่าลูกน้องเก่าผู้นี้เป็นคนดี เขาคงรู้สึกติดค้างอยู่ในใจหากไม่ได้ตอบแทนน้ำใจของแคลร์

“ครับ ท่านอัน” บรานอึ้งอยู่ในใจแล้วขอตัวกลับ

บรานกลับบ้านและเห็นว่าลูกชายของเขากำลังคุยและหัวเราะกับลูกสาวทั้งสองอยู่ เมื่อเห็นเขากลับมาพวกเขาทั้งหมดก็ลุกขึ้นมาทักทาย

“ท่านพ่อ” กาดาร์ลุกขึ้นทักทายพ่อ

“กาดาร์ ทำไมเจ้ากลับมาวันนี้ล่ะ?” บรานมองลูกชายที่กลับมาด้วยความประหลาดใจ ถ้าเขาจำไม่ผิดเวลาพักร้อนของลูกชายยังไม่ถึงนี่

“ข้า กลับมาทำอะไรบางอย่างเลยแวะมาหาด้วย” ใบหน้าหล่อของกาดาร์มีรอยยิ้มจางๆ

“อ๋อ อย่างนี้เอง” บรานมองกาดาร์ซึ่งดูเป็นผู้ใหญ่กว่าก่อนหน้านี้ด้วยความโล่งใจ แม้ว่ากาดาร์จะเข้าสู่นิกายลี้ลับและตัดขาดจากโลก ทำให้เขาไม่สามารถรับราชการได้ แต่ถ้าที่บ้านเกิดเรื่อง เขาก็ยังกลับมาช่วยเหลือได้ “ความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นเยอะเลยนะ” บรานยิ้มและตบไหล่ลูกชายของเขา ทันใดนั้นความคิดแปลกๆ ก็เกิดขึ้นในใจของเขา ลูกชายผู้อัจฉริยะของเขาหากเทียบกับแคลร์แล้ว ใครจะเก่งกว่ากันนะ? เป็นนักเวทย์ธาตุไฟทั้งคู่เลยนี่นา

“มีหลายคนที่เก่งกว่าข้า ดังนั้นข้าจะต้องขยันอยู่เสมอ” พูดถึงตรงนี้สีหน้าของกาดาร์ก็เริ่มจริงจังและจากนั้นบทสนทนาก็เปลี่ยนไป “ท่านพ่อ ท่านพ่อเจออันตรายระหว่างทางกลับบ้านและได้รับการช่วยเหลือจากเด็กชายงั้นหรือ?” เจสสิก้าและเมร่าเล่าให้เขาฟังแล้ว

“เหอะๆ ไม่ใช่เด็กชาย แต่เป็นเด็กผู้หญิง” บรานหัวเราะ “แคลร์ ฮิลล์ที่เอาชนะฮว๋าอี้หลินได้ในวันนั้นไง”

“ห้ะ?” กาดาร์สงสัย

เจสสิก้าและเมร่าอุทาน น้ำเสียงเต็มไปด้วยความชื่นชม “ท่านพ่อ จริงหรือ? เป็นนางจริงหรือ?”

“เป็นนางหรือ? ท่านพ่อ ทำไมนางไปโผล่ที่นั่นล่ะ? น่าเสียดาย ข้าไม่ได้พูดกับนางเลย!”

ภาพการต่อสู้ที่ดุเดือดในวันนั้น ทำให้สองสาวประทับใจอย่างสุดซึ้ง หญิงสาวที่ทำให้ทุกคนประหลาดใจ

กาดาร์มองน้องสาวทั้งสองของเขาที่ตื่นเต้นด้วยความสงสัย เด็กน้อยทั้งสองไม่เคยแสดงความชื่นชมคนอื่นเลยนอกจากตัวเขาเอง

“กาดาร์ พ่อยังมีคริสตัลความทรงจำที่บันทึกภาพการประลองในวันนั้นอยู่ เจ้าลองดูสิ อาจจะเป็นประโยชน์ต่อการฝึกฝนของเจ้านะ นางเป็นนักเวทย์ธาตุไฟ แต่เปลวไฟของนางเป็นสีทอง” บรานไม่รู้เลยว่าผลที่ตามมาจากการกระทำโดยไม่ได้ตั้งใจของเขาในตอนนี้จะทำให้เกิดอะไรขึ้น

เมื่อกาดาร์ดูภาพในคริสตัลความทรงจำสีหน้าของเขาก็ดูจริงจัง

“ท่านพ่อ ท่านให้คริสตัลนี้กับข้าได้หรือไม่?” ดวงตาของกาดาร์ไม่ละไปจากหญิงสาวในภาพเลย เขาเฝ้าดูภาพข้างในซ้ำแล้วซ้ำเล่า

“อื้ม เอาไปสิ” บรานไม่แปลกใจที่ลูกชายขอ ลูกชายคนนี้ดูมีทัศนคติที่ดีต่อผู้อื่น แต่จริงๆ แล้วเขาเป็นคนหยิ่งและไม่สนใจใคร ตอนนั้นฮว๋าอี้หลินกับลูกชายของเขาเคยแอบไปประลองกันอย่างลับๆ และไม่มีใครรู้ผลการต่อสู้ครั้งนั้นเลย แต่ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาฮว๋าอี้หลินก็ไม่เคยปรากฏตัวต่อหน้าลูกชายของเขาอีกเลย ต่อมาลูกชายของเขาก็ได้รับเลือกจากนิกายลี้ลับและเลือกปฏิบัติตามเส้นทางของเขาเอง

กาดาร์เก็บคริสตัล เขาลุกขึ้นยืนและพูด “ท่านพ่อ ข้าจะไปแล้ว เรื่องคราวนี้ร้ายแรงมาก”

บรานพยักหน้า เขาเข้าใจกฎของนิกายดี “ไปเถอะ ระวังตัวและดูแลตัวเองด้วย”

กาดาร์ไม่สามารถสงบลงได้เลย หญิงสาวในคริสตัลความทรงจำนั้นช่างน่าสนใจยิ่งนัก ในช่วงเวลาที่ดอกบัวสีทองบานดูเหมือนทุกอย่างจะหยุดลง เปลวไฟสีทองนั้นคือเปลวไฟคืออะไร? กาดาร์อารมณ์ไม่ดีเลย เขากำและคลายมือ จากนั้นก็กำแน่นอีกครั้ง

เขาอยากเจอและต่อสู้กับนางจริงๆ!

ในตอนนี้แคลร์มาถึงเกาะลึกลับนั้น นางได้เห็นภาพที่น่าตกใจตรงหน้า แต่ไม่มีเงาของเฟิงอี้เซวียนเลย

บ้านไม้เล็กๆ หายไป พื้นรกไปหมด มีไม้กองอยู่ทุกที่ นอกจากนี้ยังมีเตียง อุปกรณ์ทำอาหาร โต๊ะกระจัดกระจายไปหมด ทุกที่ดูเหมือนจะประสบกับหายนะอย่างน่ากลุ้มใจ ผมทรงเดิมของท่านลมเทียนกังก็ดูเหมือนรังนกไปแล้ว เขาหันหลังให้แคลร์และกำลังซ่อมแซมอะไรบางอย่างอยู่ ชายชราฝีมือชั้นยอดผู้นั้นหายไปไหนล่ะ?

แคลร์กระตุกมุมปากเล็กน้อยและฟังท่านลมเทียนกังสบถ “ ไอ้เด็กนี่ กล้าทำลายของข้าจนเป็นแบบนี้ หากไม่ให้เจ้าได้รับรู้ความทุกข์ทรมาน เจ้าก็ไม่รับรู้อะไรหรอก”

เฟิงอี้เซวียนทำให้เกิดสภาพนี้หรือ?

“ท่านลมเทียนกัง…” แคลร์เรียกอย่างอ่อนแรง

“หืม?” ท่านลมเทียนกังหันหน้าไป สีหน้าของเขาแสดงออกอย่างชัดเจนว่าเขาอารมณ์ไม่ดี และอย่ามายุ่งกับเขาตอนนี้

“เกิดอะไรขึ้น?” แคลร์มองไปรอบ

“เกิดอะไร? ก็ไอ้เด็กนั่นมันบรรลุขั้นเก้าแล้วก็ทำลายของข้านี่ไง” ท่านลมเทียนกังโบกค้อนในมืออย่างดุเดือดและพูด

“เอ่อ…” แคลร์มองท่านลมเทียนกังที่บ้าคลั่ง ทำไมนางถึงรู้สึกว่าเขามีความสุขเล็กน้อยในความโกรธล่ะ?

“ฮ่าๆ ข้าเพิ่งเตะเขาเข้าไปในพื้นที่ทดลอง ที่นั่นมีคนเก่งมากมาย ถ้าเขาไม่เกือบตาย ข้าจะไม่เชื่อแน่ๆ” ท่านลมเทียนกังหัวเราะพร้อมกับยกแขนวางที่สะโพกของเขา

“พื้นที่ทดลองหรือ? สถานที่นั้นอยู่ที่ไหน?” แคลร์งุนงง นี่เป็นครั้งแรกที่นางได้ยินชื่อนี้

“สถานที่นั้นอันตรายมากและยังเป็นสถานที่ฝึกที่ดีอีกด้วย ข้ากับซือคงหลินได้รู้จักกันที่นั่น ข้างในมีคนที่แข็งแกร่งมากมาย ผู้ที่อ่อนแอจะกลายเป็นเหยื่อของผู้ที่แข็งแกร่ง” ท่านลมเทียนกังพูด สายตาของเขาเหมือนจำอะไรบางอย่างได้

มีสถานที่เช่นนี้ด้วยหรือ? ทำไมไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย?

“ทำไมข้าไม่เคยได้ยินเลย แล้วข้าก็ไม่เคยเห็นบันทึกในหนังสือด้วย” แคลร์สงสัย

“ฮ่าๆ แม่หนู แน่นอนว่าเจ้าไม่รู้ ที่แห่งนั้น ไม่สามารถเข้าไปได้หากยังไม่บรรลุถึงจุดหนึ่ง โลกใบนั้นแตกต่างจากโลกนี้มาก มันโหดร้ายมากและแบ่งผู้อ่อนแอออกจากผู้ที่แข็งแกร่ง ทุกอย่างพึ่งพละกำลังทั้งสิ้น” ท่านลมเทียนกังนั่งลง โยนเครื่องมือทิ้งและมองแคลร์ “แม่หนู เจ้ามาทำอะไรที่นี่?”

“ข้า ข้าไม่สามารถบรรลุขั้นต่อไปของกระจกดอกบัวได้ ติดอยู่ขั้นที่แปด ดังนั้น ข้าเลยอยากมาถามท่านผู้อาวุโส…” แคลร์กัดริมฝีปากและพูดจุดประสงค์ของนาง

“เจ้ารู้วิธีที่เร็วที่สุดในการทำให้คนแข็งแกร่งหรือไม่?” สีหน้าของท่านลมเทียนกังมีความจริงจัง

แคลร์เงียบและมองท่านลมเทียนกัง นางรู้ว่าที่เขาถาม เขาต้องมีคำตอบของตัวเองอยู่แล้ว

“นั่นคือการเผชิญหน้ากับผู้แข็งแกร่งและได้เดินอยู่บนเส้นขอบแห่งความตายอย่างต่อเนื่องเพื่อกระตุ้นศักยภาพของตัวเองไงล่ะ” ท่านลมเทียนกังพูด

“ถ้ามันไม่ถูกกระตุ้นล่ะ?” แคลร์ถาม

“งั้นก็ตาย” ท่านลมเทียนกังตอบอย่างเป็นธรรมชาติ แคลร์พูดไม่ออก วิธีนี้คืออะไรกัน

ความคิดของแคลร์ย้อนกลับไปสู่ช่วงเวลาที่นางเผชิญหน้ากับฮว๋าอี้หลิน ตอนที่นางใกล้จะตาย ในขณะนั้นนางก็เข้าใจถึงขั้นที่แปดของกระจกดอกบัวได้

“ไอ้เด็กนั่นก็กำลังเผชิญกับทางตันของการบรรลุ ดังนั้นข้าเลยส่งเขาไปที่นั่น เขาจะกลับมาได้หรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับเขาแล้ว” ท่านลมเทียนกังหาว จากนั้นก็พูดถึงจุดประสงค์ที่แท้จริงของการส่งเฟิงอี้เซวียนไป เขาเอียงหัวมองแคลร์และพูด “แล้วเจ้าล่ะ เจ้าก็เจอปัญหาเดียวกันนี้แล้ว เจ้าจะไปด้วยหรือไม่? ข้าไม่สามารถให้คำแนะนำเกี่ยวกับกระจกดอกบัวได้หรอก เพราะว่าเคล็ดวิชาลับนี้ซือคงหลินเป็นผู้ที่สร้างมันขึ้นมา ตอนนี้ข้าก็ไม่รู้ว่าเขาอยู่ที่ไหน”

“ข้าจะไป” แคลร์พูดอย่างเด็ดขาดโดยไม่ลังเลใดๆ

“ฮ่าๆ แม่หนู ไม่เลวเลย!” ท่านลมเทียนกังยืนขึ้นและหัวเราะ “ข้าจะส่งเจ้าไปที่นั่น เด็กนั่นเพิ่งไปไม่นาน พวกเจ้าน่าจะได้พบกัน”

ท่านลมเทียนกังก็ไม่ให้เสียเวลา เขารีบดึงแร่จำนวนมากในแหวนมิติออกมาและวางรูปแบบลงบนพื้น ซึ่งเป็นรูปดาวแปดแฉก!

“ไปที่นั่น เจ้าต้องระวังให้มาก ถ้าเจ้าอยากกลับมา เจ้าต้องไปให้ถึงภูเขาที่สูงที่สุดที่มีรูปแบบเวทย์เคลื่อนย้าย แต่ ไม่ง่ายเลยที่จะไปที่นั่น เจ้าจะรู้ก็ต่อเมื่อเจ้าไปถึงที่นั่นด้วยตัวเอง” ท่านลมเทียนกังเริ่มเปิดใช้งานรูปแบบเวทย์ จากนั้น แสงสีขาวก็ค่อยๆ สว่างขึ้น

“อืม” แคลร์พยักหน้าและเดินเข้าไปในนั้น แสงสีขาวท่วมร่างของแคลร์และนาง ก็หายตัวไป

“เห้อ ข้าต้องเสียแร่มากมายเลยจริงๆ” ท่านลมเทียนกังพึมพำด้วยความเจ็บปวดขณะมองดูแร่ที่สูญเสียพลังงานไปบนพื้นดิน แร่เหล่านี้ไม่สามารถหาซื้อได้ตามตลาดทั่วไป แร่นี้สามารถให้พลังงานที่แข็งแกร่งเพียงพอในการเคลื่อนย้ายผู้คนได้ วิหารแห่งแสงก็มีแร่ นี้เช่นกันและพวกเขาจะใช้ในกรณีฉุกเฉินเท่านั้น ถึงแม้แร่เหล่านี้จะมีค่าเพียงใด เขาก็ยังเอามาใช้ทีก็เป็นกองเลย

ท่านลมเทียนกังนั่งลงมองดูพื้นและพูด “ข้าเชื่อว่าเจ้าสองคนกลับมาได้แน่นอน”

แคลร์รู้สึกเพียงว่าเท้าของนางจมลงและดวงตาก็มืดมิดเมื่อมีแสงสว่างขึ้นอีกครั้ง ภาพโดยรอบนางก็เปลี่ยนไป รอบๆ มีป่าเขียวขจีอยู่และก่อนที่นางจะสังเกตสภาพแวดล้อมได้อย่างถี่ถ้วน นางก็ถูกดึงดูดด้วยเสียงโห่ร้องที่โกรธเกรี้ยว

“เด็กบ้า เจ้ามันไม่รู้ผิดชอบชั่วดี ข้าชอบเจ้าถือเป็นโชคของเจ้าแล้วนะ!” เสียงแหลมรุนแรง น้ำเสียงเต็มไปด้วยความโกรธ

“ยัยป้าน่ารังเกียจ ไปตายซะ” แต่เสียงที่ตอบกลับนั้นเป็นคนที่แคลร์คุ้นเคยดี

……………………………………………………………………………….

เสน่ห์คมดาบ

เสน่ห์คมดาบ

Status: Ongoing

แคลร์ ฮิลล์ คุณหนูใหญ่สุดสำรวยแห่งตระกูลขุนนางชั้นสูงผู้มีชื่อฉาวคาวกะฉ่อนว่าโง่เง่า เอาแต่ใจและบ้าผู้ชายเป็นชีวิตพลัดตกจากหลังม้าขณะไล่ตามองค์ชายสองจนหมดสติ สร้างความอับอายให้กับตระกูลเป็นอย่างยิ่ง

กระนั้นเมื่อหญิงสาวลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ท่าทีของนางกลับเปลี่ยนจากหน้ามือไปเป็นหลังเท้า ไม่มีอีกแล้วคุณหนูไร้ยางอายที่คลั่งไคล้การไล่จับบุรุษรูปงาม เรื่องเรียนไม่เอาอ่าว เรื่องงานไม่เอาไหน จะมีก็แต่คุณหนูแคลร์ผู้สงบเสงี่ยมเยือกเย็น สำรวมท่าที และเปี่ยมไปด้วยพลังเวทอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนเท่านั้น!

เกิดอะไรขึ้นกับคุณหนูแคลร์คนนั้นกันแน่นะ!?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท