“เกราะแห่งความบริสุทธิ์ !”
วารีจันทราร่ายคาถาขึ้นอีกครั้ง เดิมทักษะพิเศษนี้มีผลแค่ทำให้เกิดความบริสุทธิ์ขึ้นเท่านั้น ในตอนนี้กลับกลายเป็นตัวตัดสินใจสนามแห่งนี้ เท่ากับว่าเกราะบริสุทธิ์แต่ละอันจะทำให้ความสามารถของดวงวิญญาณเพิ่มขึ้นขั้นหนึ่ง !
ในไม่ช้า บนตัวอสูรนกสวนสงครามกับอสูรนิมิตชุดม่วงถูกปกคลุมด้วยเกราะแห่งบริสุทธิ์แล้ว ความสามารถที่แท้จริงของอสูรนกสวนสงครามเทียบเท่าลักษณะเก้าขั้นสูง หลังจากที่ความสามารถของอสูรหลังคาน้ำแข็งถูกลดลงขั้นหนึ่งแล้ว จึงเทียบเท่าอสูรนกสวนสงครามแล้ว การต่อสู้ที่เสียเปรียบจึงกลายเป็นระดับเดียวกันอย่างรวดเร็ว
อีกทั้ง ด้วยความสามารถต่อสู้ลึกลับพิเศษ อสูรนกสวนสงครามที่มีความสามารถเทียบเท่าได้ใช้กริดกระดูกตวัดลงบนตัวอสูรหลังคาน้ำแข็งต่อเนื่อง ท่าทีแข็งแกร่งกว่าอสูรหลังคาน้ำแข็งแล้ว
หลังจากเกราะบริสุทธิ์อันที่สองของวารีจันทรานี้ สถานการณ์ต่อสู้ทั้งหมดได้เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ดวงวิญญาณที่เสียเปรียบของชู่มู่กับเย้ชิงจือเริ่มโต้กลับอย่างเต็มพลังแล้ว !
“เหลือเชื่อจริง ๆ พวกเขาโต้กลับสองคนที่แข็งแกร่งที่สุดในวังมารนิรยได้ !!!”
มองดูสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป ยิ่งมีคนส่งเสียงชื่นชมออกมา
ก่อนหน้านี้ คนของตำหนักวิญญาณแค่นับถือความกล้าของชู่มู่และเย้ชิงจือ แต่ในตอนนี้ พวกเขาเข้าใจแล้วว่าสองคนนี้ไม่ได้มีเพียงแค่ความกล้า แต่ยังมีความสามารถที่สู้กับผู้แข็งแกร่งที่สุดของวังมารนิรยได้จริง ๆ !
สิ่งที่ทำให้พวกเขานับถือมากที่สุดคือ ก่อนหน้านี้ พวกเขาทั้งสองคนไม่เคยเผยตัวตนให้เห็นมาก่อน ต่อให้เป็นชู่เฉิงที่ปรากฏตัวออกมา ยังใช้แค่ดวงวิญญาณรองต่อสู้มาตลอด ความแน่วแน่และการวางแผนแบบนี้ไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาจะมีได้
“พวกเจ้าดูซะ ยังเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดของวังมารนิรย ตำหนักวิญญาณของพวกเราส่งสองคนใด ก็ทำให้พวกเจ้าไม่เหลือชิ้นดีแล้ว เมื่อกี้ยังร้องด้วยความสะใจอยู่ไม่ใช่เหรอ ทำไมตอนนี้ไม่พูดอะไรแล้วละ ไม่เชื่อสายตาตัวเองแล้วใช่ไหม” หลัวปิงเองก็ชี้ไปยังพวกคนของวังมารนิรยแล้วด่าอย่างไร้ท่าทีผู้แข็งแกร่งอีกต่อไป
แน่นอนว่า หลัวปิงก็รู้ว่า ‘สองคนใด’ คาดว่าในทั้งตำหนักวิญญาณก็ไม่มีคนที่แข็งแกร่งอย่างพวกเขาแล้ว
เหล่าสมาชิกของวังมารนิรยในตอนนี้พูดไม่ออกจริง ๆ ทำได้แค่มองไปยังผู้แข็งแกร่งทั้งสองคนนี้ด้วยท่าทีหงุดหงิด
…
“อัญเชิญอีกเถอะ ยังเป็นแบบนี้ต่อไปดวงวิญญาณของพวกเราจะแพ้แน่นอน” ซิงหยางเริ่มทนไม่ได้แล้ว
ฝนตัดกำลังก่อนหน้านั้นทำให้ดวงวิญญาณของเขาเชื่องช้ามาก ได้รับบาดเจ็บต่อเนื่อง ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปอีก ทันทีที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส ความสามารถในการต่อสู้จะลดลงอย่างมาก เท่ากับเสียดวงวิญญาณไปตัวหนึ่ง
ซิงหยางกับเจียงอี้เถิงไม่มีดวงวิญญาณที่รักษาได้ ดวงวิญญาณต่อสู้ด้วยบาดแผล ยิ่งสู้จะยิ่งอ่อนแอแน่นอน อยู่ได้ไม่นาน ไม่มีทางที่จะมีแรงสู้กับดวงวิญญาณของฝ่ายตรงข้ามแน่นอน
สีหน้าของเจียงอี้เถิงไม่น่ามองอย่างมาก เดิมทีคิดว่าจะเหยียบแมลงสองตัวนี้ได้ง่ายดาย ตอนนี้กลับถูกลอบกัด แล้วยังกัดจนเจ็บจริง ๆ นี่เป็นสิ่งที่ทำให้น่าหงุดหงิดโมโหอย่างมาก
“ข้าไม่อยากเสียเวลาแล้ว อย่างไรก็ตาม ตอนนี้มีแค่ซือเทียนที่เป็นอันตราย เขารู้ว่าข้ามีดวงวิญญาณอะไร ข้าก็ไม่จำต้องปิดบังแล้ว” เจียงอี้เถิงพูดเสียงต่ำ
ซิงหยางอึ้งเล็กน้อย ถามขึ้นว่า “เจ้าจะอัญเชิญซือเหรอ เจ้าไม่คิดจะเหลือไว้ถึงด่านที่เก้าแล้วงั้นหรือ”
“ไม่ต่างหรอก ถือว่าเป็นการอบอุ่นร่างกายในด่านที่เก้าเถอะ !” เจียงอี้เถิงบอก
“แต่ว่ารอให้ฝนตัดกำลังหายไปก่อนเถอะ มิฉะนั้น ความสามารถซือของเจ้าจะถูกลดลงสองขั้น” ซิงหยางบอก
“หึ ทักษะหมวดน้ำเล็ก ๆ แบบนี้จะขัดขวางข้าเจียงอี้เถิงได้จริง ๆ เหรอ ไร้เดียงสาเกินไปแล้ว ต่อให้ถูกลดลงสองขั้นแล้วจะทำอะไรได้ ข้ายังคงสลายพวกเขาได้ !” เจียงอี้เถิงยิ้มอย่างเยือกเย็น
ร่ายคาถาขึ้น สีหน้าของเจียงอี้เถิงเยือกเย็นมาก อีกทั้งยังเผยให้เห็นความชั่วร้ายบางอย่าง
น้ำฝนสีฟ้าตีบนตัว กลายเป็นม่านฝนบนตัวเจียงอี้เถิง
แต่บนตัวเจียงอี้เถิงกลับมีไฟปีศาจสีขาวเย็นเยียบลึกโชนขึ้นช้า ๆ ไฟปีศาจนี้เหมือนจะไม่ถูกกระทบด้วยฝนตัดกำลังนี้ พลิ้วไหวอยู่รอบ ๆ ความเย็นเยียบนั้นกระจายออก ทิ่มแทงไปยังส่วนลึกของวิญญาณ !
“ดูสิ โอรสน้อยจะอัญเชิญดวงวิญญาณแล้ว !!!” ผู้เข้าแข่งขันวังมารนิรยคนหนึ่งชี้ไปยังเจียงอี้เถิงแล้วร้องขึ้น
ในตอนนี้ คนทั้งหมดต่างมองไปยังเจียงอี้เถิง และแล้วไฟปีศาจได้ลุกโชนขึ้นบนตัวเจียงอี้เถิง นี่เป็นเอกลักษณ์ในการอัญเชิญมารนิรยขาว !!!
“ในตอนที่ฝนตัดกำลังยังตกอยู่ยังกล้าอัญเชิญ เจ้านี้บ้าขนาดนี้ หรือว่าเขายังมีดวงวิญญาณที่แข็งแกร่งกว่านี้”หลัวปิงนิ่งอึ้ง
ในตอนที่เจอเจียงอี้เถิง มารนิรยขาวที่เขาอัญเชิญคือ ตัวที่ฆ่าล้างอยู่ในสนามตอนนี้ หลัวปิงไม่เคยเห็นเขาอัญเชิญมารนิรยตัวที่สองออกมา
มารนิรยขาวถูกเลียงด้วยพลังวิญญาณของเจ้าของเป็นส่วนใหญ่ ระดับเจ้าวิญญาณเลี้ยงมารนิรยขาวตัวหนึ่งได้ก้เก่งมากแล้ว แต่ใครก็คาดไม่ถึงว่า เจียงอี้เถิงกลับมีมารนิรยขาวสองตัว เท่ากับว่า ได้ทิ้งโอกาสทั้งหมดที่จะปล่อยร่ายวิญญาณออกมา !
มารนิรยขาวลักษณะเก้าน่าจะต้องกลืนกินพลังวิญญาณร้อยละห้าของเจ้าวิญญาณ มารนิรยสองตัว เท่ากับว่าพลังวิญญาณอยู่ในสถานะหมดลงตลอดเวลา
“ได้ข่าวว่าโอรสน้อยเป็นเจ้าวิญญาณห้าร่าย หรือว่าเป็นเรื่องจริง มิฉะนั้น เขาจะเลี้ยงมารนิรยขาวสองตัวได้อย่างไร มารนิรยขาวที่แท้จริงต้องถูกเลี้ยงด้วยพลังวิญญาณของผู้คุมดวงวิญญาณ !” เหล่าสมาชิกของวังมารนิรยส่งเสียงขึ้นมาทันที
ในบรรดาวัยหนุ่มวังมารนิรย สถานการณ์ขั้นสุดคือการรวมตัวของมารนิรยสามตัว อีกทั้งต้องเป็นผู้คุมดวงวิญญาณที่มีร่ายวิญญาณค่อนข้างสูงด้วย หากความสามารถหยุดลงเล็กน้อย มารนิรยทั้งสามจะทำให้วิญญาณของเจ้าของได้รับบาดเจ็บสาหัสอย่างมาก อีกทั้งอาจถูกกลืนวิญญาณได้
ส่วนเดิมทีมารนิรยขาวก็แข็งแกร่งกว่ามารนิรยเขียวและมารนิรยฟ้าอยู่แล้ว ในรุ่นวัยหนุ่มแทบไม่มีใครเลี้ยงมารนิรยขาวสองตัวได้ การอัญเชิญครั้งนี้ของเจียงอี้เถิง นับว่าทำให้คนทั้งหมดได้เห็นความแตกต่างของผู้แข็งแกร่งที่สุดกับผู้แข็งแกร่งทั่วไป !
“น่าแปลก ไฟปีศาจนี้เหมือนจะมีความพิเศษ….” ในไม่ช้า ผู้คนได้สังเหตเห็นผลของไฟปีศาจบนตัวเจียงอี้เถิง
“นั่นเป็นไฟปีศาจวิญญาณขาวระดับที่สี่ไม่ใช่เหรอ !!!”
“เก้า…เก้าวิญญาณ พระเจ้า นั่นเป็นไฟปีศาจเก้าวิญญาณ !!!”
คนในกลุ่มวังมารนิรยต่างส่งเสียงขึ้น คนทั้งหมดจับจ้องไปยังเจียงอี้เถิง !
ไฟปีศาจเก้าวิญญาณปรากฏขึ้น เท่ากับว่านี่เป็นมารนิรยที่มีพลังต่อสู้อยู่ในระดับจักรพรรดิขั้นสูงตัวหนึ่ง !!!
จักรพรรดิขั้นสูง !!!
ต่อให้อยู่ในด่านที่แปด ดวงวิญญาณของผู้เข้าแข่งขันทั้งหมดต่างอยู่ในจักรพรรดิขั้นกลาง และการปรากฏตัวของจักรพรรดิขั้นสูงตัวหนึ่ง เป็นการข้ามขั้นพลังต่อสู้ดวงวิญญาณทั้งหมดของวัยหนุ่มเมืองเทียนเซี่ยนี้อย่างแท้จริง !
“แย่แล้ว !!! เจียงอี้เถิงเก็บเอาไว้จริงด้วย อีกทั้งยังเป็นจักรพรรดิขั้นสูงตัวหนึ่ง เขาได้เลี้ยงจักรพรรดิขั้นสูงตัวนี้ตั้งนานแล้วแน่ ๆ ต่อให้ไม่ถึงลักษณะสิบ แต่ก็อยู่ในลักษณะเก้าขั้นสูงแน่นอน !” หลัวปิงพูดด้วยสีหน้าตกใจ
คนทั้งหมดต่างไม่ชอบความอวดดีของโอรสน้อยวังมารนิรยเจียงอี้เถิงคนนี้ แต่ว่าการปรากฏตัวของจักรพรรดิขั้นสูงนี้ ทำให้คนทั้งหมดเข้าใจแล้วว่า เจ้านี่มีสิทธิ์ที่จะทำตัวบ้าคลั่งอวดดีได้จริง !!!
“ซึ ซึ ซึ”
ฝนสีฟ้าตีบนตัวมารนิรยขาวเก้าวิญญาณของเจียงอี้เถิง ปล่อยให้ทักษะหมวดน้ำนี้ลดความสามารถจักรพรรดิขั้นสูงตัวนี้ลงสองขั้น และแล้ว พลังที่ชั่วร้ายนั้นกลับยังคงชวนขนลุกไม่เปลี่ยน !!!
การตัดกำลังสองขั้น ยังมีพลังแบบนี้ได้ ถ้าไม่ถูกควบคุมเอาไว้ นั่นจะเป็นสิ่งมีชีวิตที่น่ากลัวมากเพียงใด !!!
ฝนตัดกำลังนี้ทำให้มารนิรยขาวของเจียงอี้เถิงลดลงจากจักรพรรดิขั้นสูงเป็นขั้นกลาง และแล้ว นี่เป็นสิ่งมีชีวิตที่อยู่ในลักษณะเก้าขั้นสูงอย่างแท้จริง !!!
เท่ากับว่า ต่อให้มีฝนตัดกำลังอยู่ มารนิรยขาวตัวนี้ยังคงเป็นจักรพรรดิขั้นกลาง ลักษณะเก้าขั้นสูงตัวหนึ่ง เดิมความสามารถของมารนิรยขาวก็แข็งแกร่งกว่าสิ่งมีชีวิตอื่นขั้นหนึ่งแล้ว เท่ากับว่า ความสามารถของมันอยู่ที่จักรพรรดิขั้นกลาง ลักษณะเก้าขั้นยอด !!!
หลังถูกตัดกำลัง จักรพรรดิขั้นกลาง ลักษณะเก้าขั้นยอด
ในภาวะที่ถูกตัดกำลังสองขั้น ยังคงมีความสามารถจักรพรรดิขั้นกลาง ลักษณะเก้าชั้นยอด ถ้าอย่างนั้น ความสามารถปกติของมันแข็งแกร่งกว่าจักรพรรดิขั้นกลาง ลักษณะสิบถึงขั้นหนึ่ง !!!
จักรพรรดิขั้นกลางลักษณะสิบ ความสามารถแบบนี้เพียงพอที่จะกวาดล้างขั้นสองได้แน่นอน แล้วยังแข็งแกร่งมากขึ้นอีกหนึ่งขั้น ถ้าอย่างนั้นความสามารถของมารนิรยขาวจะน่ากลัวมากเพียงใดเป็นสิ่งที่ยากจะจินตนาการได้ !!!
หลังจากที่บนฟ้าเงียบสักพัก เหล่าสมาชิกของวังมารนิรยโห่ร้องขึ้นมาทันที !
“วังมารนิรยแข็งแกร่งที่สุด !”
“วังมารนิรยแข็งแกร่งที่สุด !!!”
เสียงโห่ร้องดังเป็นคลื่นออกไป อีกทั้งส่งผลกระทบไปยังสนามรบแล้ว !
“ผู้คุมดวงวิญญาณหญิงควบคุมสี่แล้ว ได้ข่าวว่า ชู่เฉิงได้รับบาดเจ็บญาณหนึ่งในด่านที่เจ็ด เท่ากับว่าชู่เฉิงทำได้แค่ควบคุมสาม พวกเขาในตอนนี้ทำได้แค่อัญเชิญดวงวิญญาณตัวเดียว ต่อให้จักรพรรดิขั้นสูงถูกตัดกำลัง ความสามารถยังแข็งแกร่งกว่าดวงวิญญาณตัวใดในสนามถึงหนึ่งขั้น นอกจากว่าชู่เฉิงจะอัญเชิญดวงวิญญาณที่มีความสามารถถึงลักษณะเก้าชั้นยอดออกมา มิฉะนั้น แพ้แน่นอน !!!” เหล่าสมาชิกตำหนักวิญญาณเริ่มถดถอย
ลักษณะเก้าชั้นยอด ดวงวิญญาณของเย้ชิงจือกับชู่มู่ต้องทำการเสริมถึงจะเพิ่มขึ้นจนถึงลักษณะเก้าขั้นสูงได้ จะอัญเชิญดวงวิญญาณลักษณะเก้าชั้นยอดได้ออกมาอีกได้อย่างไร !
…
“หรือว่าจะแพ้แล้วเหรอ…ตอนแรกยังมีความหวังเล็ก ๆ อยู่บ้าง…” หลัวปิงถอนหายใจยาว
“ไม่แน่” ถิงหลันฉีกยิ้ม มองไปยังซ่างเหิง
ซ่างเหิงเองก็ยิ้มอย่างลึกลับ คนอื่นไม่รู้ดวงวิญญาณหลักของชู่มู่ แต่ซ่างเหิงกับถิงหลันได้เห็นกับตาแล้ว การต่อสู้จะไม่จบลงเพราะการปรากฏตัวของจักรพรรดิขั้นสูงตัวนี้ของเจียงอี้เถิงแน่นอน
เพราะ ชู่มู่เองก็มีจักรพรรดิขั้นสูงตัวหนึ่ง อีกทั้งยังเป็นจักรพรรดิขั้นสูงผิดปกติตัวหนึ่ง !!!
“ฮู ฮู ฮู ฮู”
หลังจากเจียงอี้เถิงอัญเชิญเสร็จ บนตัวชู่มู่กลับมีไฟปีศาจสีขาวลุกโชนขึ้น !!!
ชู่มู่สวมชุดสีดำ ทันทีที่ไฟปีศาจเก้าวิญญาณลุกโชนขึ้น จะโดดเด่นอย่างมาก
ในไม่ช้า ต่อให้เป็นผู้เข้าแข่งขันวังมารนิรยที่อวดดี หรือจะเป็นสมาชิกตำหนักวิญญาณที่มองอยู่ พวกเขาต่างพบเห็นไฟปีศาจบนตัวชู่มู่
“ไฟ…ไฟปีศาจสีขาว นี่เป็นขั้นตอนการอัญเชิญมารนิรยขาวไม่ใช่เหรอ !!!”
“ข้า…ข้าไม่ได้ตาลายใช่ไหม ชู่เฉิงตำหนักวิญญาณ ไฟปีศาจลุกโชนบนตัวเขา”
ไม่มีใครมองผิด ในตอนนี้ ชู่มู่กำลังอัญเชิญมารนิรยขาวจริง ๆ !
ไฟปีศาจเก้าวิญญาณลุกโชนรอบกายชู่มู่อย่างบ้าคลั่ง พลังชั่วร้ายที่ยิ่งกว่าบ่งบอกถึงการมาถึงของมารนิรยขาว !
ในตอนที่เกิดภาพนี้ในตอนแรก การก่อตัวของฝั่งวังมารนิรและตำหนักวิญญาณทั้งสองนี้ กลับมองไปยังฝ่ายตรงข้ามด้วยความมึนงง นิ่งอึ้ง…
และแล้ว สิ่งที่แน่ใจได้คือ ต่อให้สีหน้าของพวกเขาจะมากเพียงใด สิ่งที่พวกเขาคิดอยู่ในตอนนี้กลับเหมือนกันหมด
“สถานการณ์อะไรกันแน่ !!!เขาเป็นสมาชิกตำหนักวิญญาณไม่ใช่เหรอ เขาควรจะอัญเชิญอสูรศักดิ์ไม่ใช่เหรอ ทำไม…ทำไมถึงอัญเชิญมารนิรยขาวตัวหนึ่งออกมาได้ !!!”
วินาทีนี้ ทั้งสนามแทบจะไม่เชื่อสายตาตัวเอง !