Endless Path : Infinite Cosmos, อนันตวิถีจักรวาล – ตอนที่ 136

ตอนที่ 136

วาห์นพยายามนึกคำอธิบายให้อนูบิสและตอบกลับเธอไป

“มันแปลกมาก แต่ว่าโซ่ที่มีชื่อว่า [เอ็นคิดู] จู่ๆ ก็โผล่ออกมาจากตัวของฉัน

ฉันไม่เคยใช้มันมาก่อน และดูเหมือนมันจะถูกผูกมัดกับดวงวิญญาณไปแล้วด้วย”

ขณะที่พูด เขาก็ปิดการทำงานของสกิล [ม่านคุ้มภัยนักเดินทาง] เพื่อให้อนูบิสมองเห็นแบบชัดๆ

ดวงตาของเธอเบิกกว้างที่ได้มีโอกาสมองเห็นวิญญาณแบบพิเศษของวาห์นอีกครั้ง

เฉกเช่นเดียวกับก่อนหน้านี้ มันมีสีทองสวยงามพร้อมกับแกนสีรุ้งด้านใน

ตอนนี้เธอยังเห็นโซ่ทองคำบริสุทธิ์ที่ขดกันเป็นทรงกลมและหมุนวนไปรอบๆ

“งดงามเหลือเกิน…” อนูบิสที่ยังอยู่ในสภาพเหม่อลอยค่อยๆ พูดออกมา

วาห์นพยักหน้าเพราะเขาคิดว่าเธอคงกำลังพูดถึง [เอ็นคิดู] แทนที่จะเป็นดวงวิญญาณของเขา

ในสายตาของอนูบิสนั้น วาห์นไม่ได้เป็นเพียงแค่ความผิดปกติหรือคนที่มีวิญญาณกลายพันธุ์ แต่เขาเป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่กว่านั้นมาก

เธอสงสัยว่ามันต้องเกี่ยวข้องกับต้นกำเนิดของเขา และอยากรู้มากว่าอะไรดลบันดาลให้เกิดดวงวิญญาณพิเศษแบบนี้มาอยู่ตรงหน้าเธอ

เพราะวาห์นยังไม่ได้ซ่อนมันไว้ สายตาของเธอจึงถูกดึงให้ถลำลึกเข้าไปในดวงวิญญาณเรื่อยๆ

เธอรู้สึกว่ามันเต็มไปด้วยพลังที่ไร้ขอบเขตและรู้สึกอยากจะมองมันลึกเข้าไปอีก

วาห์นเริ่มเก็บซ่อนดวงวิญญาณเอาไว้อีกครั้งเพราะสังเกตเห็นดวงตาเลื่อนลอยของอนูบิส

ตอนแรกเขาสงสัยว่าอาการเหม่อลอยนั่นเป็นผลจากการมอง [เอ็นคิดู] จึงรีบปิดมันผ่านการใช้ [ม่านคุ้มภัยนักเดินทาง]

ตอนนี้อนูบิสดูเศร้าและสิ้นหวังหน่อยๆ ราวกับว่าเพิ่งจะสูญเสียบางอย่างที่มีค่าที่สุดไป

แม้แต่หูของเธอซึ่งปกติจะชี้ไปบนท้องฟ้า ตอนนี้มันกลับห้อยตกลงมาเล็กน้อย

วาห์นรู้สึกกังวลและถามเธออย่างเป็นห่วง

“เป็นอะไรหรือเปล่า อนูบิส?”

ได้ยินเสียงของเจ้านาย หูของอนูบิสก็กระตุกก่อนจะกลับมาตั้งเหมือนเดิม

เธอหันมาหาเขาด้วยรอยยิ้มขณะโค้งคำนับอย่างสุภาพ

“ขออภัยด้วยค่ะ นายท่าน เมื่อกี้ฉันวอกแวกไปหน่อย”

เมื่อเห็นว่าวาห์นยังดูไม่มั่นใจกับคำตอบที่ได้ เธอก็เลยพยายามเปลี่ยนเรื่องและถามต่อ

“งั้นโซ่พวกนี้ก็ปรากฏขึ้นมาในดวงวิญญาณของนายท่านเหรอคะ? พอทราบไหมคะ ว่าจะใช้พวกมันยังไง?”

คำพูดของอนูบิสทำให้วาห์นนึกขึ้นได้ว่าทำไมถึงเรียกเธอมา ดังนั้นเขาจึงเริ่มอธิบายด้วยน้ำเสียงลังเล

“ดูเหมือนว่ามันสามารถเจาะผ่านอะไรก็ได้ แต่อาจจะส่งผลช้านิดหน่อย

ส่วนการใช้งานหลักๆ ก็… มันน่าจะสามารถผนึกอะไรก็ตามที่ใช้พลังศักดิ์สิทธิ์ได้…”

อนูบิสรู้สึกสนใจในคุณสมบัติพิเศษของโซ่อันงดงามนี้มาก แต่สิ่งที่วาห์นบอกในตอนสุดท้ายนั้นทำให้เธอประหลาดใจสุดๆ

ถ้าสิ่งที่เขาพูดเป็นความจริง โซ่นี้จะเป็นไอเท็มที่ทรงพลังมากหากนำมาใช้ต่อกรกับทวยเทพ ลูกครึ่งเทพ และภูตวิญญาณบางชนิด

ทันใดนั้นเธอก็เหมือนจะคิดอะไรออกขณะแสดงแววตาแปลกๆ

“นายท่านอยากจะลอง… ใช้มันกับฉันเหรอคะ?”

วาห์นรู้สึกประหลาดใจ ไม่ใช่แค่เพราะคำพูดของเธอใกล้เคียงกับความตั้งใจของเขา แต่เธอยังถามออกมาก่อนด้วย

แม้เขาจะ ‘สั่ง’ ให้เธอเข้ามาในนี้ แต่เขาก็ไม่ได้ทำอะไรให้เธอมาสนใจโซ่นี่เป็นพิเศษ นอกจากจะแสดงดวงวิญญาณและเผย [เอ็นคิดู] ออกมาให้ดูเท่านั้น

วาห์นเริ่มพยักหน้าขณะที่พูดด้วยน้ำเสียงระมัดระวัง

“ฉันก็อยากลองนะ… แต่มันอาจจะทำให้เธอรู้สึกไม่สบายหรือเจ็บปวดก็ได้

ฉันไม่อยากทำให้เธอตกอยู่ในอันตราย… เพราะยังไม่ค่อยเข้าใจผลและการทำงานของโซ่นี่เท่าไหร่”

อนูบิสดูเหมือนจะไม่ใส่ใจคำพูดของเขาเลย และแม้แต่หางของเธอก็เริ่มกระดิกไปมาอย่างนุ่มนวล

เธอรู้สึกดีที่วาห์นเป็นห่วง แต่ก็อยากช่วยเหลือเขาหากสามารถทำได้

มาจนถึงตอนนี้ ส่วนใหญ่แล้ววาห์นมักจะเป็นคนดูแลเธอกับพวกเด็กๆ ส่วนเธอนั้นก็ยังไม่ได้ทำอะไรให้เขาเป็นชิ้นเป็นอันเลย

อนูบิสเดินไปข้างหน้าและคว้าโซ่ด้วยมือของตัวเองขณะที่วาห์นยังคงลังเลอยู่

เธอถามขึ้นด้วยความสงสัย

“แล้วฉันต้องทำอะไรบ้างเหรอคะ?”

วาห์นไม่คิดว่าเธอจะรู้สึกไร้กังวลหลังจากที่เขาเพิ่งเตือนไปหยกๆ

เขากังวลว่าค่าความภักดีอาจกำลังครอบงำการตัดสินใจของเธออยู่ ดังนั้นจึงออกคำสั่งในใจเพื่อบังคับให้เธอพูดสิ่งที่คิดจริงๆ ออกมา

ในขณะที่กำลังถือห่วงโซ่เล่นไปมา อนูบิสก็เริ่มพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆ

“ฉันอยากให้นายท่านเอาแต่ใจมากกว่านี้จัง

เรื่องเอาโซ่มามัดแค่นี้ พูดมาคำเดียวก็จบ

แค่คิดว่าจะถูกนายท่านจับมัด… รู้สึกตื่นเต้นไปหมดแล้วสิเรา”

แม้ว่าเธอจะพูดแบบไม่ได้คิดอะไร แต่พอถึงตอนจบ อนูบิสก็แสดงสีหน้าตกใจก่อนจะจ้องมองวาห์นด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง

วาห์นเองก็มีสีหน้าตกใจไม่แพ้กันขณะจ้องมองอนูบิสที่สมองหยุดทำงานไปแล้ว แถมตอนนี้พวกเขาก็ไม่ได้อยู่กันแค่สองคนซะด้วย

แม้แต่นานูเองก็จ้องเขม็งมาจากด้านข้างละเกือบกลายเป็นรูปปั้นหินแทน

การได้ยินเทพธิดาของตัวเองประกาศออกมาว่าอยากโดนนายท่านมัดนั้นส่งผลกระทบต่อจิตใจของเด็กสาวอย่างใหญ่หลวง

หลังจากนั้นไม่นาน อนูบิสก็ก้มหัวลงเพื่อหลบหน้าวาห์นก่อนจะอธิบายอย่างเร่งด่วน

“ฉันไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง! โปรดอย่าได้ใส่ใจเลย แต่ฉันหมายความอย่างที่พูดจริงๆ นะคะ!” หลังพูดจบ เธอก็หยุดพูดชะงักไปอีกรอบ

เธอไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่ความคิดทั้งหลายแหล่ที่ฝังอยู่ในใจนั้นกำลังหลั่งไหลออกมาไม่หยุด

หูของเธอเริ่มกระตุกในขณะที่หางนั้นส่ายไปมาราวกับอยากจะให้ตัวเองหลุดออกมาจากร่างกาย

เธอรู้สึกอับอายกับสิ่งที่พูดออกไป แถมไม่ใช่แค่หนึ่ง แต่เป็นถึงสองครั้ง!

วาห์นยังรู้สึกช็อคไม่หาย แต่หลังจากตระหนักถึงสาเหตุได้ เขาก็ยกเลิก ‘คำสั่ง’ ที่ส่งออกไป

ตอนนี้เขารู้แล้วว่าคำสั่งบางอย่างนั้นมีผลระยะยาว และก็กังวลว่ามันอาจจะไปลดค่าความภักดีของอนูบิสแทน

ทว่าแทนที่จะลดลง มันกลับเพิ่มขึ้นเป็น 99 จนงงหนักกว่าเดิมขณะที่จ้องมองเทพธิดาซึ่งดูอับอายจนตัวหดเล็กลงกว่าเดิมมาก

เขาไม่คาดคิดว่าเธอจะมีปฏิกิริยามากมายขนาดนี้

ตอนนี้สิ่งที่นานูทำได้ดีที่สุดก็คือหันไปทางอื่นและปล่อยให้ทุกอย่างดำเนินต่อไปโดยไม่คิดจะเข้ามาแทรกแทรง

ถ้าไม่ใช่เพราะวาห์นเป็น ‘จ่าฝูง’ ล่ะก็… เธอคงจะหมดศรัทธาในตัวเทพธิดาของตนเองไปเลย

อย่างไรก็ตาม พอจินตนาการว่าตัวเองเป็นฝ่ายถูกนายท่านล่ามโซ่ไว้บ้าง หางของเธอก็เริ่มส่ายไปมาไม่ต่างจากของอนูบิส

ในฐานะที่เป็นเชียนโธรปจากเผ่าทางใต้ เรื่องลำดับชนชั้นและความคิดที่จะยอมจำนนต่อผู้ที่มีตำแหน่งสูงกว่านั้นถูกฝังอยู่ในส่วนลึกของทุกคน

นานูรู้สึกว่าหากนายท่านสนใจเธอมากขึ้น ค่าของเธอก็จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วยและสามารถเอาไปพูดอวดคนอื่นได้เลย

อนูบิสดูเหมือนจะฟื้นตัวขึ้นมาหน่อยและพยายามปรับลมหายใจก่อนจะแก้ไขท่าทางและกลับคืนสู่สภาพปกติ

เธอยิ้มให้วาห์นอย่างอ่อนโยนก่อนจะโค้งคำนับอย่างสุภาพและพูดต่อ

“ได้โปรดให้อภัยกับคำพูดของฉันด้วยนะคะ นายท่าน

ฉันแค่อยากจะสื่อว่ารู้สึกเต็มใจหากนายท่านต้องการทดลองผลของโซ่ค่ะ”

วาห์นรู้สึกประทับใจกับการกลับสู่สภาพปกติได้อย่างรวดเร็วและเปลี่ยนกลับมาคุยเรื่องจริงจังแทนของเธอ

เขาสัญญากับตัวเองว่าจะชดใช้ให้เธอในภายหลังเพราะมันเป็นความผิดของเขาที่ทำให้เธอต้องอับอาย

สำหรับตอนนี้ เขายังอยากจะทดสอบ [เอ็นคิดู] ที่อนูบิสถือเล่นมาพักหนึ่งแล้ว

ดูเหมือนว่าผลของมันยังไม่ทำงานแม้จะถูกเทพธิดาถืออยู่ก็ตาม ดังนั้นเขาจึงไม่แน่ใจว่าต้องทำยังไงต่อ

เมื่อวาห์นคิดหาวิธี ‘มัด’ อนูบิสด้วยโซ่ เขาก็รู้สึกว่ามีแรงกระตุกบางอย่างผ่านเข้าไปใน [เอ็นคิดู]

ทันใดนั้น มันก็ขยับออกจากมือของเธอและเริ่มเคลื่อนไหวไปมาในอากาศราวกับมีชีวิต

ระหว่างที่วาห์นและอนูบิสรู้สึกประหลาดใจกับการกระทำของ [เอ็นคิดู] จู่ๆ มันก็เข้ามาหมุนอยู่รอบอนูบิสภายในระยะสองสามเมตรขณะที่ยังทะลักออกมาจากมือของวาห์นไม่หยุดจนพลังงานของเขาถูกดูดออกไปเป็นจำนวนมาก

วาห์เริ่มตื่นตระหนกขณะจ้องมองอนูบิสที่ถูกล้อมรอบไปด้วยโซ่ทองคำ

เขาพยายามที่จะหยุด [เอ็นคิดู] แต่ดูเหมือนว่ามันจะตั้งใจทำตามหน้าที่ของมันอย่างเต็มที่ก่อนจะหยุดเคลื่อนไหวและเริ่มขยับเข้าไปหาอนูบิสอย่างรวดเร็ว

ดวงตาของอนูบิสเบิกกว้างและสัมผัสได้ถึงอันตรายของโซ่พวกนี้จากก้นบึ้งของดวงวิญญาณ

เธอรู้สึกว่าหากมันเข้ามาถึงตัวเมื่อไหร่ก็จะไม่สามารถดิ้นหลุดไปได้เลย

เวลาดูเหมือนจะคืบคลานไปอย่างช้าๆ ขณะที่วาห์นจ้องมองภาพตรงหน้าด้วยความสยดสยอง

เขาตะโกนในใจแบบสุดแรงเกิดขณะที่ความรู้สึกเย็นสงบระเบิดออกมา

(“ถ้ากล้าทำร้ายเธอแม้แต่ปลายเล็บล่ะก็… ได้เห็นดีกันแน่!”)

ความเกลียดชังของวาห์นต่อ [เอ็นคิดู] และการกระทำของเขาราวกับจะฉีกมิติแห่งความเป็นจริงออกเป็นชิ้นๆ ขณะที่โลกกลายเป็นสีขาวดำ

[เอ็นคิดู] เกิดการกระตุกเล็กน้อยและแทนที่จะพุ่งเข้าไปจับอนูบิสอย่างรุนแรง มันกลับชะลอความเร็วลงและเปลี่ยนไปเป็นการเข้ามาสัมผัสอย่างแผ่วเบาแทน

ความกลัวแสนท่วมท้นก่อนหน้านี้ของอนูบิสเริ่มจางหายไปขณะที่โซ่ทองคำเข้ามาโอบอุ้มร่างกายของเธอไว้

อนูบิสรู้สึกประหลาดใจกับสัมผัสอันอบอุ่นของตัวโซ่และสงสัยมากว่าโลหะถึงให้ความรู้สึกที่สบายแบบนี้

พอเห็นวาห์นถอนหายใจโล่งอกแรงๆ อนูบิสก็พูดขึ้น

“นายท่าน ฉันไม่รู้สึกต่างไปจากปกติเลยค่ะ ที่จริง…ออกจะรู้สึกดีด้วยซ้ำ”

พอมารู้ตัวที่หลังว่าพูดอะไรออกไป อนูบิสก็เบิกกว้างอีกครั้งและรู้สึกเขินจนอยากจะคลานไปลงไปซ่อนอยู่ในรูแทน

วาห์นดูเหมือนจะไม่รู้ความหมายแฝงของประโยคเมื่อกี้และเอาแต่ถามอนูบิสด้วยความเป็นห่วงและสงสัย

“เธอยังใช้พลังศักดิ์สิทธิ์ได้อยู่ไหม? ไม่ต้องใช้ออกมาเต็มกำลังนะ แค่ลองดูนิดหน่อยก็พอแล้ว”

อนูบิสพยักหน้าก่อนจะนิ่งไปครู่หนึ่ง หลังจากนั้นไม่นานเธอก็เงยหน้าขึ้นอย่างสับสนหลังจากพบว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น

แม้จะ ‘เปิดใช้งาน’ พลังศักดิ์สิทธิ์ไปแล้ว แต่ก็ไม่มีออร่าหรือการสั่นไหวในอากาศเลย

หลังจากรู้ว่าสิ่งนี้หมายถึงอะไร ความสับสนของอนูบิสก็เปลี่ยนไปเป็นความตกใจในขณะที่หยิบโซ่ทองคำขึ้นมาดูและเผยสีหน้าตื่นตะลึง

เธอทำหน้าราวกับได้พบสมบัติที่ล้ำค่าที่สุดในโลก และทำให้วาห์นรู้สึกสงสัยจนต้องถามต่อ

“เธอเจออะไรเข้าเหรอ?”

อนูบิสมองกลับมาหาวาห์น และด้วยเหตุผลบางอย่าง เธอก็เริ่มยิ้มกว้างขณะตอบคำคามของผู้เป็นนาย

“ฉันไม่สามารถใช้พลังศักดิ์สิทธิ์ได้เลยค่ะ! เหมือนกับว่าพลังทั้งหมดของฉันถูกผนึกเอาไว้อย่างสมบูรณ์”

วาห์นพอใจกับคำตอบ แต่เขาก็ไม่แน่ใจว่าทำไมเธอต้องรู้สึกตื่นเต้นที่ขนาดนี้ด้วย

ก่อนที่เขาจะได้ถามต่อ อนูบิสก็ขยับมือเรียกนานูด้วยสีหน้าตื่นเต้น

แม้นานูจะยังสับสนอยู่ แต่เธอก็เดินเข้ามาหาอนูบิสอย่างไม่ลังเล

เธอมาหยุดอยู่ตรงหน้าและรอคอยคำสั่งต่อไปจากอนูบิส

อนูบิสยังคงฉีกยิ้มขณะพูดขึ้น

“ถอดเสื้อของเธอออก ฉันอยากลองอัพเดทกระดานค่าสถานะของเธอดูหน่อย”

วาห์นรู้สึกประหลาดใจกับการกระทำของอนูบิส แต่ดูเหมือนว่านานูจะไม่ได้สนใจเรื่องนั้นมากนักและเริ่มถอดเสื้อแขนกุดสีดำที่ใส่อยู่ออกทันที

แม้เขาจะเคยเห็นรูปร่างของเธอตอนที่อาบน้ำด้วยกันมาแล้ว แต่วาห์นก็รู้สึกงุนงงอยู่บ้างที่มีคนมาแก้ผ้าอยู่กลางห้องทำงานของตน

ถึงขนาดหน้าอกของเธอจะค่อนข้างเล็กแต่มันก็ใหญ่กว่าของทีโอน่า

เธอยังสวมใส่ยกทรงกีฬาสีดำที่ดูเหมือนสปอร์ตบราและมีลวดลายสีทองประดับอยู่ด้วย

หลังจากถอดเสื้อออกแล้ว นานูก็หันหลังกลับขณะที่อนูบิสค่อยๆ เลื่อนชุดชั้นในตัวจิ๋วนั่นลง

เพราะว่าเธอกำลังยืนอยู่ระหว่างวาห์นและอนูบิส ตอนนี้นานูจึงหันมาหาเขาทั้งๆ ที่ช่วงบนไม่ได้ใส่อะไรไว้เลย

แม้วาห์นจะวางตัวไม่ถูกแต่ดูเหมือนนานูจะไม่สนใจเรื่องนี้เท่าไหร่ เขาจึงพยายามรักษาสีหน้าเดิมต่อไป

เขาจำได้ว่าในฐานะ ‘สมาชิกในฝูง’ ตามหลักแล้วเธอจะต้องให้ความเคารพกับเขา และเขาก็ไม่ต้องการจะทำลายภาพลักษณ์ของตัวเองด้วยเรื่องเล็กน้อยแค่นี้

วาห์นยังคงสบตากับนานูซึ่งจ้องสวนเขาแบบไม่กะพริบตาขณะที่อนูบิสกำลังพยายามอัพเดทสถานะของเธออยู่

หลังจากล้มเหลวไปสองสามครั้ง รอยยิ้มของอนูบิสก็ยิ่งกว้างขึ้นและหันไปวาห์นด้วยสายตาที่ดูอัดแน่นไปด้วยอารมณ์

วาห์นรู้สึกสงสัยมากๆ และอนูบิสก็ไม่ทำให้ผิดหวังขณะที่ค่อยๆ อธิบายให้ฟัง

“โซ่พวกนี้ดูเหมือนจะจำกัดพลังจากดวงวิญญาณเทพที่อยู่ในร่างกายของมนุษย์ได้

ตราบใดที่ท่านจับเทพหรือเทพธิดาด้วยโซ่เหล่านี้ พวกเขาก็จะกลายเป็นแค่มนุษย์ธรรมดาทั่วไป”

วาห์พยักหน้าหลังได้ฟังคำอธิบายของเธอ แต่เขาก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมเธอต้องรู้สึกสนใจมันขนาดนั้น

อนูบิสยิ้มกว้างและพยายามอธิบายในให้วาห์นเข้าใจมากขึ้น

“หมายความว่าถ้านายท่านใช้โซ่นี่กับท่านเฮเฟสตัสตอนที่มีเพศสัมพันธ์กัน นายท่านก็อาจจะทำให้เธอตั้งครรภ์ได้ค่ะ

ฉันรู้สึกสนใจมากเพราะไม่รู้ว่าอนาคตจะมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง ดูเหมือนว่าจะเลือกเจ้านายได้ถูกคนจริงๆ เลยนะเรา~!”

Endless Path : Infinite Cosmos, อนันตวิถีจักรวาล

Endless Path : Infinite Cosmos, อนันตวิถีจักรวาล

Status: Ongoing

เรื่องย่อโดยผู้แต่ง

วาห์นชายหนุ่มผู้ที่มีความผิดปกติ เนื่องจากการกลายพันธุ์ที่หายาก เลือดของเขาจึงมีความสามารถซ่อนเร้นที่ทำให้เป้าหมายและความเสียหายที่เกิดจากโรคร้ายที่อยู่ภายในร่างกายมนุษย์

ถูกขจัดออกไปในโดยการรักษาครอบจักรวาล เหล่าผู้คนจึงต่างเชิดชูบูชาสถานะของเด็กหนุ่มเหนือกว่าผู้ใดทั้งสิ้นและมอบชื่อให้เขาว่า “ยารักษาสารพัดโรค” ในข่าว

เขาได้รับการยกย่องเป็นเหมือนกับวีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ที่จะนำพายุคสมัยแห่งใหม่หรือคุณภาพชีวิตมนุษย์ที่ดีมาถึง อย่างไรก็ตาม ฉากที่อยู่เบื้องหลังไม่ได้สดใสเลย

เนื่องจากปัจจัยเฉพาะบางอย่าง วาห์นจึงใช้เวลาช่วงวัยรุ่นทั้งหมดถูกกักขังอยู่ในห้องทดลองกับนักวิทยาศาสตร์ทั้งหลาย และทีมวิจัยที่ใช้ร่างกายและเลือดของเขาเพื่อทำการทดลองที่ไม่มีที่สิ้นสุด

สิ่งปลอบใจความทุกข์ทรมานเพียงอย่างเดียวของเขาคืออนิเมะทั้งหลายและหนังสือการ์ตูนที่มีให้เขาดูในระหว่างการทดลอง เขามักจะจินตนาการว่าตนเองเป็นตัวเองที่อยู่ในโลกของตนเอง

dและสุดท้ายเขาก็สามารถควบคุมโชคชะตาของตัวเองได้ เป็นเวลาหลายปีที่เขาเก็บรักษาความปราถนานี้เอาไว้ จนกระทั่งเขาเสียชีวิตในวัย 14 ปีขณะที่มีองค์กรพยายามลักพาตัวเขาออกจากห้องทดลอง…

“ในที่สุด ผมก็ไม่ต้องทนทรมานอีกต่อไปแล้ว…”

นี่เป็นความคิดสุดท้ายของวาห์นในขณะที่เขาค่อยๆจางหายไปในห้วงแห่งความมืดอันไร้สิ้นสุด…

“ดวงวิญญาณที่น่าสงสาร”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน