Endless Path : Infinite Cosmos, อนันตวิถีจักรวาล – ตอนที่ 184

ตอนที่ 184

วาห์นปล่อยโลกิไว้บนโซฟานั่นก่อนจะย้ายไปนั่งโซฟาฝั่งตรงข้ามและถูกทีโอน่ากับไอส์เข้าขนาบข้างอย่างรวดเร็ว

ขณะที่เลฟิย่ากับทีโอเน่จะเข้ามานั่งถัดจากโลกิแทน

หลังจากที่ทุกคนต่างได้ที่นั่งกันแล้ว ทีโอน่าก็ถามขึ้น

“แล้ว… ทำไมท่านโลกิถึงกลายเป็นแบบนั้นได้ล่ะ”

เธอยังคงมีรอยยิ้มขบขันเนื่องจากไม่เคยเห็นเทพธิดาของตนเองในสภาพเละเทะแบบนี้มาก่อน

วาห์นอธิบายทุกอย่างที่เกิดขึ้นระหว่างเขากับโลกิรวมไปถึงเรื่องที่เกี่ยวข้องกับพลังศักดิ์สิทธิ์ [เอ็นดิดู] และการตั้งครรภ์ให้ฟัง

สำหรับสาเหตุที่โลกิกลายสภาพเป็นศพนั้น วาห์นอธิบายว่าเทพสาวออกจะโลดโผนไปหน่อยหลังจากดื่มมากเกินไป

เขาจึงตัดสินช่วยทำให้เธอผ่อนคลายเพื่อลดความโลดโผนนั้นลง

โลกิได้ยินคำอธิบายของวาห์นแบบชัดเต็มสองหูจึงเปล่งเสียงออกมาอย่างหมดแรง

“อย่าไปเชื่อนะ… ผ่อนคลายบ้าบออะไรกัน…”

แม้ว่าจะพูดความจริง แต่ก็ไม่มีสาวๆ คนไหนเข้ามาดูดำดูดีสภาพของเธอในตอนนี้เลย

เลฟิย่าดูเหมือนจะเพลิดเพลินกับความทรมานของโลกิมากเป็นพิเศษ ขณะที่ไอส์ได้แต่พึมพำด้วยน้ำเสียงเรียบๆ

“แอบเล่นลับหลัง…”

จากนั้นเธอก็จับมือขวาของวาห์นและมองเขาด้วยสีหน้าใคร่รู้

วาห์นเข้าใจว่าเธอกำลังขออะไร เขาจึงเริ่มใช้ [หัตถ์แห่งเนอร์วาน่า] แบบ ‘ผ่อนคลาย’

ไอส์รู้สึกถึงพลังงานอันอบอุ่นที่ไหลเข้าไปในมือจนต้องยิ้มและพูดขึ้น

“รู้สึกดี…”

ทีโอน่าดูเหมือนจะถูกปลุกเร้าจากการกระทำของไอส์ ก่อนที่เธอจะจับมืออีกข้างของวาห์นและส่งสายตาในทำนองเดียวกัน

ทีโอเน่จ้องมองทั้งสามแบบรำคาญหน่อยๆ และถามขึ้น

“มันรู้สึกดีขนาดนั้นเลยเหรอ?”

เพื่อเป็นการตอบ ไอส์พยักหน้าขณะที่ทีโอน่าเริ่มหัวเราะด้วยสีหน้าร่าเริง

ตั้งแต่ที่ทีโอน่าเสียความบริสุทธิ์ให้กับวาห์น ทีโอเน่ก็เอาแต่ตามกวนเธอไม่หยุดไม่หย่อน

เหตุการณ์นั้นยิ่งบานปลายออกไปเมื่อทีโอเน่พยายามลอบเข้าไปในของพักของฟินน์ในช่วงกลางดึกก่อนที่จะถูกเจ้าของห้องโยนออกมาหลังผ่านไปได้ไม่นาน

ในชั่วโมงต่อๆ มานั้นทั้งกลุ่มก็ยังคงพูดคุยเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นใน ‘วาห์นาตัส’

แม้เลฟิย่าจะรู้สึกเขินมากหลังรู้ว่าวาห์นรู้อยู่แล้วว่าเธอเองก็ไปที่นั่นด้วย แต่เธอก็ยังคงร่วมวงสนทนาต่อไป

ทั้งทีโอน่าและไอส์ต่างขอโทษวาห์นเรื่องที่ไปกดดันให้เขามีเพศสัมพันธ์ด้วย แต่วาห์นกลับขมวดคิ้วและส่ายหน้าเพื่อปฏิเสธเรื่องนี้

เขายอมรับว่าตัวเองนั้นรู้สึกอยากลองไม่ต่างไปจากไอส์เท่าไหร่ และเหตุผลที่มาที่นี่ในวันนั้นก็เพราะเขาใส่ใจเกี่ยวกับความปรารถนาเรื่องอยากมีลูกของทีโอน่าจริงๆ

แม้จะเห็นด้วยว่าทุกอย่างนั้นดูเร็วเกินไป แต่วาห์นก็อธิบายให้ทั้งสองฟังว่าเขาห่วงใยพวกเธอมาก

วาห์นบอกทีโอน่าว่าเขาชอบท่าทางร่าเริงและสนุกสนานอยู่ตลอดเวลาของเธอมาก

สำหรับไอส์นั้น วาห์นอธิบายว่าแม้สีหน้าของเธอจะดูนิ่งๆ แต่เขาก็ชื่นชมความใจดีและความแข็งแกร่งของเธอมากเช่นกัน

ตอนที่ทั้งคู่ได้ประมือหลังจากพบกันเป็นครั้งแรก ไอส์นั้นเอาใจใส่ต่อสภาพจิตใจของเขาและยังพยายามกระตุ้นให้เขาแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิม

ท้ายสุดแล้ว วาห์นพยายามโน้มน้าวไม่ให้ทั้งสองกล่าวโทษตัวเองกับเรื่องที่เกิดขึ้นและพูดรับรองว่าจะรักษาความสัมพันธ์นี้ต่อไปเรื่อยๆ

จากนี้พวกเขาจะได้อยู่ด้วยกันตลอดการสำรวจดันเจี้ยน และวาห์นอยากปกป้องพวกเธอรวมถึงพยายามที่จะเพิ่มความแข็งแกร่งของตัวเองไปพร้อมๆ กันด้วย

เมื่อการสนทนามาถึงจุดนี้แล้ว ทีโอน่าก็รู้สึกตื่นเต้นมากขึ้นก่อนจะเข้ามาเกาะติดวาห์นขณะที่ไอส์เองก็เอนตัวเข้ามาพิงไหล่โดยยังจับมือของเขาไว้อยู่

เลฟิย่ามีสีหน้าเศร้าๆ ขณะเฝ้ามองการกระทำอย่างใกล้ชิดของทั้งสามโดยที่ตนนั้นได้แต่ยืนมองอยู่ข้างๆ

เธอรู้จักวาห์นว่านานพอๆ กับทีโอน่าและไอส์ และทั้งคู่ยังเคยมีช่วงเวลาที่ใกล้ชิดกันมากในอดีต (TL: วิกฤตการณ์อาบน้ำกลางแจ้ง)

วาห์นนั้นใจดีกับเธออยู่เสมอและพยายามช่วยเธออยู่หลายครั้งหลายหนด้วยมืออันแสนอบอุ่นแบบเดียวกับที่ทีโอน่าและไอส์กำลังสัมผัสอยู่

พอนึกย้อนถึงมือของเด็กหนุ่มที่ยื่นออกมาสัมผัสตรงแผ่นหลังในระหว่างการต่อสู้กับจักเกอร์นอต เลฟิย่าจึงรู้สึกเศร้าหน่อยๆ ที่ไม่ได้ไปนั่งอยู่ตรงนั้นด้วย

เธอไม่ใช่คนเดียวที่มีความคิดแบบนั้น เพราะแม้แต่ทีโอเน่กับโลกิเองก็กำลังมองดูทั้งสามด้วยความหงุดหงิดเช่นกัน

ในช่วงที่พวกเขาพูดคุยกันอยู่นั้น ในที่สุดโลกิก็พอจะลุกขึ้นมาได้และเริ่มดื่มไวน์ของเธอก่อนจะพยายามเข้าร่วมวงสนทนาด้วยคน

ทีโอเน่กำลังรู้สึกเคืองกับทั้งวาห์นและน้องสาวของตัวเองนับตั้งแต่ที่ทั้งสองได้ไป ‘ใช้เวลาอยู่นอกเมืองด้วยกัน’ แถมยังรู้สึกอิจฉาเนื่องจากความรักที่ดูไม่ค่อยจะสมหวังเท่าไหร่ของตัวเอง

เธอจินตนาการภาพที่ตัวเองได้คบกับฟินน์และมาจู๋จี๋กันอยู่บนโซฟาบ้าง ก่อนจะรู้สึกทนต่อไปไม่ไหวและเริ่มดื่มเป็นเพื่อนโลกิแทน

หลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง วาห์นก็ปล่อยมือจากไอส์และวางอาวุธต่างๆ ลงบนโต๊ะโดยเริ่มจาก [อเมซอนเริงระบำ] ที่มีขนาดใหญ่เบ้อเริ่มเทิ่ม

ยังดีที่โต๊ะตัวนี้มีคุณภาพค่อนข้างสูง ดังนั้นมันจึงสามารถรองรับน้ำหนักของอาวุธเอาไว้ได้

ทุกคนในห้องค่อนข้างสับสนกับอาวุธที่เขานำออกมา ดังนั้นวาห์นจึงเริ่มอธิบายให้ฟัง

“ฉันพยายามพัฒนาฝีมือของตัวเองเพราะอยากทำตามคำสาบานของเฮเฟสให้ได้ก่อนเดนาตัสครั้งหน้า

ถึงมันอาจจะยังไม่ดีที่สุด แต่ฉันก็อยากลองสร้างไอเท็มที่น่าจะเป็นประโยชน์กับพวกเธอด้วย”

เมื่อได้ยินคำอธิบายของเด็กหนุ่ม ใบหน้าของทีโอน่าก็ดูสุกสว่างขึ้นทันที เพราะเธอตระหนักถึงความคล้ายคลึงระหว่างอาวุธชิ้นนี้กับ [เออร์ก้า] ซึ่งเป็นอาวุธคู่การของตนเอง

ก่อนที่วาห์นจะได้อธิบายต่อ เธอก็จับศีรษะและเริ่มจูบเขาอย่างดูดดื่มด้วยสีหน้าที่อธิบายได้อย่างเดียวว่า ‘เครื่องติดสุดๆ’

ยังดีที่ทีโอเน่และไอส์จับทั้งสองแยกออกจากกันได้ทันก่อนที่ทีโอน่าจะเตลิดไปมากกว่านี้

เนื่องจากวาห์นเผลอไปกระตุ้นสัญชาตญาณของเธอเข้า และแม้ว่าจะพยายามควบคุมตัวเองแล้ว แต่มันก็ยากมากเมื่อเด็กหนุ่มทำเรื่องที่เป็นการเอาใจเธอมากเหลือเกิน

วาห์นจดบันทึกในใจว่าจะต้องระวังมากขึ้นตอนอยู่กับทีโอน่า ก่อนจะเริ่มอธิบายคุณสมบัติของ [อเมซอนเริงระบำ] ให้ทุกคนฟัง

พอได้ยินสรรพคุณมากมายของมัน สีหน้าของทีโอน่าก็ยิ่งแดงจัดจนโดนเปลี่ยนให้มานั่งอยู่ระหว่างไอส์และทีโอเน่ขณะที่วาห์นกลับไปนั่งข้างๆ โลกิที่กำลังจ้องอาวุธตาเป็นมัน

ในที่สุดเทพสาวก็หันไปหาวาห์นและถามขึ้นด้วยรอยยิ้มซุกซน

“ด้วยการออกแบบอาวุธชิ้นนี้ ฉันพอคิดเล่นๆ ได้ว่าราคาของมันไม่น่าจะต่ำกว่าสิบล้านวาลิส นี่นายแน่ใจนะว่าจะให้มันแบบฟรีๆ เลย?”

วาห์นหันมาจ้องประสานตากับเธออยู่ครู่หนึ่งก่อนจะหันกลับไปมองทีโอน่าด้วยสายตาที่ ‘ดุดัน’ ไม่แพ้สาวชาวอเมซอน

ทันทีที่เขามองแบบนั้น ทั้งไอส์และทีโอเน่ต่างก็จับมือของหญิงสาวให้แน่นกว่าเดิมขณะที่วาห์นพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“สำหรับคนที่ฉันใส่ใจ เรื่องราคามันไม่ใช่ประเด็นสำคัญ

สิบล้านวาลิสที่ทำให้เธอปลอดภัยนานขึ้นมาอีกหนึ่งหรือสองนาที… จะให้จ่ายกี่ครั้งก็ได้”

คราวนี้ไม่เพียงแค่ทีโอน่าเท่านั้น แต่ทุกคนในห้องกลับเบิกกว้างในระดับที่ต่างๆ กันไปก่อนที่พวกเธอจะแสดงสีหน้าออกมาคนละแบบ

โลกิเริ่มหัวเราะให้กับคำประกาศที่ฟังดูห้าวหาญ ขณะที่ไอส์ยิ้มอย่างมีความสุข

ทีโอเน่ดูเหมือนจะหงุดหงิดยิ่งกว่าเดิม ส่วนเลฟิย่าก็ห้อยหัวลงต่ำและมีสีหน้าเศร้าๆ

ส่วนทีโอน่านั้นดูเหมือนพร้อมที่จะกินวาห์นเข้าไปแบบเป็นๆ เลย

หากไม่มีหญิงสาวเลเวล 5 สองคนมานั่งขนาบข้างเอาไว้ วาห์นอาจต้องรีบเผ่นหนีออกจากที่นั่นไปนานแล้ว

สุดท้ายแล้ววาห์นก็ถึงจุดที่ต้องใช้ [หัตถ์แห่งเนอร์วาน่า] เพื่อช่วยทำทีโอน่าสงบลงก่อนที่เธอจะขอตัวออกจากห้องพร้อมกอด [อเมซอนเริงระบำ] เอาไว้ราวกับว่ามันเป็นเป็นสมบัติล้ำค่า

วาห์นนั้นเศร้าหน่อยๆ เมื่อเห็นว่าเธอต้องกลับออกไปก่อน แต่ก็สัมผัสได้ว่าแรงกดดันที่รู้สึกมาพักหนึ่งแล้วนั้นลดลงไปเยอะเลย

หลังจากบรรยากาศสงบลงอีกครั้ง วาห์นก็นำ [แกรม] ออกมาวางไว้เป็นชิ้นต่อไป

ราวกับว่าเธออยากจะเลียนแบบและเอาชนะทีโอน่าไปพร้อมๆ กัน ไอส์เริ่มเข้ามาจูบสั้นๆ แต่ก็ยาวนานเกือบนาทีก่อนจะยกดาบขึ้นและตรวจสอบมันด้วยสีหน้าหลงใหลนิดๆ

วาห์นยังรู้สึกงุนงงกับรสจูบของหญิงสาวและต้องใช้เวลาอีกเล็กน้อยเพื่อฟื้นสติก่อนจะเริ่มอธิบายคุณสมบัติของมัน

เมื่อได้ยินว่ามันมีสรรพคุณพิเศษในการใช้ต่อสู้กับมังกร ไอส์ก็จ้องมองวาห์นแบบ ‘ลึกซึ้ง’ ที่สุดที่เด็กหนุ่มเคยได้รับจากเธอ

หลังจากวางดาบลงบนโต๊ะ เธอก็พยายามโอบกอดใบหน้าของวาห์นและจูบเขาอีกครั้งก่อนที่โลกิจะตะโกนห้ามเสียงดัง

การได้เห็นวาห์นถูกจูบอย่างต่อเนื่องด้วยท่าทางที่เหมือนเป็น ‘ฝ่ายรับ’ นั้นทำให้เทพสาวรู้สึกว่าเครื่องของเธอเองก็ใกล้จะติดเต็มทีแล้วจึงต้องรีบหยุดมันไว้ก่อนที่ทุกอย่างจากเลยเถิดไปมากกว่านี้

โลกิอดสงสัยไม่ได้ว่าวาห์น ‘ฝ่ายรุก’ ที่ทรมานเธออยู่เกือบครึ่งชั่วโมงนั้นหายหัวไปไหนแล้ว

แม้ว่าทุกคนจะสันนิษฐานว่าพิธีมอบของขวัญคงจะจบลงไปแล้ว แต่วาห์นก็สังเกตเห็นว่าทั้งทีโอเน่ และเลฟิย่านั้นมีท่าทางแปลกๆ กับเรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้น

ผ่านไปอีกพักหนึ่ง วาห์นก็ตัดสินใจว่าควรจะมอบอะไรให้กับพวกเธอเช่นกัน แต่แน่นอนว่าคงต้องเป็นของขวัญที่น่าประทับใจน้อยกว่าของไอส์และทีโอน่า

เขาวางมือลนบนโต๊ะอีกครั้งก่อนจะนำ [เกล] และ [เท็มเพสท์] ออกมา

ดาบคู่นี้ก็คือไอเท็มสองชิ้นแรกที่เขาสร้างขึ้นตอนอยู่ในลูกแก้วนั่นเอง

ไอส์ดูเหมือนจะไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองอะไรนัก แต่โลกิ ทีโอเน่ และ เลฟิย่ากลับจ้องมองดาบที่ดูเหมือนจะถูกออกแบบมาอย่างประณีตและซับซ้อนด้วยความสับสนและสนใจมาก

วาห์นหันไปหาทีโอเน่และดูเหมือนว่าเธอจะเข้าใจความตั้งใจของเขาก่อนชี้ไปที่ใบหน้าของตัวเอง

“ฉันเหรอ?”

วาห์นพยักหน้าพร้อมรอยยิ้มและเริ่มอธิบายการทำงานของดาบทั้งสองเล่ม

เนื่องจากเคยเห็นในอดีตว่าทีโอเน่นั้นเป็นผู้ใช้ดาบสั้นคู่ เขาเลยคิดว่าพวกมันน่าจะเหมาะกับเธอมาก

ขณะฟังคำอธิบายของเด็กหนุ่ม ทีโอเน่ก็ลองจับดาบทั้งสองไว้ในมือและรู้สึกชื่นชมการออกแบบของมันมาก

เนื่องจากวาห์นใช้ความพยายามอย่างหนักเพื่อเอาใจใส่ทุกรายละเอียด ดาบทั้งสองเล่มจึงดูเหมือนของที่เอาไว้ใช้ประดับพิธีการสำคัญๆ มากกว่าการใช้เพื่อสังหารมอนสเตอร์

แม้แต่นักผจญภัยมือใหม่เองก็ยังบอกได้เลยว่าดาบคู่นี้นั้นถูกใส่ความพยายามลงไปมากขนาดไหน และทีโอเน่ก็เป็นถึงนักผจญภัยที่มากไปด้วยประสบการณ์…

เธอมองเด็กหนุ่มผู้เป็นคนรักของน้องสาวและถามเขาด้วยอารมณ์ที่ผสมปนเปและขมวดคิ้วหน่อยๆ

“อย่าบอกนะว่าพอจบจากน้องสาวแล้วก็จะมาจัดการกับฉันต่อ?”

เนื่องจากทีโอเน่เคยหมายมั่นว่าจะลองกดดันทีโอน่าให้มาอยู่ด้วยกันกับฟินน์ทันทีที่เธอสามารถทำลายการป้องกันของเขาลงได้

เธอจึงหลงคิดไปว่าทีโอน่ากับวาห์นนั้นกำลังวางแผนทำแบบเดียวกันกับตัวเอง

แม้จะคิดว่าวาห์นเป็นผู้ชายที่ดีมากๆ คนนึง แต่เธอก็ยังรู้สึกชอบกัปตันของเธอมากกว่าถึงฟินน์จะไม่เคยตอบสนองความรู้สึกของเธอเลยก็ตาม

หลังจากได้ยินคำพูดของวาห์นเมื่อกี้นี้ ทีโอเน่ก็อดคิดไม่ได้ว่าเด็กหนุ่มตรงหน้านั้นพยายามจีบเธออยู่

วาห์นส่ายหัวและเริ่มอธิบายโดยคงรอยยิ้มเอาไว้แบบเดิม

“หากมีอะไรเกิดขึ้นกับเธอ ทีโอน่าก็คงจะเสียใจมาก

ถ้าพวกมันสามารถปกป้องรอยยิ้มของเธอกับของน้องสาวเธอได้ ฉันคิดว่านั่นคงจะเป็นการดีที่สุดสำหรับทุกคน”

เมื่อได้ยินคำอธิบายของวาห์น ทีโอเน่ก็ขมวดคิ้วและรับดาบทั้งสองเล่มมาโดยไม่พูดอะไรต่อ

เมื่อรู้ว่าวาห์นมอบดาบให้กับเพราะอยากให้โอน่ามีความสุข ความคิดและความรู้สึกของทีโอเน่ก็ยิ่งขัดแย้งกันอย่างหนัก

หลังจากที่ทีโอเน่รับดาบไปแล้ว โลกิและเลฟิย่าต่างก็จ้องมองวาห์นด้วยสายตาคาดหวังหน่อยๆ เช่นกัน

แม้เลฟิย่าจะยังมีปัญหาอยู่มากเกี่ยวกับเรื่องความรู้สึกที่มีต่อวาห์น แต่การเห็นเขามอบอาวุธให้กับทีโอเน่ก็ทำให้เธอรู้สึกคาดหวังหน่อยๆ

พอจำได้ว่าวาห์นเคยพูดว่าเขาอยากปกป้องเธอตอนอยู่ในดันเจี้ยน เลฟิย่าก็เชื่อว่าตนอาจตกอยู่ในข่ายของคนที่เขาสร้างไอเท็มให้เช่นกัน

แย่หน่อยที่จริงๆ แล้ววาห์นนั้นเตรียมของขวัญไว้ให้แค่ทีโอน่ากับไอส์เท่านั้น แน่นอนว่าเขาไม่ได้ทำคทาเตรียมไว้ให้เอลฟ์สาวขี้อายด้วย

ทั้ง [เกล] และ [เท็มเพรส] เองก็ถือได้ว่าเป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าซะมากกว่า

ครั้งนี้ดูเหมือนว่าวาห์นจะอับจนหนทางจริงๆ แต่เนื่องจากตัดสินใจแล้วว่าจะให้ของขวัญกับทั้งคู่ วาห์นก็เลยซื้อคทาจากระบบและใช้ระบบ ‘ของขวัญ’ เพื่อมอบมันให้กับเธอ

โชคดีที่ค่าความชื่นชอบของของเลฟิย่านั้นสูงถึง 84 แต้มนับตั้งแต่ที่เขาหมดสติไปในดันเจี้ยน

คทาที่เขามอบให้เธอนั้นก็คือคทา [ฟื้นฟู] แบบเดียวกับที่เขาเคยซื้อไว้เมื่อนานแล้ว

เพราะราคาที่มากถึง 2,000 OP เลยอาจมองได้ว่ามันมีคุณภาพสูงกว่าไอเท็มที่เขาสร้างให้ทีโอน่าและไอส์อยู่เล็กน้อย

แน่นอนว่าวาห์นไม่คิดแบบนั้น เนื่องจากรางวัล OP ที่เขาได้รับจากการตั้งชื่อไอเท็มนั้นอาจไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับมูลค่าโดยตรงของพวกมัน

แถมคทา [ฟื้นฟู] ก็เป็นเพียงไอเท็มระดับ C ด้วย

วาห์นมอบคทาให้กับเลฟิย่าที่… ดูสมเป็นเลฟิย่ามากๆ ขณะรับมันมาด้วยมืออันสั่นคลอน (TL: เลฟิย่า = เขินแบบแดงทั้งหน้า)

หลังจากอธิบายการทำงานของมันแล้ว ทุกคนในห้องก็มีสีหน้าตกใจเมื่อรู้ว่ามันสามารถฟื้นฟูบาดแผลที่ไม่สาหัสจนเกินไปได้ตราบใดที่ผู้ใช้มีมานาเพียงพอ

ข้อเสียเพียงอย่างเดียวก็คือการใช้คทาในลักษณะนั้นจะเป็นการลดทอนประสิทธิภาพของมันลงจนกระทั่งถึงจุดที่มันอาจเสียหายและใช้การไม่ได้อีกเลย

เลฟิย่ากอดคทาไว้อย่างแนบแน่นขณะมองหน้าวาห์นด้วยดวงตาที่ชื้นหน่อยๆ แถมยังโค้งให้เขาด้วย

“ขอบใจนะ… วาห์น ขอบใจ…” เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือและแผ่วเบามาก

วาห์นไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงได้รับผลกระทบขนาดนี้ และเพราะยืนอยู่ใกล้ๆ ขณะมอบมันให้ เขาจึงยื่นมือออกมาและใช้ [หัตถ์แห่งเนอร์วาน่า] เหมือนกับที่เคยทำให้เธอหลายต่อหลายครั้งในอดีต

พอรู้สึกถึงความอบอุ่นอันแสนคุ้นเคยจากมือที่ใหญ่กว่าเล็กน้อยของวาห์น เลฟิย่าก็แทบอยากจะร้องไห้ออกมาแต่ก็ยังอั้นมันเอาไว้ได้

วาห์นนั้นดีกับเธออยู่เสมอ และเขายังมอบสิ่งที่ไม่เพียงแต่จะเพิ่มความสามารถในการต่อสู้ให้เท่านั้น แต่ยังทำให้เธอช่วยเหลือสหายคนอื่นในจังหวะเข้าตาจนได้อีกด้วย

เวทมนตร์ฟื้นฟู โดยเฉพาะแบบที่สามารถใช้จากระยะไกลนั้นเป็นสิ่งที่หาได้ยากยิ่งกว่ายาก

เลฟิย่ารวมไปถึงกับคนอื่นๆ ในห้องไม่เคยแม้แต่จะได้ยินว่ามีคทาแบบนี้อยู่บนโลกมาก่อนเลยด้วยซ้ำ

หลังจากสงบลงไปบ้างแล้ว เอลฟ์สาวก็ขอตัวออกจากห้องเพราะตนรู้สึกหวั่นไหวมาก

วาห์นขอให้ไอส์ตามไปดูแลเธอด้วยซึ่งทำให้เลฟิย่ายิ่งเขินหนักก่อนที่ทั้งสองจะออกจากห้องไปอย่างเงียบๆ

โลกิมองวาห์นอย่างครุ่นคิดก่อนจะถามขึ้น

“คทานั่น… นายทำเองเหรอ?”

วาห์นหันมาสบตาด้วยและสังเกตเห็นว่าแม้แต่ทีโอเน่เองก็ไม่สีหน้าไม่ต่างกันนัก

หลังจากพิจารณาดูแล้ว วาห์นก็ตระหนักว่าไอเท็มที่เขาซื้อออกมาจากระบบนั้นจะเรียกว่าเป็นของที่เขาทำขึ้นเองก็คงได้

เพราะ ‘เดอะพาธ’ ถูกผูกมัดอยู่กับดวงวิญญาณของเขา ซึ่งก็หมายความว่าทุกอย่างที่มันนำออกมาคือผลผลิตจากดวงวิญญาณของวาห์นเอง

เขาตอบคำถามของโลกิอย่างมั่นใจและดูเหมือนว่าจะได้ผลด้วย เพราะเธอรู้สึกประทับใจมากจนถึงขั้นเอ่ยปากชม

“ขอบใจนะวาห์น คทาแบบนั้นดูจะไม่ใช่ของที่ทำขึ้นมาง่ายๆ

ฉันมั่นใจว่ามันจะมีประโยชน์ในดันเจี้ยนมากๆ หากมีเรื่องไม่คาดฝันเกิดขึ้น

ถ้าเป็นไปได้ฉันก็อยากจะให้นายสร้างมันขึ้นมาอีก ส่วนเรื่องราคาก็ระบุจำนวนที่นายต้องการได้ตามสบายเลยนะ”

วาห์นส่ายหัวก่อนจะอธิบาย

“คทานั่นถูกสร้างขึ้นด้วยกรรมวิธีที่พิเศษมาก

นอกจากเลฟิย่าแล้ว ไม่มีใครสามารถใช้มันได้หรอก”

เนื่องจากนั่นไม่ใช่คำพูดโกหกแต่อย่างใด โลกิจึงจับโกหกไม่ได้และได้แต่แสดงสีหน้าผิดหวังเล็กน้อยไปช่วงนึงก่อนที่มันจะแปรเปลี่ยนเป็นสีหน้าหยอกล้อที่มาพร้อมคำถามถัดไป

“งั้น… นายก็ทำคทานั่นออกมาให้เลฟิย่าเป็นพิเศษเลยงั้นสิ~?

นี่กะจะกินให้หมดทั้งแฟมิเลียเลยใช่ไหม แม้แต่ฉันเองก็ไม่เว้น~!?”

ทีโอเน่ดูเหมือนจะติดใจกับคำพูดของโลกิก่อนจะพูดเสริมเพื่อแหย่วาห์นต่ออีกหน่อย

“จริงๆ เลยนะ ถ้ากัปตันยังเป็นแบบนี้ต่อล่ะก็ เดี๋ยวฉันคงต้องไปแข่งกับน้องแทนแล้วล่ะ

เพราะเธอรับมือกับสัตว์ประหลาดตัวน้อยของนายได้ ฉันเองก็ต้องทำได้เหมือนกันสิ”

คำพูดของเธอทำให้โลกิถามอย่างสงสัย

“สัตว์ประหลาดตัวน้อย?”

แม้พอเข้าใจว่าทีโอเน่กำลังสื่อถึงอะไร แต่เธอก็ยังอยากได้คำยืนยันที่แน่ชัด

ทีโอเน่หัวเราะและมองวาห์นอย่างเจ้าเล่ห์ก่อนจะเอนกายเข้าไปกระซิบที่หูของโลกิ

ไม่นานดวงตาของเทพสาวก็พลันเบิกกว้างก่อนหันไปมองวาห์นด้วยสีหน้าประหลาดใจ

หากสิ่งที่ทีโอเน่พูดนั้นเป็นความจริง เธอเกือบพลาดแล้วที่ไปยุให้เด็กหนุ่มมา ‘ลองฝึก’ กันก่อน

เธออาจต้องเตรียมตัวตัวทั้งทางร่างกายและจิตใจก่อนจะพยายามเข้าหาเขาอีกครั้งในอนาคต

Endless Path : Infinite Cosmos, อนันตวิถีจักรวาล

Endless Path : Infinite Cosmos, อนันตวิถีจักรวาล

Status: Ongoing

เรื่องย่อโดยผู้แต่ง

วาห์นชายหนุ่มผู้ที่มีความผิดปกติ เนื่องจากการกลายพันธุ์ที่หายาก เลือดของเขาจึงมีความสามารถซ่อนเร้นที่ทำให้เป้าหมายและความเสียหายที่เกิดจากโรคร้ายที่อยู่ภายในร่างกายมนุษย์

ถูกขจัดออกไปในโดยการรักษาครอบจักรวาล เหล่าผู้คนจึงต่างเชิดชูบูชาสถานะของเด็กหนุ่มเหนือกว่าผู้ใดทั้งสิ้นและมอบชื่อให้เขาว่า “ยารักษาสารพัดโรค” ในข่าว

เขาได้รับการยกย่องเป็นเหมือนกับวีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ที่จะนำพายุคสมัยแห่งใหม่หรือคุณภาพชีวิตมนุษย์ที่ดีมาถึง อย่างไรก็ตาม ฉากที่อยู่เบื้องหลังไม่ได้สดใสเลย

เนื่องจากปัจจัยเฉพาะบางอย่าง วาห์นจึงใช้เวลาช่วงวัยรุ่นทั้งหมดถูกกักขังอยู่ในห้องทดลองกับนักวิทยาศาสตร์ทั้งหลาย และทีมวิจัยที่ใช้ร่างกายและเลือดของเขาเพื่อทำการทดลองที่ไม่มีที่สิ้นสุด

สิ่งปลอบใจความทุกข์ทรมานเพียงอย่างเดียวของเขาคืออนิเมะทั้งหลายและหนังสือการ์ตูนที่มีให้เขาดูในระหว่างการทดลอง เขามักจะจินตนาการว่าตนเองเป็นตัวเองที่อยู่ในโลกของตนเอง

dและสุดท้ายเขาก็สามารถควบคุมโชคชะตาของตัวเองได้ เป็นเวลาหลายปีที่เขาเก็บรักษาความปราถนานี้เอาไว้ จนกระทั่งเขาเสียชีวิตในวัย 14 ปีขณะที่มีองค์กรพยายามลักพาตัวเขาออกจากห้องทดลอง…

“ในที่สุด ผมก็ไม่ต้องทนทรมานอีกต่อไปแล้ว…”

นี่เป็นความคิดสุดท้ายของวาห์นในขณะที่เขาค่อยๆจางหายไปในห้วงแห่งความมืดอันไร้สิ้นสุด…

“ดวงวิญญาณที่น่าสงสาร”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท