Endless Path : Infinite Cosmos, อนันตวิถีจักรวาล – ตอนที่ 246

ตอนที่ 246

หลังจากที่สงบลงบ้างแล้ว วาห์นกับเฮเฟสตัสก็มานอนกอดกันพลางพูดคุยเรื่องต่างๆ

ส่วนใหญ่ก็เป็นเรื่องการสร้างครอบครัวและชีวิตที่พวกเขาจะใช้ร่วมกันในอนาคต

เมื่อมาถึงเรื่องลูกๆ วาห์นก็เริ่มประคับประคองเฮเฟสตัสราวกับว่าเธอเป็นสิ่งที่บอบบางและล้ำค่าที่สุดในโลก

ถึงฝ่ายหญิงเพิ่งจะตั้งครรภ์ได้ไม่นาน แต่ดูเหมือนฝ่ายชายก็เริ่มออกอาการจิตตกและเป็นห่วงไปหมดทุกเรื่องซะแล้ว

วาห์นเริ่มตรวจสอบครรภ์ของเฮเฟสตัสทุกครั้งที่เธอเคลื่อนไหวเร็วเกินไปเพียงนิดเดียว

เฮเฟสตัสรู้สึกสนุกไปกับการได้แหย่ท่าทางเป็นกังวลชายหนุ่ม

เพราะยังไงเธอก็ต้องกลับไปทำงานต่ออยู่ดี การเฝ้าระวังของเขาจึงถือเป็นเรื่องที่เปล่าประโยชน์มาก… แต่มีหรือที่ ‘คุณพ่อมือใหม่’ จะยอมง่ายๆ

ราวกับว่าคนรักของเขากำลังท้องแก่ใกล้คลอดเต็มที ตอนนี้วาห์นลูบท้องของเฮเฟสตัสอย่างทนุถนอมในระหว่างที่พวกเขาคิดเรื่องชื่อให้ลูก

ไม่ว่าเฮเฟสตัสจะพูดอย่างไร วาห์นก็ยังยืนยันคำเดิมว่าอยากให้เธอเป็นคนคิดชื่อ

หลังจากพูดคุยและง้องอนกันอีกพักใหญ่ เฮเฟสตัสก็สรุปออกมาได้ตามนี้

“…งั้น ถ้าเป็นเด็กผู้ชายก็จะให้ชื่อว่าเอแกน (Egan)

แต่ถ้าเป็นเด็กผู้หญิงก็… ให้ชื่อไอน่า (Ina) ละกัน”

เอแกนนั้นมีความหมายว่า ‘เพลิงน้อย’

เฮเฟสตัสชอบชื่อนี้เพราะเธออยากให้ลูกโตมาคล้ายกับผู้เป็นพ่อ หรือก็คือเป็น ‘ผู้ที่มอบแสงสว่างและความอบอุ่นให้กับคนใกล้ตัว’

ส่วนไอน่านั้นแปลว่า ‘ความบริสุทธิ์’

เฮเฟสตัสอยากให้ลูกเป็นเด็กผู้หญิงที่อ่อนโยน ไร้ซึ่งชะตากรรมที่ต้องแบกรับ และเป็นอิสระจากความมืดทั้งปวง

แม้พวกเด็กๆ จะยังไม่เกิดออกมา แต่วาห์นก็จินตนาการถึงภาพเด็กหนุ่มผมสีเข้มดวงตาสีน้ำทะเลที่กำลังเล่นเป็นวีรบุรุษอยู่ในทุ่งหญ้ากว้าง ในขณะที่มีเด็กหญิงตัวน้อยผมสีแดงและสวมชุดสีขาวบริสุทธิ์วิ่งตามมาติดๆ

ความเป็นจริงคงจะไม่เป็นแบบนั้นไปซะทีเดียว แต่ภาพของวาห์นและเฮเฟสตัสตัวน้อยก็เป็นสิ่งที่เขาแอบหวังอยู่ใจลึกๆ

เฉกเช่นเดียวกับเฮเฟสตัส วาห์นจะพยายามสั่งสอนให้ลูกชายเป็นคนดีมีเมตตา แต่ถ้าหากเป็นลูกสาว… เขาก็จะปกป้องเธอจากภัยอันตรายทั้งปวงและดูให้แน่ใจว่าเธอได้ใช้ชีวิตอย่างอิสระ

เนื่องจากวาห์นมาถึงโรงหลอมตั้งแต่เช้าและถึงจะคุยกันไปพักใหญ่ๆ แล้วแต่นี่ก็เพิ่งจะเที่ยงเอง

อย่างไรก็ตาม แค่ได้แบ่งปันความอบอุ่นให้กันแบบนี้ก็ถือว่าดีมากแล้วสำหรับทั้งคู่

พวกเขายังคงนอนกอดและคุยเล่นกันอีกหลายชั่วโมงโดยไม่สนใจว่าเวลาจะล่วงเลยไปนานแค่ไหน

พอมาถึงตอน 5 โมงเย็น วาห์นก็รู้สึกไม่สบายใจนิดๆ ซึ่งไม่อาจรอดพ้นสายตาของเฮเฟสตัสไปได้

เธอวางมือลงบนแผงอกของเขาและก็ได้รับการต้อนรับอย่างดีจาก ‘เพลิงนิรันดร์’

“…คิดถึงเธออยู่เหรอ?” เฮสเฟสตัสถามแบบยิ้มๆ

วาห์นจับมือของเธอไว้พร้อมกับแสดงสีหน้ารู้สึกผิด

“แค่เป็นเวลาเข้าลูกแก้วพอดีน่ะ… ฉันไม่ได้ตั้งใจจะคิดถึงคนอื่นเวลาอยู่กับเธอหรอกนะ”

เฮเฟสตัสหัวเราะเล็กน้อยแต่ก็ยังรักษารอยยิ้มไว้แบบเดิม

หลังจากจูบวาห์นเบาๆ เธอก็มองเข้าไปในดวงตาสีน้ำทะเล

“ไม่เป็นไร ฉันไม่ถือหรอก

จากทุกสิ่งทุกอย่างที่นายมอบให้ ฉันเองก็อยากจะมอบบางอย่างกลับไปให้นายบ้าง

ตราบใดที่ไม่คิดทอดทิ้งกัน นายจะพาคนอื่นๆ มาเดตกับเราด้วยก็ได้นะ

ตั้งแต่ได้พบกันครั้งแรก ฉันเองก็รู้ตัวอยู่แล้วว่าคงเก็บนายไว้คนเดียวไม่ได้

นายต้องเสียสละอะไรหลายอย่างเพื่อเร่งทำตามสัญญาที่ให้ไว้… เรื่องนี้ฉันจะไม่มีวันลืมเลย”

เฮเฟสตัสค่อยๆ นำผ้าห่มออกและคลานขึ้นมานั่งคร่อมตักของวาห์นแทนก่อนจะพูดต่อ

“ถ้ารู้สึกเหงา ฉันก็จะพยายามปลอบนายเอง

อย่ารู้สึกผิดเพราะเรื่องแค่นี้เลยนะ… อย่าเก็บมันไว้แบบตอนที่ผ่านๆ มาด้วย

มีปัญหาอะไรก็ต้องบอกกันบ้าง… บอกทุกเรื่องได้ก็ดี”

เฮเฟสตัสสูดหายใจลึกๆ ก่อนจะสอดใส่อาวุธของวาห์นเข้าไปแบบรอบเดียวจบ

แม้จะผ่านมาแล้วหลายชั่วโมง แต่ความอยากเพียงชั่ววูบก็ทำให้เธอเปียกชุ่มอีกครั้งโดยไม่ต้องให้ใครมาเล้าโลม

เฮเฟสตัสต้องสูดลมหายใจต่ออีกหน่อย ก่อนจะเข้ามาประคองใบหน้าของวาห์นไว้

“ต่อไปมันจะไม่ใช่ปัญหาของนายคนเดียวอีกแล้วนะ… เรื่องของผู้หญิงคนอื่นก็ด้วย

ไม่ว่ายังไงฉันก็จะช่วยให้ถึงที่สุด”

ตั้งแต่ช่วง 5 โมงเย็นถึง 3 ทุ่มของวันนั้น วาห์นกับเฮเฟสตัสก็ยังคงโรมรันกันต่อไปอย่างนุ่มนวลและพูดคุยถึงเรื่องต่างๆ ในช่วงที่หยุดพัก

วาห์นบอกเรื่องของทาเคมิคาสึจิให้เธอฟัง รวมไปถึงความตั้งใจที่จะช่วยฮารุฮิเมะออกมาให้ได้ด้วย

แน่นอนว่าเฮเฟสตัสสนับสนุนเขาเต็มที่และยังเสริมอีกว่าถ้าเรื่องเกิดบานปลาย เธอก็จะให้ความช่วยเหลือโดยไม่สนใจว่าทางกิลด์จะคิดยังไง

ถึงวาห์นจะโดนสั่งห้ามไม่ให้ข้องแวะกับแฟมิเลียในกลุ่มพันธมิตร แต่ทุกอย่างจะเปลี่ยนไปทันทีที่คนอื่นรู้ว่าเขาหมั้นกับเฮเฟสตัสแล้ว

ส่วนเวทีที่จะใช้เป็นสถานที่ประกาศเรื่องการหมั้นก็คืองานประชุมเดนาตัสในอีก 1 เดือนข้างหน้านั่นเอง

ภายในงานจะมีเทพธิดาแห่งความอุดมสมบูรณ์หลายองค์รวมอยู่ด้วย นั่นหมายความว่าการปกปิดเรื่องที่เธอตั้งครรภ์นั้นเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้

แต่ถ้าพูดกันตามตรง เฮเฟสตัสเองก็พร้อมชนอยู่แล้ว… ไม่ว่าปัญหาจะเป็นเรื่องอะไรหรือเป็นใครหน้าไหนก็ตาม

ทุกครั้งที่เทพสาวพูดให้ท้ายเขาด้วยน้ำเสียงจริงจัง วาห์นก็ยิ่งรู้สึกหลงรักเธอมากกว่าเดิม

หากมองเห็นค่าความรักของตัวเอง เขาคิดว่ามันต้องไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าคนที่กำลังนอนคร่อมอยู่อย่างแน่นอน

ไม่นานวาห์นก็ตัดสินใจที่จะ ‘ให้รางวัล’ แก่เฮเฟสตัสทันทีที่เธอพูดเรื่องนี้จบลง…

เพราะนี่ก็ดึกมากแล้ว วาห์นเลยนอนค้างที่นั่น 1 คืน แต่ถ้าจะให้พูดเต็มปากเต็มคำว่า ‘นอน’ ก็คงไม่ถูกเพราะทั้งสองไม่ได้หลับกันสักงีบจนกระทั่งฟ้าสาง

เฮเฟสตัสจัดสรรตารางงานแบบยกแผงจนเธอไม่ต้องทำงานไปอีกหลายวัน ทั้งสองก็เลยได้นอนพักยาวไปจนถึงช่วงบ่ายโมงกว่าๆ

พอตื่นกันแล้ว เฮเฟสตัสก็มอบจูบให้กับวาห์นแทนการบอกอรุณสวัสดิ์ก่อนที่เขาจะดึงอ่างอาบน้ำออกมาไว้ข้างเตียง

วาห์นยังคงทนุถนอมร่างกายของเธอราวกับเป็นวัตถุล้ำค่าและคอยดูแลอย่างใกล้ชิดแบบไม่ให้ขาดตกบกพร่อง ตั้งแต่เกิดมานั้นเฮเฟสตัสไม่เคยได้รับการดูแลที่เอาใจใส่ขนาดนี้มาก่อนเลย

ก่อนที่จะขึ้นจากอ่างน้ำ พวกเขาก็จัดกันไปอีกหนึ่งรอบภายใต้น้ำอันแสนเย็นสบาย

สุดท้ายความร้อนที่ทั้งสองปล่อยออกมาในระหว่างกรำศึกนั้นก็เล่นเอาน้ำในบ่อระเหยเป็นไอไปเกือบหมด…

เวลาล่วงเลยมาถึงตอนบ่าย 3 โมง ในที่สุดวาห์นและเฮเฟสตัสก็กลับมาสวมเสื้อผ้าปกติหลังจากอยู่ในสภาพเปลือยเปล่ากันมา 1 วันเต็มๆ

อันที่จริงวาห์นไม่ได้ตั้งใจจะนับเรื่องแบบนี้ แต่ถ้าเฮเฟสตัสเกิดอยากรู้ขึ้นมา เขาก็บอกได้คร่าวๆ ว่าทั้งสองร่วมรักกันไปไม่ต่ำกว่า 20 ครั้ง

‘เฮเฟสตัสท้องแล้วจริงๆ’ นี่คือสิ่งที่วาห์นตรวจสอบและยืนยันไปไม่ต่ำกว่าพันรอบ แต่เขาก็ยังคงปลดปล่อยทุกอย่างเข้าไปข้างในเพราะได้ยินอีกฝ่ายบอกว่ามันเป็นความรู้สึกที่อบอุ่นและผ่อนคลายมาก

เฮเฟสตัสบอกว่ามันทำให้เธอรู้สึก ‘สมบูรณ์’ ซึ่งเป็นสิ่งที่วาห์นไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่นัก

พวกเขาใช้เวลาร่วมกันอย่างเพลิดเพลินจนกระทั่งถึงเวลาแล้วที่ต้องแยกจาก

ก่อนที่วาห์นจะออกจากโรงหลอม ทั้งสองก็กอดกันเกือบ 20 นาทีโดยที่ไม่ได้จูบหรือพูดอะไรออกมา

จริงอยู่ที่เฮเฟสตัสเคลียร์ตารางงานเผื่อไว้หลายวัน แต่เธอก็ไม่อยากฮุบตัวชายหนุ่มไว้นานเกินไปนัก แถมวาห์นเองก็มีเรื่องที่ต้องไปจัดการเช่นกัน

สำหรับเฮเฟสตัสนั้น เธอต้องไม่ลืมเรื่องอิทธิพลของพลังศักดิ์สิทธิ์และเริ่มทำงานต่อทันที

เพราะหากปล่อยทิ้งไว้นานเกิน มันอาจจะส่งต่อร่างกายหรือตัวอ่อนในท้องด้วยก็ได้

หลังจากสัญญาว่าจะมาหาบ่อยๆ ทั้งสองก็ปิดท้ายด้วยการจูบอย่างดูดดื่ม

“ถ้ารู้สึกเหงาก็เรียกฉันได้ตลอดเลยนะ”

“ฝ่ายที่ต้องเรียกน่าจะเป็นนายมากกว่า เพราะต่อไปฉันคงไม่รู้สึกเหงาอีกแล้ว…” เฮเฟสตัสตอบพลางนำมือขึ้นมาลูบท้อง

หากไม่ใช่เพราะต้องกลับไปทำหน้าที่ของตัวเอง วาห์นก็คงลากเฮเฟสตัสเข้าห้องทำงานเพื่อจัดต่อกันอีกยกแล้ว…

ตลอดทางที่เดินกลับคฤหาสน์ฮาร์ธ วาห์นั้นอารมณ์ดีมากเสียจนคนเดินผ่านยังรู้เลย

เขารู้สึกเหมือนโลกดูสดใสและมีชีวิตชีวาในแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

แม้จิตใจของเขาจะสงบและร่างกายรู้สึกผ่อนคลายอย่างไม่น่าเชื่อ แต่วาห์นก็ยังไม่ลืมเป้าหมายและคอยตรวจสอบทุกอย่างที่อยู่ภายในพลังเขตแดน

เพราะต้องไปไหนมาไหนในร่างพยัคฆ์ขาวเพื่อหลบสายตาผู้คนอยู่แล้ว วาห์นเลยใช้โอกาสนี้เพื่อตามหากลิ่นของฮารุฮิเมะไปด้วย

พอจัดการกับปัญหาที่ค้างคามานานได้สำเร็จ เรื่องต่อไปที่ต้องทำก็คือการออกตามหาเด็กสาวผู้โชคร้ายที่ถูกพรากไปจากบ้านเกิด ครอบครัว และมิตรสหายของเธอ

หากพวกที่อยู่เบื้องหลังเรื่องคราวนี้ทำร้ายเธอล่ะก็ วาห์นจะตามไล่ล่าพวกมันให้ถึงที่สุดเลย

ชายหนุ่มเดินกลับมาถึงคฤหาสน์โดยที่ไม่พบเบาะแสอะไรเพิ่มเติม

ข้อมูลล่าสุดที่ได้จากทาเคมิคาสึจิก็คือเธอน่าจะถูกคุมตัวอยู่แถวย่านโคมแดงซึ่งติดกับถนนเดดาลัส

(TL: ย่านโคมแดง – ย่านที่เต็มไปด้วยสถานบริการทางเพศ)

วาห์นเคยได้ยินเรื่องย่านดังกล่าวมาก่อน ที่น่าแปลกก็คือพวกสาวๆ ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่อยากให้เขาเฉียดเข้าไปในนั้นเลย

แม้จะไม่เคยเจอกับตัว แต่วาห์นก็ได้รับการสั่งสอนเกี่ยวกับผู้หญิงขายบริการ ซ่อง และทาสมาบ้างแล้ว

การที่มีคนยินยอมขายร่างกายของตัวเองนั้นเป็นสิ่งที่อยู่เหนือความเข้าใจของวาห์นจริงๆ

คำอธิบายที่เขาได้กลับมาหลังสอบถามเพิ่มเติมก็คือบางคนตัดสินใจเลือกอาชีพนี้เอง แต่บางส่วนก็ทำไปเพื่อความอยู่รอดหรือไม่ก็ถูกบังตับ

วาห์นอาจไม่ค่อยเห็นด้วยกับเรื่องนี้เท่าไหร่ แต่เขาก็คงไม่ไปยุ่งวุ่นวายกับชีวิตของพวกที่เลือกเดินทางสายนี้เอง

กรณีน่าเป็นห่วงก็คือเขาบังเอิญเดินไปเจอกับผู้เคราะห์ร้ายที่กำลังถูกบังคับขืนใจ ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้น วาห์นคงไม่ยอมอยู่เฉยแน่นอน

เพราะฮารุฮิเมะถูกลักพาตัวไปตั้งแต่ตอนอายุ 11 ปี ตอนนี้อายุของเธอก็น่าจะเพิ่มมาเป็น 14 ปีเท่านั้น

วาห์นได้แต่หวังว่าคนที่พาฮารุฮิเมะไปอยู่ย่านโคมแดงจะไม่รีบเร่งให้เธอ ‘ทำงาน’ หรืออะไรทำนองนั้นทันที

แต่ถ้าไม่เป็นแบบนั้น… แม้แต่วาห์นก็ไม่รู้ว่าเวลาที่ตัวเองโกรธขึ้นมาจริงๆ แล้วจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง

อาจจะไม่ถึงขั้นจับทรมาน แต่ถ้าเขาไม่สามารถจับเป็นและส่งพวกมันให้กับทางการได้… งั้นก็เตรียมโดนกุดหัวได้เลย

ในกรณีที่โดนจับกุม ด้วยการหนุนหลังจากเทพธิดาอย่างโลกิและเฮเฟสตัส วาห์นรู้ว่าพวกมันคงไม่ได้โผล่หัวขึ้นมาทำร้ายคนอื่นอีกเป็นครั้งที่สองแน่นอน

—————
ผลงานถูกขโมยมาจาก: EP:IC Translation และ Thai Novel : https://bit.ly/34ApcTP

—————

พอก้าวเข้าไปในห้องโถง เขาก็พบกับเฮสเทียและเฟนเรียร์ที่อยู่ในชุดเมดประจำของเธอ

เพราะความน่ารักน่าเอ็นดูจากการใส่ชุดดังกล่าว มีแนวโน้มสูงมากที่ผู้พบเห็นจะเอาอกเอาใจเฟนเรียร์มากกว่าเดิม และนั่นทำให้เธอใส่มันเกือบตลอด

ชายหนุ่มเดินเข้ามาลูบหัวของเด็กสาวพลางหันไปคุยกับเฮสเทีย

“ขอโทษที่กลับมาช้านะ แต่ฉันมีข่าวดีมาบอกด้วย…”

เพราะเฮสเทียรู้สาเหตุที่ทำให้วาห์นกลับมาช้า เธอก็เลยไม่ได้เอะอะโวยวายเหมือนอย่างที่ชอบทำประจำ

เฮสเทียพยายามเข้าใจวาห์นแบบสุดๆ แล้ว แต่ก็อดรู้สึกอิจฉาสหายรักไม่ได้อยู่ดี

เรื่องที่ทำให้เธอกังวลตลอดทั้งคืนก็คือวาห์นอาจไม่กลับมาเป็นเวลาหลายวันหรือมากกว่านั้น…

เมื่อได้ยินวาห์นพูดเรื่อง ‘ข่าวดี’ เฮสเทียก็เอียงหัวนิดๆ แต่ยังคงรักษาสีหน้าไว้ตามเดิม

“ข่าวดีเหรอ~? คงไม่ใช่แค่จะมาโม้ให้ฟังใช่ไหม!?”

วาห์นรู้อยู่แล้วว่าเฮสเทียนั้นยิ้มแค่ใบหน้า เพราะออร่าของเทพตัวเล็กกำลังบ่งบอกว่าเธอทั้งรู้สึกเป็นห่วงและเศร้านิดๆ เขาก็เลยไม่รอช้าและรีบเฉลยออกไปทันที

“เฮเฟสตัสท้องแล้วนะ…”

เฮสเทียนึกว่าวาห์นคงอยากพูดแหย่หรือไม่ก็ปลอบเธอเล็กน้อย แต่ไม่คิดจริงๆ ว่ามันจะเป็นเรื่องนี้

ถึงจะรู้เรื่องคุณสมบัติของ [เอ็นคิดู] แต่ทุกอย่างก็ยังเป็นแค่การคาดเดาแบบไร้ข้อพิสูจน์… จนกระทั่งถึงตอนนี้

แน่นอนว่าเธอต้องอิจฉาอยู่แล้ว แต่ยังไงซะ นี่ก็ถือเป็นข่าวดีจริงๆ

“นายไม่ได้ล้อเล่นอยู่ใช่ไหม!? แล้วทำไมถึงรู้เร็วแบบนี่ล่ะ อย่างน้อยก็ต้องอีกหลายสัปดาห์ไม่ใช่เหรอ?”

วาห์นเริ่มใช้ [ดวงตาแห่งการรู้แจ้ง] แทนคำตอบ นั่นทำให้ดวงตาสีน้ำทะเลเปล่งแสงสีฟ้าออกมาทันที

“ฉันขอยืนยันเลยว่าเธอท้องแน่นอน” เขาพูดอย่างมั่นใจ

เฮสเทียรู้สึกตื่นเต้นมากเพราะวาห์นไม่ใช่คนพูดโกหกและคงไม่เอาเรื่องแบบนี้มาล้อเล่นแน่นอน

หากเขายืนกรานว่าเฮเฟสตัสท้อง งั้นเธอก็คงท้องจริงๆ

ถึงจะไม่รู้รายละเอียดของตาเรืองแสงนี่เท่าไหร่ แต่เฮสเทียเชื่อว่ามันคงเกี่ยวข้องกับพลังศักดิ์สิทธิ์แห่งความอุดมสมบูรณ์ เพราะผู้ที่มีพลังศักดิ์สิทธิ์ชนิดนี้จะดูออกทันทีว่าใครท้องใครไม่ท้อง

ข้อข้องใจหลายอย่างได้รับการพิสูจน์แล้ว แต่นั่นยิ่งทำให้เฮสเทียคาดเดาไม่ออกเลยว่าอนาคตจะเป็นอย่างไรต่อไป

เธอรู้ว่าวาห์นน่าจะมีลูกอีกหลายคนและส่วนใหญ่ก็เป็นเด็กที่เกิดจากเทพธิดาด้วย

เฮสเทียเริ่มจินตนาการถึงคฤหาสน์ที่เต็มไปด้วยเด็กวิ่งเล่นกันไปมาโดยมีเฟนเรียร์เป็นตัวหัวโจก แถมในกลุ่มเด็กเหล่านั้นก็ยังมี ‘เฮสเทีย’ ตัวเล็กๆ ในชุดสีขาวรวมอยู่ด้วย…

วาห์นเห็นว่าดวงตาของเฮสเทียเหมือนจะสว่างวาบขึ้นมาชั่วครู่

ค่าความชื่นชอบที่มักจะวนเวียนอยู่ระหว่าง 93-95 พุ่งขึ้นมาถึง 99 พร้อมกับออร่าที่ดูลุกไหม้รุนแรงกว่าเดิม

ก่อนที่เทพตัวเล็กจะทำอะไรบ้าบิ่น วาห์นก็วางมือไว้บนหัวของเธอเสียก่อน

“เอาเป็นว่าถ้าพร้อมเมื่อไหร่ก็มาบอกฉันได้ทุกเมื่อ แต่ตอนนี้อย่าเพิ่งฝืนตัวเองเลย

ถ้ามีเวลาก็ออกไปเยี่ยมเฮเฟสตัสบ้าง เพราะยังไงพวกเธอก็เป็นเพื่อนสนิทกันนี่นะ

อีกอย่าง ฉันจะรู้สึกวางใจขึ้นเยอะเลยถ้ามีเธอไปอยู่ด้วยในระหว่างที่ฉันไม่อยู่หรือเข้าดันเจี้ยน”

เฮสเทียเงยหน้ามองวาห์นด้วยสีหน้าเศร้าๆ แต่แล้วก็เห็นว่าเขาพยักพเยิดไปทางเฟนเรียร์ที่กำลังตั้งใจฟังบทสนทนาแบบหูผึ่ง

ตอนนี้เด็กสาวกำลังอยู่ในช่วงวัยอยากรู้อยากเห็น แถมเธอยังเป็นพวกหัวไวมากด้วย

ถ้าพูดเรื่องอย่างว่าหรือเรื่องตั้งท้องให้ฟังบ่อยๆ… แค่คิดตามก็ปวดหัวแล้ว

ทั้งสามมักจะนอนห้องเดียวกันเกือบตลอด ดังนั้นถ้าไม่มีคนอื่นมานอนกับเฟนเรียร์แทน เฮสเทียก็จะไม่มีเวลาอยู่กับวาห์นแบบสองต่อสองเลย

ดีที่เมื่อกี้วาห์นหยุดเธอไว้ก่อน เฮสเทียก็เลยแสดงสีหน้าสำนึกผิดและหันไปลูบหัวเฟนเรียร์แทน

สิ่งที่วาห์นพูดนั้นไม่ใช่เรื่องเกินจริงเลย เพราะตอนนี้เฮสเทียรู้ใจตัวเองดีว่ายังไม่พร้อมที่จะพัฒนาความสัมพันธ์สู่ขั้นถัดไป

แค่นี้เธอก็รู้สึกอิจฉาผู้หญิงคนอื่นจะแย่แล้ว หากเริ่มคบกันทั้งแบบนี้… คอยนับเวลาที่บ้านจะแตกได้เลย

หากเธอพยายามผลักดันตัวเองมากเกินไป สุดท้ายวาห์นก็คงต้องยอมอยู่แล้ว แต่สมดุลในกลุ่มนั้นอาจสั่นคลอนจนถึงขั้นกู่ไม่กลับไปเลยก็ได้

เฮสเทียจะทำให้วาห์นหันมาสนใจเธอมากกว่าคนอื่นก็คงไม่ใช่เรื่องยาก แต่ดูยังไงมันก็เป็นวิธีที่ผิดและไม่ยุติธรรมเลย

เทพตัวเล็กถอนหายใจสั้นๆ ก่อนยิ้มให้เล็กน้อยขณะที่ออร่าของเธอจะกลับมาเสถียรอีกครั้ง

“ฉันจะคุยกับเฮเฟสตัสให้มากกว่านี้นะ

ส่วนเรื่องนั้น… เผื่อที่ให้ฉันด้วยก็แล้วกัน”

วาห์นก้มลงและจูบเฮสเทียที่ริมฝีปากอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดต่อ

“อย่ากดดันตัวเองมากเกินไปนักล่ะ เราจะได้อยู่ด้วยกันไปตลอดอยู่แล้ว ไม่มีเหตุผลที่เธอต้องรีบร้อนก่อนจะพร้อมกว่านี้

เธอเคยสัญญาว่าจะรอฉันอยู่ที่นี่ไปตลอดนี่นะ งั้นฉันขอสัญญาบ้างว่าจะไม่ทิ้งเธอไปไหนเหมือนกัน…”

สีหน้าของเฮสเทียดูร่าเริงขึ้นขณะยกมือขึ้นมาแตะริมฝีปากของตัวเอง

ก่อนจะได้เอ่ยปากขอจูบต่ออีกที วาห์นก็หันไปจัดการกับหน้าผากของเด็กเอาแต่ใจที่ยืนดูอยู่ข้างๆ แทน

เด็กสาวถูกสอนสั่งมาแล้วว่าการพูดแทรกเป็นสิ่งที่ไม่ดี และเธอก็กำลังรอให้การสนทนาตรงหน้าจบลงเพื่อถามคำถามของตัวเองบ้าง

พอได้รับ ‘รางวัล’ จากวาห์น เฟนเรียร์ก็เริ่มส่งเสียงครางในลำคอขณะยกอุ้งมือขึ้นมาแปะหน้าผาก

“เฟนเรียร์ด้วย อยู่ด้วยกันตลอดไป!” เธอพูดด้วยน้ำเสียงเจื้อยแจ้ว

ไม่เพียงแค่วาห์นเท่านั้น เพราะแม้แต่เฮสเทียก็ยังต้องหัวเราะออกมาก่อนที่ทั้งสามจะพากันไปทานอาหารเย็น

แม้จะไม่ได้พูดอะไร แต่แค่นี้เฮสเทียก็รู้สึกเหมือนพวกเขาเป็นพ่อแม่ลูกกันแล้ว…

เธอกับวาห์นต้องคอยตามดูแลเอาใจใส่และสอนเรื่องต่างๆ ให้เฟนเรียร์อยู่ตลอด

พวกเขาอาบน้ำด้วยกัน ทานข้าวด้วยกัน แล้วก็นอนด้วยกัน ทุกอย่างล้วนแต่เป็นสิ่งที่พ่อแม่มักปฏิบัติกับลูกน้อยที่ยังไม่โตเต็มวัย

เฮสเทียยิ้มให้กับช่วงเวลาแห่งความสุขตรงหน้าและเพิ่งตระหนักว่าครอบครัวของเธอนั้น ‘สมบูรณ์’ มาพักใหญ่ๆ แล้ว… ตอนนี้ก็เหลือแค่เพิ่มสมาชิกขึ้นอีกเล็กน้อยเท่านั้นเอง

Endless Path : Infinite Cosmos, อนันตวิถีจักรวาล

Endless Path : Infinite Cosmos, อนันตวิถีจักรวาล

Status: Ongoing

เรื่องย่อโดยผู้แต่ง

วาห์นชายหนุ่มผู้ที่มีความผิดปกติ เนื่องจากการกลายพันธุ์ที่หายาก เลือดของเขาจึงมีความสามารถซ่อนเร้นที่ทำให้เป้าหมายและความเสียหายที่เกิดจากโรคร้ายที่อยู่ภายในร่างกายมนุษย์

ถูกขจัดออกไปในโดยการรักษาครอบจักรวาล เหล่าผู้คนจึงต่างเชิดชูบูชาสถานะของเด็กหนุ่มเหนือกว่าผู้ใดทั้งสิ้นและมอบชื่อให้เขาว่า “ยารักษาสารพัดโรค” ในข่าว

เขาได้รับการยกย่องเป็นเหมือนกับวีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ที่จะนำพายุคสมัยแห่งใหม่หรือคุณภาพชีวิตมนุษย์ที่ดีมาถึง อย่างไรก็ตาม ฉากที่อยู่เบื้องหลังไม่ได้สดใสเลย

เนื่องจากปัจจัยเฉพาะบางอย่าง วาห์นจึงใช้เวลาช่วงวัยรุ่นทั้งหมดถูกกักขังอยู่ในห้องทดลองกับนักวิทยาศาสตร์ทั้งหลาย และทีมวิจัยที่ใช้ร่างกายและเลือดของเขาเพื่อทำการทดลองที่ไม่มีที่สิ้นสุด

สิ่งปลอบใจความทุกข์ทรมานเพียงอย่างเดียวของเขาคืออนิเมะทั้งหลายและหนังสือการ์ตูนที่มีให้เขาดูในระหว่างการทดลอง เขามักจะจินตนาการว่าตนเองเป็นตัวเองที่อยู่ในโลกของตนเอง

dและสุดท้ายเขาก็สามารถควบคุมโชคชะตาของตัวเองได้ เป็นเวลาหลายปีที่เขาเก็บรักษาความปราถนานี้เอาไว้ จนกระทั่งเขาเสียชีวิตในวัย 14 ปีขณะที่มีองค์กรพยายามลักพาตัวเขาออกจากห้องทดลอง…

“ในที่สุด ผมก็ไม่ต้องทนทรมานอีกต่อไปแล้ว…”

นี่เป็นความคิดสุดท้ายของวาห์นในขณะที่เขาค่อยๆจางหายไปในห้วงแห่งความมืดอันไร้สิ้นสุด…

“ดวงวิญญาณที่น่าสงสาร”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท