บทที่ 43-1 ถ้าการ์ดเสร็จแล้ว ส่งมาให้ด้วยนะคะ
Xiaobei
แก้มของอึนคังแดงซ่าน ฟังแล้วที่เขาพูดมาก็ถูก
“ทีนี้รู้แล้วนะครับ ว่าผมไม่ได้อนามัยจัด มาทางนี้ครับ”
หลังจากลงคอนซีลเลอร์เสร็จ จีฮวันก็พาอึนคังไปที่มุมแป้ง
เขาทาแป้งลงบนหลังมือเธอสามเฉดสี แล้วถอยหลังไปพิจารณาด้วยตาเหยี่ยว
“อืม สีที่สองน่าจะเหมาะ”
“ฉันก็คิดเหมือนกันค่ะ คุณพีบีนี่รู้อะไรดีจัง”
“ถือนี่ไว้แล้วหลับตาครับ”
อึนคังถือแป้งที่จีฮวันเลือกแล้วหลับตาลง
จีฮวันปัดผมหน้าม้าที่ปรกหน้าผากของอึนคังขึ้น ลงมือทาแป้งด้วยพัฟที่ซื้อมาใหม่ลงบนหน้าผากเป็นอันดับแรก
“นี่แผลเป็นเหรอครับ”
บนหน้าผากด้านซ้าย แม้จะถูกซ่อนไว้ใต้ผมหน้าม้า แต่ก็ยังคงหลงเหลือร่องรอยไว้อยู่
“อ๋อ ตอนห้าขวบ ฉันปีนขึ้นไปบนตู้โชว์แล้วตกลงมาค่ะ ใหญ่มากเลยใช่ไหมคะ โดนเย็บไปตั้งเจ็ดแปดเข็ม”
“สร้างความวุ่นวายน่าดูเลยนะครับ ลิงก็ไม่ใช่ ปีนขึ้นไปบนตู้โชว์ได้ยังไง”
“ก็ใช้ขานี่ไงคะ ถึงปีนขึ้นไปได้!”
“พูดไปเรื่อย มันไม่ใช่ของที่ทำเอาไว้ให้คนขึ้น”
“ก็ทำไม อุ๊บ”
จีฮวันปิดปากอึนคังด้วยพัฟ ใบหน้าของอึนคังขาวเนียนขึ้นด้วยฝีมือจีฮวันที่บรรจงทาแป้ง ถึงไม่ขาวเหมือนหยกขาว แต่ก็ดูสวยงาม และเพราะผิวสุขภาพดี แป้งจึงทาได้อย่างเรียบลื่นเกาะผิว
“แฟนแต่งหน้าให้เหรอ”
“นั่นสิ ดูชำนาญเชียว”
เสียงซุบซิบทำให้จีฮวันเร่งมือให้เร็วขึ้น ปัดบลัชออนลงบนแก้มขาว จากนั้นก็ไปยังมุมลิปกลอส เลือกมาหลายสีแล้วลองทาบนหลังมือของอึนคัง
“สีนี้อ่อนกว่าที่เห็น นี่ก็เข้มเกินไป”
“อันนี้ดีไหมคะ เอาสีนี้แหละค่ะ!”
“อยากอวดว่าไปจับหนูกินมาเหรอครับ”
“นี่มันปากฉันนะคะ!”
จีฮวันทำเป็นไม่ได้ยิน ลองทาลิปกลอสสีที่สามลงบนหลังมือ เป็นสีพีชผสมกับช็อคโกแลต ไม่แดงมากจนเกินไปดูเป็นประกายสวย
“สีนี้แหละ”
“สีมันครึ่งๆ กลางๆ ต้องลองทา”
“ปิดปาก”
อึนคังหุบปากตามคำสั่ง หลังจากจีฮวันทาลิปกลอสลงไปแล้วก็จะใช้นิ้วแตะๆ
“เรียบร้อยแล้วครับ”
* * *
อึนคังที่ขึ้นไปบนรถส่องกระจกพร้อมกับร้อง ‘ว้าว’ ไม่หยุด
“ถูกใจไหมครับ”
จีฮวันซ่อนสีหน้าดีใจพลางถาม อึนคังยิ้มอย่างสดใส
“ถูกใจสิคะ! เกิดมาสามสิบสามปี เพิ่งรู้ว่าตัวเองสวยขนาดนี้! กรี๊ดดด! คุณพีบีทำได้ยังไงกันคะเนี่ย แต่งหน้าเก่งขนาดนี้ได้ยังไง หรือทุกคืนจะมีงานอดิเรกใส่ชุดผู้หญิงแต่งหน้า?”
“ที่ศูนย์มีงานอีเวนท์ตอบแทนลูกค้าวีไอพีบ่อยๆ แต่ละไตรมาสจะมีงานนิทรรศการ งานดนตรี งานบรรยาย งานประมูลผลงานศิลปะ งานขายผลิตภัณฑ์ราคาพิเศษกับตัวแทนสั่งซื้อของจากต่างประเทศ แล้วก็งานแสดงการแต่งหน้าที่ทำร่วมกับบริษัทเครื่องสำอาง ผมได้ดูสาธิตการแต่งหน้าหลายครั้ง ก็เรียนรู้มาบ้าง”
“ไม่หรอก นี่มันมืออาชีพเลยต่างหาก อาจารย์ที่มาสอนต้องประหลาดใจแน่ แล้วคุณพีบีแต่งหน้าด้วยไหมคะ”
“หลักๆ ก็พวกคลีนซิ่งแล้วก็บำรุงผิว หน้าร้อนใช้เอสเซ้นส์ หน้าใบไม้ร่วงหน้าหนาวก็ใช้เป็นครีมหรือโลชั่น แล้วก็ถึงจะยุ่งยังไงก็จะไม่ลืมทาครีมกันเป็นอันขาด แล้วก็มีทาบีบีบ้างตามโอกาส”
“จริงเหรอคะ ถึงว่าผิวดีมาก…”
“ผมไม่ค่อยมีสิวหรือปัญหาผิว อาชีพผมต้องพบปะผู้คนอยู่ตลอด ครึ่งนึงของการทำงานคือออกไปนอกสถานที่ ที่ต้องเจอทั้งฝุ่นขนาดเล็กแล้วก็รังสีอุลตราไวโอเลต ก็ทำได้แค่ดูแลผิวให้ดีๆ ถ้าทำงานดึกผิวเสียก็จะไปสปา อยู่บ้านก็มาส์กหน้า ถ้าเร่งด่วนจริงๆ ก็จะแผนกผิวหนัง”
“อ้า เพอร์เฟกต์ชะมัด”
“บนโลกนี้ไม่มีใครเกิดมาเพอร์เฟกต์ร้อยเปอร์เซ็นต์หรอกครับ ทั้งสติปัญญาและความสามารถ มันต้องขัดเกลา”
“ไม่หรอกค่ะ! คุณพีบีเพอร์เฟกต์!”
อึนคังเอามือรองใต้คางทำท่าดอกไม้บานทำตาปิ๊งๆ
“แล้วความน่ารักของโกอึนคังล่ะคะ แถมเซ็กซี่อีกต่างหาก”
“แล้วก็แถมเข้าใจอะไรยาก ไม่มีเซ้นส์ ทำตัวไม่ถูกกาลเทศะ ไม่มีสติ บลาๆ”
“เชอะ โกรธนะ แต่เถียงไม่ออก”
จีฮวันยื่นบางอย่างไปให้อึนคังที่ทำปากยื่น
“เอาไปครับ”
“อะไรคะ”
“เปิดดูสิ”
ลิปกลอสใหม่ สีเดียวกับที่ทาบนริมฝีปากของอึนคัง
“อ๊ะ! ซื้อมาเหรอคะ”
“เปล่าครับ ขโมยมา”
“จริงเหรอ”
เห็นอึนคังทำตาเบิกโพลง จีฮวันก็หัวเราะก๊าก
“อยู่มาขนาดนี้ ช่างเป็นคนที่เชื่อคนง่ายจังนะครับ”
“แหม ก็คุณพีบีพูดหน้านิ่งๆ ก็คิดว่าจริงสิคะ ล้อเล่นให้เหมือนเรื่องจริง ว่าแต่สีนี้สวยมากเลยซื้อมาสินะคะ แล้วฟองน้ำกับพัฟล่ะคะ ทั้งหมดเท่าไหร่”
อึนคังค้นกระเป๋า
“ไม่เป็นไรครับ”
“ไม่เป็นไรอะไรคะ ค่าโมเต็ลคุณพีบีก็จ่าย ค่าใช้จ่ายที่ใช้เวลาเจอกับฉัน ทั้งหมดเป็นค่าจ้าง ฉันต้องเป็นคนจ่ายสิคะ”
“ถ้าพูดจริงๆ ค่าโมเต็ลไม่ใช่ค่าจ้าง”
“อย่างนั้นเหรอคะ”
อึนคังเอียงคอสงสัย
“แล้วก็ต่อไปถ้าลมหนาวมา อย่าลืมทาลิปกลอสด้วยนะครับ ไหนๆ ก็ซื้อมาแล้ว มันดูเหมาะกับคุณนักเขียนดี…”
ประโยคสุดท้ายเบาจนแทบไม่ได้ยินเพราะความเขิน แต่อึนคังไม่ได้ฟัง แกะลิปกลอสแท่งใหม่ ทาลงบนริมฝีปากแล้วยิ้มอย่างสดใส
“ว้าว สวยจัง ขอบคุณนะคะคุณพีบี”
ของขวัญราคาแค่หนึ่งหมื่นวอนก็ดีใจขนาดนี้ มันน่าชื่นใจ…
* * *
จีฮวันกับอึนคังมาถึงศูนย์พีบี ย่านฮันนัมดงตอนบ่ายโมงยี่สิบห้า
จีฮวันแนะนำรุ่นพี่ให้อึนคังรู้จัก เดินวนรอบศูนย์พีบีฟังคำอธิบายนู่นนี่ มองอึนคังที่ตาเป็นประกายตั้งใจจดบันทึกลงในแล้วสมุด รอยยิ้มก็ปรากฏบนสีหน้าของจีฮวันตลอด
“อ๊ะ! คุณพีบี! ดูโน่นสิคะ”
หลังจากมีตติ้งเสร็จ ตอนที่กำลังจะออกจากธนาคาร อึนคังก็ค้นพบบางอย่างที่ล็อบบี้ มีคือเครื่องวีอาร์จากบริษัทเครื่องใช้ไฟฟ้าเอามาวางไว้
“เราลองโน่นได้ไหมคะ ลองเล่นได้ไหม ฉันอยากลองเล่นวีอาร์สักครั้ง!”
พูดไม่ได้ว่าผู้ใหญ่เขาไม่เล่นกัน มีแต่พวกเด็กๆ เพราะตาของอึนคังเป็นประกายวิบวับ
ให้ตาย ผู้หญิงพิลึก มองอะไรก็ใสซื่อ มองอะไรก็ไร้เดียงสา ‘ฉันไม่รู้อะไรเลยค่ะ’ มองอะไรก็สงสัยไปหมด
จินตนาการไม่ออกเลยว่าเป็นคนเดียวกับคนที่ดูดเลียขบเม้มจนเขาขยับเขยื้อนไม่ได้ คนเดียวกับที่ทำเขาสติกระเจิดกระเจิงบนเตียงเมื่อชั่วโมงก่อน
“ครับ ลองหน่อยก็ได้”
อึนคังที่วิ่งไปใส่เครื่องวีอาร์ แล้วเริ่มทำท่าในอากาศ จีฮวันถอยออกมายืนดูอึนคังเล่นเงียบๆ บางทีก็ยิ้ม
และก็มีคนที่กำลังมองจีฮวันที่เป็นแบบนั้น นั่นก็คือราฮี
ราฮีที่เข้าประตูธนาคารมาหันไปมองโดยสัญชาตญาณ ก็เห็นจีฮวันอยู่ที่นั่น เธอรีบเข้าไปหาเขาทันทีที่เห็น แล้วก็ได้รู้ว่าเขากำลังมองไปสักที่ด้วยสีหน้าชอบใจ ราฮีชะงักฝีเท้า เบนสายตาไปยังที่ที่สายตาของจีฮวันจับจ้องอยู่ช้าๆ
ผู้หญิงคนนั้นอยู่ที่นั่น คู่หมั้นของจีฮวัน
บนใบหน้าของจีฮวันที่มองหญิงสาวที่สวมเครื่องวีอาร์ ทำท่าตะเกียกตะกายตลกๆ เปื้อนยิ้มตลอด
ชั่วขณะที่เห็นจีฮวันที่ไม่อาจละสายตาราวกับว่าผู้หญิงคนนั้นน่ารักมาก อกของราฮีก็เจ็บแปลบเหมือนมีใครมาเอามือมาบีบหัวใจ
ราฮีถึงได้เข้าใจ ว่าตัวเองยังไม่สามารถลืมจีฮวันได้ ไม่สิ เธอยังคงรักเขาไม่เปลี่ยน
จีฮวันที่รู้สึกถึงสายตาที่จ้องมองมา เขาจึงได้หันไปสบตากับราฮี
ราฮีมองรอยยิ้มของจีฮวันที่เปลี่ยนไปเป็นความลำบากใจแล้วพยายามยิ้มอย่างสดใสให้มากที่สุด ยิ้มที่จีฮวันเคยหลงใหล
“สวัสดี เจอกันอีกแล้ว”
“อืม สวัสดี”
“มาทำอะไรที่นี่คะ หรือว่าย้ายบริษัท?”
“เปล่า มีธุระนิดหน่อย เธอมีธุระที่นี่เหรอ”
“ฉันมาทำธุระที่ธนาคาร ที่นี่เป็นสาขาที่ฉันใช้บริการอยู่”
“อ่อ…”
“เลือกเพราะอยู่ใกล้บ้าน ธนาคารคุณจีฮวันไม่มีศูนย์วีไอพีอยู่แถวนี้เลย จะข้ามไปอัพกูจองหรือชองดัมก็ลำบาก ตอนเลือกใช้บริการที่นี่ก็นึกขอโทษคุณจีฮวันอยู่นิดหน่อย ไม่เป็นไรนะคะ ไม่โกรธใช่ไหม”
ในบทสนทนาสั้นๆ ราฮีแอบใส่ข้อมูลว่าตัวเองอยู่ที่ฮันนัมดง, เป็นลูกค้าศูนย์วีไอพี ไปจนถึงขอโทษที่ไม่ได้เลือกธนาคารของจีฮวัน
“ไม่เป็นไร ฉันจะไปโกรธอะไร ก็ต้องเลือกธนาคารที่อยู่ใกล้…”
“ที่อยู่ใกล้บ้านที่สุด”
ราฮีรีบพูดต่อคำพูดของจีฮวัน
“หนึ่งในหนังสือรวมคำคมเกี่ยวกับการเงินของคุณจีฮวัน”
จีฮวันยิ้ม สีหน้าระแวดระวังหายไป ราฮีใจกระตุก
“ความจำยังดีเหมือนเดิม”
“ไม่ใช่แค่ความจำที่ดีหรอกนะคะ แต่เป็นเพราะฉันไม่เคยลืมสิ่งที่คุณจีฮวันพูดต่างหาก”