ใช้เวลาไม่นานจากสถานีตำรวจไปยังบ้านเก่า ซองบอมหลับกรนไม่รู้เรื่องรู้ราวและคงไม่คิดไม่ฝันว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้นกับตัวเองบ้าง
มีแต่ราฮีที่ไม่ได้ทำอะไรผิดที่กระวนกระวาย นึกโมโหซองบอมที่กรนอย่างสบายใจ อยากหยิกนัก แต่เพราะคนขับรถอยู่ด้วยเลยทำไม่ได้
โดนจับด้วยข้อหาทำร้ายร่างกายและล่วงละเมิดทางเพศ ใช้เงินแก้ปัญหา ซองบอมที่ดูไม่เสียใจในการกระทำของตัวเองสักนิดไม่น่าสงสารเลยแม้แต่น้อย มุมหนึ่งในใจของราฮีก็นึกอิจฉาเขา
อายุก็ปาเข้าไปสามสิบแล้ว แต่งงานมีเมียเป็นหัวหน้าครอบครัว ในเกาหลีจะมีคนที่ใช้ชีวิตเละเทะเอาแต่ใจตัวเองอย่างนี้สักกี่คนกัน
เกิดมาบนกองเงินกองทอง ตลอดชีวิตเติบโตมาโดยการถูกเอาอกเอาใจ ถึงจะโปรยเงินเป็นว่าเล่นคืนละหลายล้านวอนก็ไม่มีใครว่าอะไร ชีวิตมั่นคงว่าจะได้สืบทอดบริษัทติดสามสิบอันดับวงการการเงินหลายสิบแห่งทั้งหมดในไม่ช้า
ถึงแม้จะไปทำร้ายใครตายก็นอนหลับได้อย่างสบาย เพราะเชื่อว่าเงินและอำนาจที่พ่อมีจะทำให้เรื่องสงบได้
เห็นซองบอมนอนหลับแล้ว ราฮีเองก็สบายใจขึ้น ถึงจะโดนโกรธ แต่ก็ไม่น่าจะมีอะไร ความรักลูกชายของประธานปาร์คอยู่เหนือสิ่งอื่นใดเสมอ
สายตาที่มองภรรยากับสายตาที่มองลูกชายนั้นแตกต่างจนน่าตกใจ และก็ไม่ได้เป็นแบบนี้ครั้งสองครั้งด้วย
ขณะที่ทำเหมือนเขาเป็นคนไม่เอาไหน แต่สายตาของประธานปาร์คที่มองซองบอมก็เป็นรูปหัวใจ ไม่ว่าอะไรก็ตามที่ซองบอมต้องการก็จะหามาให้
เป็นคนที่ถ้าเป็นเงินที่ให้คนอื่น แม้แต่แบงก์พันวอนใบเดียวก็เสียดายจนตัวสั่น แต่ถ้าเป็นซองบอมนี่ หลับตาเปิดกระเป๋าให้เลยโดยไม่เสียดายแม้แต่น้อย ซองบอมใช้ความรักเช่นนี้ของประธานปาร์คทำให้เกิดโครงการมูลนิธิขึ้นมา
ไม่รู้ว่าแผนในใจของซองบอมไปถึงไหน จะรักษาเงินทุนสามร้อยล้านวอนในการตั้งมูลนิธิให้คงอยู่ต่อไปได้หรือไม่ ราฮีสงสัยตั้งแต่เรื่องนั้นแล้ว
“ถึงแล้วครับ”
คนขับรถแจ้ง ราฮีจึงดึงสติกลับมา
“คุณซองบอม ตื่นได้แล้วค่ะ”
ราฮีเขย่าปลุกซองบอม แต่เขาปัดมือเธอออกอย่างรำคาญใจ
ทันทีที่รถเข้ามาในโรงรถ มือถือของราฮีก็ดังขึ้น ประธานปาร์คโทรมา ราฮีรีบรับโทรศัพท์
“ค่ะ คุณพ่อ พวกเราถึง…”
[ถึงแล้วมันมัวทำอะไรอยู่]
“เพลียหลับอยู่ค่ะ…ให้หลับต่ออีกหน่อยไหมคะ”
[ไม่ต้อง แล้วไม่ต้องขึ้นลิฟต์มาด้วย พาสามีเธอออกมาที่สวน]
น้ำเสียงเย็นชาของประธานปาร์คฟังแล้วแปลกมาก
“ค่ะ เข้าใจแล้วค่ะ”
ราฮีวางสายแล้วหันไปเขย่าซองบอม
“ตื่นได้แล้วค่ะ ถึงแล้ว ตื่นสิคะ!”
“โอ๊ย”
ซองบอมลืมตา คนขับรีบลงจากรถไปเปิดประตูและช่วยประคองซองบอมที่โซซัดโซเซลงมาจากรถ
ราฮีรีบเรียกซองบอมที่กำลังจะเดินไปยังลิฟต์
“คุณพ่อบอกให้ไปที่สวนค่ะ”
“อะไรนะ ทำไม”
“ไม่ได้บอกเหตุผลค่ะ”
ความง่วงอันตรธานไปจากใบหน้าของซองบอม ถึงจะไม่ค่อยรู้เรื่องอะไร แต่ก็รู้สึกได้ถึงความผิดปกติ
“อะไร จะชวนออกกำลังกายในสวนกลางคืนเดือนหงายงั้นเหรอ”
ซองบอมเหน็บแนมพลางออกจากโรงรถตรงไปยังสวน ถึงจะปากดีแต่ก็รู้สึกได้ถึงความตึงเครียดที่แผ่ออกมาจากด้านหลัง ใจของราฮีที่เดินตามไปพลอยหวาดหวั่นไปด้วย ขอให้ไม่มีอะไร ขอให้คุณพ่อไม่โกรธมาก
ไฟในสวนสว่างจ้า เข้าออกที่นี่มาก็หลายปี แต่คืนที่เปิดไฟในสวนสว่างไสวแบบนี้แทบนับนิ้วได้
ประธานปาร์คประหยัดค่าใช้จ่ายเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิตประจำวันอย่างค่าไฟ ค่าน้ำ และค่าเครื่องทำความร้อนจนน่ากลัว ถ้าเปิดไฟทิ้งไว้ในที่ที่ไม่มีคนอยู่ ไม่ว่าเป็นใครก็ตามก็จะโดนตวาด ปกติในสวนก็จะเปิดแค่ไฟดวงเล็กๆ แค่พอให้มีแสงสว่างเล็กน้อยเท่านั้น
สวนที่สว่างเหมือนสนามกอล์ฟต่างจากปกติทำเอาซองบอมเองประหม่าเล็กน้อย เขาลังเลอยู่สักครู่
“อะไรกันเนี่ย ให้ออกมาเวลานี้ มีงานเลี้ยงต้อนรับด้วยเหรอ คิกๆ”
ไม่อาจรู้ได้ว่าเขารู้หรือยังไม่รู้สถานการณ์ กลัวแล้วทำเป็นคุยโวกลบเกลื่อนหรือเปล่า
ซองบอมที่เดินมาตามทางเดินหินในสวนหยุดชะงัก
“อ๊ะ พ่อ”
ประธานปาร์คยืนอยู่กลางสวนในชุดทำงาน ซึ่งก็คือชุดที่ทั้งเก่าซีดและเปื่อยจนแทบจะเป็นผ้าขี้ริ้ว
สมัยย้ายไซด์ก่อสร้างไปเรื่อยๆ ไม่ต้องหาเลยชุดทำงานสวยๆ ดีๆ เก็บเอาเสื้อผ้าของคนอื่นที่เหมือนจะทิ้งแล้วมาใส่ทำงาน นั่นแหละชุดใหม่ของตัวเอง
วันแรกที่เข้ามาอยู่บ้านสามีหลังจากกลับมาจากฮันนีมูน ประธานปาร์คก็ให้ราฮีนั่ง และหยิบชุดทำงานออกมาด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
‘ตอนนี้เธอเองก็เป็นสมาชิกคนหนึ่งในบูกยองแล้ว ให้จดจำชุดนี้ไว้ เกียรติยศและสมบัติทั้งหมดของบูกยอง เริ่มมาจากชุดเก่าๆ นี่ เข้าใจไหม’
ประธานปาร์คยังเก็บชุดนี้ไว้มากว่าสี่สิบปีไม่ยอมทิ้ง เพื่อไม่ให้ลืมความยากลำบากและความจนในสมัยก่อน เขาเก็บมันเอาไว้อย่างดี และหยิบออกมาเมื่อต้องการ ‘ความกระตือรือร้น’
ชุดนี้เป็นชุดที่เขาใส่ตอนประทับตราในสัญญาทำธุรกิจเป็นครั้งแรก ในการเริ่มต้น ‘บูกยอง’ เป็ดที่ใส่ครั้งแรกตอนได้รับสัมปทานงานก่อสร้างอะพาร์ตเมนต์ นับเป็นชุดที่อยู่กับเขาในวินาทีที่สำคัญในชีวิตของประธานปาร์คเสมอ
แต่ไม่เคยหยิบออกมาใส่ที่บ้านเลยสักครั้ง แม้ไม่ถามเหตุผลที่ประธานปาร์คยังคงเก็บชุดทำงานที่เหมือนเป็นอีกภาคของชีวิตเอาไว้ใส่ ก็เข้าใจได้ และในตอนนี้ในมือของประธานปาร์คถือไม้กอล์ฟอยู่
“ราฮี เธอถอยไป ซองบอมมานี่”
เสียงของประธานปาร์คที่สงบนิ่งทุ้มต่ำเย็นยะเยือกเหมือนดังมาจากปรโลก
“อ้า พ่อ ทำไม ผะ ผมผิดไปแล้ว”
เสียงซองบอมที่ออดอ้อนอ่อนระโหยด้วยความกลัวดังขึ้นอย่างน่าสงสาร แต่ประธานปาร์คยังคงนิ่งไม่แม้แต่จะกะพริบตา
“สูทแกแพงนักใช่ไหม ถ้าไม่อยากให้มันขาดก็ถอดออกให้หมด”
ซองบอมมองราฮี ราฮีเพิ่งเคยเห็นสีหน้าหวาดกลัวของเขาเป็นครั้งแรก ช่วยฉันหน่อย ห้ามพ่อที เธอพูดพ่อฉันต้องเอ็นดูอยู่แล้ว
สายตาของซองบอมขอร้องราฮีจริงจัง ทำไมฉันต้องทำด้วย นายทำผิดเองไม่ใช่หรือไง นายทำนายก็ต้องรับผิดชอบแก้ปัญหา
ตอนกระดกเหล้า ลวนลามผู้หญิง ไล่ต่อยทำร้ายพวกผู้ชายที่มาห้ามเหมือนหมาบ้า ไม่คิดหรือไงว่าจะเจอเรื่องแบบนี้
“ยังไม่มานี่อีก!”
ประธานปาร์คตวาดลั่น ราฮีก้าวออกไปแทนซองบอมที่สะดุ้งถอยหนี
“เอ่อ คุณพ่อคะ! เขาสำนึกผิดแล้ว และยอมรับผิดจากใจจริง ต่อไปจะเลิกกินเหล้าแล้วก็สัญญาว่าไม่ไปที่บาร์…”
“นึกว่าฉันไม่รู้จักมันหรือไง อยากจะโดนอีกคนใช่ไหม”
สายตาของประธานปาร์คที่จ้องมาลุกโพลงเหมือนผีร้าย ทำเอาราฮีหายใจไม่ออก เหมือนไม่ใช่ดวงตาของมนุษย์
“คนขับอี! ลากมันมา!”
คนขับรถของประธานปาร์คที่หลบอยู่สักมุมโผล่พรวดออกมาจับซองบอมเหมือนสายฟ้าแลบ
“อ๊ะ จะทำอะไร ปล่อยนะ! ทะ ทำไมทำแบบนี้! อ้า พ่อ ผมผิดไปแล้ว! พ่อ! ผมจะไม่ทำอีกแล้ว! พ่อ!”
ซองบอมดิ้นสุดแรง แต่ไม่อาจสู้แรงคนขับอีที่สูงร้อยเก้าสิบเซนติเมตรและเป็นอดีตนักกีฬายูโดได้ ราฮีทนดูไม่ได้ ซองบอมถูกจับโยนไปตรงหน้าประธานปาร์คเหมือนเหยื่อ แม่บ้านที่ยืนอยู่ข้างๆ เอาผ้าห่มมาคลุมตัวให้ซองบอม
หลังจากนั้นประธานปาร์คก็ฟาดไม้กอล์ฟลงบนตัวของซองบอมที่กำลังดิ้นทั้งผ้าห่มโดยไม่มีลังเล
“โอ๊ย!”
ถ้าลูกชายล้มได้รับบาดเจ็บก็จะตบตีภรรยา ถ้าพวกพี่สาวทำให้น้องชายเสียใจก็จะโกรธแต่พวกลูกสาว ลูกชายคนแรก ลูกชายคนโต ทายาทที่จะนำพาบูกยองต่อไป สีหน้าของประธานปาร์คที่ไม่เคยตีลูกชายแม้แต่ปลายนิ้วเด็ดเดี่ยว
ลูกชายที่เกิดจากเมล็ดพันธุ์ของฉัน ถ้าจะฆ่าก็ต้องด้วยน้ำมือฉัน ถ้าจะต้องโดนด่าโดนนินทา ก็สู้ทำให้เป็นคนพิการเก็บเอาไว้ที่บ้านเสียดีกว่า ประธานปาร์คหลับตาแน่นด้วยตัดสินใจแล้ว และเหวี่ยงไม้กอล์ฟฟาดลงไปอีก
ทั้งเสียงไม้กอล์ฟหวดผ่านลม เสียงร้องของซองบอมที่ดังพร้อมกับเนื้ออ่อนนุ่มใต้ผ้าห่มที่โดนฟาด คุณนายจางทนต่อไปไม่ได้ โดดออกมาเกาะขากางเกงประธานปาร์คร่ำไห้ และเสียงประธานปาร์คตบหน้าคุณนายจาง
เสียงทั้งหมดผสมกันยุ่งเหยิงและหมุนวนภายในหูของราฮี ภายใต้เสียงนั้น เธอได้ยินเสียงร้องไห้ของตัวเองตอนเด็ก พ่อหนูผิดไปแล้ว หนูเจ็บ พ่อ ยกโทษให้หนูเถอะนะคะ ได้โปรด
ความเจ็บปวดแล่นริ้วเหมือนมีใครเอามือมาดึงสมองออกไป ราฮีหลับตาแน่น แล้วก็วูบ ล้มพับไปตรงนั้น
* * *
ภายในรถที่มุ่งหน้าจากโซลมาอิลซาน
อึนคังทำเป็นหมุนหาช่องวิทยุพลางเหลือบมองจีฮวัน
“เลิกทำแบบนั้นซะทีครับ ผมไม่ได้อะไร”
“ไม่ได้ทำอะไรซะหน่อย ไม่เป็นไรนะคะ”
“ไม่มีทางเป็นไรอยู่แล้ว”
เขายิ้มให้อึนคังเห็น แต่รอยยิ้มนั้นมันช่างรู้สึกฝืนใจเสียเหลือเกิน
จริงๆ เขาเป็น ทำไมต้องมามีข่าวแบบนี้ ล่วงละเมิดทางเพศ ทำร้ายร่างกาย ให้สามีของราฮีมีเรื่องโกงหรือยักยอก หรืออะไรก็ได้เสียยังดีกว่า
คนที่เมาแล้วทำร้ายคนอื่น เวลาปกติก็มีความเป็นไปได้สูงว่าจะทำแบบนั้น คนที่สามารถชกต่อยคนที่ไม่รู้จักได้ ก็มีความเป็นไปได้สูงว่า ในยามปกติจะทำร้ายคนใกล้ตัวอย่างภรรยาหรือลูก สถิติว่าอย่างนั้น และเป็นประสบการณ์จริงของจีฮวัน
หลังจากดูข่าว บรรยากาศในร้านไส้ย่างก็ค่อยๆ กร่อยลง
ซอกยองเป็นคนเดียวที่รู้เรื่องความรักของจีฮวันกับราฮีตั้งแต่ต้น ส่วนอึนคังก็เป็นคนที่โกหกราฮีสองรอบแล้วว่ากำลังจะแต่งงานกับจีฮวัน
สองคนที่รู้เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างจีฮวันกับราฮีบังเอิญมาเจอกัน ช่างน่าขำและเป็นอะไรที่ไม่คาดฝัน
อึนคังและซอกยองที่กะมากินดื่มทั้งคืนตอนเข้ามาในร้านไส้ย่าง คอยสังเกตความรู้สึกของจีฮวัน จีฮวันเองก็พยายามจะล้อเล่นเพื่อให้บรรยากาศดีขึ้น แต่ไม่รู้ว่ากลับทำให้ยิ่งแย่ลงหรือเปล่า ในที่สุดกินกันไปได้ประมาณชั่วโมง ไส้กับเหล้าที่สั่งก็หมด และทุกคนก็พากันลุกจากที่นั่ง
ระหว่างที่อึนคังไปจ่ายค่าไส้ย่าง ซอกยองก็เอาแขนสั้นๆ ดึงคอของจีฮวันมากอดลากออกไปนอกร้าน
“ปล่อย”
“นายอย่าวอกแวกเชียว”
“วอกแวกอะไร”
“ห้ามไปสนใจเรื่องของบูกยอง เรื่องสามีของราฮี สามีของราฮีจะติดคุกหรือไม่ ก็ไม่ต้องไปสนใจเรื่องของทางนั้น!”
“ดื่มจนเมาหรือไง ทำไมฉันต้องไปสนใจด้วย”
ซอกยองหันกลับไปมองอึนคังผ่านประตูกระจกร้านไส้ย่าง ออกแรงแขนที่รัดคอจีฮวันมากขึ้น
“จับโกอึนคังเอาไว้ให้แน่นๆ ปลายทางที่นายต้องมองและเดินตรงไป! ก็คือโกอึนคัง”
“ทำไม จะเชียร์งั้นเหรอ เพราะได้ยินข่าวราฮีน่ะนะ”
“เชียร์อะไร เพราะนายตกหลุมรักเธอ ฉันก็สันนิษฐานว่าเธอต้องเป็นคนที่โอเค พอได้เจอกัน โกอึนคังก็เป็นคนที่ดีจริงๆ ขอโทษที่ต้องพูดแบบนี้ แต่ถ้าชเวราฮีเป็นความมืด โกอึนคังก็คือแสงสว่าง ถ้าชเวราฮีเป็นหุบเหวที่มืดมิด โกอึนคังก็คือเนินเขาที่มีแสงอาทิตย์สาดส่อง รู้ใช่ไหมว่าฉันหมายความว่ายังไง ฉันล่ะเกลียดชเวราฮีจริงๆ ผู้หญิงคนนั้นในหัวมีแต่แผนการ…”
“อย่าว่าคนที่ไม่อยู่ ฉันไม่ชอบนินทาลับหลัง”
“ยังไงนายต้องห้ามปล่อยโกอึนคังให้หลุดมือไปเด็ดขาด เข้าใจไหม ตัวและหัวใจจงรักภักดีเข้าไว้! ตามติดไปเลยยี่สิบสี่ชั่วโมง ทำยังไงก็ได้ให้คว้าหัวใจเธอมาให้ได้!”
จีฮวันหันไปมองอึนคัง อึนคังที่ร่ำลาหลังรับบัตรเครดิตคืนจากเจ้าของร้านยังคงสดใสร่าเริงไม่เปลี่ยน
ซอกยองเองก็มีตามองคน รู้ว่าอึนคังเป็นคนดี แต่ที่หันมากระตือรือร้นผลักดันความรักของเขา อาจจะเพราะได้เห็นข่าวด้วย กลัวว่าเขาจะสับสนไหม จะหวั่นไหวหรือเปล่า
พวกเขาสนิทสนมกันมาก จีฮวันกำลังสับสนจริงๆ สามีที่ตบตีกับภรรยาของเขา
พรึ่บ ฉากหนึ่งปรากฏขึ้นราวกับรออยู่แล้ว ใบหน้าของราฮีที่ข้างนึงบวมตอนเจอกันที่ศูนย์วีไอพี ที่ฮันนัมดง มือของจีฮวันที่จับพวงมาลัยอยู่ถึงกับสั่นขึ้นมา