ทที่249 เป็นแฟนของคุณ
ตั้งแต่ตื่นเช้าหลินหยางก็ไม่เคยมีความสงบ ทันทีที่ลืมตาขึ้นก็เห็นส้งซูยี่นอนอยู่ข้างขอบเตียงมองไปที่เธอ เขารีบลุกขึ้น มองไปที่เธออย่างเอ๋อๆ
“คุณทำไมนอนได้อย่าง?” สาวน้อยถาม
“ฉันยังอยากถามคุณมาได้ยังไง?” หลินหยางเกาหัวแล้วถาม
ส้งซูยี่เหลือบมองไปที่เป้ากางเกงของเขาแล้วยิ้มพูดว่า:”สัตว์ร้ายตัวใหญ่ตรงนั้นตั้งขึ้นอีกแล้ว อยากจะทำเรื่องเลวร้ายอีกแล้วเหรอ?”
เป็นเพียงแค่ปรากฏการณ์ธรรมชาติเอง แต่ก็อธิบายกับเธอไม่ถูก หลินหยางพูดอย่างโมโหว่า:”ถ้ายังพูดมากจะไม่รักษาอาการของคุณแล้ว ให้คุณอายุเจ็ดขวบทั้งชีวิต!”
“อย่างนั้นก็ดีสิ ฉันไม่อยากฉันไม่อยากโต! ใช่แล้ว วันนี้คุณต้องพาฉันไปเล่น คุณแม่สั่งไว้แล้ว!” สาวน้อยยังเริ่มร้องเพลงขึ้นมา
คำขอร้องของส้งเจียวคงไม่มีคนไม่ให้หน้าเขา หลินหยางถาม:”คุณจะไปเล่นที่ไหน? สวนสนุกหรือสนามเด็กเล่น? สถานที่แบบนี้เหมาะกับคุณมากกว่า!”
“ไม่เอา นั้นคือเด็กสามขวบเล่นกัน ฉันเจ็ดขวบแล้ว! พาฉันไปดูหนังเถอะ!” ส้งซูยี่ยิ้มแล้วพูด
พาคนร่างกายอายุสิบแปดปี มันสมองเจ็ดขวบดูหนังอะไร? หลินหยางใช้สติปัญญาคิดแล้วพักหนึ่ง แต่พอถึงโรงหนังสาวน้อยกลับมีแผนของตัวเองอยู่แล้ว
เธอจ้องไปที่ภาพยนตร์บนโปสเตอร์ขนาดใหญ่แล้วพูดว่า:”ดูอันนี้แหละ!”
เป็นหนังรักระทึกขวัญ เรื่องราวน่าจะน่าดู ไม่รู้สาวน้อยคนนี้จะดูเข้าใจหรือเปล่า? แต่ถ้าเธอชอบก็ตามใจเธอก็แล้วกัน!
หลินหยางหยิบเงินจ่ายค่าตั๋ว แต่สาวน้อยเธอเลือกเบาะที่นั่งที่คู่รักเขานั่งกัน เพราะส้งเจียวบอกเธอเลือกแต่ของแพง ไม่ซื้อของถูก!
ส้งซูยี่ปฏิเสธป๊อปคอร์นซึ่งเป็นสิ่งที่เด็กทุกคนชอบ ดึงหลินหยางเข้าไปที่นั่ง
ข้างหลังมีแต่ที่นั่งว่างเปล่า มีแค่พวกเขาสองคน ดูโฆษณาเป็นเวลานาน ภาพยนตร์เรื่องนี้ถึงเริ่มฉายอย่างเป็นทางการ
เรื่องราวยังพอได้ ฉากเปิดอย่างเรียบง่าย พระเอกนางเอกเสียงดังทะเลาะว่าจะเลิกกัน แล้วกลับมาถึงช่วงเวลาที่สองคนพบกัน
ที่จริงหลินหยางนึกว่าส้งซูยี่ไม่น่าสนใจสิ่งเหล่านี้ แต่สาวน้อยจ้องมองอย่างตั้งใจ เธอยังถามคำถามแปลกๆเป็นครั้งคราว อย่างเช่นทำไมพระเอกชอบจับหน้าอกของนางเอก เขาสองคนทำไมชอบกัดกันอะไรคำถามประมาณนี้
“คำถามเหล่านี้ไม่ใช่เด็กอย่างคุณควรรู้!” หลินหยางทำหน้าเคร่งบอก
“นี่ก็เป็นเกมเหรอ? พวกเราเล่นกันเถอะ?” ส้งซูยี่ถามอย่างตาโต
หลิงหยางจ้องเธอสักพัก:”ไม่ดูหนังเราก็กลับกันเถอะ!”
สาวน้อยตัวเล็กทำหน้าเหมือนซาลาเปาหันหัวไปมองจอใหญ่ ในขณะนี้พระเอกและนางเอกกำลังหลงใหลความสัมผัสที่โหดหา ฉากเลนส์สวยมาก ร่างเปลือยเปล่าสองร่างพันกัน
หัวใจของหลินหยางเต้นเร็วขึ้น กำลังคิดอยู่ว่าตอนนี้สเกลใหญ่ขนาดนี้เลยหรือ ชาววิทยุและโทรทัศน์ได้รับส่วนลดกลับเท่าไหร่!
แอบมองไปแว๊บ สาวน้อยเฝ้าดูอย่างเข้าใจ หลินหยางถอนหายใจด้วยความโล่งอก แต่ไม่ได้คาดคิดว่ามือเล็กๆคู่หนึ่งจะสัมผัสมา จับปืนกระสุนเหล็กเล็กที่แข็งตัวอย่างแม่นยำ
หลินหยางเกือบร้องออกมา สาวน้อยกล่าวด้วยปากที่โค้งงอเล็กน้อย:”เกมนี้ฉันเคยเห็นคุณกับพี่อันเล่น ที่แท้พวกคุณก็คือแฟนกัน!”
ไม่คิดว่าไม่เจอกันหลายวัน สาวน้อยรู้เรื่องเยอะขนาดนี้ ดูเหมือนว่าแม้จะจิตตก แต่สมองก็ไม่ได้แย่และค่อยๆเติบโตขึ้น
หลินหยางใช้เสียงต่ำพูด:”ใครให้คุณจับ รีบปล่อยมือ ไม่งั้นฉันจะไม่พาคุณออกมาเล่นอีก!”
วิธีนี้ไม่ได้ผลเลย สาวน้อยตัวเล็กยังคงยิ้มพูดว่า:”ฉันอยากเล่นเกมนั้นเหมือนกัน ให้ฉันเป็นแฟนของคุณ!”
“เล่นบ้าอะไรแบบนี้ รอเมื่อคุณอายุสิบแปดปีแล้วค่อยมาพูด!” หลินหยางอาการสั่นข้างในว่า
“ฉันอายุสิบแปดปีแล้ว! ตอนนี้ฉันป่วยอยู่ ฉันจำเรื่องได้แค่ตอนอายุเจ็ดขวบ แต่ฉันรู้ว่าฉันอายุสิบแปดแล้ว!” ส้งซูยี่บอก
ใจของหลินหยางตะลึงสักพัก สาวคนนี้ไปรู้มาเมื่อไหร่เข้าใจได้ถึงขนาดนี้ อย่างไรก็ตามน้ำเสียงที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะและการแสดงออกที่ไม่โอ้อวดนี้ยังคงบอกเขา อาการของเธอยังคงซับซ้อน แต่ก็ยังจำสิ่งต่างๆหลังอายุเจ็ดขวบไม่ได้
ตอนนี้ส้งซูยี่เข้าใจสถานการณ์ของตัวเองอย่างชัดเจน หลินหยางยิ้มอย่างทำตัวไม่ถูกพูดว่า:”ไหนๆก็เข้าใจหมดแล้ว งั้นก็ดูหนังต่อ รอฉันรักษาคุณให้หาย ดีหรือไม่?”
“งั้นรอคุณรักษาฉันเสร็จ ฉันค่อยเป็นแฟนของคุณดีหรือไม่!” สายตาของส้งซูยี่ใสแป๋ว
หลินหยางตกใจ แต่เขาไม่กล้าที่จะยอมรับแรงกระตุ้นเช่นนี้ นี่เป็นเพียงการใช้ประโยชน์จากอันตราย
เมื่อตอนที่ส้งซูยี่ประสบอุบัติเหตุ หลินหยางเป็นคนช่วยชีวิตเพียงคนเดียวของเธอ เขารู้ว่านี่คือเหตุผลที่ทำให้เธอผูกพัน
“รอคุณรักษาหายแล้ว คุณก็สามารถกลับบ้านได้ ฉันมีแฟนหลายคน คุณต่อแถวก็ต่อไม่เข้ามา!” หลินหยางกล่าวอย่างปากอย่างใจอย่าง
ส้งซูยี่ฟังจบ น้ำตาก็ไหลออกมา แรงที่มือก็แกร่งขึ้น หลินหยางเจ็บจนเกือบร้องออกมา
“คุณเป็นคนร้าย ฉันไม่ชอบคุณแล้ว! คุณมันเป็นไอ้สารเลว!” สาวน้อยน้ำตาไหลอย่างไม่หยุด
หลายคนหันกลับมามองพวกเขา หลินหยางรีบกอดเธอและปลอบโยน: “ฉันผิดแล้ว ฉันผิดแล้ว!”
“แล้วที่คุณบอกว่าอยากให้ฉันเป็นแฟนของคุณ!” สาวน้อยโกรธจนกลายเป็นใบหน้าซาลาเปา
หลินหยางพูดอย่างไม่รู้จะทำอย่างไร:”รอฉันรักษาคุณได้แล้ว คุณก็คือแฟนตัวน้อยของฉันตอนนี้คุณพอใจแล้วหรือยัง!”
ส้งซูยี่หัวเราะออกมา พร้อมกับพิงไหล่ของหลินหยาง แล้วมองไปที่หน้าจอขนาดใหญ่ต่อไป
ในภาพยนตร์ เมื่อชายหญิงหลงใหลกันมากที่สุด เสียงและการเคลื่อนไหวของทั้งสองคนก็จะดังขึ้นเรื่อยๆ ส้งซูยี่เคลื่อนไปรอบๆด้วยมือของเธอ ร่างของหลินหยางแน่น ทนต่อความรู้สึกเสียวซ่าน
สาวน้อยตัวเล็กขยับตัวมากขึ้นเรื่อยๆ เธอก็ยื่นมือเข้าไปข้างในจับหลินหยางไว้ไม่อยู่ และในที่สุดปืนใหญ่เหล็กขนาดเล็กก็ตกลงมาที่ฝ่ามือของเธอ
ลูบเบาๆ หลินหยางก็อยากฮัม จุดอ่อนของเขานี้
ถูกพวกผู้หญิงรู้แล้ว
หลินหยางเกาหัว สาวน้อยนี้ตื้อได้มาก แต่ในใจของเธอก็ยังคิดว่านี้เป็นเรื่องที่น่าสนใจ
การเคลื่อนไหวที่นุ่มนวลทำให้หลินหยางเพลิงชั่วร้ายลุกขึ้น เขาจับมือเธอด้วยความรำคาญและกอดเธอไว้ในอ้อมแขนของเขา
หลินหยางกักขังไว้ ส้งซูยี่ก็ไม่คัดค้าน รู้สึกสบายใจมากที่ได้พิงเขาแบบนี้ ภาพยนตร์เรื่องนี้ดำเนินมาถึงจุดสุดยอด พระเอกและนางเอกต่างตามหากัน แต่พวกเขามักจะพลาดกันโดยไม่ตั้งใจ
“ทั้งๆที่อยู่ข้างๆ ทำไมมองไม่เห็นอ่ะ!” ส้งซูยี่มุ่ยปากพูด
“ฉันสอนสำนวนคุณหนึ่งประโยค เรียกว่าใกล้อย่างขอบฟ้า! ความหมายก็คือทั้งๆที่อยู่หน้าสายตา แต่รู้สึกเหมือนอยู่ห่างไกลไม่สามารถสัมผัสได้!” หลินหยางพูดอย่างโอ้อวด
แต่สำนวนคำนี้ไม่เหมาะสมที่จะใช้ในที่นี้ ในใจของพระเอกและนางเอกอยู่ด้วยกันนานแล้ว แต่โชคชะตาแกล้งหยอกทำให้พวกเขาไม่สามารถเจอกัน
สุดท้ายหนังเรื่องนี้ยังคงเหลือพื้นที่ให้ผู้ชมจินตนาการอีกมากมาย ใช้วิธีจบแบบเปิดกว้าง
“ในตอนท้ายพวกเขาหาซึ่งกันและกันเจอมั้ยอ่ะ!”ส้งซูยี่ถาม
“ฉันคิดว่าคงหากันเจอแล้วแหละ ตอนจบร่มทั้งสองอันใส่ด้วยกันแล้ว!” หลินหยางทายว่า
ด้วยความพึงพอใจ ส้งซูยี่จูงมือของสาวน้อยออกจากโรงหนัง
ทันทีที่ขึ้นรถ เธอก็ไปติดกับหลินหยางแล้วพูดว่า:”คุณรีบรักษาฉันหายโดยเร็ว ฉันจะเป็นแฟนให้คุณ!”
“งั้นคุณต้องเชื่อฟัง อย่าวิ่งไปเรื่อย เพียงแค่ร่วมมือกับการรักษาของฉัน!” หลินหยางยิ้มแล้วพูด
“เราสัญญากันแล้วนะ!” สาวน้อยบอก
หลายปีแล้วที่ไม่ได้เล่นเกมส์นี้ ความไร้เดียงสาของเด็กได้กระตุ้นขึ้นมา หลินหยางยื่นนิ้วก้อยออกไปเพื่อทำสัญญากับเธอ
ช่วงเวลาที่อบอุ่น ถูกเสียงโทรศัพท์ขัดจังหวะ สายโทรมาจากเถียนเสี่ยวเสี่ยว
“พี่ใหญ่ คุณอยู่ไหน?” เถียนเสี่ยวเสี่ยวถามอย่างฉะฉาน
“อยู่เป็นเพื่อนเด็ก!” หลินหยางมองส้งซูยี่แล้วพูด
เถียนเสี่ยวเสี่ยวพูดอย่างหดหู่:”แล้วทำไมไม่มาหาฉัน!”
“เสี่ยวชัยหงต้องการเพื่อนคนใหม่ไหม อายุเท่าคุณ!” หลินหยางคิดในใจแล้วพูดว่า
ส้งซูยี่ไม่มีเพื่อนเลย เมื่อได้ยินว่าอายุพอๆกับตัวเอง สติมาทันทีแล้วพยักหน้า หลินหยางเหยียบตัวเร่งตรงไปที่บ้านของเถียนเสี่ยวเสี่ยว แต่ถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยบังคับหยุดรอที่หน้าประตู
ในที่สุดพวกเขาก็รอจนถึงเถียนเสี่ยวเสี่ยว ก่อนที่พวกเขาจะถูกปล่อยเข้าไป
“ทำไมนานขนาดนี้?” หลินหยางถาม
“ฉัน…เก็บข้าวของแล้วสักพัก!” สาวน้อยกล่าวอย่างเขินอาย
บ้านคงพังอีกแล้ว หลินหยแนะนำ:”สาวงามคนนี้ชื่อว่าส้งซูยี่ เธอดูอายุสิบแปดปีในปีนี้ แต่ในใจเธออายุเจ็ดขวบ!”
“เจ็ดขวบ?” เถียนเสี่ยวเสี่ยวถามอย่างมึนงง
“สมองของฉันโดนชน ความจำเสื่อม จำได้แค่เรื่องราวตอนเจ็ดขวบ!” ส้งซูยี่หน้ามุ่ยแล้วพูด
คิดว่าที่แนะนำคือเด็กน้อยอายุเจ็ดขวบ คิดไม่ถึงว่าเป็นพี่สาวที่อายุสิบเป็ดปี! ส้งซูยี่เก็บอาการไม่อยู่ บนใบหน้ามีสีหน้าที่ไม่พอใจ
“คุณรังแกเธอเหรอ?” เถียนเสี่ยวเสี่ยวถาม
คาดดาวว่าคุณก็มีอายุเจ็ดขวบ แต่ผลออกมาคือสาวใหญ่! ” หลินหยางพูดอย่างละอายว่า
แผนการของหลินหยางวันนี้ คือพาส้งซูยี่พักผ่อนเพื่อที่เธอจะได้ร่วมมือกับการรักษาในภายหลัง ไม่คาดคิดว่าผู้หญิงคนนี้จะรับใช้ยากขนาดนี้ เธอคิดสงสัยว่าเถียนเสี่ยวเสี่ยวกับเธอมีวิธีไหนสื่อสารได้อย่างไร
เขาคิดผิดแล้ว เด็กเจ็ดขวบจะมีความสัมพันธ์กับสาวอายุสิบแปดได้อย่างไร ถึงบ้านของเถียนเสี่ยวเสี่ยว เขาเปิดคอมพิวเตอร์ให้ส้งซูยี่ ปล่อยให้เขาเล่นตามสบาย จากนั้นก็ลากหลินหยางไป
หลินหยางยังไม่เข้าใจว่าจะทำไร เถียนเสี่ยวเสี่ยวก็กระโดดขึ้นไป ใช้แรงจูบเขาไว้
“พี่ใหญ่ คุณร้ายมาก เล่นกับเด็กไม่เล่นฉัน!” เถียนเสี่ยวเสี่ยวบ่น
“ฉันเล่นกับเด็กที่ไหน เธอคือคนไข้ของฉัน ตอนนี้ฉันกำลังคิดหาวิธีแก้ปัญหานี้” หลินหยางอธิบาย
เถียนเสี่ยวเสี่ยวทำหน้ามุ่ยและพูดว่า:”ไม่สน คุณต้องชดเชยให้ฉัน!”
ผู้หญิงไม่มีเหตุผล สื่อสารไม่ได้เลย หลินหยางเรียกส้งซูยี่มาเพราะกลัวว่าจะเอะอะ แล้วอุ้มเธอเข้าไปในห้องนอนเล็กชั้นบน
“ชดเชยคุณยังไง?” หลินหยางถาม
นอนบนหลังของเขา เถียนเสี่ยวเสี่ยวพูด:”ฉันอยาก…..อันนั้นแล้ว!”
“อันไหน?” หลินหยางถาม
อึกๆอะๆแล้วสักครู่ เถียนเสี่ยวเสี่ยวขยิบตาเหมือนสายใยว่า:”ก็เหมือนกับครั้งนั้น ที่อยู่ในอ่างอาบน้ำนั้น…..”
หลินหยางใจสั่นแว๊บ เป็นไปได้ไหมที่สาวคนนี้กลายเป็นกินไขกระดูกและรู้รส?
เขาคาดเดาไม่ผิดเลยสักนิด ตั้งแต่ที่ได้เยียวยาเย้ายวนครั้งนั้นเด็กผู้หญิงคนนี้รู้ว่าอะไรคือสิ่งที่ยอดเยี่ยมที่สุด
“กลางวันแสกๆ!” หลินหยางกล่าวด้วยรอยยิ้ม
เถียนเสี่ยวเสี่ยวไม่สนว่าจะเป็นกลางวันหรือกลางคืน กระโดดลงจากหลังของเขา ผลักเขาไปตรงเตียง
สาวน้อยกระวนกระวายเล็กน้อย ดึงสลิงเล็กๆของตัวเองออกเป็นสองหรือสองชิ้น เผยให้เห็นสาวน้อยที่ถูกบีบออกจากฝาครอบ
หลินหยางจ้องมองที่มันอย่างน่าหลงใหล เถียนเสี่ยวเสี่ยงบ่น:”รังเกียจที่ฉันยังเล็กใช่หรือไม่?”
“ฉันสามารถช่วยคุณทำให้มันใหญ่ได้” หลินหยางพูดแล้วยิ้ม
“จริงเหรอ? คุณยังมีความสามารถนี้?” เถียวเสี่ยวเสี่ยวถามอย่างตื่นเต้น
หลินหยางโม้ว่า:”ฉันเป็นหมอ อีกอย่างด้านนี้ฉันมีความสามารถพิเศษ
แต่เถียนเสี่ยวเสี่ยวคิดว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้ไม่ใช่เรื่องนี้ ลำดับความสำคัญของเรื่อง ทำสิ่งที่อยากทำก่อน!
ใช้แรงผลัก หลินหยางล้มลงบนเตียงหลังใหญ่อย่างเชื่อฟัง