ซูเปอร์หมอเข็ม / หมอเข็มยอดฝีมือ(NC25+) – บทที่278 แยกแยะได้ยาก

บทที่278 แยกแยะได้ยาก

จางเยว่เดินตรงเข้ามา เขาไม่ได้สนใจหลินหยาง แต่กลับหันไปพูดกับส้งซูยี่ก่อนว่า “เกิดอะไรขึ้น คุณช่วยอธิบายให้ชัดเจนก่อนคะ”

ส้งซูยี่ยืนอยู่ที่หน้าบันได เธอยังคงโมโหอบย่างสุดขีด กัดฟันแล้วพูดด้วยสีหน้าที่โกรธเกลียดว่า “ฉันจะฟ้องเขา เขาฉวยโอกาสตอนที่ฉันหลับพรากความบริสุทธิ์ไปจากฉัน!”

ส้งซูยี่พูดออกมาอย่างกำกวม แต่ทุกคนที่อยู่ที่นั่นต่างก็เข้าใจความหมายที่เธอต้องการจะสื่อ ทันใดนั้น การตอบสนองของทุกคนก็แรงกว่าเมื่อกี้ แล้วพากันจ้องเขม็งไปที่หลินหยางด้วยสีหน้าที่แตกต่างกันออกไป

ตอนนี้หลินหยางรู้สึกไม่เหมือนโดนเข็มทิ่มแทงแล้ว แต่เหมือนกำลังถูกธนูนับหมื่นยิงใส่หัวใจต่างหาก

ไม่เสียแรงที่วันนี้จางเยว่ได้เป็นตำรวจ เธอคือคนแรกที่ตั้งสติได้ก่อน จากนั้นก็หรี่ตามองไปที่หลินหยาง แล้วถามไปว่า “ที่เธอพูดมาเป็นเรื่องจริงรึเปล่า?”

หลินหยางจะกล้ายอมรับไปยังไง อีกอย่างเขาเองก็ไม่เคยทำเรื่องแบบนั้นมาก่อนจริงๆ นี่ เขาจึงรีบส่ายหน้า “ไม่จริงครับ ไม่จริง”

“เขากำลังโกหก เขาต้องทำเรื่องแบบนั้นกับฉันแล้วแน่ๆ ! ไม่อย่างนั้น ไม่อย่างนั้นทำไมฉันถึง……”

เห็นได้ชัดว่าส้งซูยี่ลำบากใจที่จะพูดออกมา เดิมทีเธอตั้งจะจะพูดว่าตอนที่ตื่นขึ้นมา เสื้อผ้าบนร่างกายก็ได้หายไปแล้วและหลินหยางก็อยู่ในสภาพเดียวกัน นอนโป๊เปลือยอยู่ข้างๆ เธอ แล้วจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยได้ยังไง!

เมื่อเด็กสาวมาเจอกับเหตุการณ์แบบนี้ ไม่ว่าใครก็ต้องเข้าใจว่าตัวเองได้ถูกล่วงเกินไปแล้วแน่นอน การที่ส้งซูยี่จะเชื่อว่าหลินหยางได้ทำมิดีกับเธอไปแล้วมันก็เป็นเรื่องที่ดูมีเหตุผลดี แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ เธอจำเรื่องที่สติปัญญาของตัวเองถดถอยไม่ได้เลยแม้แต่นิดเดียว นอกจากจะให้คิดไปทางนั้น เธอก็นึกถึงความเป็นไปได้อื่นไม่ออกเลย

“บอกมาเดี๋ยวนี้!” จางเยว่จ้องมาที่หลินหยางอีกครั้ง จิตสังหารพุ่งออกมาจากสายตาของเขาอีกครั้ง เห็นได้ชัดว่าเธอเชื่อส้งซูยี่มากกว่านิดหนึ่ง ยังไงซะ หลินหยางก็เป็นคนที่สามารถทำให้ผู้หญิงหลงใหลอย่างมากมาย ใครๆ ก็รู้ว่าเขาทำอะไรกับคนอื่นบ้าง

หลินหยางพูดดีวยสีหน้าที่ขมขื่นว่า “จะให้ผมพูดอะไรครับ? ผมไม่ได้ทำเรื่องแบบนั้นกับเธอจริงๆ ถ้าไม่เชื่อคุณก็ลองตรวจดูได้เลย!”

พูดจบ หลินหยางก็หันไปพูดกับส้งเจียวว่า “นี่พี่เจียว คุณเป็นแม่ของเธอ คุณช่วยอธิบายแทนผมทีครับ”

พอส้งเจียวได้ยินแบบนั้น ถึงแม้จะมองหลินหยางด้วยสีหน้าที่ดูแปลกๆ แต่เธอก็ยังเลือกที่จะเชื่อใจเขายังไงเรื่องที่ส้งซูยี่ฟื้นคืนสติมาก็เป็นเรื่องที่ปฏิเสธไม่ได้ จากจุดนี้ อย่างน้อยๆ หลินหยางก็ได้ช่วยรักษาให้ส้งซูยี่จริงๆ ส่วนเรื่องที่เขาได้ทำเรื่องอย่างอื่นรึเปล่านั้น ค่อยไปว่ากันทีหลังก็ได้

“ซูยี่ หลินหยางเขาเป็นหมอ แม่เชื่อว่าเขาแค่ช่วยรักษาให้ลูกเท่านั้น”

“แม่หุบปากไปเลย หนูไม่อยากฟังคำพูดของแม่!”

สิ่งที่ทุกคนคิดไม่ถึงก็คือ ทันทีที่ส้งเจียวพูดจบ ส้งซูยี่ก็ตวาดออกมาเสียงดัง ด้วยความรู้สึกโกรธซะยิ่งกว่าตอนที่กล่าวหาหลินหยางด้วยซ้ำ

หลินหยางรู้สึกตกใจ เขาขมวดคิ้ว ผู้หญิงสองคนนี้เป็นแม่ลูกกันไม่ใช่เหรอ ทำไมพอคนเป็นลูกตื่นขึ้นมาถึงได้พูดจาแบบนี้กับคนเป็นแม่นะ? หรือว่าสองคนนี้อาจจะมีเรื่องผิดใจกันอยู่แล้ว?

ต่อหน้าทุกคน การที่ถูกลูกสาวตะคอกใส่แบบนี้ ส้งเจียวก็ถึงกับหน้าเสีย เห็นได้ชัดว่าเธอกำลังอับอายและเสียใจ เธอหัวเราะออกมาอย่างไม่มีเสียง จากนั้นก็ทิ้งตัวลงบนโซฟา นั่งนิ่งอยู่กับที่ ราวกับไม่มีแรงจะพูดอะไรอีกแล้ว

“ที่สำคัญคือ หนูไม่ได้ป่วยเลยด้วยซ้ำ!” ส้งซูยี่เหลือบมองส้งเจียว ด้วยสายตาที่ซับซ้อน แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ จากนั้นเธอก็พุ่งเป้ามาที่หลินหยางอีกครั้ง

ฉีเยนเอ๋อร์กับซินเสี่ยวลื่อทนดูต่อไปไม่ไหวแล้วเหมือนกัน ถึงพวกเธอจะเห็นหลินหยางกับส้วซูยี่นอนอยู่บนเตียงด้วยร่างกายที่เปลือยเปล่าด้วยตาตัวเองจริงแต่พวกเธอก็ไม่ใช่ตัวอิจฉาที่ไม่มีสมอง แค่คิดดูก็รู้แล้วว่าหลินหยางทำอะไรไปบาง

แต่พวกเธอก็คาดว่าหลินหยางนั้นบริสุทธิ์ นอกจากสติปัญญาของส้งซูยี่จะกลับมาเป็นปกติแล้ว ยังมีอีกข้อสังเกตที่สำคัญคือ ตามหลักแล้ว ว่าด้วยเรื่องการออกกำลังกายบนเตียงของหลินหยางนั้น ต่อให้เขาทำอะไรส้งซูยี่ไปแล้วจริงๆ หลินหยางก็ไม่มีทางเหนื่อยจนมีสาระรูปแบบนั้นแน่นอน

“เสี่ยวชัยหง เราสองคนเป็นพยานได้ หลินหยางไม่ได้ทำเรื่องอย่างนั้นกับคุณจริงๆ ”

พอส้งซูยี่ได้ยินแบบนั้น เธอก็ขำออกมาอย่างไม่ชอบใจ มองหน้าสองสาวแล้วพูดไปว่า “พวกคุณก็ต้องพูดเข้าข้างเขาอยู่แล้วสิ พวกคุณคิดว่าฉันไม่เห็นรึไง? ตอนที่พวกคุณยืนอยู่หน้าประตู พวกคุณเองก็โป๊เปลือยเหมือนกับเขาเหมือนกันพวกคุณต้องมีความสัมพันธ์ที่ไม่ปกติกับเขา ไม่แน่อาจจะเป็นพวกสมรู้ร่วมคิดกับเขาด้วยก็ได้!”

หลังคำพูดนี้จบลง หญิงสาวทั้งสองก็หน้าแดงขึ้นมาทันที จนอยากจะวิ่งหนีไป ณ ตรงนั้นเลย แต่หลินหยางกลับยิ้มมุมปาก รู้สึกเหมือนกับว่าจะแก้ตัวยังไงก็ไม่มีประโยชน์แล้ว

จางเยว่ถลึงตาใส่หลินหยาง ในใจรู้สึกโกรธมาก แต่สาเหตุที่เธอโกรธคือ ทั้งๆ ที่หลินหยางบอกกับตัวเองว่าจะเก็บตัวหลายวัน แต่กลับไปสุขสมกับฉีเยนเอ๋อร์และซินเสี่ยวลื่อซะได้ หรือไอ้หมอนี่กำลังหลอกเธออยู่อย่างนั้นเหรอ รังเกียจที่ตัวเองแกแล้ว เลยเต็มใจที่จะไปสนุกกลับสาวๆ ที่เด็กกว่าสินะ? ถึงแม้ว่าจะกำลังโกรธ แต่เธอก็ยังมีสติอยู่ เธอรู้ดีว่าหลินหยางเป็นคนยังไง ผู้หญิงที่อยู่กับหลินหยางนั้นมีมากจนนับไม่ถ้วน ไม่จำเป็นที่ต้องบังคับคนอื่นให้ทำแบบนั้นเลย ดังนั้นเรื่องนี้น่าจะเป็นเรื่องที่เข้าใจผิดกัน

หลังคิดได้สักพัก จางเยว่ก็หันไปพูดกับส้งซูยี่ว่า “คุณมีอะไรมายืนยันว่าถูกเขาล่วงเกินรึเปล่าคะ?”

ส้งซูยี่เงียบไปชั่วขณะ ก่อนจะกัดฟันพูดออกมาว่า “เขาถูกฉันจับได้คาหนังคาเขา ยังต้องการหลักฐานอะไรอีกเหรอคะ?”

จางเยว่ส่ายหน้า แล้วพูดไปว่า “มันเป็นแค่คำให้การเพียงฝ่ายเดียวของคุณเท่านั้น ที่สำคัญ เขาเองก็มีสิทธิ์ที่จะปฏิเสธและมีคนเป็นพยานให้เขาด้วย ถ้าคุณไม่มีหลักฐานมายืนยัน เกรงว่าฉันจะไม่สามารถจับเขาไปได้”

หลินหยางจ้องมองจางเยว่ด้วยความตื้นตัน เขาพูดในใจว่าคุณไม่ได้เป็นตำแต่ในนามจริงๆ อย่างน้อยก็ยังมีความเที่ยงธรรมอยู่บ้าง

“ฉะ ฉันนี่แหละคือหลักฐาน คุณสามารถตรวจดูได้ บนร่างกายของฉัน จะต้องมีหลักฐานหลงเหลืออยู่แน่นอน!” ส้งซูยี่ยังไม่ยอมแพ้

จางเยว่พูดด้วยสีหน้าที่ประหลาด “คุณแน่ใจนะว่าจะให้ตรวจ?”

“ถูกต้อง! ตรวจเลยค่ะ ฉันไม่มีทางปล่อยเขาลอยนวลไปได้แน่นอน!”

จางเยว่กลับขำออกมา จากนั้นก็ชี้ไปที่หลินหยาง “เขาเป็นหมอที่เก่งมากๆ คนหนึ่ง ถ้าคุณคิดจะตรวจจริงๆ ละก็ เขามีความชำนาญมากกว่าฉัน คุณจะเห็นด้วยรึเปล่า?”

ส้วงซูเยี่อึ้งไปเลย อย่าว่าแต่เธอเลย แม้แต่หลินหยางเองยังไม่คิดว่าจางเยว่จะพูดแบบนั้นเลย

ไม่ได้ล้อกันเล่นใช่มั้ย? ตอนนี้ส้งซูยี่กำลังกล่าวหาว่าฉันไปล่วงละเมิดทางเพศเธอนะ แต่เธอจางเยว่กลับให้ฉันที่เป็นผู้ต้องสงสัยไปตรวจร่างกายให้เธอเนี่ยนะ วิธีนี้มันเข้าท่ามั้ยเนี่ย?

หลินหยางยื่นอึ้ง แต่ก็ยังมองไปที่จางเยว่ แล้วก็ได้เห็นว่าเธอกำลังกะพริบตาให้ตัวเองอยู่ ทันใดนั้นสายตาของเขาก็เป็นประกาย และเข้าใจความตั้งใจของจางเยว่สักที จากนั้นก็แอบยกนิ้วโป้งให้จางเยว่

ส้งซูยี่เริ่มร้อนรนขึ้นมา “คะ คุณพูดบ้าอะไร? ฉันจะไปยอมให้เขาตรวจได้ยังไง!?”

จางเยว่พูดออกมาอย่างจนใจ “ถ้าคุณไม่ยอม งั้นก็ไม่มีทางเลือกเพราะฉันได้เสนอทางเลือกที่ดีที่สุดไปแล้ว”

“คุณแค่ส่งฉันไปที่โรงพยาบาล พอได้ตรวจที่โรงพยาบาลทุกอย่างก็จะกระจ่างแล้วนี่!”

จางเยว่อยากจะบอกกับส้งซูยี่ว่า รอให้ฉันส่งเธอไปถึงโรงพยาบาล ต่อให้มีหลักฐานมันก็ไม่ทันการณ์แล้ว ถ้าหลินหยางไม่ได้ทำอะไรเธอจริง แบบนั้นในร่างกายของเธอก็จะไม่มีหลักฐานอะไร และต่อให้เขาแตะต้องตัวเธอจริง ในทางหนึ่ง มันก็ไม่ถือว่าเป็นความผิดที่ร้ายแรงอะไร ในอีกทางหนึ่ง รอยนิ้วมือและพวกร่องรอยอะไรพวกนั้น ก็ต้องถูกเธอทำลายไปแล้วแน่นอน

ทว่า จางเสว่ยังไม่ทันได้พูดออกมา หลินหยางก็ชิงพูดขึ้นก่อนว่า “คุณส่งเธอไปเถอะครับ ไม่อย่างนั้นเธอก็ไม่ยอมเลิกราหรอกครับ”

ส้งซูยี่ทำเสียงฮึดฮัดแล้วพูดมาว่า “” หึ! ทำมาเป็นมีเหตุมีผล แต่แกจะต้องเสียใจที่ตัดสินใจแบบนั้น!”

หลินหยางถอนหายใจ แล้วยิ้มออกมาอย่างขมขื่น “ผมรู้สึกเสียใจจริงๆ ที่รักษาคุณจนหาย เป็นเด็กไร้เดียงสามันดีจะตายไป!”

จากนั้นก็ไม่มีใครพูดอะไรต่อ จางเยว่ทำตามที่หลินหยางบอก โดยการพาส้งซูยี่ไปส่งที่โรงพยาบาล

ฉีเยนเอ๋อร์กับซินเสี่ยวลื่อก็จับมือกันขึ้นไปเม้าท์มอยกันที่ชั้นบน ในสายตาของพวกเธอ เรื่องนี้มันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลย

ในห้องรับแขกจึงเหลือแค่หลินหยางกับส้งเจียวเท่านั้น

“พี่เจียว พี่ไม่ตามไปดูเสี่ยวชัยหงเหรอครับ?” ส้งซูยี่ไม่อยู่หลิน หยางก็ยังคุ้นชินกับการเรียกเธอว่าเสี่ยวชัยหงอยู่เหมือนเคย ที่สำคัญ เสี่ยวชัยหงมันเรียกง่ายกว่าส้งซูยี่สามพยางค์นั้นตั้งเยอะ

ส้งเจียวเหมือนจะเหม่อลอยอยู่พักหนึ่ง แม้แต่ตอนที่ส้งซูยี่ออกไปกับจางเยว่เธอยังไม่ได้แสดงท่าทีอะไรออกมาเลย

นี้ส้งเจียวถึงค่อยๆ ตั้งสติได้ สีหน้าเต็มไปด้วยความทุกข์ที่ไม่อาจระบายได้ เธอนั่งตัวลงที่พนักพิงของโซฟา พร้อมกับส่ายหน้าอย่างทุกข์ระทม “ไม่ละ คุณเองก็น่าจะเห็นหมดแล้วนี่ ว่าเธอไม่อยากให้ฉันเข้าใกล้”

แน่นอนว่าหลินหยางต้องสังเกตเห็นอยู่แล้ว เขาถึงได้ถามเธอในตอนที่ไม่มีคนอื่นนี่ไง

หลินหยางถามต่อว่า “พี่เจียว ระหว่างคุณกับเสี่ยวชัยหงมีปัญหากันอยู่เหรอครับ?”

ส้งเจียวยิ้มออกมาอย่างขมขื่น “ก็คงใช่แหละมั้ง แต่ฉันไม่นึกไม่ถึงเลย ตอนนี้มันได้ผ่านไปได้สักพักแล้ว แล้วเธอยังต้องมาพบเจอกับการเปลี่ยนแปลงที่ไม่คาดคิดแบบนี้อีก แต่ก็ยังปล่อยวางไม่ได้ จนดูเหมือนว่าจะต่อด้านฉันยิ่งกว่าเดิมอีก”

หลินหยางได้ยินอย่างนั้น เขาก็ทั้งเซ็งทั้งงง ตกลงสองแม่ลูกนี้เป็นอะไรกันแน่? ฟังจากน้ำเสียงของส้งเจียว เรื่องนั้นคงแก้ไขไม่ได้ง่ายๆ แล้วเหรอ?

หลินหยางอยากถามให้ชัดเจน แต่ส้งเจียวกลับยืนขึ้นมาก่อน แล้วพูดมาว่า “หลินหยาง ฉันยังมีงานที่บริษัท ต้องกลับไปแล้ว”

หลังจากที่นิ่งไปแป๊บหนึ่ง ส้งเจียวก็จ้องเขม็งมาที่หลินหยาง แล้วเธอก็พูดขึ้นว่า “ฉันเชื่อว่าคุณไม่ได้ทำอะไรที่ล่วงเกินลูกสาวฉัน เรื่องทั้งหมดนี้เป็นแค่ความคิดที่เกิดจากความหวาดระแวงเท่านั้น”

หลินหยางพยักหน้า “ไม่นานเธอก็จะเข้าใจเองครับ”

ส้งเจียฝืนยิ้มออกมา แล้วพูดออกมาว่า “อีกอย่าง ยังไงฉันก็ต้องขอบคุณคุณอยู่ดี ที่รักษาเธอจนหาย พอเห็นเธอหายดีแล้ว คนที่มีความสุขที่สุดก็หนีไม่พ้นคนเป็นแม่อย่างฉัน ไม่ว่าเธอจะทำตัวยังไงกับฉัน ขอแค่เธอมีชีวิตที่ดี ฉันก็พอใจแล้วค่ะ”

“แต่ก่อนหน้านี้ฉันก็เคยพูดไว้ ว่าเธอยังคงต่อต้านฉันเพราะเหตุผลบางอย่าง ดังนั้น ฉันทำได้แค่ขอร้องคุณ ให้เธออยู่ที่นี่ไปก่อน รอจนเธอหายโกรธฉันแล้ว ฉันก็จะมารับเธอกลับบ้าน ได้มั้ยคะ?”

หลินหยางไม่มีปัญหาอยู่แล้ว แต่เขาก็ยังยิ้มออกมาอย่างขมขื่น “ผมกลัวแค่เธอจะไม่ชอบใจเท่านั้น คุณไม่เห็นความเกลียดที่เธอแสดงต่อผมรึไง คิดว่าผมจะเอาเธออยู่เหรอครับ?”

ส้งเจียวยิ้มออกมาอย่างอ่อนโยน “ฉันเชื่อว่าคุณต้องมีวิธีทำให้เธอใจเย็นลงได้แน่นอนค่ะ โอเค ฉันไปล่ะค่ะ ถ้ามีปัญหาอะไร ก็หาฉันได้ทุกเมื่อ”

ได้ยินแบบนั้น หลินหยางก็ไม่อยากพูดอะไรอีก เขาจึงส่งส้งเจียวไปถึงประตู จากนั้นก็กลับไปที่ห้อง เขาถึงได้ถอนหายใจออกมายาวๆ

หลังจากนั่งสงบอยู่บนโซฟาไปพักหนึ่ง เขาก็หยิบมือถือออกมา โทรหาจางเยว่

“ฮัลโหล ผลตรวจออกมารึยังครับ?” หลินหยางถามไปตรงๆ

จางเยว่ตอบ “กำลังรอผลอยู่ คนชั่ว ช่วยทำตัวให้มันดีๆ หน่อย ตกลงไปทำอะไรกับลูกสาวคนอื่นเขาห๊ะ?”

หลินหยางตอบ “ข้อเท็จจริงมันมีน้ำหนักมากกว่าคำพูด คุณต้องเชื่อมั่นว่าผมนั้นบริสุทธิ์”

“คุณบริสุทธิ์เหรอ ผู้หญิงที่ถูกคุณทำไม่รู้มีตั้งเท่าไหร่แล้ว ถ้าอย่างคุณเรียกว่าบริสุทธิ์ บนโลกใบนี้ยังจะมีผู้ชายดีๆ เหลืออีกเหรอ?”

หลินหยางพูดไปยิ้มไป “คุณคิดดูดีๆ นะครับ ตอนที่เราสองคนคบกัน ผมเป็นฝ่ายที่บังคับขู่เข็ญ หรือคุณเองที่เป็นฝ่ายเชิญชวนอย่างเต็มใจครับ? ความจริง ผมเป็นฝ่ายที่ถูกกระตุ้นตลอดเลยนะครับ!”

“ชิ! หน้าไม่อาย! ไม่พูดกับคุณแล้ว ฉันจะพาเธอไปรับผลตรวจแล้ว”

เดี๋ยวครับ หลังรับผลตรวจแล้ว คุณช่วยพาเธอมาส่งที่นี่ด้วยนะครับ”

“พอแล้ว ไม่ส่งไปที่คุณ แล้วจะให้ส่งไปไหนได้ แค่นี้ค่ะ รอฉันกลับไปค่อยไปจัดการคุณทีหลัง!”

นวนิยายจะได้รับการอัปเดตทุกวัน กลับมาอ่านต่อพรุ่งนี้นะคะทุกคน!

ซูเปอร์หมอเข็ม / หมอเข็มยอดฝีมือ(NC25+)

ซูเปอร์หมอเข็ม / หมอเข็มยอดฝีมือ(NC25+)

Status: Ongoing

หลินหยางได้บทหลงเฟิ่งเจว๋-หนังสือทางการแพทย์ที่สืบทอดจากตระกูล และได้เรียนรู้วิธีรักษาในนั้น วินหนึ่งมีสาวสวยคนหนึ่งมาหาเขาเพื่อจะให้เขารักษาโรคที่ยากจะพูดออกมา เขารักษาให้หายดีแถมยังทำให้รูปร่างของสาวคนนั้นสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น ตั้งแต่นั้นมา สาวๆที่มาหาเขารักษายิ่งเยอะขึ้น…..

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท