เขาสั่งให้ข้าเป็นราชินี [ส่วนที่ 1] – เขาสั่งให้ข้าเป็นราชินี [ส่วนที่ 1] – ตอนที่ 55 – 1 งามตะลึงพรึงเพริดต้าฮวง

เขาสั่งให้ข้าเป็นราชินี [ส่วนที่ 1] - ตอนที่ 55 - 1 งามตะลึงพรึงเพริดต้าฮวง

กงอิ้นนั่งลงแล้ว เหยียลี่ว์ฉียังยืนอยู่

 

 

ตรงข้ามกับกงอิ้น เรือนร่างของเขาเกร็งแน่น ยังคงมองดูทิศทางที่ทหารเยียนซาจากไปอย่างไม่เชื่อสายตา

 

 

มีเพียงเขาที่รู้ว่าทหารเยียนซาเป็นกองทัพอย่างไร แม้ว่าบัดนี้กองทัพกองนี้ยังเชื่อฟังคำบัญชาของตระกูลเหยียลี่ว์ ทว่าความผูกพันทางสายเลือดเพียงน้อยนิดนั้นในยามแรกค่อยๆ เจือจางตามการสืบทอดเชื้อสายในแต่ละรุ่น ยามนี้พลังการควบคุมที่ตระกูลเหยียลี่ว์มีต่อกองทัพกองนี้ย่อมไม่มากเท่ากาลก่อนเนิ่นนานแล้ว

 

 

ฉะนั้นสำหรับสัตว์ร้ายฝูงนี้ เขาคุ้นเคยยิ่งยวดและเตรียมป้องกันยวดยิ่ง ตนเองใคร่ครวญครุ่นคิดว่าภายใต้สถานการณ์เช่นนั้นเมื่อครู่ เขาคงไม่เสี่ยงอันตรายเดินไปยังข้างกายทหารเยียนซาผู้ใดผู้หนึ่ง

 

 

ที่สำคัญยิ่งกว่านั้นคือเขารู้ความหมายที่ท่าทางนั้นแสดงออกมา…

 

 

เหยียลี่ว์ฉีมองจิ่งเหิงปัวตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าอย่างเต็มที่รอบหนึ่งอีกครั้ง คล้ายได้มองนางอย่างชัดเจนเป็นครั้งแรก

 

 

แสงแวววาวในดวงตาของเขาเปล่งประกายระยิบระยับ หลังจากผ่านไปเนิ่นนาน ในที่สุดจึงพ่นลมหายใจยาวเฮือกหนึ่งออกมาแล้วกอดอกนั่งลง

 

 

ในฝูงชน เหล่าศิษย์พี่ศิษย์น้องกลุ่มนั้นเงียบสงบอย่างหาได้ยาก หลังจากผ่านไปเนิ่นนาน อีชีจึงถอนหายใจยาว

 

 

ในเสียงของเขาเปี่ยมด้วยความฉงนสนเท่ห์

 

 

“เหล่าพี่น้อง ดูท่าทางเช่นนี้แล้ว ภายหลังคงไม่มีเรื่องนั้นหรอก…” เขาถามว่า “ตาเฒ่าคำนวณพลาดแล้วใช่หรือไม่”

 

 

 

 

สองมหาราชครูต่างกลับสู่ความสงบเงียบโดยพลัน แม้แต่การทะเลาะวิวาทก่อนหน้านี้ยังคล้ายหลงลืมไปแล้ว

 

 

ผู้คนที่เหลือไร้กะจิตกะใจจะสืบเสาะเช่นกันด้วยเพราะจิ่งเหิงปัวไม่ได้ลงจากเวที นางลากชายกระโปรงขนาดมหึมาของนางเดินไปยังกึ่งกลางเวที

 

 

“ในความเห็นของข้า การโต้เถียงของพวกเจ้าเมื่อครู่ไม่มีความจำเป็นเลยแม้แต่น้อย” ประโยคเดียวของนางสะเทือนฟ้าดิน

 

 

“โอ้” เหยียลี่ว์ฉีนำหน้าไถ่ถามท่ามกลางเสียงแสดงความเห็นอื้ออึง

 

 

“ลงโทษข้า กักบริเวณข้าหรือลอบทำร้ายข้า ควรต้องไถ่ถามความเห็นของข้าก่อนหรือไม่” นางชี้ที่จมูกตนเอง ยิ้มอย่างเกียจคร้าน กล่าวว่า “เคยคิดบ้างหรือไม่ว่าข้าไม่เห็นด้วย”

 

 

ทุกคนหัวเราะครืน

 

 

“หากพระองค์ทรงผ่านการทดสอบในพิธีเฉลิมฉลองรับขบวนเสด็จได้ บางคราพระองค์อาจทรงมีคุณสมบัติจะตรัสวาจาประโยคนี้พ่ะย่ะค่ะ” ขุนนางท่านหนึ่งหัวเราะพลางเอ่ยว่า “ยามนี้หรือ…เหอะๆ”

 

 

ทุกคนหัวเราะเหอะๆ เช่นกัน

 

 

“เหอะๆ น้องสาวเจ้าสิ” จิ่งเหิงปัวแบะปากครั้งหนึ่ง กล่าวว่า “ใช่ ข้าไม่ผ่านการทดสอบของพวกเจ้า ทว่าการทดสอบของพวกเจ้าจักพิสูจน์ความสามารถสารพัดได้หรือ การทดสอบของพวกเจ้าจักทดสอบความสามารถที่แท้จริงของราชินีองค์หนึ่งออกมาได้จริงหรือ”

 

 

“บทกลอนบทกวีร้องระบำทำเพลง กู่ฉินหมากล้อมเขียนพู่กันวาดภาพ วรยุทธการทหาร เศรษฐกิจการเมือง” เซวียนหยวนจิ้งเอ่ย “คำถามที่ครอบคลุมความรู้ความสามารถทั่วโลกหล้าทุกสิ่งอย่าง วันนี้ล้วนได้เคยถามพระองค์รอบหนึ่งแล้ว หรือว่าพระองค์ยังทรงเสนอความสามารถที่เหลือนอกเหนือจากนี้ได้หรือพ่ะย่ะค่ะ”

 

 

“ได้!” จิ่งเหิงปัวเปล่งเสียงตะโกน

 

 

“เหอะๆ! ขอฟังให้ละเอียด!”

 

 

“ข้าถามพวกเจ้าก่อนว่าการเป็นจักรพรรดิควรจะทำเรื่องใดให้ดีก่อน”

 

 

“ปกครองแว่นแคว้น ดูแลการเมืองในราชสำนักให้มั่นคง สร้างสมดุลระหว่างขุนนาง สยบภายนอกสงบภายใน” เซวียนหยวนจิ้งเอ่ยอย่างเย็นชาว่า “แลความสามารถเหล่านี้ต้องการการค้ำจุนจากความสามารถพื้นฐานเหล่านั้นที่ผู้ชราร่ายออกมาเมื่อครู่พ่ะย่ะค่ะ”

 

 

“ปกครองอย่างไร มั่นคงอย่างไร สยบภายนอกหรือสงบภายในอย่างไร”

 

 

“กระหม่อมน่ะเข้าใจ เพียงเกรงว่าหลังจากเอ่ยแล้ว ตำแหน่งจักรพรรดินี้กระหม่อมคงเป็นได้แล้วพ่ะย่ะค่ะ”

 

 

หัวเราะกันครื้นเครงระลอกหนึ่ง ไร้ซึ่งเจตนาดี

 

 

“เสแสร้ง!” จิ่งเหิงปัวหัวเราะเช่นกัน กล่าวว่า “ฝันไปชาติหน้าเถิด! เจ้าเข้าใจอะไรเล่า!”

 

 

“ฝ่าบาททรงนึกว่าถ้อยคำหยาบคายจะทำให้ทรงผ่านด่านไปมั่วซั่วได้หรือ”

 

 

“เอ่ยวาจาระดับใดกับคนระดับนั้น เจ้าคู่ควรเพียงระดับนี้” จิ่งเหิงปัวไม่ถอยสักก้าว กล่าวว่า “ปกครองแว่นแคว้น ดูแลการเมืองในราชสำนักให้มั่นคง นำทหารต้านศัตรู ดูแลขุนนางและราษฎรให้สงบสุข แท้จริงแล้วเอ่ยทะลุปรุโปร่งว่าต้องทำเรื่องหนึ่งให้ได้…”

 

 

นางเพิ่มเสียง กล่าวว่า “ให้ราษฎรกินอิ่มท้อง!”

 

 

เสียงหัวเราะดังก๊ากทั่วทั้งลานกว้างเงียบสงัดคล้ายถูกมีดเฉือนสะบั้น

 

 

“ข้าเอ่ยผิดหรือไม่” จิ่งเหิงปัวบีบคั้นซักถามเซวียนหยวนจิ้งว่า “กินอิ่มท้องแล้วถึงจะมอบธัญพืชจ่ายภาษีได้ กินอิ่มท้องแล้วถึงจะทำให้จิตใจราษฎรมั่นคงได้ กินอิ่มท้องแล้วจะไม่มีความวุ่นวายในแคว้น กินอิ่มท้องแล้วถึงมีกำลังโจมตีผู้อื่น เจ้ากล้าเอ่ยว่ากินอิ่มท้องไม่ใช่เรื่องสำคัญที่สุดหรือ!”

 

 

ทุกคนไร้วาจา จิ่งเหิงปัวใช้คำเข้าใจง่ายทว่าหลักการถูกต้องยิ่งนัก แต่ไหนแต่ไรมาปากท้องของราษฎรล้วนเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ต่อให้ที่แห่งนี้มีตระกูลผู้ดีไม่คิดเช่นนั้นด้วยรู้สึกว่าเกียรติภูมิของตระกูลผู้ดีสำคัญที่สุด การปกครองราชสำนักสำคัญที่สุด ย่อมคงจักไม่เอ่ยวาจาเช่นนี้ออกมาเบื้องหน้าราษฎรนับพันนับหมื่นนี้เป็นแน่

 

 

ราษฎรแถวหน้าได้ยินวาจาประโยคหนึ่งนี้แล้วต่างกระตือรือร้นขึ้นมาโดยพลัน

 

 

“ใช่! กินอิ่มท้องสำคัญที่สุด!”

 

 

“พวกเราจะกินอิ่มท้อง!”

 

 

“ความสามารถนับพันนับหมื่น หากสามารถทำให้พวกเรากินอิ่มท้องได้ย่อมเป็นเจ้านายที่ดี!”

 

 

 

 

“ฝ่าบาททรงหวังจะปลุกเร้าอารมณ์ราษฎรหรือพ่ะย่ะค่ะ” เซวียนหยวนจิ้งเอ่ยอย่างเย็นชาว่า “พระองค์ทรงรู้ได้อย่างไรว่าทั่วทั้งราชสำนักเราไม่เคยพยายามอย่างยิ่งเพื่อให้ราษฎรกินอิ่มท้อง เรื่องนี้เดิมทีเป็นหน้าที่สำคัญอันดับแรกของราชวงศ์ปัจจุบัน ทว่าภูมิศาสตร์ต้าฮวงจำกัดตั้งแต่กำเนิดจักทำอย่างไร แม้ผลิตเพชรพลอยทองคำมากมาย ทว่าทั้งมีลุ่มน้ำพันลี้ ดินแดนทุรกันดาร แผ่นดินที่ธัญญาหารยากจะอุดมสมบูรณ์ ข้าวเปลือกไร้ผืนดินให้เพาะปลูก บึงโคลนส่วนใหญ่ไร้ประโยชน์โดยสิ้นเชิงแลครอบครองที่ดินโดยเสียเปล่า ทั้งแคว้นมีที่ดินที่สามารถเพาะปลูกเพียงหนึ่งถึงสองส่วนในสิบส่วน จะไปปลูกธัญพืชที่ใด จะไปกินอิ่มที่ใด”

 

 

“หากว่า…” จิ่งเหิงปัวยิ้มแย้ม กล่าวว่า “หากว่าข้าทำให้ราษฎรกินอิ่มได้ล่ะ”

 

 

ทั่วทั้งลานกว้างต่างเงียบสงบโดยพลัน

 

 

ราษฎรที่ผิดหวังแยกย้ายไปหยุดฝีก้าวโดยพลัน

 

 

ถ้วยชาในมือกงอิ้นปิดเข้าหากันเพียงครั้ง เงยหน้าฉับพลัน ชาร้อนเกือบจะกระเซ็นโดนมือ

 

 

เหยียลี่ว์ฉีที่ใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวมองทหารเยียนซาโดยตลอดหันกลับมาโดยพลัน

 

 

คนมากกว่านั้นกลับเปล่งเสียงหัวเราะดังก้องออกมาโดยพลัน

 

 

“ฮ่าๆๆ ฮ่าๆ…” เซวียนหยวนจิ้งหัวเราะเสียงดังมองดูรอบทิศทาง เอ่ยว่า “วาจานี้ฟังแล้วคุ้นหูยิ่งนัก!”

 

 

“นั่นสิ” ซังต้งยิ้มแย้มอย่างสุภาพเยือกเย็น เอ่ยว่า “คล้ายว่าราชินีผู้สืบราชสันตติวงศ์ทุกลำดับต่างทรงตั้งปณิธานอันยิ่งใหญ่นี้ ทว่าจนบัดนี้ไร้ผู้สามารถกระทำได้โดยสิ้นเชิง”

 

 

“หรือว่าราชินีองค์ใหม่ของพวกเราอาจจะทรงทำได้เล่า” ยามนี้เฟยหลัวจึงเดินกรีดกรายปรากฏออกมา เม้มปากยิ้มเพียงครั้ง เอ่ยสืบต่อว่า “เช่น ทรงเรียกหาวิหคเทวะล่องหนทิ้งธัญญาหารนับมิถ้วนลงมาอะไรเช่นนั้น”

 

 

เป็นเสียงหัวเราะดังก้องอีกระลอกหนึ่ง

 

 

มหาปราชญ์ที่นั่งโกรธเคืองทำหน้าบึ้งโดยตลอดอยู่อีกฝั่งหนึ่งนั้นลุกขึ้นโดยพลัน ชี้ตรงจมูกจิ่งเหิงปัวพลางตวาดว่า “อย่าหวังนำเรื่องนี้มาล้อเล่น! มิฉะนั้นผู้ชราไม่ปล่อยเจ้าไว้แน่!”

 

 

ทุกคนมองสีหน้าเขียวคล้ำของเขาแล้วต่างผุดเผยสีหน้าเข้าใจแจ่มแจ้ง…ยามนั้นบิดามารดาพี่ชายน้องชายของผู้สูงอายุท่านนี้ล้วนอดอยากสิ้นชีพทั้งเป็นด้วยเพราะภัยแล้งครั้งนั้น วัยเด็กน่าเวทนายิ่งนัก ชั่วชีวิตตั้งปณิธานอันยิ่งใหญ่ไว้ว่าชาตินี้ขอให้ไร้ผู้อดอยากสิ้นชีพอีกแม้แต่เพียงผู้เดียว หากมีผู้สามารถทำได้จะยอมให้ตระกูลตนหลายชั่วคนเป็นข้ารับใช้ผู้นั้น

 

 

ทว่าเอ่ยจนท้ายสุดแล้ว ปณิธานอันยิ่งใหญ่ย่อมเป็นเพียงปณิธานอันยิ่งใหญ่เท่านั้น ในบึงโคลนยากจะปลูกข้าวเปลือกธัญญาหาร มักจะปล่อยน้ำได้ไม่แห้ง อีกทั้งครอบครองพื้นที่ใหญ่เกินไป การฝังกลบเกินควรจะทำให้เกิดน้ำท่วมหรือความแห้งแล้ง แลไม่รู้ว่าเพราะได้รับอิทธิพลจากบึงโคลนมากเกินไปหรือไม่ ที่ดินธรรมดาจำนวนมากปลูกพืชพันธุ์ออกมาได้ไม่มากเท่าใดเช่นกัน นี่เป็นปัญหาแก้ยากไร้วิธีแก้ไขตลอดกาลของต้าฮวง

 

 

“ล้อเล่นอะไร!” จิ่งเหิงปัวที่อารมณ์ดีมาโดยตลอดหน้านิ่วคิ้วขมวดโดยพลัน โบกมือกลางอากาศอย่างรุนแรงครั้งหนึ่ง กล่าวว่า “เอากรงเล็บของเจ้าลงไป พี่รังเกียจการถูกคนชี้จมูกเป็นที่สุด!”

 

 

“หากเจ้าเอ่ยวาจาพิกลพิการอีก จะไม่ใช่เพียงผู้ชราชี้จมูกเจ้า ทว่าทุกคนจะต้องการชีวิตของเจ้า!” มหาปราชญ์โกรธจนคิ้วสีขาวราวหิมะสะท้านสะเทือน เอ่ยว่า “บึงโคลนจะปลูกธัญพืชได้อย่างไร!”

 

 

“ไม่ปลูกธัญพืชแล้วไม่มีวิธีอื่นหรือ สมองตายแล้วหรือ”

 

 

“หลายร้อยปีมานี้ไม่รู้ว่าทุกคนคิดหาวิธีมากมายเพียงใด จักให้เจ้าวิพากษ์วิจารณ์มั่วซั่วในยามนี้อย่างไรกัน!” เจ้าผู้ชราตบบนเก้าอี้ตนเองอย่างรุนแรงครั้งหนึ่ง เอ่ยว่า “อย่าหวังเอ่ยวาจามั่วซั่วเต็มปากในที่แห่งนี้! วันนี้ผู้ชราขอเอ่ยต่อที่แห่งนี้ หากเจ้าแก้ไขธัญพืชแห้งแล้งได้ ผู้ชราจักเป็นข้ารับใช้ของเจ้าชั่วชีวิต กระทำตามคำสั่งของเจ้า หากเจ้าเพียงหลอกลวงราษฎร ผู้ชราไม่สนใจว่าเจ้าเป็นราชินี ขอดาบประหารเจ้าเป็นผู้แรก!”

 

 

“ต้องการตาเฒ่าเช่นเจ้าเป็นข้ารับใช้ทำอะไร พอถึงยามนั้นกลายเป็นว่าเจ้าปรนนิบัติข้าหรือว่าข้าปรนนิบัติเจ้า” จิ่งเหิงปัวพ่นลมออกจมูก กล่าวว่า “ไอ้พวกโง่มันสมองไม่วิวัฒนาการ! ผืนบึงโคลนปลูกธัญพืชผลผลิตไม่ได้ เหตุใดจึงมิอาจปลูกสิ่งอื่น ผู้ใดกำหนดว่าธัญญาหารถึงจะลงท้องได้ ขอเพียงเป็นของกินย่อมป้อนให้ท้องอิ่มได้ มิใช่หรือ”

 

 

พอเอ่ยมาทุกคนเงียบสงัด

 

 

วาจาเดียวสะบั้นเมฆครึ้ม

 

 

ระบบความคิดคือสิ่งแปลกประหลาดอย่างหนึ่ง ยามไม่มีผู้ทำลายมัน ทุกผู้คนต่างพุ่งดิ่งเฮโลไปเบื้องหน้าตามวงโคจรสายนั้น พอมีผู้ทำลายมัน ทุกคนถึงได้ตื่นตะลึง อา ที่แท้ยังมีความคิดอีกแบบหนึ่ง แท้จริงแล้ววิธีคิดอีกแบบหนึ่งง่ายดายเช่นนี้ เหตุใดตนเองในยามแรกจึงคิดไม่ถึง

 

 

บนลานกว้างเงียบสงบโดยพลันแล้ว ไม่ว่าความรู้สึกที่มีต่อราชินีจะเป็นอย่างไร ปากท้องของราษฎรล้วนเป็นปัญหาที่สำคัญที่สุดข้อหนึ่งด้วยเพราะสัมพันธ์กับความมั่นคงของอำนาจการเมือง คนเกือบส่วนหนึ่งเริ่มครุ่นคิด ใบหน้าบางคนผุดเผยสีหน้าฉงนสนเท่ห์ บางคนลุกยืนออกมาโดยตรง

 

 

กงอิ้นมีสีหน้าชื่นชมเล็กน้อย ทว่าไร้ซึ่งสีหน้าประหลาดใจ ประเด็นหนึ่งนี้เขาย่อมคิดได้ตั้งนานแล้ว เพียงแต่รูปร่างลักษณะภูมิประเทศของต้าฮวงถูกจำกัด เกษตรกรรมไม่พัฒนา การทดลองเพาะปลูกในบึงโคลนไม่เคยสำเร็จตั้งแต่เริ่มต้นจนบัดนี้ หากมีผู้สามารถชี้เส้นทางหนึ่งออกมาให้ชัดแจ้ง อย่างน้อยย่อมสามารถย่นเวลาการสืบเสาะไปได้หลายสิบปี มีคุณูปการล้นพ้นต่อต้าฮวง

 

 

คนผู้นี้ จะใช่นางหรือไม่

เขาสั่งให้ข้าเป็นราชินี [ส่วนที่ 1]

เขาสั่งให้ข้าเป็นราชินี [ส่วนที่ 1]

Status: Ongoing

ตอนที่ 1 – 30 อ่านนิยาย


ยามนั้น อสนีเปรี้ยงเวหา พสุธายุบหลุมลี้ เพชรพลอยเกลื่อนธรณี เกิดจานเหินที่กลางอากาศ มีนารีนางหนึ่งจักกำเนิดตนจากฟ้าถล่มดินทลาย…กลายเป็นราชินีแห่งต้าฮวง!

คำทำนายจากสรวงสวรรค์ ก่อกำเนิดเป็นความอัศจรรย์จากฟากฟ้า นำพาให้ จิ่งเหิงปัว หญิงสาวจากศตวรรษที่ 21 ผู้เลอเลิศในปฐพี (?) ต้องตกอยู่ในสถานะราชินีแห่งลุ่มแม่น้ำต้าฮวงด้วยความจำยอม… แต่ใครเล่าจะรู้ว่าตำแหน่งราชินีสูงส่งที่อยู่เหนือผู้คนนับหมื่นพัน จะกลายเป็นเพียง ‘ตำแหน่ง’ กันชนเพื่อการช่วงชิงอำนาจระหว่างราชครูฝ่ายขวาและฝ่ายซ้าย…

หากนางรู้ว่า ตำแหน่งราชินีที่นาง ‘จำยอม’ รับมาด้วยความสุข จะเป็นเพียงแค่หมากเกมหนึ่งในกระดานของชายหนุ่มทั้งสอง…ครานั้นนางจะทำอย่างไรดีเล่า

“หนีสิโว้ยยย!”

“กระหม่อมอนุญาตให้พระองค์หนีสามครา ฝ่าบาท”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน