ตอนที่ 81 หลินฟ่าน จูบไม่ได้! ไปตาม ซู่หยาง มาเดี๋ยวนี้!
ข้อความที่โพสต์ ของ เซี่ยหว่านชิว สร้างความประหลาดใจให้กับแฟน ๆ นับไม่ถ้วน
ในอดีตเมื่อเผชิญกับข่าวเชิงลบไม่ว่าจะเป็นข่าวไหน เซี่ยหว่านชิว ไม่เคยโพสต์ตอบโต้ใดๆ
แต่วันนี้เมื่อ หลินฟ่าน ถูกตั้งคําถามมากมายจากอินเตอร์เน็ต เซี่ยหว่านชิว จึงริเริ่มโพสต์บนเว่ย์ปั๋ว
คําพูดไม่มาก แต่ทรงพลังมาก
เธอสนับสนุน หลินฟ่าน แค่ไหนใครๆก็ดูออก
เมื่อ เซี่ยหว่านชิว โพสต์ หลังจากนั้นไม่นาน ซูเสี่ยวหยู ก็ได้โพสต์เช่นกัน
โทุกอย่างต้องเป็นเรื่องที่ต้องพูดถึงทักษะการแสดงของ หลินฟ่าน นั้นยอดเยี่ยมมาก
หลินจิงจิง ไม่ได้โพสต์บน เว่ย์ปั๋ว แต่ติดตาม โพสต์ของ เซี่ยหว่านชิว และ ซูเสี่ยวหยู
ซูหยาง ก็ลุกขึ้นมาโพสต์ เว่ย์ปั๋ว บ้าง พร้อมรูปถ่ายของเขาและ หลินฟ่าน
[ทักษะการแสดงของ หลินฟ่าน ดีมากไม่ต้องกังวล พระเอกหรือตัวประกอบก็เหมือนกันตราบใดที่พวกเขาสามารถนําเสนอผลงานที่สมบูรณ์แบบที่สุดได้ ]
ซูหยาง กําลังช่วยปกป้อง หลินฟ่าน
สําหรับรูปถ่ายหมู่นั้น เพื่อต้องการบอกกับโลกภายนอกว่าเขาและ หลินฟ่าน มีความสัมพันธ์ที่ดีมาก
แม้แต่ผู้กํากับชื่อดัง ลู่เบ่ไก๋ ยังทวีตให้กําลังใจ หลินฟ่าน
เมื่อทุกคนใน เยื่นหัว เริ่มโพสต์เคลื่อนไว เสียงแห่งความแครงใจบนอินเทอร์เน็ตก็ค่อยๆเงียบลง
“ใช่ ใช่แล้ว เซี่ยหว่านชิว พูดถูกมันขึ้นอยู่กับผลงาน”
“นั่งพิมพ์ด่าเขาแล้วพวกคุณทําอะไรเป็นบ้าง กล้าบอกว่า หลินฟ่าน ไร้ความสามารถตัวคุณกําลังตกงานอยู่รึเปล่า”
“ละครทีวียังไม่เปิดตัวแฟน ๆ คลับ เล่นให้รู้เรื่องบ้าง หลินฟ่าน ทําอะไรผิดหรือเปล่าเขาทําร้ายคนอื่นถึงชีวิตหรือไง”
” หลินฟ่าน หล่อมากฉันยังมีรูปของเขากับหว่านชิว พวกเขาดูดีจริงๆ บางทีละครเรื่องนี้อาจจะสนุกมาก! ”
” ฉันจะรอดูนะพี่ หลินฟ่าน เราเชื่อในตัวคุณต้องดัง หล่อแถมนิสัยดีขนาดนี้ จะต้องมีทักษะการแสดงที่ดีอย่างแน่นอน”
ซูหยาง นั่งดูข้อความที่ เซี่ยหว่านชิว โพสต์อย่างเงียบ ๆ เขาไม่ได้มีอคติใด ๆ กับ หลินฟ่าน เพียงแต่สะกดหัวใจไม่ให้เจ็บปวดไม่ได้เลยแม้แต่วินาทีเดียว
อาจเป็นช่องว่างระหว่างเขากับ หลินฟ่าน แม้เขาให้ เซี่ยหว่านชิว ได้ทุกย่างไม่แพ้ หลินฟ่าน เลย แต่ เซี่ยหว่านชิว เธอคงเลือก หลินฟ่าน ด้วยหัวใจจริง ๆ
การที่เขาจะตัดใจยอมรับได้นั่นมันอาจไม่ง่าย แต่เขาคิดจะสู้แล้วแม้ต้องเจ็บแค่ไหนแต่เกมส์ยังไม่จบเขาก็ยืนยันจะสู้อย่างยุติธรรม
ในช่วงเวลากว่าหนึ่งเดือนนี้ ลูกน้องของ ซูหยาง รู้สึกถึงความสุขความทุกข์ความเศร้าโศกของเขาดี
“จากนี้ไป ฉันจะหลบให้ไกลเมื่อพวกเขาเข้าฉากด้วยกัน” ซูหยาง พูดพลางถอนหายใจเขาแค่ต้องซ่อนตัวไปให้ไกลกว่านี้ เพื่อจะได้ไม่เห็นภาพบาดตาบาดใจ
เดิมทีการถ่ายทําดําเนินไปด้วยดี แต่วันนี้คงประสบปัญหาแล้ว
วันนี้มีฉากเดียว แต่ฉากนี้มีความสําคัญอย่างยิ่ง
นั่นคือฉากจูบระหว่าง หลินฟ่าน และ เซี่ยหว่านชิว
ในละครพวกเขายังมีฉากจูบมากมาย แต่ส่วนใหญ่จะถูกตัดออกไปบ้างแล้ว
ระหว่างความรู้สึกยังคงมีความงามที่คลุมเครือมากกว่านี้มีฉากจูบมากมายในสองสคริปต์แรกของ ชิ่วหยู่เหนียน
มีฉากจูบไม่มากนักในบทแรกของ ซิ่วหยู่เหนียน แต่ฉากจูบนี้มีความสําคัญมาก
นี่เป็นจูบแรกบนหน้าจอของ เซี่ยหว่านชิว และจูบแรกส่วนตัวของเธอ
สิ่งที่สําคัญที่สุดคือระหว่าง หลินฟ่าน และ เซี่ยหว่านชิว ทักษะการแสดงของทั้งสองนั้นยอดเยี่ยมมาก
แต่ หลินฟ่าน และ เซี่ยหว่านชิว ต่างก็มีข้อบกพร่องเดียวกัน
นั่นคือ… ไม่เคยถ่ายทําฉากจูบมาก่อน
แม้ว่า หลินฟ่าน ที่หล่อเหลาเช่นนี้และ เซี่ยหว่านชิว ที่สวยมากก็ยังไม่เคยมีจูบแรก
หากต้องการแสดงฉากจูบ ก็ไม่สามารถจูบกันอย่างแห้งแล้งไม่มีอารมณ์ได้และต้องสื่อให้ผู้ชมซาบซึ้งด้วยเพราะ ฉากจูบแสดงถึงความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งและเป็นธรรมชาติระหว่างคนสองคนซึ่งเป็นผลมาจากความรู้สึกข้างใจหัวใจ
เมื่อฉากจูบได้รับการถ่ายทําอย่างดีและแฟน ๆ จํานวนนับไม่ถ้วนจะต้องประทับใจ
ฉากจูบนี้สามารถดึงความสนใจของละครเรื่องนี้ได้มากขึ้น
สําหรับคนที่ไม่เคยถ่ายฉากจูบมาก่อนไม่ว่าฝีมือการแสดงจะดีแค่ไหนก็ยากที่จะทําฉากจูบให้ออกมาดีได้
ตัวอย่างเช่นหากนักแสดงต้องการถ่ายทําเกี่ยวกับการแพทย์ ควรทํางานในโรงพยาบาลเป็นระยะเวลาหนึ่ง เพื่อรวบรวมความรู้ให้ตรงจุดที่จะรับบทบาทและต้องศึกษาทุกวัน
หากคุณต้องการถ่ายละครเกี่ยวกับชาวนาคุณต้องลงลึกในหมู่ชาวนาและเข้าใจวิถีของชาวนา นี่คือกระบวนการปรับทักษะที่นักแสดงทุกคนต้องผ่านให้ได้ ผลงานจึงจะออกมาดี และมีความน่าเชื่อถือในตัวละครนั้น ๆ
หากต้องถ่ายทําฉากจูบแล้วนักแสดงยังประหม่าอยู่การถ่ายทําก็จะไม่เป็นธรรมชาติ
ฉากนี้ไม่สามารถใช้คนอื่นเล่นแทนได้ ต้องจูบกันจริงๆ ไม่เช่นนั้นความเป็นพระเอกและนางเอกจะดูปลอมทันที
ซูเสี่ยวหยู หยิบกล้วย มาปอกเปลือกกล้วยและกินด้วยความยินดีและตื่นเต้นเล็กน้อย
”เย็นวันนี้ หว่านชิว จะได้ถ่ายฉากจูบกับอาจารย์แล้ว ฉันต้องการถ่ายรูปด้วยโทรศัพท์มือถือของฉันและบันทึกไว้ว่านี่เป็นจูบแรกของหว่านชิว และจูบแรกของอาจารย์ด้วย “ซูเสี่ยวหยู กัดกล้วยแล้วกลืนมันลงไปก่อนที่จะพูด
“ฉากจูบ … ฉันได้แสดงมันเป็นเรื่องปกติแล้วล่ะ ตราบใดที่นักแสดงที่แสดงด้วยหล่อพอ ก็ยังพอรับได้” หลินจิงจิง พูดอยู่ข้าง ๆ
” แต่ถ้า หลินฟ่าน และ หว่านชิว มาแสดงในฉากจูบ ฉันไม่คิดว่ามันยากเกินไปนะ ความสัมพันธ์ของพวกเขาไม่ดีเหรอ เสี่ยวหยู ฉันคิดว่าพวกเขาอยู่ด้วยกันจริงๆซะอีก
ซูเสี่ยวหยู ส่ายหัวกัดกล้วยกินอีกแล้วพูดว่า: “หว่านชิว ยังไม่กล้าพูดว่าชอบ หลินฟ่าน เลย แม้ว่าความสัมพันธ์ของพวกเขาจะดีมาก ถ้าถ่ายฉากจูบกับคนแปลกหน้ามันคงง่ายกว่า สําหรับพวกเขา”
หลินจิงจิง พยักหน้าและเห็นด้วย “เอ…วันนี้ฉันไม่รู้ว่า ซูหยาง ไปไหนทําไมฉันไม่เห็นเขาเลย”
ซ่หยาง ซ่อนตัวอยู่ในห้อง นอนอยู่บนเตียงเขาได้เห็นบททุกอย่างแล้วเขารู้ว่า หลินฟ่าน และ เซี่ยหว่านชิว กําลังจะทําฉากจูบในวันนี้และเขาจึงซ่อนตัวอยู่ไกล ๆ
ในฉากของการถ่ายทําฉากจูบได้เริ่มขึ้นแล้วโดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงหรือรออีกต่อไป
หลินฟ่าน มองไปที่ เซี่ยหว่านชิว รู้สึกประหม่าเล็กน้อย
เซี่ยหว่านชิว ก้มหน้าลงใบหน้าสวยของเธอแดงระเรื่อและหัวใจของเธอก็เต้นแรงมาก
นี่เป็นฉากจูบแรกของเธอ เซี่ยหว่านชิว ที่ผ่อนคลายมาตลอดต้องกังวลเพราะไม่รู้ว่าจะแสดงฉากนี้อย่างไรในวันนี้
หลายคน… ยังคงเฝ้าดู
เมื่อซีรีส์ออกอากาศในอนาคตผู้ชมจํานวนมากจะได้เห็น
เซี่ยหว่านชิว รู้ถึงความสําคัญของฉากจูบนี้ แต่ก็ยังรู้สึกประหม่าอยู่ดี
หลินฟ่าน ยืนอยู่ตรงหน้า เซี่ยหว่านชิว และแตะหัว เซี่ยหว่านชิว เบา ๆ
มือของ หลินฟ่าน เริ่มจับแก้มของ เซี่ยหว่านชิว จากนั้นค่อยๆจูบริมฝีปากสีแดงของเธอ
ก่อนที่การจูบจะเกิด ผู้กํากับได้สั่งหยุด!
ลู่เบ่ไก๋ มองไปที่ หลินฟ่าน และ เซี่ยหว่านชิว เขากล่าวว่า “ไม่มีความรู้สึกของตัวละครเลย การแสดงออกของคุณวันนี้ไม่ดีเลยคุณกังวลมากเกินไปและคุณดูไม่มีประสบการณ์ในการจูบเลย”
” หลินฟ่าน นายแกล้งฉัน” เซี่ยหว่านชิว พิงกําแพงด้วยความคับแค้นใจเธอไม่รู้ว่าจะถ่ายทําฉากจูบอย่างไร
” ไม่ได้จะแกล้งอะไรเธอเลย ฉันแค่คิวว่าจะจูบให้ผ่านไปเร็วเท่านั้น ฉันก็เลยจะจูบทันทีแค่นั้น ลืมทําอารมณ์ตัวละครก่อน” หลินฟ่าน ยิ้มเล็กน้อย
เซี่ยหว่านชิว ตี หลินฟ่าน แต่ หลินฟ่าน กลับยิ้มและหัวเราะ ด้วยท่าทางน่ารัก ของทั้งคู่ เมื่อฉากนี้เข้าตาคนอื่นแล้ว ใจแทบละลายกันทุกคน
“มาแลองถ่ายดูอีกครั้ง” ลู่เบ่ไก๋ ตะโกน
หลินฟ่าน เรียนรู้บทเรียนในครั้งนี้และการเข้าถึงบทจูบ อย่างรวดเร็ว แต่ท้ายที่สุดนี่คืองานและเขาไม่ได้รับผลประโยชน์ด้วย
จากนั้น ก่อนที่ฉากจูบจะมาถึงผู้กํากับก็เรียกให้หยุดอีกครั้ง
” หยุด! หยุด! หลินฟ่าน คุณทําอะไรเร็วมากไปแล้ว นี่คือฉากจูบไม่ใช่ฉากตบ” ลู่เบ่ไก๋ ทําอะไรไม่ถูกแล้วเขาเริ่มรําคาญ ไม่คิดว่านักแสดงเก่งๆจะมาพลาดเพราะฉากนี้
“ซูหยาง อยู่ที่ไหนรีบโทรหา ซ่หยาง และให้ ซูหยาง มาสอนการจูบให้ หลินฟ่าน “ ลู่เบ่ไก๋ ตะโกนและเรียกชื่อ ซู่หยาง ที่กําลังหลบการถ่ายทําอยู่
หลังจากที่ ซู่หยาง ได้ยินโทรศัพท์ก็ตกลงจากเตียงทันที
ซ่หยาง ลุกขึ้นยืนนิ่งอยู่ในห้องหลังจากรับสาย เขาทําตาลอยราวกับว่าเขากําลังเป็นซอมบี้และรู้สึกหนาวไปถึงหัวใจแตกๆของเขา
นี่ฉันซ่อนไม่ได้เหรอ?
ฉันหนีไม่พ้นเหรอ?
ฉันต้องไปสอนให้เขาจูบกันด้วยเหรอ?