ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน – บทที่ 1656 รู้สึกเหมือนว่าคุณชายเย่กำลังงอน

บทที่ 1656 รู้สึกเหมือนว่าคุณชายเย่กำลังงอน

เวินลั่วฉิงหันมองเย่ซือเฉินหนึ่งที อธิบาย? อธิบายอะไร? ตอนที่เปิดวีดิโอลูกๆทั้งสองคนก็อยู่ข้างๆด้วย จำเป็นต้องให้เธออธิบายอีก?

เย่ซือเฉินรู้สึกโมโหไม่น้อย ทำไมผู้หญิงคนนี้ถึงไม่รู้สึกตัวเลยนะ เห็นๆอยู่ว่าก่อนหน้านี้คุยกันไว้ดิบดีแล้ว ว่าเขาจะให้อิสระและความไว้ใจกับเธอ แต่ เธอจะต้องบอกเรื่องที่เกี่ยวข้องให้ตัวเองฟังเหมือนกัน ทำไมตอนนี้ถึงมีมู่เฉิงโผล่ขึ้นมาอีกคนได้ล่ะ? แถมยัง……ดูสนิทสนมกันขนาดนี้อีกด้วย

เวินลั่วฉิงกุมหน้าผาก สายตาแบบนี้ของเย่ซือเฉินเกิดอะไรขึ้น? ตอนที่โมโหก่อนหน้านี้ สายตาดุร้าย ตอนนี้……ทำไมจู่ๆถึงให้ความรู้สึกขุ่นเคืองใจขึ้นมาแล้วล่ะ? ราวกับว่าตนเองทำเรื่องอะไรที่เอาเปรียบเขาอยู่จริงๆ จริงๆแล้วไม่ได้ทำอะไรเลยนะ!

เวินลั่วฉิงไม่กลัวว่าเย่ซือเฉินจะระเบิดโมโหออกมาตรงๆ ถึงยังไง เย่ซือเฉินก็ไว้หน้าเธออยู่แล้ว แต่ว่า……เธอไม่อยากเผชิญกับใบหน้าที่ขุ่นเคืองใจแบบนี้ แบบนี้จะให้หัวหน้าองค์กรโกสต์ซิตี้กับมู่เฉิงมองยังไง? ทำเหมือนกับว่าตนเองเป็นคนทรยศอย่างไรอย่างนั้น

ซ่างกวนหงกับมู่เฉิงต่างพากันตกอกตกใจ นี่คือเย่ซือเฉินที่เย็นชาที่ดูแล้วไม่มีใครเทียบเคียงได้เหมือนกับก่อนหน้านี้คนนั้นอย่างนั้นเหรอ? แล้วทำไมตอนนี้ถึงดูไม่มีพิษมีภัยอะไรแล้วล่ะ?

งะ……งอนเหรอ? ซ่างกวนหงรู้สึกแบบนี้ขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก มู่เฉิงก็งอนขึ้นมาเป็นครั้งคราวเหมือนกัน แต่ที่มู่เฉิงงอนก็มักจะเป็นประเภทที่ประจบประแจงแล้วก็ขี้เล่น ส่วนเย่ซือเฉิน……ก็เป็นความรู้สึกที่กำลังจ้องมองเธออยู่อย่างนั้น ไม่พูดอะไร ให้เธอตระหนักเอาเอง ว่ากันตามตรง……ซ่างกวนหงรู้สึกรับไม่ไหวอยู่เหมือนกัน

แต่เขาก็รู้สึกว่าสนิทสนมกับเย่ซือเฉินอยู่ไม่น้อยอย่างบอกไม่ถูก แม้ว่าเขาจะได้ยินมาโดยตลอด ว่าเย่ซือเฉินรักเวินลั่วฉิงมาก แต่เขาก็ไม่เคยเห็นกับตาตัวเองเลยสักครั้ง รู้สึกว่าคนก็แค่พูดเวอร์เกินจริงเท่านั้น ตอนนี้เห็นทั้งสองคนอยู่ด้วยกันแล้ว เขาก็รู้สึกเชื่ออยู่ไม่น้อย มองดูสถานการณ์แบบนี้ ถึงเย่ซือเฉินจะโมโห แต่เขาจะไม่ทำอะไรเวินลั่วฉิง ไม่ทำร้ายเธอ ในทางกลับกัน……เขารอที่จะง้อและอธิบาย?

ถ้าเกิดเวินลั่วฉิงรู้ว่าซ่างกวนหงคิดยังไง เกรงว่าจะกรีดร้องคำรามออกมา!เขาดูออกที่ไหนกันล่ะว่าเย่ซือเฉินเป็นคนแบบนี้? วันนี้เขาประพฤติตัวดี น่าจะเป็นเพราะว่าอยู่ข้างนอก แถม……อาการท่าทางแบบนี้เธอก็เพิ่งเคยเห็นครั้งแรกเหมือนกัน ยังจัดการรับมือไม่ได้……

แต่ มีหนึ่งจุดที่เวินลั่วฉิงยอมรับแล้วก็ไม่มีการสงสัยเลยสักนิด ก็คือเวลาที่เย่ซือเฉินโกรธ เขาไม่มีทางทำร้ายเธอแน่นอน มากสุดก็แค่ตะคอกใส่เธอเบาๆ จูบเธอไปตรงๆ อย่างอื่นไม่มีกระทำล่วงเกินอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว

เวินลั่วฉิงกับเย่ซือเฉินทั้งสองคนต่างก็ไม่ได้พูดอะไร สื่อสารกันทางสายตาอยู่ตลอดเวลา ซ่างกวนหงมองดู รู้สึกอิจฉาอยู่ไม่น้อย เขาคิดไม่ถึงว่าความรู้สึกของทั้งสองคนจะมาถึงขั้นนี้แล้ว เมื่อก่อน……จริงๆแล้วเขาไม่ได้พอใจในตัวของเย่ซือเฉินสักเท่าไร ก็แค่รู้สึกว่าคนคนนี้ดูเย็นชาอยู่ไม่น้อย ถึงขนาดที่ไร้อารมณ์ความรู้สึกเลยด้วยซ้ำ

แล้วก็ดูเหมือนจะไม่ได้จริงใจกับเวินลั่วฉิงเลยเหมือนกัน ตอนนี้……เขารู้สึกว่าตัวเองคิดผิดแล้ว เพราะว่าไร้อารมณ์ความรู้สึก ดังนั้นถ้าเกิดจะจริงใจกับคนคนหนึ่งขึ้นมา ก็จะน่าเชื่อถือและหายากมากๆ

จริงๆแล้วเย่ซือเฉินไม่ได้รู้สึกไม่เป็นธรรมมากมายอะไรหรอก แค่เพราะว่าตอนนี้มู่เฉิงอยู่ข้างๆด้วย เลยจงใจแสดงออกถึงความรู้สึกระหว่างตนเองกับเวินลั่วฉิงเท่านั้น หลังจากที่รู้ความรู้สึกที่เวินลั่วฉิงมีต่อเขาแล้ว คนอื่นๆเขาก็ไม่เห็นอยู่ในสายตาทั้งนั้น แต่มู่เฉิงสถานภาพพิเศษไม่ธรรมดา หัวหน้าน้อยแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้ สถานภาพสูงส่ง แถมเขาก็หน้าตาก็ไม่เลวเลยด้วย ทำให้เย่ซือเฉินรู้สึกอิจฉาได้ ที่สำคัญที่สุดก็คือ ที่เขากับเวินลั่วฉิงพูดกัน เรื่องที่เกี่ยวกับถังจื่อซีและถังจื่อโม่ทำให้เขารู้สึกว่าจุดยืนของตัวเองกำลังถูกเยาะเย้ยอยู่

เวินลั่วฉิงมองเย่ซือเฉิน เขาสีหน้าไร้อารมณ์ สายตาเย็นชาไม่น้อย อย่างอื่น……ไม่มีอะไรพิเศษ เธอสงสัย ว่าเย่ซือเฉินจงใจหรือเปล่า จริงๆแล้วไม่ได้โมโหเลยสักนิด แต่ตอนที่เย่ซือเฉินจ้องมองมาที่เธอตรงๆนั้น มันกลับทำให้เธอรู้สึกละอายใจ

มู่เฉิงมองเวินลั่วฉิงกับเย่ซือเฉินส่งความรักกันทางสายตานั้น ก็กุมหน้าผาก ตัวเองไม่ควรจะมาอยู่ที่นี่ใช่ไหม? เป็นส่วนเกินชัดๆ เห็นๆอยู่ว่าไม่ได้ทำอะไรเลยสักนิด แต่กลับยังรู้สึกเหมือนถูกเพ่งเล็งซะอย่างนั้น!

มู่เฉิงไอกระแอมเบาๆหนึ่งที เย่ซือเฉินหันสายตากลับมา เวินลั่วฉิงรู้สึกปลดปล่อยแล้ว เธอมองซ่างกวนหงที่กำลังจับจ้องเธออย่างลึกซึ้งอยู่ตลอดเวลา ยิ้มเล็กน้อย แฝงไปด้วยความรู้สึกอับอายอยู่ไม่น้อย

เธอรู้สึกสนิทชิดเชื้อกับซ่างกวนหงอยู่ไม่น้อยแบบแปลกๆ คนคนนี้เย็นชา ใบหน้าไม่ยิ้มแย้ม สายตาราวกับแอ่งน้ำลึกเย็นยะเยือก นิ่งเรียบ ความเยือกเย็นแบบนี้ ออกมาจากก้นบึ้งของจิตใจ แม้แต่อยู่ต่อหน้าของมู่เฉิง รวมถึงถังจื่อซีและถังจื่อโม่ที่เขาชอบมากๆก็ยังเป็นแบบนี้ เห็นได้ว่าตัวของเขาเย็นชามากๆ ถึงขนาดที่ไม่มีแม้แต่อารมณ์ความรู้สึกเลยแม้แต่น้อย เดิมทีเวินลั่วฉิงจะไม่รู้สึกอะไรกับคนแบบนี้เลย แล้วก็ยิ่งไม่คิดที่จะเป็นฝ่ายเข้าไปใกล้ด้วย แต่ว่า……ซ่างกวนหงเป็นข้อยกเว้น

เวินลั่วฉิงไม่ชอบข้อยกเว้น ข้อยกเว้นหมายความว่า เธอจะต้องใช้ความคิดอย่างมากในการเข้ากันกับคนคนนี้ แต่ว่า ซ่างกวนหง กลับไม่ได้ให้ความรู้สึกแบบนี้กับเธอ

ดูเหมือนว่าสายตาที่นิ่งสงบของเวินลั่วฉิงจะเริ่มมองซ่างกวนหงอยู่ในสายตาบ้างแล้ว ใช่แล้ว……ไม่ผิด ความรู้สึกที่เธอมีต่อซ่างกวนหง ไม่เหมือนกับคนอื่นๆความเย็นชาของซ่างกวนหง ทำให้เธอรู้สึกว่ารับได้ ถึงขนาดที่รู้สึกว่า เดิมทีคนคนนี้ก็ควรจะเป็นแบบนี้ตั้งแต่แรกแล้ว เขาไม่จำเป็นต้องไปเข้าใกล้คนอื่น เพราะว่าไม่มีใครสามารถยืนเทียบเคียงเขาได้ เขาก็ไม่จำเป็นต้องยิ้มให้กับใครด้วย เพราะว่าไม่มีใครคู่ควรที่จะให้เขาเผยรอยยิ้มให้ ความเย็นชาของเขา ความเหินห่างของเขา ไม่ใช่เพราะว่าเขาจงใจที่จะทำแบบนี้ แต่เพราะว่า……เขาเป็นแบบนี้ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว

เวินลั่วฉิงรู้สึกแปลก รู้สึกสนิทชิดเชื้อกับซ่างกวนหง แถม……อยากที่จะทำความเข้าใจ สื่อสารกัน นี่เป็นความรู้สึกที่เธอไม่ได้มีต่อคนอื่นๆ ราวกับว่ามันมีมาตั้งแต่กำเนิด ที่น่ากลัวกว่าก็คือ เวินลั่วฉิงพบว่าตัวเองไม่ได้ปฏิเสธความรู้สึกแบบนี้ แถมยังรู้สึกยินดี ตื่นเต้นดีใจอีกด้วย!

เวินลั่วฉิงไม่ชอบความรู้สึกแบบนี้ ตอนแรกอยากที่จะกดมันเอาไว้ ต่อมาพอคิดๆดูแล้ว มันก็ไม่มีความจำเป็นอะไร ไม่แน่ว่าผลลัพธ์อาจจะตรงกันข้ามกับสิ่งที่คิดเอาไว้ก็ได้ สู้ปล่อยให้มันเป็นไปแบบนี้ดีกว่า แถมถังจื่อซีและถังจื่อโม่ก็เป็นมิตรกับซ่างกวนหงด้วย เธอก็ไม่ได้ปฏิเสธซ่างกวนหงเหมือนกัน ลองเข้าหากันมันก็ไม่เลวเลย

เย่ซือเฉินรู้สึกเฉยๆไม่ได้อะไรมากมายกับมู่เฉิงและซ่างกวนหง ในเมื่อนี่เป็นหัวหน้าและหัวหน้าน้อยขององค์กรโกสต์ซิตี้ เขาก็ไม่ได้มีความรู้สึกมากมายอะไร สำหรับเขาแล้ว ความแข็งแกร่งของซ่างกวนหงและมู่เฉิง กับความแข็งแกร่งขององค์กรโกสต์ซิตี้ มันแยกจากกัน ที่เขาอยากรู้จัก ไม่ใช่แค่หัวหน้ากับหัวหน้าน้อยขององค์กรโกสต์ซิตี้ แต่เป็นซ่างกวนหงกับมู่เฉิงต่างหาก

ความนิ่งสงบของเย่ซือเฉินได้ใจของซ่างกวนหงไประดับหนึ่ง การไม่หยิ่งผยองและไม่ถ่อมตัวจนเกินไปของเขา ทำให้ซ่างกวนหงรู้สึกว่าคนคนนี้รู้ถึงจุดยืนของตนเองอย่างชัดเจน

ดำรงอยู่ในตำแหน่งหัวหน้าขององค์กรโกสต์ซิตี้มานานมากแล้ว เห็นการประจบประแจงและการไล่ตามไขว่คว้ามาไม่น้อย แต่การที่มีชายหนุ่มคนหนึ่งจู่ๆได้มาเห็นตัวตนของเขา แถมยังสามารถรักษากิริยาท่าทางเอาไว้ได้ แม้ว่าจะไม่ได้พูดอะไร ไม่ทำอะไรเลย แต่ก็ไม่มีความกระวนกระวายใจร้อนเลยแม้แต่นิดเดียว เหมือนกับว่าเขานี่แหละที่เป็นเจ้าของของที่นี่ ซ่างกวนหงชื่นชมคนแบบนี้ แต่……ตอนที่เขาคิดที่จะเอาเย่ซือเฉินเป็นลูกเขยนั้น ก็รู้สึกลังเลอยู่ไม่น้อย

ถังจื่อซีกับถังจื่อโม่รออยู่อีกที่หนึ่งอย่างเชื่อฟัง อารมณ์ของทั้งสองคนไม่เหมือนกันเลยแม้แต่นิดเดียว ถังจื่อโม่รู้สึกเป็นกังวลอยู่ไม่น้อย เขารู้ว่าซางกวนหงกับเย่ซือเฉินกำลังสังเกตและสำรวจกันและกันอยู่ แอบทำการประเมินอยู่ภายในใจอย่างเงียบๆ แต่ว่าใบหน้าของทั้งสองคนต่างนิ่งเฉยไม่แสดงสีหน้าอาการใดๆเลย ทำให้เขาดูไม่ออกว่าสรุปแล้วพอใจหรือว่าไม่พอใจกันแน่ ส่วนถังจื่อซีรู้สึกมีความสุขมากๆ เธอรู้สึกว่าบรรยากาศรอบๆตัวผ่อนคลายสุดๆ หม่ามี๊ยิ้มอย่างอ่อนโยน แด๊ดดี้ไม่โมโห คุณตาสีหน้าอบอุ่น ส่วนลุงมู่เฉิง……อารมณ์ของเขาไม่ได้อยู่ในอยู่การพิจารณาของเธอ

มู่เฉิงที่ถังจื่อซีไม่ได้คิดพิจารณา กลับเป็นหนึ่งคนที่ง่ายๆสบายๆที่สุด เขาไม่เข้าใจเย่ซือเฉิน ความเป็นปฏิปักษ์กันเมื่อตะกี้นี้ถูกเขาเพิกเฉยละเลยไปทันที ความเป็นปฏิปักษ์ที่เย่ซือเฉินมีต่อเขา ก็แค่มาจากเวินลั่วฉิงเท่านั้น ตอนนี้ดูท่าแล้ว เย่ซือเฉินกับเวินลั่วฉิงทั้งสองคนมีความสัมพันธ์ความรู้สึกที่ลึกซึ้งมากๆ ไม่ใช่ใครจะสามารถแทรกแซงเข้ามาได้ ถึงแม้ว่าเย่ซือเฉินจะโมโหอยู่ตอนนี้ อีกเดี๋ยวก็หายแล้ว เขาไม่จำเป็นต้องไปสร้างเรื่องสร้างราวอะไร สำหรับเวินลั่วฉิง นั่นก็ง่ายยิ่งกว่า ลูกสาวของพ่อเลี้ยง พ่อเลี้ยงยอมรับ เขาก็ยอมรับ พ่อเลี้ยงไม่ยอมรับ ถ้าอย่างนั้น เป็นเพื่อนกันก็ยังได้ ไม่จำเป็นต้องไปคิดมาก

มู่เฉิงรู้สึกว่า ขอแค่เขาไม่มีความคิดอย่างอื่นกับเวินลั่วฉิง เย่ซือเฉินกับซ่างกวนหงก็จะไม่เข้ามาแทรกแซง ก็เลยปล่อยตัวปล่อยใจให้สบาย

เย่ซือเฉินรู้ว่าที่ซ่างกวนหงมาที่นี่ก็เพื่อมาหาลูกสาว ก็เลยไม่พูดถึงหัวข้อนี้ แค่ถามเขาว่าสนใจออกไปเที่ยวเล่นไหม

 ฉือเย่ฉาง ที่มีแค่หนึ่งครั้งในรอบสิบปี ครั้งนี้มาจัดที่นี่ ฉือเย่ฉางเป็นงานประมูลโซนสีเทาโดยสมบูรณ์ คนที่อยู่ในสังคมมืดไม่มืดต่างก็ไปทั้งนั้น ว่ากันว่าทุกครั้งมักจะมีของหายาก ปรากฏออกมามากมาย เพียงสิ่งเดียวที่ขาดไปก็คือ งานประมูลนี้จะจัดขึ้นในสถานที่ที่ไม่แน่นอน

ซ่างกวนหงไม่มีอะไรที่ขาดแคลน สิ่งที่เขาคาดหวังที่สุดในตอนนี้ ก็คือการพิสูจน์ได้ว่าเวินลั่วฉิงคือลูกสาวของเขา แบบนี้ ตนเองก็จะสามารถกำจัดเรื่องกังวลใจไปได้ ส่วนเรื่องอื่น เขาไม่สนใจทั้งนั้น

 จัดขึ้นเมื่อไร? มู่เฉิงรู้สึกสนใจไม่น้อย งานประมูลนี้เขาก็เคยได้ยินมาอยู่บ้าง ฉือเย่ฉาง ว่ากันว่าช่วงเริ่มแรก หมายถึงคนหนึ่งคน ต่อมา ก็เปลี่ยนเป็นงานประมูลที่เฉพาะเจาะจง สิ่งของที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน ต่างก็มาปรากฏขึ้นในงานประมูลนี้

 

ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน

ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน

Status: Ongoing

มองที่เด็กๆ ที่มีหน้าตาเหมือนกับตัวเอง สมองเขาว่างเปล่า ชั่วคราว”แม่เราก็คือภรรยาของคุณนะคะ ทำไม ภรรยาของ คุณมีลูกสองคน คุณไม่รู้หรอ”เด็กๆ จ้องมองเขา เตือนเขา อย่าง”มีน้ำใจ” เขาชะงักไปสองวินาที สีหน้าเปลี่ยนหลาย แบบ”ที่รัก อยู่ไหน” วินาทีต่อไป เขาโทรหาเวินลั่วฉิง “ได้ รอ ฉันสักครู่ ฉันจะไปที่ที่อยู่ทันที จะมีSurpriseให้นะ”ดี ดีจัง เขาอยากจะดูว่าเธอยังมีเรื่องอะไรที่ปิดบังเขาไว้ จะคิดบัญชี อย่างจริงจังแล้วนะ”นี่มันร้ายใจเกินไปมั่ง”เด็กสองคนนี้ตะลึง Surpriseนี่มันใหญ่จัง ดูเหมือนว่า คนนั้นจะซวยค่ะ! ! !

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท