ตอนที่ 1134
ลั่วฉวนดื่มน้ำส้มที่เหลือในแก้ว ลมหายใจผ่อนออกด้วยความพึงพอใจ จากนั้นจึงเอนกายพิงกับพนักเก้าอี้
รสชาติของน้ำผลไม้คล้ายการผสานระหว่างน้ำส้มและน้ำองุ่น มันค่อนข้างหวานอมเปรี้ยวอย่างโดดเด่น และเป็นของกำนัลจากเอวาน
“อิ่มแล้ว” ลั่วฉวนกล่าวออก
บาบีคิวส่วนใหญ่ที่เหยาซือหยานทำถูกลั่วฉวนทานจนหมด ตัวนางเองไม่ค่อยได้กินมากเท่าใดนัก
“เถ้าแก่จะกลับเลยหรือ?” เหยาซือหยานกำลังใช้ม่านแสงทำการแชทพูดคุย และการกำหนดค่าคือนางจะได้เห็นเพียงผู้เดียว
“อืม ไปกันดีกว่า” ลั่วฉวนพยักหน้ารับก่อนจะลุกจากที่นั่งมาพร้อมกับเหยาซือหยาน
เมื่อผู้มาทานมื้อเย็นใกล้เคียงพบเห็น พวกเขาค่อยถอนหายใจราวโล่งอก เพราะพวกเขาแทบไม่อาจอดกลั้นต่อความทรมานของกลิ่นหอมอาหารอันแสนอร่อยที่อยู่ตรงหน้า รวมถึงโฉมงามที่คอยปรุงอาหารไม่ขาดมือ
ที่ด้านนอกร้าน เอวานกำลังดูแลควบคุมพนักงานในร้านอีกทีหนึ่ง เสียงของเขาค่อนข้างทรงอำนาจ แม้ภายในร้านที่จอแจก็ยังได้ยินชัด
“หยุดขี้เกียจ! ลูกค้าทางด้านนั้นสั่งน้ำผลไม้ เร่งรีบนำสองขวดไปส่งพร้อมน้ำแข็ง”
“ทางด้านนั้นยังขาดหอยขาวย่าง เติมพริกไทยลงไปด้วย…”
ขณะลั่วฉวนกับเหยาซือหยานเดินกลับออกจากร้าน เอวานที่ยืนตะโกนหน้าร้านเสียงดัง รวมเข้ากับรูปลักษณ์ที่โดดเด่นเกินกว่าคนธรรมดาจึงค่อนข้างสะดุดตา
แขกเหรื่อทั้งหลายไม่แปลกใจแต่อย่างใด ตอนนี้เริ่มไปหาที่นั่งว่างกันตามที่เอวานบ่งบอกก่อนจะเผยเสียงตะโกนสั่งอาหาร
“คุณลูกค้าทั้งสอง มื้ออาหารเป็นยังไงบ้าง?” เอวานตระหนักเห็นลั่วฉวนกับเหยาซือหยานเดินออกจากด้านในร้าน ตอนนี้จึงผละออกจากที่ตะโกนสั่งการเดินมากล่าวถาม
“ดีเลยทีเดียว” เหยาซือหยานพยักหน้ารับ “วัตถุดิบสดใหม่มาก คุณภาพก็คัดมาอย่างดี นอกจากนี้แล้วน้ำผลไม้ก็ให้ความสดชื่นได้ดีมาก”
ลั่วฉวนไม่กล่าว เขาไม่ค่อยทราบอะไรเท่าใดนัก เพียงทราบว่ารสชาติดี ส่วนอื่นก็ตามที่เหยาซือหยานกล่าวออกไปแล้ว
เอวานฉับพลันหัวเราะตอบ “อิ่มอร่อยพอใจก็ดีแล้ว ผมเป็นคนไปเลือกซื้อหาวัตถุดิบเข้าร้านด้วยตัวเอง คุณภาพนั้นคัดมาแต่ชั้นแนวหน้าของเซ็นน่า”
หลังพูดคุยกันพักหนึ่ง ลั่วฉวนกับเหยาซือหยานเดินทางกลับ ทางด้านเอวานกลับไปยืนตะโกนสั่งการคนงานภายในร้านต่อ
ตอนนี้ยังไม่ดึก สองดวงจันทร์บนฟากฟ้ายังคงไม่ได้ลอยค้างสูง ห้วงดาราจักรกำลังเผยแสงระยิบระยิบส่องสว่างออกมา
“เถ้าแก่ เซ็นน่าคืนนี้ดูคึกคักยิ่งกว่าเมื่อวันก่อนเสียอีก” เหยาซือหยานสำรวจมองผู้คนที่สัญจรไปมาก่อนจะกล่าวคำขึ้น
ผู้คนเหล่านี้ไปมาผลัดเปลี่ยนไปเรื่อย ดอกไม้อันงดงามที่เบ่งบานสองฟากข้างเส้นทางถูกประดับเอาไว้อย่างน่ารับชม รวมเข้ากับแสงไฟเวทมนตร์ที่สาดส่อง มันจึงเกิดเป็นภาพความงดงามสะดุดตา อีกทั้งยังมีกลิ่นหอมของดอกไม้นานาชนิดที่ฟุ้งปรากฏในอากาศ
“อีกไม่ช้าที่เซ็นน่าแห่งนี้จะจัดเทศกาลไนการ่าขึ้นมา” ลั่วฉวนไม่คิดประหลาดใจกับภาพความคึกคัก
“เทศกาลไนการ่า?” เหยาซือหยานเกิดความสงสัย
“เป็นงานเทศกาลรวมดอกไม้ของหลายประเทศ” ลั่วฉวนตอบนางเท่าที่ทราบ
“น่าสนใจ” ดวงตาเหยาซือหยานเกิดประกาย นางกำลังคาดหวังคิดมาเดินเที่ยวชมในวันงาน
ศูนย์กลางเมืองเซ็นน่าคือจัตุรัสกว้างใหญ่ พื้นที่ส่วนใหญ่ปกคลุมด้วยกลีบดอกไม้ที่ตระเตรียมไว้รองรับงานเทศกาลที่ใกล้จัดขึ้น
ที่จัตุรัสมีคนมารวมกันอยู่มาก บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก ประชากรของเซ็นน่าต่างออกมาดูการเตรียมงานที่ใกล้เข้ามา ลั่วฉวนรับรู้ได้ถึงความสำคัญ มันแทบจะเทียบเท่าเทศกาลซากุระบาน
หลังเดินเตร่อยู่พักหนึ่งก็เริ่มหมดความสนใจ เพราะส่วนใหญ่ก็ไม่มีอะไรให้รับชมมากมาย การเตรียมงานหมายถึงสถานที่ยังไม่พร้อมสมบูรณ์ให้รับชม
ลั่วฉวนยังได้ทราบเรื่องราวจากผู้คนสัญจรที่พูดคุยกัน โรงละครโอเปร่าที่เซ็นน่ากำลังเชิญแขกเหรื่อ ผู้คนที่โลกแห่งนี้ถึงกับมีศาสตร์ศิลปะหลากหลายให้รับชม
รถรางเวทมนตร์ของเซ็นน่ายังคงทำงานแม้กลางดึก นั่นก็เพราะช่วงใกล้ถึงเทศกาลไนการ่า มันคือช่วงเวลาที่ไร้การหยุดพัก ทั้งสองโดยสารรถรางเวทมนตร์เดินทางกลับ
ก้าวลงจากรถลาง เดินผ่านถนนหลายสาย กลับถึงร้านกาแฟ เพียงเปิดประตูเขาก็โดนการต้อนรับอันอบอุ่นของคิเมร่าที่พุ่งเข้าหา
หลังนั่งเล่นที่ร้านกาแฟอีกพักหนึ่ง เตรียมขนมสำหรับทานเล่นให้คิเมร่าช่วงที่ไม่อยู่ เรียบร้อยแล้วลั่วฉวนกับเหยาซือหยานค่อยกลับออกจากเก๋อหลัว
คิเมร่ารับชมออร่าของทั้งสองเลือนหายไปในความว่างเปล่า แต่ก็เพียงแค่หันมอง ไม่ช้าก็หันกลับไปเอร็ดอร่อยกับอาหารตรงหน้าอีกครั้งหนึ่ง
ลั่วฉวนหยิบขวดโคล่าจากชั้นวาง บิดเปิดฝาและยกขึ้นดื่มเรียกความสดชื่น ทางด้านเหยาซือหยานไปกดชานมมาแก้วหนึ่ง
“กล่าวไป เถ้าแก่ มีลูกค้าสอบถามเข้ามา” เหยาซือหยานที่นึกขึ้นได้จึงนำเอาโทรศัพท์วิเศษออกมา
“เรื่องอะไรกัน?” ลั่วฉวนวางขวดโคล่ากับโต๊ะพลางถาม
สำหรับลูกค้าส่วนใหญ่ เหยาซือหยานเป็นมิตรและเข้าถึงง่ายกว่าลั่วฉวน อย่างไรแล้วเวลาลูกค้าพบเจอปัญหาหรือข้อสงสัยก็มักสอบถามเหยาซือหยานกันอยู่แล้ว
ส่วนลั่วฉวน… แม้ว่านั่งอยู่หลังโต๊ะโดยตลอดทั้งวัน แต่ไม่เคยมีใครเข้ามาสอบถาม เขาก็ไม่คิดใส่ใจ เพียงแต่ทำเรื่องที่ตนสนใจต่อไปก็เท่านั้น
“ร้านค้าแอพพลิเคชั่นของโทรศัพท์วิเศษไม่มีอะไรใหม่มาพักหนึ่งแล้ว เถ้าแก่มีแผนการปล่อยแอพใหม่หรือไม่?” เหยาซือหยานเอ่ยถามขึ้นมา
“แอพใหม่?” ลั่วฉวนทวนคำด้วยความประหลาดใจ เพราะหากเหยาซือหยานไม่กล่าวถึง เขาก็ลืมเลือน สาเหตุหลักคงเป็นเพราะโทรศัพท์วิเศษตอนนี้แทบจะครอบคลุมชีวิตประจำวันอย่างครบถ้วนแล้ว
สำหรับลั่วฉวนเอง การเปิดแอพพลิเคชั่นใหม่เป็นเรื่องง่ายแค่ปลายนิ้ว ส่วนว่าจะเป็นอะไร มันก็คงขึ้นอยู่กับความต้องการของเขาขณะสุ่มโชค
“เถ้าแก่ มีแผนการปล่อยแอพพลิเคชั่นใหม่ช่วงนี้หรือไม่?” เหยาซือหยานทวนคำถาม
“ยังไม่เคยคิดมาก่อน คงต้องว่ากล่าวกันพรุ่งนี้อีกที” ลั่วฉวนหาว
“โอ้” เหยาซือหยานรับคำ นางเชื่อว่าด้วยนิสัยเช่นลั่วฉวน หากนางไม่กล่าวบอก เช่นนั้นเขาก็ไม่มีทางนึกถึงขึ้นมาแน่
แน่นอนว่าเหยาซือหยานไม่คิดบอกกล่าวอะไรออกไปตอนนี้ แต่เลือกที่จะเงียบตอบใส่กลุ่มแชท เพราะหากทราบก่อน เช่นนั้นความประหลาดใจคงเลือนหายไปไม่ใช่น้อย
“ง่วงแล้วสิ” ลั่วฉวนหาวอีกครั้งตระเตรียมไปนอน “ขอตัวก่อน”
“เถ้าแก่เชิญก่อนเลย ข้าจัดการปิดร้านก่อน” เหยาซือหยานดื่มชานมที่เหลือพลางรอคอยเวลา
งานที่เกี่ยวข้องกับแอพนักอ่านจะปล่อยกำหนดการในช่วงกลางคืน เรื่องนี้ทางด้านลั่วฉวนก็ไม่ต่างกันเท่าใดนัก
เหยาซือหยานเกิดรู้สึก ว่าหลายคนคงสะสมงานเอาไว้ค่อยสะสางในยามค่ำคืนให้แล้วเสร็จในคราวเดียว ระหว่างวันพวกเขาเหล่านั้นจะนิ่งเฉยไม่ทำงานสะสมเอาไว้
ลั่วฉวนที่เดินขึ้นไปชั้นสอง หลังอาบน้ำชำระกายเรียบร้อยจึงกลับห้อง ปิดหน้าต่างปิดกั้นเสียงฝนจากภายนอก จากนั้นค่อยนอนลงบนเตียง
หลังไปอาบน้ำล้างหน้า ความง่วงงุนเลือนหายไปส่วนหนึ่ง พอคิดได้ดังนี้ เขานำเอาโทรศัพท์วิเศษออกมา “อืม ก่อนนอนเล่นสักพักก็แล้วกัน…”