ตอนที่ 1142
การไม่รู้ บางครั้งก็เป็นการนำมาซึ่งเหตุการณ์เสียทรัพย์ครั้งใหญ่
น้ำแร่ขายให้ทุกคนที่ราคาหนึ่งหมื่นผลึกวิญญาณโดยร้านต้นตำรับ แต่แล้วกลับกลายเป็นหลักล้านเพียงพริบตาที่มาเยือนเมืองไกลห่างข้อมูลข่าวสารในทวีปเทียนหลัน
ลั่วฉวนเกิดรู้สึก ว่าตอนนี้ลูกค้าหลายคนที่กำลังรับชมการถ่ายทอดสดจะคิดนำเอาสินค้าของร้านต้นตำรับไปขายต่อ
ซื้อสินค้าจากร้านต้นตำรับ จากนั้นนำไปขายต่อยังพื้นที่ไกลห่างจากนครจิ่วเหยาเพื่อรับส่วนต่าง
หากทำเช่นนั้นได้สักระยะหนึ่ง ไม่ช้าก็เร็วคงได้กลายเป็นเศรษฐีใหม่แห่งทวีปเทียนหลัน
แน่นอนว่าคิดนั้นง่าย แต่การกระทำจริงมีข้อจำกัดมากมาย
ก่อนอื่นใดคือการจำกัดซื้อของร้านต้นตำรับ สองคือระยะทางที่ไกลโพ้น รวมเข้าถึงความแข็งแกร่งที่จะต้องมีระหว่างการเดินทาง
ทั้งหมดทั้งมวล หากจะมีใครทำได้ เช่นนั้นคงเป็นตัวตนระดับกองกำลังใหญ่ทั้งหลาย ซึ่งแน่นอนว่าพวกเขาเหล่านั้นคงไม่สนใจคิดกระทำ
แม้ไม่มีการห้ามส่งต่อข่าวสารเหล่านี้ แต่การกระจายออกเป็นเรื่องยาก เหมือนดังเครื่องเล่นเกมเสมือนจริงของร้านต้นตำรับ กว่าจะมีลูกค้าแวะเวียนมาใช้บริการจนเต็มแน่นเช่นทุกวันนี้ก็ต้องอาศัยระยะเวลา
แต่ก็มีลูกค้าสองถึงสามคนเข้ามารอเวลาก่อนแล้ว
ปู้หลี่เกื๋อไม่คิดสนใจเรื่องเป็นลูกค้าคนแรกในช่วงบ่าย กว่าเขาจะมาคือทานมื้อกลางวันที่ภัตตาคารเซ๊ยนหงส์อมตะหรือร้านหยวนก่วยเรียบร้อยแล้ว
เพื่อรับชมการถ่ายทอดสดของฉู่หยางขณะงานประมูลกำลังจะเริ่ม ลั่วฉวนตัดสินใจไม่นอนกลางวัน เพียงแต่นอนเอกเขนกรับชมโทรศัพท์วิเศษซึ่งลอยตรงหน้า
ปู้หลี่เกื๋อมาถึงร้านก่อนจะได้เห็นภาพอันชวนประหลาดใจ “วันนี้เถ้าแก่ไม่นอนกลางวัน!”
ลั่วฉวนเพียงหันมองตอบโดยไม่ได้ใส่ใจอะไรนัก
“ฉู่หยางถ่ายทอดสดที่เมืองแห่งความโกลาหลไม่ใช่หรือ? งานประมูลใกล้เริ่มขึ้นแล้ว” เหยาซือหยานเผยยิ้มกล่าวบอก
“ถ้าพี่ซือหยานไม่บอกข้าคงลืมไปแล้ว!” ปู้หลี่เกื๋อคล้ายเพิ่งนึกขึ้นได้ “ต้องรีบไปรับชมการถ่ายทอดสด!”
คำกล่าวจบ เขาเร่งร้อนมุ่งหน้าไปยังบริเวณเครื่องเล่นเกมเสมือนจริง หาที่นั่งสุขสบายหย่อนกายลงก่อนจะนำเอาโทรศัพท์วิเศษมาเปิดรับชม
การถ่ายทอดสดของฉู่หยาง เรื่องนี้ในหมู่ลูกค้าทราบกันทั่วแล้ว และผู้คนต่างก็มีความสงสัยต่อพื้นที่อันโกลาหลที่เคยได้ยินเพียงแต่คำเล่าลือ
รวมเข้ากับความเร็วการแพร่กระจายข่าวสารของโทรศัพท์วิเศษ จำนวนลูกค้าที่เข้าไปรับชมการถ่ายทอดสดเพิ่มขึ้นสูงอย่างรวดเร็ว กลายเป็นว่าลูกค้าแทบทุกคนในร้านตอนนี้กำลังรับชมการถ่ายทอดสดกันอยู่
ฉู่หยางไปถึงบริเวณศูนย์กลางเมืองแห่งความโกลาหล ระหว่างทางยังพบเจอผู้ฝึกตนหลากหลายต่อสู้กันข้างทางประปราย
เพราะงานประมูลที่กำลังจะเริ่ม เมืองแห่งความโกลาหลจึงกลายเป็นที่รวมตัวกันของเหล่าผู้ฝึกตนทั้งหลายจากทั่วทิศ ความยัดแย้งเป็นสิ่งที่อดไม่ได้หากจะเกิดขึ้น
“เหมือนว่าสถานที่จัดประมูลตรงหน้าจะดูหรูหราไม่น้อย” ฉู่หยางมองที่สิ่งปลูกสร้างตรงหน้าพลางกล่าวชม
มันคือสิ่งปลูกสร้างรูปวงแหวนขนาดใหญ่ ปกคลุมพื้นที่บริเวณกว้าง กำแพงสีดำแกะสลักเอาไว้ด้วยค่ายอาคมอันซับซ้อน ลั่วฉวนรู้สึกนึกถึงสนามแข่งกีฬาขนาดใหญ่
ตลอดทางมีแต่เสียงผู้คนจอแจ ผู้ฝึกตนนับไม่ถ้วนต่างมาจากทั่วสารทิศ แม้มีเสียงขู่คำรามดังบ้าง แต่ไม่มีความรุนแรงทางพลังวิญญาณปรากฏ
สาเหตุนั้นเข้าใจได้ เพราะมีร่างในชุดเกราะแดงดำยืนประจำการอยู่ทั่ว พวกเขาเหล่านี้เผยออร่าอันตรายสุดหยั่งออกมา
และชุดเกราะเหล่านั้นไม่ใช่ธรรมดา กระทั่งใบหน้ายังมีหมวกเกราะปิดบังไว้เต็มที่ สัดส่วนค่อนข้างเหลี่ยมคมประหนึ่งหลุดมาจากโลกวิทยาศาสตร์ แต่ก็ยังมีส่วนที่คล้ายเป็นชุดเกราะของนักรบอยู่ด้วยเช่นกัน
ลั่วฉวนไม่นึกแปลกใจ ทวีปเทียนหลันมีความหลากหลายทางอารยธณรมคงอยู่ จะมีส่วนที่คล้ายคลึงกับวัตถุเทคโนโลยีก็ไม่ใช่เรื่องน่าตกใจ
กลุ่มลูกค้าที่รับชมการถ่ายทอดสดรู้สึกเหมือนหลุดไปยังอีกโลก อย่างไรแล้วภายนอกของมันก็แตกต่างไปจากอุปกรณ์ทั่วไปที่พวกเขารู้จักค่อนข้างมาก
“เหล่านั้นคือองค์รักษ์คฤหาสน์จ้าวเมือง” ฉู่หยางกล่าวบอกผ่านทางถ่ายทอดสด “ความแข็งแกร่งพวกเขาน่าทึ่ง เป็นตัวตนที่ไม่ควรหาเรื่องในเมืองแห่งนี้เป็นที่สุด”
ขณะเดียวกันเขาก็เกิดสงสัย เพราะไม่อาจรับรู้ได้ถึงพลังวิญญาณจากร่างในชุดเกราะเหล่านั้น แต่เป็นพลังอื่นที่ค่อนข้างประหลาด ทั้งยังไม่มีออร่าแห่งชีวิต
ราวกับเป็นหุ่นกล แต่ฉู่หยางก็ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ ทวีปเทียนหลันมีของประหลาดมากมายให้ค้นพบ หากคิดหาคำตอบจากมัน บางทีอาจต้องใช้เวลาอย่างมหาศาล
รับชมกลุ่มคนตรงหน้า ฉู่หยางไม่ทราบว่าอีกนานเพียงใดกว่าจะเข้าไปผ่านการต่อแถวโดยปกติได้ ตอนนี้จึงตั้งใจเปิดเผยออร่าสะกดข่มออกมา
เสียงรอบด้านฉับพลันชะงัก สายตานับไม่ถ้วนมองมาทางฉู่หยาง แม้ออร่าเมื่อครู่เลือนหายไปแล้ว แต่มันยังทิ้งความรู้สึกตกค้างว่าไม่อาจต่อต้านในใจพวกเขา
“เหนือกว่าขอบเขตทดสอบเต๋า ขอเชิญเข้าไปได้” ทหารรักษาการณ์เผยเสียงอันราบเรียบภายใต้ชุดเกราะ มันเป็นเสียงที่เรียบนิ่งราวกับไร้อารมณ์
เสียงที่ได้ยินยังเป็นการย้ำข้อคาดเดาของฉู่หยาง ตอนนี้เขทะยานขึ้นมุ่งตรงสู่ทางเข้าพิเศษของสิ่งปลูกสร้าง การเดินหินบนอากาศ มีแต่ผู้ฝึกตนขอบเขตทดสอบเต๋าขึ้นไปถึงสามารถกระทำได้
“เป็นผู้อาวุโสอีกคนหนึ่งที่โดนวัตถุในงานประมูลที่กล่าวขานว่าสามารถเพิ่มศักยภาพได้จนต้องมาเยือน”
“เฒ่าอสูรโลหิต ราชันเลี่ยหยาง เทียนหลาง… ยอดฝีมือผู้มีชื่อเสียงทั้งหลายต่างมารวมตัวกัน”
“เหอะเหอะ แค่ได้รับชมก็น่าตื่นเต้นแล้ว หากพวกนั้นเปิดฉากสู้กันพวกเราอาจพอได้รับอะไรบ้าง…”
หลังเสียงเงียบไปพักหนึ่ง ความวุ่นวายก็กลับคืนอีกครั้ง สายตาผู้คนต่างเผยความละโมบออกมา
ราวกับพวกเขามาเข้าร่วมไม่ใช่เพื่อประมูล แต่เป็นการแย่งชิงสมบัติ
ลั่วฉวนที่เดินไปหยิบถุงมันฝรั่งทอดจากชั้นวาง เมื่อกลับมานั่งประจำที่ ก็พบว่าฉู๋หยางได้ที่นั่งในโรงประมูลเรียบร้อยแล้ว
ภายในสิ่งปลูกสร้าง มันคล้ายห้องโถงประชุมของมหาวิทยาลัย ที่นั่งเรียงรายแยกระดับชั้นความสูง เสียงวุ่นวายจากภายนอกดังเข้ามา หากให้กล่าว คงคล้ายอารีน่าที่ธอร์กับฮัคล์สู้กันอย่างไรอย่างนั้น*
(*จากภาพยนตร์ Thor Ragnarok)
ที่ตรงกลางคือลานหินยกสูง รวมถึงแสงไฟอันใหญ่โตที่ลอยค้างกลางอากาศ มันกว้างพอให้ความสว่างทั้งเวทีเพื่อผู้ชมรอบด้านจะได้เห็นสินค้าที่ถูกนำมาประมูลอย่างชัดเจนได้
“คึกคักดีไม่น้อย” เหยาซือหยานที่รับชมการถ่ายทอดสดอุทานกล่าวออก “ทำเอาอยากไปร่วมงานด้วยตัวเองเลย”
บรรยากาศในโรงประมูลเป็นสิ่งน่าสนใจ กระทั่งลั่วฉวนที่มักทำตัวเป็นปลาตากแห้งยังเกิดใจเต้นเล็กน้อย
แต่ก็เท่านั้น
“ใช่ คึกคักดีทีเดียว” ลั่วฉวนส่งแผ่นมันฝรั่งทอดเข้าปากพลางกล่าวคำเห็นพ้อง
ลูกค้าทั้งหลายในร้านที่รับชมการถ่ายทอดสดก็คิดเห็นเช่นเดียวกัน พวกเขาเกิดหวั่นไหวและตื่นเต้นจนยากจำเก็บอาการ
มันให้ความรู้สึกฮึกเหิมประหนึ่งเข้าเล่นโหมดท้าทายของหอคอยแห่งการทดสอบ
“เหมือนว่าใกล้จะถึงเวลาเริ่มงานประมูลแล้ว รบกวนรอกันสักครู่” ฉู่หยางคว้าโทรศัพท์วิเศษกลับเข้ามือ เปิดไพ่พิชิตแลนด์ลอร์ด และเริ่มเล่นเพื่อรอเวลา