บทที่ 740 มีอะไรมาลงที่ผม
เจตต์รู้ว่านิตาร้อนใจ จึงไม่พูดอะไร เปิดมือถือขึ้น
“อาเจตต์ ต้องเตรียมของขวัญให้ผมนะ”
กานต์หัวเราะคิกคักในวีดีโอ
“ว่ามา อยากได้อะไร อาซื้อให้หมดเลย”
“อาพูดเองนะ ผมได้ยินแม่บอกว่าหมู่นี้อยากไปดูมรกต อาหามรกตเม็ดงามให้ผมสักเม็ดได้มั้ย ผมจะให้แม่”
คำพูดของกานต์ทำให้เจตต์ชะงัก
“ของแบบนี้ก็ให้พ่อแกให้สิ แกให้ไม่เหมาะ”
“ทำไมล่ะ”
“เอาเป็นว่าให้พ่อแกเป็นคนให้”
เจตต์พูดจบอดมองนิตาไม่ได้
แววตาที่เขามองนิตาเป็นประกาย ราวกับไม่รู้จะมองอะไร
เจตต์ลนลาน
“งั้นเปลี่ยนอย่างอื่น”
“งั้นให้ผมเรื่องเครื่องมรกตสี่ชิ้น”
กานต์ติดมรกตเข้าแล้ว
“จะเอามรกตเยอะแยะทำไม ขายหรือไง”
“ให้น้องสาวผม ให้เรนนี่อันนึง ผมกับพี่กิจจาอีกคนละอัน สี่อันพอดี ว่าไงครับคุณอา เสียดายหรือครับ”
คำพูดของกานต์ทำให้เจตต์กระตุกมุมปาก
เด็กนี่สมแล้วที่เป็นลูกชายบุริศร์ ปลิ้นปล้อนชะมัด
ถ้าเป็นมรกต ของเจตต์เป็นของพรีเมี่ยมอยู่แล้ว แต่จู่ๆจะเอาของพรีเมี่ยมสี่ชิ้น มันไม่โลภมากไป หน่อยเหรอ
“ได้ๆๆ ให้นาย ให้แล้วกันล่ะตกลงมั้ย รีบบอกมา ข่าวอะไร”
“ขอบคุณครับคุณอาเจตต์ ผมจะส่งของไปให้ คุณอาไปดู ดูเสร็จแล้วลบทิ้งนะครับ ไม่อย่างนั้นผมเดือดร้อน”
กานต์พูดจบก็วางคลิป จากนั้นส่งไฟล์เอกสารไปให้เจตต์
นิตาพิงเข้ามา
นี่เป็นเอกสารลับสุดยอด คิดว่าคงมีแต่กานต์เท่านั้นแหละที่จะควักออกมาได้
พอเจตต์กับนิตาเปิดออก การเคลื่อนไหวครั้งนั้นนอกจกพ่อแม่ของนิตา คนที่นำร่องยังมีชาญอีกคน
นิตาตกตะลึง
เจตต์เดาไม่ผิดจริงๆ
ชาญเป็นคนนำร่องพ่อกับแม่ในคราวนั้น แต่เรื่องนี้ทำไมชาญไม่เคยพูดถึง
สีหน้าของนิตาบิดเบี้ยว
แต่เด็กยันโต เธอนับชาญเป็นเหมือนญาติสนิทที่สุด คิดไม่ถึงว่าจะเป็นแบบนี้
เจตต์เห็นสีหน้านิตาไม่สู้ดี จึงรีบปลอบ“คุณก็อย่าเศร้าไปเลย ไม่แน่ว่าเขาอาจจะมีเหตุต้องเก็บเป็นความลับ ตอนนี้พวกเราไม่มีหลักฐานใดๆ ที่จะมายืนยันว่าชาญเกี่ยวข้องกับการตายของพ่อกับแม่ บางทีเซ้นส์เราอาจจะผิดก็ได้”
“คุณไม่ต้องปลอบใจฉันหรอก ฉันรู้ว่าคุณหวังดี”
นิตาพยายามแสดงออกมาว่าไม่เป็นอะไร แต่เธอทำไม่ได้
จู่ๆเจตต์ก็รู้สึกเสียใจ บางทีเขาไม่ควรให้นิตารู้เรื่องนี้
“เอาล่ะ ฉันหิวจะตายอยู่แล้ว กินข้าวเสร็จพวกเราไปหาคุณอาชาญถามก็รู้เรื่องแล้ว”
เจตต์หรี่ตายิ้มแล้วพูด
นิตาจับมือเขา ถาม“ได้เหรอ เขาจะพูดเหรอ”
“น่าจะพูดอยู่ ลองดูสิ กินข้าวก่อน”
“ตกลง”
คำพูดเจตต์ราวมีเวทมนตร์ นิตาก้มหน้าเริ่มกินข้าว
เธอกินอะไรไม่รู้รส แต่ก็พยายามกิน
เห็นนิตาเป็นแบบนี้ เจตต์เองก็รู้สึกสงสาร
“กินไม่ลงก็ไม่ต้องกินแล้ว พวกเราลองไปถามดูก่อน ค่อยมากินก็ได้”
เจตต์คว้าข้อมือนิตา
นิตาสูดลมหายใจลึกพูด“เรื่องพ่อกับแม่เป็นบาดแผลในใจฉันตลอดมา ฉันไม่อยากจะเชื่อว่าเกิดเรื่องแบบนี้กับพวกเขา เรื่องผ่านไปนานหลายปี ไม่มีข้อสรุปเสียที ฉันกลัวว่าถ้าตัวเองยังไม่พยายาม เรื่องของพ่อแม่จะกลายเป็นคดีน่าสงสัย ที่คดีไม่จบไปตลอดชาติ แล้วพวกเขาก็ต้องพกพาความอัปยศอดสูไปตลอด เรื่องนี้ฉันรับไม่ได้!”
“ผมเข้าใจ ผมก็รู้ว่าคุณรู้สึกยังไง สบายใจเถอะ ผมจะตรวจสอบให้ชัดเจน เราไปถามคุณชาญกันก่อน”
เจตต์จับมือนิตาแน่น
นิตาเงยหน้ามองเจตต์ รู้สึกซาบซึ้ง
“ตกลง”
พวกเขาลุกขึ้นยืนชำระเงิน จากนั้นจึงเดินออกไปข้างนอก
รถของเจตต์จอดอยู่ที่ร้านอาหาร เดิมทีเขาอยากให้นิตารออยู่หน้าประตู แล้วเขาไปขับมา คิดไม่ถึง ว่านิตาจะไปด้วย
เจตต์เกลี้ยกล่อมนิตาไม่ไหว ได้แต่ดึงมือเธอไปลานจอดรถ
ฉับพลันรถเก๋งสีดำพุ่งมาทางเจตต์
“ระวัง!”
ภายใต้สถานการณ์คับขัน เจตต์จึงรีบผลักนิตาล้มลง ตัวเองหลบรถเก๋ง
นิตาล้มลงพื้น หันหน้ากลับไปมองรถเก๋งก็ล้มลง เป้าหมายยังคงเป็นเจตต์
“เจตต์คะ ระวัง”
นิตาร้อนใจเจียนแย่ แต่ก็ไม่กล้าขึ้นหน้า กลัวจะเป็นภาระเจตต์
เป้าหมายฝ่ายตรงข้ามแจ่มชัด คือพุ่งเป้าไปทางเจตต์
ช่วงที่นิตาร้อนใจ ก็อดคิดไปต่างๆนานาไม่ได้
ชาญส่งคนมาใช่ไหม
ความคิดนี้แวบผ่านหัวไป เหลือไว้เพียงตราประทับเนิ่นนาน
เจตต์เห็นว่าฝ่ายตรงข้ามต้องการจะชนตนเองให้ตาย จึงรีบกระโดดข้ามรถ วิ่งไปที่รถตนเอง
ในเวลานั้นเอง ผู้ชายสี่ห้าคนตีวงล้อมเข้ามา ปิดล้อมเจตต์เอาไว้
นิตาร้อนใจ
เธอรีบหยิบมือถือเตรียมจะแจ้งความ
ในเวลานี้เอง มีคนมาล็อคคอเธอจากทางด้านหลัง จนมือถือเธอตกลงพื้นไป
“เจตต์!”
นิตาดิ้นกระเสือกกระสน แต่ชายด้านหลังสูงใหญ่เหลือเกิน เธอดิ้นไม่หลุด
เจตต์เห็นนิตาถูกควบคุม ร้อนใจจนบันดาลโทสะ
“ปล่อยเธอ!ถ้าเป็นลูกผู้ชาย ก็มาลงที่ผม!”
“ได้สิ!แกอย่าขยับ แล้วฉันจะปล่อยเธอ ไม่งั้นฉันจะใช้มีดกรีดหน้าเธอ”
น้ำเสียงของผู้ชายแตกพร่า โหดเหี้ยมอำมหิต
เจตต์โมโหหัวฟัดหัวเหวี่ยง แต่เห็นฝ่ายตรงข้ามควักมีดสั้นออกมาจากกระเป๋า แล้วนาบลงกับหน้า นิตา
นิตาส่ายหน้าพัลวัน
“ไม่ต้องสนใจฉัน!เจตต์ ไม่ต้องสนใจฉัน!ถ้าคุณไม่ขยับ พวกเขาจะเอาคุณถึงตาย!”
นิตาแทบจะร้องไห้ออกมา
ทำไมถึงมาเจอเรื่องแบบนี้ได้เนี่ย
ทำไมตัวเองถึงกลายมาเป็นจุดอ่อนของเจตต์ได้
เจตต์เห็นนิตาร้องไห้ จึงหัวเราะขึ้น
“นิตา คุณรู้ไหม คุณยิ้มสวยมากเลย”
“เวลาอะไรแล้ว ยังมาพูดเรื่องแบบนี้อีก!รีบลงมือสิ!”
นิตาน้ำตาไหลพราก
เจตต์จึงเลิกต่อต้าน
เขามองนิตา ยิ้มให้แล้วพูด“นิตา อย่าขยับ ระวังโดนมีด พวกเขาเอาผมตายไม่ได้หรอก วางใจนะ”
คำพูดนี้เพิ่งพูดจบ คนข้างๆก็สอยหมัดเข้าท้องเจตต์
แรงของหมัดทำให้เจตต์คราง หากพยายามกัดฟันกรอดไม่ส่งเสียง
“เจตต์!คุณบ้าไปแล้วเหรอ ฉันเป็นอะไรกับคุณ คุณรีบวางมือเถอะ!พวกเขาไม่กล้าทำไรฉันหรอก!คุณตอบโต้สิ!”
นิตาร้องไห้ตะโกน กระเสือกกระสน
ชายผู้นั้นกลับพูดเสียงเย็น“เจตต์ ถ้าแกกล้าต่อต้าน ฉันก็จะเอาเธอตาย เรารู้ว่าแกมีฝีมือ เราสู้แกไม่ได้ แต่ผู้หญิงคนนี้เราเอาถึงตายได้สบาย แกจะลองดูมั้ยล่ะ แกฝีมือดี หรือมีดเราไว”
“อย่ายุ่งกับเธอ!ฉันบอกแล้ว มีอะไรให้มาลงที่ฉัน”
แววตาเจตต์กระพริบไอโทสะ สายตาราวจะฆ่าคน
ชายผู้นั้นชะงัก จากนั้นก็รู้สึกเซ็ง
ทำไมถึงมาตกใจกับสายตาเจตต์เข้าได้
“ลงที่แกน่ะได้ แต่ลงมือแล้วห้ามตอบโต้ ไม่งั้นไม่รับประกันว่าจะเกิดอะไรขึ้น”
ชายผู้นั้นพูดจบ นิตาก็ร้องไห้ขึ้นมา
“อย่าไปฟังเขา!เจตต์ อย่าไปฟังเขา!”
เจตต์มองนิตา ยิ้มละมุน
“นิตา ทำใจดีๆ ไม่มีอะไรหรอก”
“ไม่เอา!ฉันไม่เอา!เจตต์คะ อย่าทำให้ฉันรู้สึกติดค้างคุณได้ไหม”
นิตาดีดดิ้น
คมมีดตวัดผ่านลำคอ เลือดอุ่นๆไหลเป็นทาง แดงฉานซึมลงเสื้อ
แววตาของเจตต์นิ่งงัน
“ฉันบอกแล้ว อย่าทำร้ายเธอ ฟังไม่เข้าใจหรือไง”
เขาสะบัดตัวหลุดจากกลุ่มคน แล้วพุ่งไปที่ชายที่ล็อคนิตาไว้เป็นอันดับแรก
ชายคนนั้นกระหน่ำไอ เอามีดจี้คอนิตาแล้วพูด“ถ้าแกก้าวเข้ามาอีกก้าว ฉันฆ่ามันแน่”
เขามือสั่นเทา ตัวสั่นเทา มีดสั้นนั้นปักลงคอนิตาได้ตลอดเวลา
เจตต์ไม่กล้า
ถ้าเป็นเมื่อก่อน เขาจะไม่สนใจแน่นอน เขาจะรีบเอาชนะฝ่ายตรงข้ามเป็นอันดับแรก แต่ว่าตอนนี้ มองดูเลือดสดๆที่ไหลมาตามคอนิตา จู่ๆเขาก็รู้สึกหวาดกลัว
เขากลัวว่าถ้าตัวเองพลั้งมือไปจะเป็นอย่างไร
เขากลัวว่าถ้านิตาขยับตัว บาดคอแล้วจะเป็นอย่างไร
เขากลัวว่าถ้านิตาตายแล้ว เขาจะเป็นอย่างไร
เวลานี้เอง เจตต์ถึงได้ค้นพบว่า นิตามีความสำคัญในใจเขาแค่ไหน ไม่รู้ว่าเข้ามามีความสำคัญแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่
มีความสำคัญขนาดที่เขาจะพลาดไม่ได้แม้แต่น้อย สำคัญจนเขาไม่กล้าขยับตัว
“นิตา เชื่อฟัง อย่าขยับ”
“ไม่ค่ะ เจตต์ อย่าสนใจฉัน ฉันกับคุณไม่ได้เป็นอะไรกันอยู่แล้ว คุณไม่ต้องสนใจฉัน!”
นิตาร้องไห้ตะโกน น้ำเสียงแหบพร่า
ปกติลานจอดรถใต้ดินคนเยอะมาก แต่วันนี้เงียบเป็นพิเศษ เงียบจนเจตต์ได้ยินเสียงนิตาก้อง
เจตต์ยิ้มพูด“จะไม่เกี่ยวข้องได้ไง คุณบอกคุณอาชาญเองว่า ผมเป็นแฟนคุณนี่นะ เรื่องนี้พูดต่อหน้าผู้ใหญ่แล้ว ก็ต้องเป็นตามนั้น แก้ไขอะไรไม่ได้ สบายใจเถอะ ผมน่ะเป็นแมวเก้าชีวิต ดวงแข็ง พวกเขาเอาผมไม่ตายหรอก”
“ลงมือ!”
ชายผู้นั้นมองเจตต์อย่างดุเดือด อดพูดออกมาไม่ได้
คนรอบตัวแห่ล้อมเข้ามา พุ่งเป้าไปที่เจตต์
เจตต์ต่อต้านโดยสัญชาตญาณ ได้ยินเสียงผู้ชายคนนั้นว่า“แกต้านทีนึง ฉันก็จะกรีดหน้าหล่อนทีนึง ไม่เชื่อลองดู ฉันไม่เป็นไรอยู่แล้ว”
“อย่าแตะต้องเธอ!”
เจตต์เดือดดาลดังไฟลน และเลิกปัดป้องตัวเอง
หมัดที่ไร้ปราณีกระหน่ำลงบนตัวเขา
นิตาร้องไห้จนหายใจหอบ
“เจตต์คะ เป็นบ้าเหรอ สู้กลับสิคะ สู้กลับ!”
เจตต์มองเธอ ยิ้มอ่อนโยน
ตอนนี้เอง เขาได้เข้าใจสิ่งที่นรมนเคยบอก
เธอบอกว่า,“เจตต์คะ สักวันคุณจะเจอคนที่เป็นของคุณเพียงคนเดียว เวลานั้นคุณจะรู้เอง ความรักที่คุณมีต่อฉันอาจไม่ใช่รักแท้ก็ได้”
เวลานี้ ดูเหมือนเจตต์จะเข้าใจแล้ว