แค้นรักสามีตัวร้าย – ตอนที่ 746

ตอนที่ 746

บทที่ 746 ในฐานะที่เป็นผู้หญิงคนหนึ่ง เธอน่าสงสารมาก

“ใครน่ะ?”

นรมนโดนเหวี่ยงไปที่กระจกหน้ารถโดยไม่ได้ตั้งตัว

แววตาของบุริศร์อึมครึมลงเล็กน้อย

“ไม่เป็นไรใช่ไหม?”

“ไม่เป็นไร”

นรมนลูบๆหัวของตนเอง เจ็บจนเห็นแสงวาบอยู่ด้านหน้า

ไม่รอให้เธอตอบสนอง ร่างนั้นก็พุ่งเข้ามา ตบไปที่กระจกด้านข้างนรมน ตะโกนออกมาด้วยน้ำเสียงดุดัน: “นรมน เธอลงมาเดี๋ยวนี้!”

นรมนงงงันเล็กน้อย เงยหน้าขึ้นมาอีกครั้ง ก็เห็นนิตาที่กำลังตบกระจกรถราวกับผู้หญิงคลุ้มคลั่ง ชะงักขึ้นมาทันที

“คนที่ขวางรถเมื่อกี้คือเธอ?”

แววตาของบุริศร์อึมครึมขึ้นมาเล็กน้อย

“ผมจะลงไปจัดการ”

“ไม่ต้องหรอก ฉันจัดการเองได้”

นรมนได้สติดีแล้ว

ถ้าเป็นนิตา เธอก็รู้ว่านิตาจะทำอะไร

นรมนเปิดประตู เพราะแรงจากประตูรถทำให้นิตาต้องถอยหลังไปอย่างห้ามไม่ได้ นรมนจึงถือโอกาสลงจากรถตอนนี้

“เธอมีธุระอะไร?”

“นรมน เธอมันทำนิสัยหมาๆต่ำช้า! ฉันมีของมีค่าของเธอตั้งแต่เมื่อไหร่? ไม่นึกว่าเธอจะให้ชาญมาเอาของจากฉัน เธอคิดจะทำอะไร?”

นิตามองนรมนด้วยความขุ่นเคือง ความนอบน้อมและเชื่อฟังทั้งหมดที่มีให้นรมนในตอนแรกไม่เหลืออยู่อีกแล้ว ตอนนี้มีแต่ความโหดร้ายและเกลียดชังเท่านั้น

นรมนก็หงุดหงิดใจ ระหว่างเธอกับนิตามาถึงจุดนี้ได้ยังไง?

นิตาเมื่อก่อนกับนิตาในตอนนี้ราวกับเป็นคนละคนกันเลยจริงๆ ถ้าไม่ใช่เพราะรู้จักกันเป็นอย่างดี เธอคงจะคิดว่าวิญญาณของนิตาโดนกินไปแล้วจริงๆ

“เธอไม่รู้เหรอว่าเธอเอาของสำคัญอะไรของฉันไป? มันเป็นสิ่งล้ำค่าที่อยู่ข้างกายเธอ ไม่นึกเลยว่าเธอจะไม่ทันสังเกต”

“ก็ฉันไม่เคยเอาของๆเธอไปเลยน่ะสิ! เธออย่ามาใส่ร้ายคนอื่นอย่างนี้นะ!”

“เจตต์”

นรมนพูดชื่อหนึ่งออกมาอย่างนิ่งเฉย

“อะไรนะ?”

นิตาค่อนข้างกลัดกลุ้ม แต่ก็ตอบโต้กลับไปทันที

“ไม่คิดเลยว่าเธอจะมองเจตต์เป็นสิ่งของ นรมน เธอทำให้ฉันรู้สึกสะอิดสะเอียนจริงๆ”

“งั้นเหรอ? ตอนนี้รู้สึกว่าฉันน่าสะอิดสะเอียนแล้วเหรอ? งั้นตอนที่ฉันเลื่อนตำแหน่งให้เธอเป็นรองประธานทำไมถึงไม่รู้สึกว่าฉันน่าสะอิดสะเอียนล่ะ? ฉันส่งเธอมาพัฒนาตลาดที่นี่ ตอนที่ให้เจตต์อยู่เป็นเพื่อนเธอทำไมเธอถึงไม่รู้สึกสะอิดสะเอียน? เธอเองมีความสามารถในการป้องกันตัวอยู่ชัดๆ แต่กลับยอมให้ธาวิณีทำร้ายเธอจนบาดเจ็บสาหัส ทำไมถึงไม่รังเกียจตัวเองที่น่าสะอิดสะเอียนบ้าง?”

ในเมื่อฉีกหน้ากากแล้ว นรมนก็ไม่ใส่ใจที่จะเปิดโปงออกมา

นิตาชะงักงันไปทันที

“เธอหมายความว่าไง?”

“เธอถามว่าฉันหมายความว่าไง? เธอเป็นคนของหมู่บ้านดารายนไม่ผิดสินะ? คนของหมู่บ้านดารายนเรียนหมอกันมาตั้งแต่เด็ก ถ้าเป็นคนอื่น ฉันก็พอจะเชื่อว่าเธอแค่ช่วยเจตต์ด้วยความบริสุทธิ์ใจ แต่เป็นคนของหมู่บ้านดารายน ฉันกลับอยากจะถามเธอ เธอที่คุ้นเคยกับการจดจำจุดที่ใช้ฝังเข็มตามร่างกายมาตั้งแต่เด็ก ทำไมถึงไม่ปกป้องตำแหน่งที่สำคัญของตนเองแต่กลับยอมให้คนอื่นทำกับตัวเองอย่างนี้ล่ะ? ฉันสืบค้นมาแล้ว คนของหมู่บ้านดารายนพวกเธอแต่ละคนจะมีเข็มเงินติดตัวคนละชุด เพื่อเอาไว้ใช้ป้องกันตัวเอง นิตา เข็มเงินของเธอล่ะ? เธอช่วยเจตต์ ฉันซาบซึ้งในตัวเธอ แต่ที่เธอเข้าหาเจตต์ จุดประสงค์ที่จะอยู่กับเขาคืออะไร? เธอพูดออกมาให้ชัดเจนจะดีที่สุด ไม่งั้น ฉันจะจับตาดูเธอไม่ให้คลาดสายตา”

คำพูดของนรมนทำให้สีหน้าของนิตาเปลี่ยนไป

“เธอรู้เรื่องหมู่บ้านดารายนได้ยังไง?”

“เรื่องนี้เธอไม่ต้องยุ่ง เธอแค่จัดการเรื่องตัวเองให้ดีก็พอแล้ว ตอนนี้ฉันเสียใจบ้างแล้ว ที่ไม่สืบดูประวัติของเธอให้ชัดเจนก่อนก็ให้เจตต์ไปอยู่ข้างกายเธอเสียได้ ฉันไม่สนใจว่าเธอมีแผนการอะไรกับเขา ตอนนี้หยุดเถอะจะดีที่สุด ไม่งั้น ไม่ต้องพูดถึงชาญหรอก ฉันก็ทำให้เธอหายไปจากเจตต์ได้เหมือนกัน จัดการตัวเองให้ดี”

นรมนพูดจบก็จะขึ้นรถ แต่ได้ยินนิตาพูดขึ้น: “เธอคิดว่าเจตต์ในตอนนี้ยังเป็นเจตต์ที่เธอรู้จักอีกงั้นเหรอ? ตอนนี้เขาไม่รักเธอแล้ว เธอไม่ได้คาดหวังให้เขามีความสุขเหรอ? คาดหวังให้เขาไม่ต้องรักเธออีกไม่ใช่เหรอ? ตอนนี้เป็นอย่างนี้ไม่ดีเหรอ? ถ้าเธอเล่าเรื่องทั้งหมดให้เขาฟัง เธอคิดว่าเขาจะเจ็บปวดไหม?”

“นี่เธอเอาเจตต์มาข่มขู่ฉัน? เธออยากตายใช่ไหม?”

ความเดือดดาลของนรมนค่อยๆปะทุขึ้นจนลุกไหม้

นิตา เธอกล้ามาจริงๆ

ความเย็นชาโหดร้ายของนรมนไม่ได้ทำให้นิตาตกใจเลย กลับทำให้เธอยิ้มกริ่มพูดขึ้น: “ฉันอยากตายเหรอ? เธอกล้าแตะต้องฉันไหมล่ะ? ถ้าเจตต์ตื่นขึ้นมา รู้ว่าเธอแตะต้องแฟนของเขา เขาจะคิดยังไง?”

“นิตา เธออย่าคิดว่าตัวเองสำคัญไปหน่อยเลย”

“ฉันไม่สำคัญ แต่เธอสำคัญ ด้านหนึ่งเธอก็บอกให้เจตต์ปล่อยเธอ ไปหาความสุขของตัวเอง อีกด้านหนึ่งก็ถือโอกาสตอนที่เขาไม่ได้สติทำร้ายความสุขของเขา ดังนั้นนรมน เธอหมายความว่ายังไงกันแน่? คิดจะเหยียบเรือสองแคมแล้วให้เจตต์เป็นตัวสำรองของเธอต่อไปใช่ไหม?”

คำพูดของนิตายั่วโมโหนรมนอย่างมาก เธอยกมือแล้วสะบัดลงไปทันที

“ผู้หญิงอย่างเธอไม่เหมาะสมกับเจตต์เลยจริงๆ!”

นิตาโดนตบจนหน้าเบี้ยว ในปากมีรสของเลือดแพร่ออกมา

เธอใช้ปลายลิ้นดันๆกระพุ้งแก้ม รอยยิ้มเต็มไปด้วยความไม่ใส่ใจ

“ฉันไม่เหมาะกับเจตต์? แล้วใครเหมาะ? เธอเหรอ? นรมน เธออย่าลืมนะ เธอแต่งงานแล้ว สามีของเธอยังอยู่ในรถกำลังมองเธออยู่”

นรมนโมโหจนตัวสั่น แต่ก็รู้ว่า ลงไม้ลงมือกับนิตาไปก็ไม่ได้อะไร

ตอนนี้นิตาถอดหน้ากากกับเธออย่างสมบูรณ์แล้ว

นรมนเสียใจขึ้นมาแล้วจริงๆ ตอนแรกทำไมถึงรู้สึกว่านิตาเป็นผู้หญิงที่ใสซื่อแสนดีไปได้ล่ะ?

“มิตรภาพระหว่างฉันกับเจตต์ไม่เกี่ยวกับเธอ นิตาฉันขอเตือนเธอไว้เลยนะ ถ้าเธอกล้าทำร้ายเขา ฉันจะไม่ให้อภัยเธอ”

นรมนพูดจบก็ขึ้นรถ

บุริศร์กำลังมองเธอที่เดือดดาล พูดขึ้นเบาๆ: “เพียงแค่คุณเอ่ยปาก ผมจะให้คนไปจัดการเธอ”

“แล้วจากนั้นล่ะ? จะอธิบายกับเจตต์ยังไง? บอกว่าเธอเกิดอุบัติเหตุเหรอ? บุริศร์ บางคำนิตาก็พูดถูก ตอนนี้เธอเป็นแฟนของเจตต์ เป็นคนที่เจตต์แคร์ที่สุด ไม่ง่ายเลยที่เจตต์จะเปิดใจรับผู้หญิงคนหนึ่ง ถ้าตอนนี้เราทำอะไรนิตา เจตต์จะได้รับผลกระทบไปด้วย แล้วต่อไปเขาจะหาความสุขของตัวเองเจอไหมฉันไม่กล้าคิดเลย เราติดค้างเจตต์มากเกินไปแล้ว ฉันไม่อยากผิดใจกับเขาไปชั่วชีวิต”

นรมนทุกข์ใจ แต่ก็ต้องยอมรับ ในตอนนี้ เธอหมดหนทางที่จะจัดการนิตา ไม่ใช่เพราะไม่มีกำลัง แต่เพราะตอนนี้เธอเป็นคนที่เจตต์แคร์ที่สุด

บุริศร์เห็นนรมนไม่ได้รับความเป็นธรรมต่อตนเองเช่นนี้ ก็อดไม่ได้ที่จะปวดใจ

“เจตต์เป็นผู้ชายที่แข็งแกร่งถ้าแม้แต่การปะทะแค่นี้ก็แบกรับไม่ไหว ก็ไม่ต้องมีชีวิตอยู่แล้ว คุณคิดแทนเขามากเกินไปแล้วนะ จนไม่เป็นธรรมต่อตัวเอง นิตากำเริบอย่างนี้ คุณลงมือไม่ได้ ผมจัดการเอง ต่อให้เจตต์จะหาเรื่องผมอย่างเต็มที่ผมก็ยอมรับ คงดีกว่าที่เขาจะรู้จักพฤติกรรมของนิตาหลังจากที่เขามีความรู้สึกที่ลึกซึ้งไปแล้วใช่ไหม?”

นรมนรู้ว่าที่บุริศร์พูดมาก็มีเหตุผล แต่เรื่องของความรู้สึกใครจะพูดได้ล่ะ?

“เรื่องนี้ให้เจตต์จัดการเองดีกว่า ตอนนี้ชาญก็แน่ใจแล้วว่าฉันมีของล้ำค่าฝากไว้ในมือของนิตา คงไม่ทำร้ายนิตาแน่นอน เจตต์น่าจะใกล้ฟื้นแล้ว ปัญหาความรู้สึกระหว่างพวกเขาให้พวกเขาไปจัดการกันเองดีกว่า สิ่งที่ควรพูด ควรเตือน ฉันบอกเจตต์ไปหมดแล้ว ส่วนเขาจะเลือกยังไง ฉันไม่มีสิทธิก้าวก่าย แล้วก็ไม่มีสิทธิลงโทษนิตาแทนเขาไม่ใช่เหรอ?”

การที่นรมนยอมปล่อยวางอย่างกะทันหันทำให้บุริศร์งุนงง แต่ทว่ากลับยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย

“นรมน คุณโตแล้วนะ”

“ผ่านเรื่องราวมามากมาย ถ้ายังไม่เติบโตฉันก็คงไร้ค่าจริงๆแล้วแหละ ไปกันเถอะ ไปหาเจตต์ที่โรงพยาบาลกัน ถ้าเขาไม่เป็นไรแล้ว เราก็กลับบ้านกัน ที่บ้านยังมีกมลกับกิจจาพวกเขากำลังรอเราอยู่”

นรมนยิ้มบางๆ

บุริศร์ถามขึ้นเบาๆ: “เรื่องของชาญไม่สืบแล้วเหรอ?”

“ไม่สืบแล้ว จริงๆมันก็ไม่ใช่เรื่องของเรา ฉันคิดว่าหลังจากที่เจตต์ฟื้น จะสืบหาให้ชัดเจน ถ้าแม้แต่ความสามารถในการปกป้องแฟนและปกป้องตัวเองยังไม่มี ก็ไม่ใช่เจตต์ที่พวกเรารู้จักแล้ว ในฐานะที่เป็นเพื่อน ตอนที่เขาต้องการที่สุด เราช่วยเหลือเขาก็พอ เส้นทางที่เหลือต้องให้เขาเดินไปเอง บางทีนิตาอาจจะพูดถูก ถ้าไม่มีฉันอยู่ในชีวิต เจตต์ถึงจะได้เริ่มต้นใหม่อีกครั้ง”

คำพูดของนรมนทำให้บุริศร์ปวดใจจนต้องโอบเธอเข้ามาในอ้อมกอด

“ไม่ต้องเสียใจ คุณยังมีผมกับลูกๆ ต่อไปพวกเราจะพยายามทำให้คุณยุ่ง จนไม่มีเวลาว่างเลย”

“ฉันว่างที่ไหนกัน? บริษัทท่องเที่ยวฉันยังต้องไปดูแลอยู่นะ”

นรมนดันๆบุริศร์ ไม่ได้ผลักออกไป แต่ทว่าในใจกลับซาบซึ้ง

คนที่ยอมให้ตนเองโวยวายได้เต็มที่คงมีแต่บุริศร์เท่านั้นแหละ

เธอกำลังมองบุริศร์ พูดอย่างอ่อนโยน: “ไปกันเถอะ ไปดูเจตต์ที่โรงพยาบาลกัน”

“อื้ม”

นรมนปล่อยบุริศร์ หลังจากสตาร์ทรถก็ออกเดินทาง

นิตาเห็นพวกเขาท่าทางเข้ากันได้ดี จึงอดไม่ได้ที่จะอิจฉาอยู่บ้าง

เธอกับเจตต์จะเป็นเช่นนี้ไหม?

ต่อให้เธอใช้กลอุบายแย่งเจตต์มาจากนรมนได้ แม้จะไม่อยากยอมรับ แต่ในนาทีนี้ ที่เธอต้องเผชิญหน้ากับตนเอง นิตาก็ยังคงละอายใจ

การที่เธอต้องการผู้ชายคนหนึ่ง ไม่นึกเลยว่าจะต้องใช้เล่ห์เหลี่ยม

นรมนพูดถูก เธอเป็นคนของหมู่บ้านดารายน เธอรู้ว่าสถานการณ์ของตนเองเป็นอย่างไร

ชีวิตนี้เธออยากจะเป็นแม่คน แต่กลัวว่าจะยากเกินไปแล้ว

ใช้ความโดดเดี่ยวของทั้งชีวิตแลกกับความละอายใจของผู้ชายคนหนึ่ง เพื่อที่จะบีบบังคับให้เจตต์อยู่กับเธอ ค่าตอบแทนอย่างนี้มากเกินไปใช่ไหม?

แต่เธอจะทำอย่างไรได้ล่ะ?

เธอเป็นลูกสาวที่กำพร้าพ่อแม่ ไม่มีอำนาจไม่มีอิทธิพลไม่มีตัวตน อยากจะสืบหาสาเหตุการตายของพ่อแม่ตนเองกับความจริงก็ไม่มีเส้นสายที่จะช่วยได้ เธอจะทำอะไรได้บ้างล่ะ?

จู่ๆเธอก็อิจฉานรมนขึ้นมา

ผู้หญิงที่ทำทุกอย่างได้ตามอำเภอใจ ถึงจะเป็นแบบอย่างที่เธออยากเป็น แต่เธอกลับไม่สามารถมีชีวิตที่สบายๆเช่นนี้ได้

นิตามองท้ายรถของนรมน ค่อยๆนั่งยองๆลงไปกุมท้องของตนเองเอาไว้ ปวดจนเหงื่อเย็นๆผุดออกมา แต่กลับกัดฟันแน่นไม่ยอมส่งเสียง

นรมนก็มองผ่านกระจกไปที่ด้านหลังด้วยสัญชาตญาณ ตอนที่เธอเห็นนิตาท่าทางอย่างนั้นจึงอดไม่ได้ที่จะร้องออกมา: “จอดรถ!”

“เป็นอะไรไป?”

บุริศร์คิดว่านรมนลืมอะไร จึงถือโอกาสมองตามสายตาของนรมนไปที่ด้านหลัง อดไม่ได้ที่จะส่ายหัว

“เมื่อกี้เธอพูดกับคุณขนาดนั้น คุณแน่ใจนะว่าจะยุ่งกับชีวิตของเธอ?”

“เห็นแก่เจตต์ก็แล้วกัน เธอน่าจะปวดท้องอีกแล้ว ไม่ว่าเธอจะมีเป้าหมายอะไร ในฐานะที่เป็นผู้หญิงคนหนึ่ง เธอเป็นคนที่เสียใจ”

“คุณเห็นใจเธอ?”

“ฉันแค่ไม่อยากให้เธอเกิดเรื่องต่อหน้าพวกเรา เดี๋ยวจะกลับไปอธิบายกับเจตต์ไม่ได้”

คำพูดของนรมนทำให้บุริศร์ยิ้มอย่างจำใจ

แค้นรักสามีตัวร้าย

แค้นรักสามีตัวร้าย

Status: Ongoing

ไฟเผาความรักทั้งหมดของนรมนที่มีต่อบุริศร์ หลังจากห้าปี เธอกลับไปอย่างงดงามและเพื่อทวงความยุติธรรมสำหรับตัว เธอเอง แต่คาดไม่ถึงว่าเด็กชายที่ถูกพากลับมาด้วยนั้นมีแผน มากกว่าเธอ เด็กน้อยยืนอยู่ข้างหน้าบุริศร์ กล่าวอย่างไร้เดียง สาว่า “คุณลุง สามารถช่วยผมได้ไหม? ผมขอร้อง” บุริศร์ รู้สึกว่าไม่สามารถต้านทานการวิงวอนของเด็กได้ คุกเข่าลง เพื่อช่วย แต่คาดไม่ถึงว่าจะถูกพ่นใส่หน้า อยู่มาวันหนึ่ง บุริศร์ พูดกับเด็กชายหน้าตาดีว่า “เด็กน้อย นี่คือห้องของฉัน!” “แต่ ว่าผมอยากนอนกับหม่าม พวกเรานอนด้วยกันมาห้าปีแล้ว” ชายหนุ่มร้องไห้… แค่ไปจีบภรรยากลับมาเท่านั้น ทำไมลูก ของฉันถึงเอาใจยากเหลือเกิน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท