บทที่ 745 ให้ผมเป็นเจ้าชายของคุณดีไหม
“คุณนิตา คุณอย่าพยายามปกปิดอีกเลย คุณนายบุริศร์บอกมาหมดแล้ว ว่าของขวัญล้ำค่าอยู่ที่คุณ”
“เธอพูดจาเหลวไหล เธอไม่ได้ให้ของมีค่าฉันไว้เลย”
นิตาขมวดคิ้วแน่น
“นี่คุณอาชาญไม่เชื่อฉันจริงๆงั้นเหรอ?”
“เรื่องนี้ผมก็ไม่รู้หรอก ถ้าคุณนิตาจะไม่ให้ความร่วมมือก็ได้ งั้นไปกับผมหน่อยแล้วกัน คุณบอกประธานชาญด้วยตัวเอง ไม่งั้นผมก็จนปัญญาที่จะอธิบาย”
คำพูดของผู้ชายทำให้สีหน้าของนิตาแย่มาก
“คุณอาชาญดีกับฉันเหมือนเป็นลูกสาวแท้ๆ ถ้าพวกนายกล้าทำอะไรฉัน อย่ามาโทษที่ฉันบอกคุณอาชาญนะ แล้วก็ แฟนของฉันอยู่ที่นี่ยังไม่ฟื้น ฉันไปไม่ได้ นายกลับไปก่อนเถอะ กลับไปบอกคุณอาชาญ ว่านรมนไม่ได้ทิ้งของอะไรไว้ที่ฉันเลย”
นิตาพูดจบก็เดินมาที่หน้าเตียงของเจตต์
ผู้ชายส่งเสียงเย็นชาออกมา: “นิตา คุณยังคิดว่าตัวเองเป็นคนอยู่อีกจริงๆเหรอ? ประธานชาญมีอำนาจขนาดนั้น จะให้ความสำคัญกับผู้หญิงอย่างคุณเหรอ? ถ้าไม่เห็นแก่หน้าของพ่อแม่คุณ คุณคิดว่าประธานชาญจะสนใจคุณไหม? คนน่ะ ยังไงก็ต้องรู้จักประเมินตนเองนะ แต่ก่อนประธานชาญปฏิบัติต่อคุณยังไงคุณชัดเจนดีที่สุด ผมก็ไม่กลัวที่จะบอกให้คุณรู้ คุณนายบุริศร์เอาหยกล้ำค่าสองชิ้นนั้นไปจากประธานชาญแล้ว เธอบอกว่าเธอมีของล้ำค่าอยู่ที่คุณนั่นก็ต้องมี ผมแนะนำให้คุณเอาออกมาดีกว่า อย่ากลับไปยั่วโมโหประธานชาญเลย”
นิตาโกรธจนตัวสั่น
“ไว้หน้าพ่อแม่ฉัน? ถ้าไว้หน้าพ่อแม่ฉันจริงๆจะทำอย่างนี้กับฉันเหรอ? จะทำอย่างนี้กับแฟนของฉันเหรอ? อย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะ คนพวกนั้นที่ลานจอดรถชาญเป็นคนส่งมาใช่ไหมล่ะ? ทำไมพวกนายต้องทำกับแฟนฉันอย่างนี้?”
“เรื่องนี้ผมก็ไม่ค่อยชัดเจน นิตาคุณไปถามประธานชาญเองจะดีกว่า ผมจะพูดอีกครั้งนะ เอาของออกมา ไม่งั้นคุณก็ไปกับผม”
“ถ้าฉันไม่ไปกับนายล่ะ?”
นิตายืดคอตั้งตรง ถามขึ้นด้วยความโมโห
ฝ่ายชายจึงยิ้มเยาะพูดขึ้น: “ไม่ไปกับผมไม่เป็นไร ผมพาคุณนิตาไปก็ได้”
“นายจะทำอะไร? ฉันเตือนนายไว้เลยนะ นายอย่ามาทำอะไรสุ่มสี่สุ่มห้า! แฟนฉันก็ต่อสู้ได้ นายรอเขาตื่นขึ้นมา ถ้าเขารู้ว่านายแตะต้องฉัน เขา……กรี๊ด!”
นิตากำลังถอยหลังไปเรื่อยๆ แต่สุดท้ายก็หลบไม่พ้นมือทั้งคู่ของผู้ชาย หลังจากดิ้นสุดแรงเกิดแต่ก็ยังโดนพาไปอยู่ดี
หลังจากที่นิตาโดนคนพาตัวไป นรมนด้านนี้ก็ได้รับโทรศัพท์สายหนึ่ง
“คุณนายบุริศร์ คุณนิตาโดนผู้ชายคนหนึ่งแบกพาดไหล่ออกไป คุณจะ……”
“เจตต์ล่ะ?”
“ไม่มีคนดูแล”
สีหน้าของนรมนหม่นหมองลงเล็กน้อย
ชาญเห็นสีหน้าของนรมนไม่ค่อยดีนักหลังจากได้รับโทรศัพท์ ก็พอจะเดาได้ถึงอะไรบ้างแล้ว
นรมนมองชาญ แล้วพูดเบาๆ: “จ้างคนไปดูแล เอาที่ไว้ใจได้นะ อีกเดี๋ยวฉันจะกลับไป”
“อื้ม”
หลังจากวางโทรศัพท์ นรมนมองชาญอย่างแฝงไปด้วยความหมายพูดขึ้น: “ประธานชาญ คนของคุณไปหานิตาแล้ว?”
“ไม่นี่ครับ ผมจะหานิตาทำไม?”
ชาญปฏิเสธทันที
นรมนยิ้มเยาะพูดขึ้น: “ประธานชาญ นิตาเป็นคนของฉัน คุณต้องการของมีค่าก็ได้ แต่อย่าทำร้ายคน ไม่งั้น……”
“ดูคุณนายบุริศร์พูดเข้าสิ นิตาเป็นหลานสาวของผม ผมจะทำร้ายเธอได้ยังไงครับ?”
“อ้อ แล้วแฟนของเธอล่ะ?”
เมื่อนรมนพูดประโยคนี้ออกไป ชาญจึงชะงักงัน
“คุณนายบุริศร์ แฟนเธอก็เป็นเพื่อนของคุณ?”
“เป็นเพื่อนสนิทของผม”
บุริศร์เอ่ยปากขึ้นเรียบๆ
ชาญขมวดคิ้วเล็กน้อยพูดขึ้น: “ผมไม่รู้ ผมแค่อยากให้เขาอยู่ในที่ของตนเองก็เท่านั้น อยู่ห่างจากนิตาให้ไกลหน่อย ที่จริงแล้วนิตาใสซื่อมาก”
“นิตาใสซื่อหรือเปล่าไม่รู้หรอกค่ะ ฉันรู้แค่ว่าเจตต์ใสซื่อมาก ประธานชาญ ในอาณาเขตนี้ถ้าเจตต์เกิดเรื่องขึ้นอีกครั้ง ฉันจะไม่ปล่อยไปง่ายๆแล้วนะ”
นรมนพูดติดตลก แต่ทว่าชาญเห็นสีหน้าท่าทางของเธอไม่เหมือนพูดเล่นเลยแม้แต่นิดเดียว
“ในเมื่อคุณนายบุริศร์เอ่ยปากแล้ว ผมก็จะไม่แตะต้องเขาอีกครับ”
“ขอบคุณค่ะประธานชาญ เสี่ยงโชคหินหยกที่เหลือฉันเอาทั้งหมด ไม่ว่าจะตัดออกมาเป็นอะไรก็ยกให้ประธานชาญไปเลย”
นรมนพูดอย่างนี้ออกไป ชาญตกตะลึงขึ้นมาทันที
เขาเคยเจอคนกล้าได้กล้าเสียมาก่อน แต่ไม่เคยเจอคนที่กล้าได้กล้าเสียขนาดนรมนมาก่อนเลย
“คุณนายบุริศร์ พูดจริงใช่ไหมครับ?”
“แค่เจตต์อยู่อย่างปลอดภัย แน่นอนว่าจริงค่ะ”
“ครับๆๆ ผมจะไม่แตะต้องเขาอีกแน่นอน”
ชาญไปตัดหินหยกดิบด้วยความกระตือรืนร้น
บุริศร์ส่ายๆหน้าพูดขึ้น: “ให้เงินเขาเยอะแยะขนาดนั้นทำไม? คิดว่าเงินของผมปลิวมาตามสายลมจริงๆเหรอ?”
“ไม่มีของดีอะไรเลย”
คำพูดของนรมนทำให้บุริศร์งุนงง
“คุณดูเสี่ยงโชคหินหยกเป็นแล้ว?”
“เข้าใจนิดหน่อย วัสดุพวกนี้ดูแล้วเหมือนหยกที่มีรอยเก่าๆ แต่ถ้าดูอย่างละเอียดๆ สีสันความแวววาวกับรอยแตก ไม่ได้มีค่ามาก เต็มที่ก็ตัดออกมาเป็นสีเขียวมรกต สบายใจได้ ฉันคำนวณไว้แล้ว เสี่ยงโชคหินหยกพวกนี้จ่ายไม่ถึงแสนหรอก เพราะน้ำใจจากพวกเราเดี๋ยวกลับไป เจตต์ต้องแลกเปลี่ยนกับพวกเรามากกว่าสิบล้านแน่ๆ”
บุริศร์ยิ้มขึ้นมาทันที
“ตอนนี้คุณทำธุรกิจเก่งขึ้นเรื่อยๆแล้วนะ!”
“ก็ไม่ได้เรียนมาจากคุณเหรอ?”
นรมนยิ้มบางๆ แต่ทว่าหน้าผากยังแสดงความกังวลอยู่เล็กน้อย
บุริศร์ดึงเธอมานั่งบนต้นขาของเขา ถามขึ้นเบาๆ: “คุณกำลังเป็นห่วงนิตา?”
“ฉันจะเป็นห่วงเธอทำไม? ตอนที่เธอยั่วโมโหฉันก็น่าจะรู้แล้ว ว่าฉันไม่ใช่คนที่จะมารังแกง่ายๆ เพียงแต่อันที่จริงเธอก็เป็นแฟนของเจตต์ ถ้าชาญทำเกินไปขึ้นมาจริงๆ ถึงตอนนั้นกลัวว่าเจตต์จะมาโทษฉันได้”
ตอนที่พูดถึงตรงนี้ นรมนก็ค่อนข้างกลุ้มใจ
บุริศร์จึงพูดขึ้นด้วยความอิจฉา: “ตอนนี้จุดอ่อนของคุณนอกจากผมแล้ว ยังมีเจตต์อีกคนใช่ไหม? ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่คุณยอมให้ตัวเองได้รับความไม่เป็นธรรมเช่นนี้? เพราะอะไร? เพื่อเจตต์คุณถึงไม่โกรธ แล้วยังยอมทนให้นิตาไม่เคารพคุณต่อไปแบบนี้อีก?”
“โธ่ ฉันก็จะทำให้เธอเข็ดหลาบไง แล้วยังมีโสธรอีก คุณจะรับเขาเข้ามาทำงานที่บริษัทไม่ใช่เหรอ?”
“คนละเรื่องกันแล้ว”
สีหน้าของบุริศร์แย่มาก
นรมนเห็นบุริศร์หึงอีกแล้ว จึงอดไม่ได้ที่จะกลัดกลุ้ม
“บุริศร์ คุณอย่าเป็นแบบนี้ได้ไหม? ฉันก็แค่เป็นห่วงเจตต์เท่านั้น ฉันไม่เพียงแต่เป็นห่วง ตอนนี้ฉันยังต้องไปดูแลเขาที่โรงพยาบาลด้วย ถ้าคุณจะหึงก็หึงไปเลย ปวดใจแย่”
นรมนพูดจบก็ลุกขึ้นจะเดินไป
บุริศร์จึงดึงเธอเอาไว้
“ยังคิดจะทิ้งผมไว้ที่นี่คนเดียวจริงๆเหรอ? ห๊ะ?”
“ไม่งั้นล่ะ? คุณก็ไม่ไปดูแลเจตต์กับฉันอีก”
นรมนเบือนหน้าหนีพูดอย่างกลัดกลุ้ม
บุริศร์รู้ว่านรมนจงใจ แต่ต่อให้จงใจ เขาก็ทนไม่ได้ที่นรมนจะไปคอยดูแลเจตต์เพียงลำพัง
เขายังไม่เคยได้ค่าตอบแทนอย่างนี้เลยนะ
“ผมไป ถ้าคุณไปคนเดียว ผู้หญิงที่แต่งงานแล้วคนหนึ่งไปดูแลผู้ชายคนหนึ่ง ใช้ได้ที่ไหน?”
“ฉันไม่ดูแลแล้วใครจะดู? หรือจะให้ประธานบุริศร์ที่สูงส่งไปดูแลงั้นเหรอ?”
“นรมน คุณพอเลยนะ!”
บุริศร์อยากจะอุดปากนรมนจริงๆ
นรมนเห็นว่าพอได้แล้ว จึงรีบพูดขึ้น: “ได้ๆๆ ฉันไม่ดูแลแล้ว ฉันจะอยู่ข้างๆดูคุณดูแลโอเคไหม?”
บุริศร์รู้ว่าตนเองหลงกลนรมนเข้าแล้ว แต่จะทำไงได้ล่ะ?
เขาก็ทนไม่ได้ที่จะเห็นนรมนทำดีกับผู้ชายคนอื่น
ทั้งสองคนบอกลาชาญ แล้วไปที่โรงพยาบาลทันที
ชาญกำลังยุ่งอยู่กับการตัดหินหยก จึงไม่มีเวลาไปส่งพวกเขา เพียงส่งเสียงทักทายเท่านั้น
นรมนเห็นเขาเป็นอย่างนี้ จึงขมวดคิ้วพูดขึ้น: “คุณว่าเจตต์ล่วงเกินชาญยังไง? ทำไมชาญถึงลงมือหนักขนาดนั้น? แล้วคุณดูสิ ชาญรักเงินทองขนาดนี้ ถ้าคุณบอกว่าเขาเหมือนคุณ ฉันก็ไม่กล้าเชื่อจริงๆ”
บุริศร์ไม่ได้พูดอะไร จูงนรมนออกไปจากอำเภอเดิมพันหิน
หลังจากขึ้นรถ บุริศร์จึงพูดขึ้นเบาๆ: “อาจจะเกี่ยวกับการตายของพ่อแม่นิตา”
“หมายความว่าไง?”
นรมนค่อนข้างประหลาดใจ
บุริศร์พูดขึ้นเบาๆ: “ก่อนหน้านี้กานต์ได้รับใบรายชื่อที่พ่อแม่ของนิตาเข้าร่วมภารกิจเมื่อปีนั้นมาจากที่อื่น ด้านในมีชื่อของชาญ ด้วยภารกิจครั้งนั้นพ่อแม่นิตาต้องถือเงินสามล้านไปแลกเปลี่ยนกับผู้ค้ายา แต่ต่อมาพ่อแม่ของเธอก็สละชีวิต แม้ผู้ค้ายาจะโดนจับได้ แต่กลับบอกว่าไม่เคยเห็นเงินสามล้านนี้มาก่อนเลย ดังนั้นเบื้องบนจึงสืบค้นเรื่องนี้มาโดยตลอด ถึงขนาดที่พ่อแม่ของนิตาไม่ได้เข้าไปอยู่ในสุสานวีรบุรุษผู้สละชีพเพื่อชาติ เรื่องนี้ส่งผลกระทบต่อนิตามาก ดังนั้นอาจจะเป็นเพราะเจตต์สืบหาเรื่องนี้ถึงไปยั่วโมโหชาญเข้า”
“นี่คุณให้กานต์แฮค……”
นรมนโมโหจนเกือบจะหลุดปากออกมา แต่ทว่ายังคงพะว้าพะวงอยู่บ้าง
“บุริศร์ คุณดูแลลูกชายหน่อยได้ไหม? ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไป ไม่ช้าก็เร็วต้องเกิดเรื่องแน่ๆ ต้องรู้ไว้ด้วยนะภูเขาสูงยังมีที่สูงกว่า เหนือคนยังมีคน เหนือฟ้ายังมีฟ้า อย่าคิดแต่จะอาศัยทักษะการใช้คอมพิวเตอร์ของตัวเองหาเรื่องไปทั่วทุกที่ได้ไหม? ครอบครัวเราอยู่กันอย่างสงบสุขไม่ได้เหรอ?”
นรมนตกอกตกใจ
นั่นมันสถานที่อะไรกัน?
ถึงเอาของที่เป็นความลับขนาดนั้นออกมาได้ กานต์ไม่รู้จักว่าอะไรควรไม่ควร แต่นี่บุริศร์ก็ไม่รู้ด้วยจริงๆงั้นเหรอ?
เห็นนรมนโมโหแล้ว บุริศร์จึงรีบปลอบเธอ: “ไม่เป็นไรหรอก ผมกำจัดร่องรอยหมดแล้ว ไม่มีใครจับได้ คุณสบายใจได้เลย ต่อไปผมจะดูแลกานต์ให้ดี ไม่ให้เขาทำเรื่องอันตรายพวกนี้อีก โอเคไหม?”
“อะไรที่เรียกว่าโอเคไหม? ครั้งสองครั้ง ฉันยอมรับว่ากานต์ช่วยได้ไม่น้อยเลย แต่เรื่องของผู้ใหญ่จัดการกันเองได้ไหม? นั่นลูกชายของฉัน! เป็นลูกชายที่ฉันต้องผ่านความลำบาก ความเจ็บปวดถึงให้กำเนิดมาได้! ถ้าเขาเป็นอะไรไป คุณจะให้ฉันทำยังไง?”
ความกังวลของนรมนทำให้บุริศร์ค่อนข้างปวดใจ
เขาดึงเธอเข้ามากอด พูดอย่างอ่อนโยน: “ผมผิดเอง ผมผิดเองได้ไหม? ผมรับปากว่าต่อไปจะดูแลลูกให้ดี”
“พวกคุณจะไม่ทำให้ฉันสบายใจเลยจริงๆสินะ”
ตอนที่นรมนได้ยินบุริศร์พูดอย่างนี้ ความโมโหก็จางหายไปเล็กน้อยแล้ว
เห็นนรมนอารมณ์ดีขึ้นบ้างแล้ว บุริศร์จึงพูดขึ้นอย่างระมัดระวัง: “ราชินีที่เคารพ ตอนนี้พวกเราเดินทางไปโรงพยาบาลกันเลยไหมครับ?”
นรมนโดนบุริศร์เรียกขึ้นด้วยท่าทีที่ระมัดระวังก็ขำออกมา
“ใครคือราชินีที่เคารพ?”
“คุณไง คุณเป็นราชินีที่เคารพของผม ไม่ต้องใช้น้ำเสียงนี้ผมก็เชื่อฟังคุณอย่างว่านอนสอนง่ายแล้วไม่ใช่เหรอ?”
คำพูดของบุริศร์ทำให้นรมนขำออกมาอย่างเต็มที่
“ไปเลยไป ฉันไม่อยากเป็นราชินีที่เคารพของคุณเลย เหนื่อยจะตายอยู่แล้ว”
“งั้นผมเป็นเจ้าชายของคุณดีไหม?”
“บุริศร์ ออกรถ!”
นรมนแสร้งทำเป็นไม่พอใจถลึงตาใส่บุริศร์
“ได้เลย”
บุริศร์ได้ยินคำสั่งของนรมน จึงเหยียบคันเร่งลงไป แต่ในตอนนี้ ร่างหนึ่งก็กระโจนเข้ามาที่หน้ารถของบุริศร์ ทำให้บุริศร์ต้องเหยียบเบรกกะทันหัน
เสียงแหลมๆของล้อรถที่เสียดสีกับพื้นดังก้องไปทั่ว