แค้นรักสามีตัวร้าย – ตอนที่ 980

ตอนที่ 980

“หมายความว่าอะไร?”

นรมนถามอย่างใจเย็น

ซินดี้ตอบอย่างเหน็บแนม“อะไรกัน?อย่าบอกนะว่าพวกคุณและคนในทีมฝ่ายผลิตของกินผลไม้ของราเชน แล้วตอนนี้ยังแสร้งทำเป็นเลอะเลือนต่อหน้าฉัน ถ้าคิดจะไม่คำนึงถึงความสัมพันธ์ของราเชนจริง ๆ พวกคุณก็อย่ากินสิ ผลไม้เหล่านี้นำเข้าทางเครื่องบิน ราคาเท่าไหร่พวกคุณรู้ไหม?”

ถือว่าตอนนี้นรมนได้รู้แล้วว่าใครเป็นคนส่งผลไม้มาให้ในตอนแรก ต้องรู้สึกดีที่ราเชนส่งมาในชื่อของเธอเหรอ?

ถ้ารู้ตั้งแต่แรกว่าราเชนเป็นคนส่งผลไม้เหล่านี้ นรมนจะพูดว่าไม่ต้องการอย่างเดียว

วันนี้ถูกซินดี้เหน็บแนมอย่างไม่มีสาเหตุ สีหน้าของนรมนหนักแน่นขึ้นอย่างห้ามไม่ได้

“เท่าไหร่ ฉันจะโอนเงินให้คุณ และฝากไปบอกราเชนด้วย ต่อจากนี้ช่วยทำเรื่องแบบนี้ให้น้อยหน่อย ฉันไม่ได้รู้สึกชื่นชม”

พูดจบนรมนหยิบมือถือออกมาเตรียมโอนเงิน

ซินดี้กลับกล่าวด้วยรอยยิ้มเย็นชา“อะไรกัน?คุณคิดว่าราเชนของพวกเราเป็นคนขาดแคลนเงินเหรอ?”

“คุณมีเจตนาอะไร ?แท้จริงคิดจะทำอะไรกันแน่?”

คมทิพย์รู้สึกว่าตอนนี้อยากจะถีบซินดี้สักทีจริง ๆ

เป็นคนแบบไหนกัน!

รีบเข้ามามอบของขวัญให้ ตอนนี้กลับมาทวงน้ำใจ

ซินดี้ไม่แม้แต่จะมองหน้าคมทิพย์ กล่าวอย่างเยาะหยัน“คุณไม่คู่ควรที่จะพูดกับฉัน ยังไม่ต้องพูดถึงที่คุณยังไม่ดังหรอกนะ ถึงแม้จะดัง ก็ต้องประสบความสำเร็จในระดับเดียวกับราเชนถึงจะมีคุณสมบัติพอที่จะพูดกับฉันได้”

คำพูดนี้ดูถูกเหยียดหยามอย่างยิ่ง

นัยน์ตาของนรมนเย็นชาลงหลายเท่าอย่างห้ามไม่ได้

“นี่เป็นความต้องการของคุณหรือของราเชน?”

“ต่างกันด้วยเหรอ?ฉันคือผู้จัดการส่วนตัวของเขา”

“งั้นก็ดี ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ฉันนรมนขอรับรองว่าจะไม่ติดต่อกับราเชนอีก ค่าผลไม้วันนี้หนึ่งแสนพอไหม?”

นรมนพูดจบ ก็โอนเงินให้ซินดี้ทันที นอกจากนี้ยังแคปหน้าจอเพื่อยืนยัน

“คุณ……”

ซินดี้คิดไม่ถึงว่านรมนจะพูดจริงทำจริง ข้อความวีแชทที่ส่งมาทำให้สีหน้าของเขาดูไม่ได้

“ประธานนรมน ไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้ ต่างอยู่ในวงการ ยังไงก็หนีกันไม่พ้น คุณไม่จำเป็นต้อง……”

“ขอโทษด้วย หลีกทางหน่อย”

นรมนไม่ฟังคำพูดต่อจากนี้ของเขา ผลักซินดี้ออกและดึงคมทิพย์เดินไป

คมทิพย์รู้สึกว่าเมื่อสักครู่นรมนเท่มาก

“นรมน เมื่อสักครู่เธอเข้มแข็งจริง ๆ ”

“ราเชนคนนี้เป็นเทพเจ้าแห่งความซวยจริง ๆ เจอเขาก็เจอแต่เรื่องไม่ดี แถมยังทำให้ฉันเสียเงินไปอีกตั้งแสนหนึ่ง หลังจากนี้จำไว้นะ อยู่ในวงการถ้าเจอหรือได้ยินชื่อนี้ให้เดินอ้อมไปอีกทางเลย”

แววตาของนรมนปรากฏความสะอิดสะเอียนเล็กน้อย

เธอไม่ชอบที่วิธีการแบบนี้ของราเชนจริง ๆ

คมทิพย์กล่าวอย่างเศร้าใจ“แล้วถ้าเป็นเพราะงานจึงต้องมาเจอกันล่ะ?เธอก็รู้ ตอนนี้ฉันยังไม่มีชื่อเสียง ไม่มีศักยภาพไปแย่งทรัพยากรกับคนที่ประสบความสำเร็จอย่างราเชนหรอก”

“งั้นก็ไม่ต้องรับ ฉันไม่เชื่อหรอกว่า หลีกเลี่ยงราเชนแล้วเธอจะไม่สามารถเดบิวต์ได้”

คำพูดของนรมนทำให้คมทิพย์รีบพยักหน้า

“จริง ฉันเชื่อเธอ”

“ยัยตัวเล็ก ไปเถอะ พวกเราไปหาของอร่อยกินกัน”

นรมนอารมณ์ไม่ค่อยดี จึงตัดสินใจพาคมทิพย์ออกไปหาของอร่อยกิน

คมทิพย์เป็นคนกินเก่ง แน่นอนว่าไม่มีความคิดเห็นสำหรับข้อเสนอนี้ เพียงแต่เธอพูดอย่างหยอกล้อ“เธอกินข้าวเป็นเพื่อนฉัน แล้วบุริศร์ทำไงล่ะ?”

นรมนชะงักไปเล็กน้อย

เธอไม่ได้กลับไปทั้งวัน ไม่รู้ว่าบุริศร์ไปหรือยัง

ตอนนี้ความสัมพันธ์ของทั้งสองไม่รู้ว่าอยู่ในสถานะไหน นรมนก็ขี้เกียจคิด ตอนนี้บุริศร์ก็ไม่ได้ส่งข้อความหาเธอ คงจะกลับไปแล้วใช่ไหม?

นรมนคิดใคร่ครวญในใจ จากนั้นกล่าวว่า“ไม่ต้องสนใจเขาหรอก พวกเรากินของพวกเราแหละ”

“เอ๋ ตอนนี้ในที่สุดเธอก็ไม่ได้คิดถึงเรื่องของเขาเป็นอย่างแรก แต่ทำไมฉันถึงรู้สึกอึดอัดนะ”

คมทิพย์หวังจากใจจริงว่านรมนจะใช้ชีวิตอย่างมีความสุข แต่ตอนนี้ความอึดอัดของเธอกับบุริศร์ไม่รู้ว่าจะเป็นแบบนี้ไปถึงเมื่อไหร่ เธอเห็นแล้วกังวลจริง ๆ

นรมนกลับกล่าวด้วยรอยยิ้มบาง ๆ “ฉันก็ควรจะมีชีวิตเป็นของตัวเอง ในเมื่อเขาไม่สารภาพกับฉัน นั่นคงไม่ทำให้ฉันเมินสักหน่อยเหรอ?”

“เห้อ พูดแบบนี้ ทำไมฉันถึงไม่รู้สึกว่าพวกเธอกำลังอยู่ในสงครามเย็นกัน?หรือจะบอกว่าเธอไม่ได้โกรธแล้ว?”

“จะไม่โกรธได้อย่างไร?ฉันเสียลูกไปเพราะเรื่องนี้ ไม่ว่าเขาจะปิดบังฉันด้วยจุดประสงค์อะไรก็ตาม เพียงแต่สิ่งนี้ไม่สามารถทำให้ฉันยกโทษให้เขาได้อย่างง่ายดาย ฉันก็เคยคิดแล้ว เอาแต่คิดเรื่องของเขาเป็นอันดับแรกมาตลอด ยืนอยู่ข้างหลังเขาสูญเสียความเป็นตัวเองมาตลอด ท้ายที่สุดเมื่อฉันอยากรู้เรื่องอะไร พบว่าทุกคนข้างกายฉันคือคนของเขาทันที เรื่องที่เขาไม่อยากให้ฉันรับรู้ฉันตรวจสอบไม่ได้เลยแม้แต่นิดเดียว ความรู้สึกแบบนี้แย่มากเลยนะ ถึงแม้ต่อจากนี้ฉันจะอยากอยู่กับเขา ฉันก็อยากเป็นผู้หญิงที่เคียงบ่าเคียงไหล่เขา ไม่ใช่เหมือนแต่ก่อนที่เขาคอยปกป้องเอาไว้ข้างหลัง เป็นผู้หญิงที่เจอเรื่องอะไรกลับดูแลตัวเองไม่ได้ วินาทีนั้นที่เสียลูกไป จู่ ๆ ฉันก็รู้ว่าตนเองเหมือนนกน้อยในกรงทองของเขา ถ้ามีวันหนึ่งที่เขาไม่ได้รักฉันแล้ว ฉันไปจากเขา ฉันยังจะอยู่รอดในสังคมนี้ไหม?”

คำพูดของนรมนทำให้คมทิพย์ตกใจ

“ความรู้สึกที่บุริศร์มีต่อเธอมันหยั่งรากลึกมาก เรื่องนี้เธอน่าจะรู้”

“แต่ก่อนฉันก็คิดแบบนี้ แต่ตั้งแต่เขาอยู่กับผู้หญิงคนนั้น เมื่อปรากฏรอยลิปสติกที่คอเสื้อด้านใน ฉันถึงนึกขึ้นได้ทันที ถึงแม้ครั้งนี้เขาจะไม่ได้นอกใจ ถึงแม้เขามีความลำบากใจ แต่ฉันยังคงรู้สึกถึงความหวาดกลัวและหัวใจสลายเหมือนเดิม ฉันไม่กล้าจินตนาการว่า ความสัมพันธ์ระหว่างคนคนหนึ่งกับอีกคนหนึ่งจะมีอายุนานแค่ไหน อาจเพราะพวกเรามีลูก จึงสามารถรักษาเวลาให้ยาวขึ้น แต่ความรักสามารถไปได้นานแค่ไหนไม่มีใครรู้ ถ้าฉันยังโง่เขลาใช้ชีวิตเหมือนเจ้าหญิงในหอคอยงาช้าง หากวันที่ความรู้สึกไม่มีผลอีกต่อไปมาถึง ฉันจะจัดการตนเองอย่างไร?”

ได้ฟังนรมนพูดเช่นนี้ ความจริงแล้วคมทิพย์รู้สึกตกใจ

แต่ก่อนเธอจะไม่มีทางเชื่อว่าคำพูดเหล่านี้มาจากปากของนรมน

เธอเป็นประจักษ์พยานในความรักระหว่างนรมนกับบุริศร์ยิ่งกว่าคนอื่น ดังนั้นเมื่อนรมนพูดออกมาว่าความรักของพวกเขาอาจมีวันที่หมดอายุ คมทิพย์รู้สึกเหมือนเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้

“พวกเธอผ่านความเป็นความตายมาด้วยกัน ความรักและความผูกพันแบบนั้นไม่สามารถพูดว่าแทนที่ได้ก็แทนที่ได้นะ?”

นรมนยักไหล่ กล่าวเสียงเบาว่า“ผ่านความเป็นความตายมาด้วยกัน นั่นคือเมื่อความรู้สึกแข็งแกร่ง ถ้าผ่านไปสิบปี ฉันยังคงยืนนิ่ง ส่วนเขาแยกห่างกับฉันไปนานแล้ว เห็นแก่ช่วงที่ผ่านความเป็นความตายมาด้วยกัน บางทีเขาอาจจะไม่ทอดทิ้งฉัน แต่ความผูกพันของหัวใจและจิตวิญญาณกลับไม่อยู่แล้ว ฉันไม่หวังให้สิบปีต่อจากนี้เขาลืมเลือนความรู้สึกนี้ อาจจะเบื่อหน่าย กลับเป็นเพราะความเป็นความตายนั้นจึงใจไม่แข็งพอที่จะจากฉันไป ฉันที่เป็นแบบนั้นน่าสงสารเกินไป ตอนนี้ฉันยอมลำบากหน่อย เหนื่อยสักหน่อย ต้องการฝ่าฟันเพื่อโลกที่เป็นของฉันเอง เคียงบ่าเคียงไหล่กับเธอ เมื่อออกไปข้างนอก เอ่ยถึงนรมน ฉันไม่ต้องการให้คนอื่นบอกว่านี่คือคุณนายบุริศร์ ฉันหวังว่านอกจากคุณนายบุริศร์ คนอื่นสามารถรู้ว่าฉันชื่อนรมน เป็นผู้หญิงที่คู่ควรกับบุริศร์”

คมทิพย์มองเห็นหลายสิ่งหลายอย่างจากแววตาของนรมน

“นรมน เธอเปลี่ยนไป”

“ไม่มีใครไม่เปลี่ยนหรอก ฉันรู้เพียงว่าตอนนี้ความรู้สึกที่ฉันมีต่อเขาไม่ได้เปลี่ยนไป หลังจากผ่านเรื่องราวทั้งหมดมา เดิมทีฉันคิดว่าตนเองจะยอมแพ้ แต่สุดท้ายแล้วก็ปล่อยมันไปไม่ได้ ยิ่งรู้ว่าเขาไม่ได้มีชู้ แต่มีเรื่องอะไรบางอย่างปิดบังฉันเอาไว้ ฉันยิ่งแน่ใจว่าจะต้องสร้างชื่อเสียงในวงการบันเทิง ไม่อย่างนั้นคงรู้สึกผิดกับตนเองมาก”

นรมนตบไหล่ของคมทิพย์ กล่าวด้วยรอยยิ้ม“ไปเถอะ พวกเราไปหาอะไรกิน หลังจากกินเสร็จกลับไปทีมฝ่ายผลิตฝึกอีกรอบ ฉันรู้สึกว่าท่อนจบของเพลงที่สองเธอยังทำได้ไม่ค่อยดี”

ใบหน้าของคมทิพย์พังทลายทันที

“ไม่จริงใช่ไหม?ทำไมเธอถึงเข้มงวดกว่าโปรดิวเซอร์ริชาร์ด?กินข้าวเสร็จแล้วยังต้องไปอีก?เธอฟังเสียงของฉันสิ แหบหมดแล้วเนี่ย”

“การทำงานหนักจะได้รับผลตอบแทนเสมอ เธอก็อยากจะก้าวไปข้างหน้าไม่ใช่เหรอ?คิดถึงพฤกษ์ คิดถึงพ่อกับน้องชายของเธอสิ เธอยังมีเหตุผลที่จะขี้เกียจอีกเหรอ?”

คำพูดของนรมนทำให้คมทิพย์พูดไม่ออก

“ก็ได้ เธอพูดถูกทั้งหมด งั้นรีบไปกินข้าวเถอะ กินเสร็จแล้วพวกเราลุยงานต่อ”

“เด็กดี!”

นรมนควงแขนของคมทิพย์ด้วยรอยยิ้มเดินไปร้านอาหารเล็ก ๆ ในละแวกนั้น

ทั้งสองคนสั่งเครื่องเคียงสองอย่าง บะหมี่สองชาม รับประทานอย่างอิ่มอกอิ่มใจเหมือนเด็ก

“พูดตามความจริง ตอนนี้เธอยังสามารถกินอาหารข้างทางได้อยู่ ฉันรู้สึกเหลือเชื่อ”

นรมนกลับกล่าวด้วยรอยยิ้ม“อะไรกัน?ฉันก็กินได้ทุกอย่างไม่ใช่หรือไง?”

“นั่นมันไม่เหมือนกัน ในเมื่อเธอคือคุณนายบุริศร์!”

“ตอนอยู่ต่างประเทศแรก ๆ สำหรับฉันก๋วยเตี๋ยวเนื้อชามเดียวก็หรูแล้ว”

นรมนนึกถึงเหตุการณ์เมื่อห้าปีก่อนตอนที่เพิ่งออกจากประเทศไป

คมทิพย์รีบพูดว่า“ อย่าไปคิดถึง มันผ่านไปแล้ว”

“อืม ทุกอย่างผ่านไปแล้ว จริงสิ เรื่องที่ฉันให้เธอช่วยสืบเป็นไงบ้าง?”

คมทิพย์ถอนหายใจกล่าวว่า“คนที่ไม่ได้เป็นที่รู้จักอย่างฉันแน่นอนว่ารู้จักแค่คนทั่วไป ฉันหาคนในโซนสีเทา ตอนนี้ยังไม่มีข่าวคราวอะไร อาจจะต้องรอหน่อย ผู้หญิงคนนั้นตามหลักแล้วถูกตำรวจเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการสืบสวน มักจะต้องมีข่าวคราวออกมา แต่น่าแปลกมาก เหมือนกับมีคนหรือมีอำนาจอะไรสักอย่างปิดกั้นข่าวนี้อยู่ ข่าวคราวใด ๆ เกี่ยวกับผู้หญิงคนนี้ไม่มีออกมาเลย ถึงแม้ฉันจะขอความช่วยเหลือจากเพื่อนที่เป็นตำรวจก็ยังไม่มีข้อมูลเหมือนเดิม”

ได้ยินคมทิพย์พูดแบบนี้ ดวงตาของนรมนหรี่ลงเล็กน้อย

จะเป็นบุริศร์ไหม?

นอกจากเขา เธอไม่รู้ว่ายังมีใครสามารถเก็บเรื่องนี้เอาไว้ได้

แท้จริงแล้วตัวตนผู้หญิงคนนั้นเป็นอย่างไร?

ยิ่งเป็นเช่นนี้ นรมนยิ่งรู้สึกแปลกใจกับตัวตนของผู้หญิงคนนั้น

“ให้คนอื่นตรวจสอบ มันจะต้องมีร่องรอยและเบาะแสแหละ”

“ได้ เพียงแต่ทางฝั่งของราเชนวันนี้เธอนับว่าผิดใจโดยสิ้นเชิง ต่อจากนี้ในวงการบันเทิง ไม่รู้ว่าเขาจะใช้อำนาจสร้างความเดือดร้อนแก่พวกเราหรือเปล่า ทางที่ดีเธอต้องระวังตัวนะ ฉันเองไม่เป็นไร อย่างมากก็แค่เปลี่ยนสถานะแล้วกลับเข้ามาใหม่ แต่เธอก่อตั้งบริษัทภาพยนตร์ ไม่ใช่เรื่องของคนสองคน”

คมทิพย์รู้สึกกังวลแทนนรมน

นรมนโบกมือ ไม่ได้สนใจมากเกินไป

หลังจากทั้งสองคนรับประทานอาหารเสร็จจึงออกมาจากร้านอาหาร นึกขึ้นได้ว่าที่นี่อยู่ไม่ไกลจากอาคารฟอร์จูน จึงถือโอกาสเดินกลับไปซะเลย จะได้ช่วยย่อยอาหาร

ระหว่างทางจากร้านอาหารไปถึงอาคารฟอร์จูนมีซอยเล็กอยู่ซอยหนึ่ง ซึ่งรถไม่สามารถเข้าได้ หากเดินเข้าไปสามารถประหยัดเวลาเดินทางได้ครึ่งหนึ่ง

นรมนกับคมทิพย์ตัดสินใจเดินเข้าไป เพียงแต่พวกเธอคิดไม่ถึงว่า เพราะเลือกเดินเส้นทางนี้ จึงเกิดเรื่องขึ้นกับทั้งสองคนอย่างคาดไม่ถึง

แค้นรักสามีตัวร้าย

แค้นรักสามีตัวร้าย

Status: Ongoing

ไฟเผาความรักทั้งหมดของนรมนที่มีต่อบุริศร์ หลังจากห้าปี เธอกลับไปอย่างงดงามและเพื่อทวงความยุติธรรมสำหรับตัว เธอเอง แต่คาดไม่ถึงว่าเด็กชายที่ถูกพากลับมาด้วยนั้นมีแผน มากกว่าเธอ เด็กน้อยยืนอยู่ข้างหน้าบุริศร์ กล่าวอย่างไร้เดียง สาว่า “คุณลุง สามารถช่วยผมได้ไหม? ผมขอร้อง” บุริศร์ รู้สึกว่าไม่สามารถต้านทานการวิงวอนของเด็กได้ คุกเข่าลง เพื่อช่วย แต่คาดไม่ถึงว่าจะถูกพ่นใส่หน้า อยู่มาวันหนึ่ง บุริศร์ พูดกับเด็กชายหน้าตาดีว่า “เด็กน้อย นี่คือห้องของฉัน!” “แต่ ว่าผมอยากนอนกับหม่าม พวกเรานอนด้วยกันมาห้าปีแล้ว” ชายหนุ่มร้องไห้… แค่ไปจีบภรรยากลับมาเท่านั้น ทำไมลูก ของฉันถึงเอาใจยากเหลือเกิน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท