แค้นรักสามีตัวร้าย – ตอนที่ 1123

ตอนที่ 1123

กานต์ไม่สนใจสักนิดว่าตุลยาจะคิดเกี่ยวกับตัวเองอย่างไร และยิ่งไม่สนว่าเธอจะหวาดกลัวหรือไม่

ทันทีที่เธอตัดสินใจลงมือกับนรมน ก็เท่ากับการฆ่าตัวตายเสียแล้ว

แม้เขาจะอายุน้อย แต่เขาเคยยิงปืน และเคยฆ่าคน แล้วเขายังจะสนเธอไหม?

หม่ามี้อดทนมามาก ผ่านอะไรมามาก เป็นเพราะตุลยาเป็นน้องสาวของหม่ามี้หรือที่จะทำผิดแล้วยังลอยนวยอยู่ข้างนอกได้?

ตอนนี้ตรวจไม่ได้ว่าร่างกายของหม่ามี้โดนพิษอะไร ไม่มีอะไรพิสูจน์ แต่ถ้าไม่มีหลักฐานล่ะ?

เขามีวิธีที่จะทรมานตุลยา

บุริศร์และนรมน ไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับสิ่งที่กานต์ทำ

ความคิดทั้งหมดของบุริศร์ อยู่ที่นรมน และตอนนี้นรมนยังคงหลับใหลอยู่

จริงๆ แล้วเธอไม่ได้หลับอย่างจริงแท้

นรมนรู้สึกว่างเปล่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่ความรู้สึกของไฟที่กำลังมอดไหม้หายไป

ราวกับร่างกายถูกเจาะเป็นรูโบ๋ เหนื่อยและอึดอัดเป็นพิเศษ

เธอไม่รู้ว่าตัวเองหลับไปนานแค่ไหน และไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอ แต่เธอรู้สึกว่าหน้าอกของเธออึดอัดมาก เหมือนเธอถูกกดทับด้วยอะไรบางอย่าง หายใจไม่ออกเล็กน้อย

นรมนพยายามอย่างหนักที่จะตื่นขึ้น

เธอรู้ว่าบุริศร์ดูแลตัวเองมากแค่ไหน รู้ว่าลูกๆ ไม่สามารถห่างจากตัวเองได้ และรู้ว่าตอนนี้เธอทำให้ลูกๆ กลัว

บุริศร์ต้องทำงานหนักเพื่อตัวเธออยู่ข้างนอก เธอจะมัวมานอนอยู่ไม่ได้

นรมนดิ้นรน และในที่สุดก็ค่อยๆลืมตาตื่นขึ้น

ห้องมืดมาก มืดจนไม่เห็นแสงสว่าง

เธอรู้สึกว่ามีมืออันทรงพลังคู่หนึ่งโอบเอวของเธอไว้ ลมหายใจที่คุ้นเคยทำให้หัวใจของเธอสงบลงในทันใด

ลมหายใจที่เสมอกันดังอยู่ข้างหูของนรมน

เธอหันหน้าไปมองเล็กน้อย แต่เธอมองไม่เห็นบุริศร์ เพราะมันมืดเกินไป

นรมนคลำหาสวิตซ์เพื่อเปิดไฟ

บุริศร์ตกใจตื่นขึ้นมา

“นรมน?”

น้ำเสียงของเขาแหบ แต่ก็เจือความตื่นเต้นไว้ด้วยเช่นกัน

นรมนยิ้มอ่อน รู้สึกว่าคอเธอแห้งผาก

“คุณอยากดื่มน้ำไหม? ผมจะรีบไปรินให้”

บุริศร์ลุกจากเตียงอย่างรวดเร็ว ก่อนจะเทน้ำอุ่นหนึ่งแก้วให้นรมน

เขาตื่นเต้นอย่างมาก

นรมนตื่นแล้ว!

ในที่สุดเธอก็ตื่น!

บุริศร์ค่อยๆประคองนรมนขึ้น ก่อนจะนำแก้วน้ำไปวางไว้บนขอบปากเธอ

นรมนกระหายน้ำมาก

ราวกับเธอเดินอยู่ในทะเลทราย ถูกแสงแดดแผดเผา ราวกับทั่วทั้งร่างเสียพลัง น้ำอุ่นเปรียบเสมือนน้ำเย็นชุ่มคอก็มิปาน ทำให้เธอดื่มรวดเดียวอย่างห้ามตัวเองไม่อยู่

แก้วน้ำถึงก้นแก้วอย่างรวดเร็ว แต่นรมนยังคงดูเหมือนจะกระหายน้ำอยู่

บุริศร์รีบรินน้ำอีกแก้วให้เธออย่างเร็ว

หลังจากน้ำสามแก้วใหญ่ติดต่อกันเข้ามาอยู่ในท้อง นรมนถึงค่อยรู้สึกสบายขึ้นมาเล็กน้อย

เธอมองไปยังห้องที่ไร้แสงสว่าง ก่อนจะถามเสียงต่ำ “บุริศร์ ทำไมไม่เปิดไฟละคะ?”

ร่างกายของบุริศร์สั่นไหว

แสงอาทิตย์อัสดงสะท้อนสีอันเจิดจ้ามายังหน้าต่างสูงจากพื้นจนจรดเพดาน ในขณะนั้นดวงตาของบุริศร์ก็สั่นสะท้าน

ราวกับหัวใจถูกอะไรบางสิ่งรัดแน่นขึ้นเล็กน้อย จนเจ็บปวด

บุริศร์ยื่นมือออกมา ก่อนจะโบกไปมาต่อหน้านรมน

ดวงตาของนรมนไร้แสง ไม่มีโฟกัส

หัวใจของบุริศร์หม่นลงอย่างกะทันหัน

“ไฟดับนะ”

บุริศร์ไม่รู้จะพูดบอกเหตุผลอย่างไร หัวใจของเขาเจ็บปวดไปหมด

นรมนของเขา มองไม่เห็น!

การรับรู้อย่างนี้เข้าทำให้เขาท้อใจ แต่กลับต้องอดทน

“ผมจะไปโทรหารมิดากับโพนี่ให้มาดูคุณ”

นรมนจับมือบุริศร์ขวางเอาไว้ ก่อนพูด “ช่างเถอะ ค่ำมืดแล้ว โพนี่ก็ท้องอยู่ อย่าไปกวนเลย ฉันไม่เป็นไรค่ะ รอให้ฟ้าสว่างก่อนค่อยว่ากัน”

ดวงตาของบุริศร์เปียกชื้นในทันที ทันใดก็มีหมอกหนาปกคลุมรอบดวงตาหงส์ที่สวยงามของเขา

“ถ้าอย่างนั้นผมจะให้รมิดาเข้ามาดูแล้วกัน อย่างไรให้เธอมาดูหน่อยก็ดี ผมถึงจะวางใจ”

“คุณตกใจหรือคะ?”

นรมนยิ้มจาง

รอยยิ้มของเธอช่างสวยงามเหลือเกิน แต่ดวงตาของเธอกลับหลุดโฟกัส

ยิ่งบุริศร์มองดูมันก็ยิ่งทุกข์ใจ

“อืม คุณทำให้ผมตกใจกลัวแทบตาย”

บุริศร์จับมือนรมนไว้แน่น

นรมนรู้สึกอ่อนแอมาก แต่เธอยังยิ้มและพูดว่า “ฉันก็ไม่รู้ว่าเป็นอะไร อาจจะเป็นไข้ รู้สึกราวกับกำลังถูกไฟเผา แต่หลังจากนั้นก็สบายดี สุขภาพร่างกายไม่เหมือนเดิมแล้ว ฉันอาจจะเป็นหวัดเมื่อไปสนามแข่งมาเมื่อวานนี้ ไม่ต้องกังวลนะ”

เมื่อวาน?

บุริศร์ อยากจะบอกว่ามันไม่ใช่เมื่อวาน

สามวันแล้วตั้งแต่เกิดอุบัติเหตุกับนรมน

สามวันที่ราวกับคุกกลางใจของเขา

แต่ตอนนี้นรมนตื่นแล้ว แม้ว่าตอนนี้จะมองไม่เห็น แต่เขาก็ยังดีใจที่เธอยังมีชีวิตอยู่ เธอยังมีชีวิตอยู่ได้ดี

บุริศร์กอดนรมนแน่น และกระซิบ “ผมขอโทษ เป็นเพราะผมไม่ดี ฉันไม่ควรต้องการคุณบ่อยนัก รู้ว่าร่างกายรับไม่ได้ แต่ก็ยังควบคุมตัวเองไม่ได้”

ใบหน้าของนรมนเป็นสีแดงก่ำ

“คุณทำราวกับฉันเป็นตุ๊กตากระเบื้องที่เปราะบาง”

“คุณเป็น”

บุริศร์รู้สึกปวดใจมาก

หลังจากประสบพบเจอกับเรื่องนี้ นรมนล้ามาก และหลังจากคุยกับบุริศร์ได้สักพัก เธอก็รู้สึกเหนื่อยมาก

เปลือกตาของเธอหนักเล็กน้อย

นรมนพิงไหล่ของบุริศร์ และพูดเบา ๆ “บุริศร์”

“หืม?”

“ฉันง่วงมาก”

คำพูดของนรมน ทำให้หัวใจของบุริศร์ไม่สบายใจขึ้นมาอีกครั้ง

เขากลัว!

กลัวว่านรมนจะเป็นไข้หลังจากหลับไป กลัว…

แต่ก่อนที่บุริศร์จะทันได้พูดอะไร เธอก็หลับไปเสียแล้ว

บุริศร์ไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้นในสถานการณ์ตอนนี้ เขาวางนรมนนอนเรียบให้ดี ก่อนจะวิ่งไปออกไปหารมิดาและโพนี่ให้มาดู

เมื่อทั้งสองได้ยินว่า นรมนไม่สามารถมองเห็นได้อีกต่อไป ก็อดที่จะตกตะลึงไม่ได้

พวกเธอรีบมาอยู่ข้างกายนรมนอย่างรวดเร็ว และทำการตรวจร่างกายนรมนหลายครั้ง แต่ก็ไม่พบปัญหาใด

และดวงตาของนรมนก็ไม่มีปัญหาอะไร สำหรับสาเหตุที่นรมนมองไม่เห็น พวกเธอก็ไม่สามารถให้เหตุผลได้

บุริศร์เงียบ

มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?

เขานึกถึงตุลยา

“ตุลยายังไม่พูดอะไรอีกเหรอ?”

ลูกน้องของเขารีบรายงาน

“ไม่ครับ”

บุริศร์ให้คนมาดูแลนรมน ก่อนที่เขาจะลงมาหาตุลยาด้วยตัวเอง

บุริศร์ชะงักไปเล็กน้อย เมื่อเห็นรูปลักษณ์ของตุลยา

“ใครทำ?”

“คุณชายกานต์สั่งครับ”

บุริศร์รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยและไม่รู้จะรู้สึกอย่างไรกับคำพูดจากลูกน้องของเขา

เขารู้ว่า กานต์เข้าข้างในเรื่องปัญหาของนรมน แต่วิธีการที่โหดร้ายเช่นนี้ ก็ยังเหี้ยมเกินไปสำหรับอายุของเขาในปัจจุบัน

“กฎหมายอาญายังคงมีอยู่ ตั้งแต่วันนี้ไป รับคำสั่งแค่จากฉัน เข้าใจไหม?”

บุริศร์กำลังปกป้องลูกชายของเขา

ตุลยาอดไม่ได้ที่จะนึกถึงพ่อของเธอ ชาวี

ถ้าชาวียังมีชีวิตอยู่ เขาจะต้องกลับมาช่วยเธออย่างแน่นอน

แต่พ่อคะ ทำไมจากไปเร็วอย่างนี้

ทำไมพ่อไม่พาตุลยาไปด้วย?

ดวงตาของตุลยาสั่นระริกไปด้วยหยาดน้ำตา แต่สำหรับบุริศร์เธอน่าขยะแขยงสิ้นดี

เขาหยิบเกลือขึ้นมา ก่อนจะไปทางตุลยา

ดวงตาของตุลยาเบิกกว้างขึ้นทันที

“แกจะทำอะไร?”

“แกวางยาพิษอะไรให้นรมนกันแน่?”

ทั้งร่างของบุริศร์มีท่าทีแข็งกระด้าง

ตุลยารู้ว่าถ้าตัวเองไม่พูดอะไร เกลือในมือของบุริศร์จะปะทะเข้าหน้าของเธอเป็นแน่

แต่ถ้าหากพูด นรมนก็จะรอด

แล้วความทุกข์ทั้งหมดที่เธอได้รับละ?

ไม่!

พูดไม่ได้!

มันถึงตอนนี้แล้ว อย่างไรเธอก็ต้องดึงนรมนลงมาตายด้วยกัน

เมื่อตุลยาคิดถึงจุดนี้ เธอก็ยิ้มอย่างบ้าคลั่ง “ฉันไม่บอกแกหรอก! นรมนต้องถูกฝังไปพร้อมกับฉัน!”

ทันทีที่พูดจบ บุริศร์ก็บีบคอเธออย่างแรง

เขาพูดทีละคำ “เชื่อไหม เอาฉันจะเอาเลือดของนรมนให้แกดื่ม เธอถูกพิษแล้ว แกก็อย่าคิดว่าจะรอด”

ตุลยาหดตัว แต่ก็ยังพูดราวกับหญิงบ้าอยู่ “แม้จะทำให้ฉันตาย ฉันก็ไม่บอกพวกแก พวกแกหาไม่เจอ แม้จะเป็นหมอที่เก่งกาจก็ไม่รู้ว่านี่พิษอะไร นรมนจะตาบอด จากนั้นหัวใจของเธอจะแห้งลงและตายไปอย่างช้าๆ”

หัวใจของบุริศร์กระตุก เมื่อได้ยินตุลยาพูดว่าตาบอด

ตาบอดเป็นปฏิกิริยาหลังจากถูกพิษใช่ไหม?

เมื่อนึกถึงท่าทางที่มองไม่เห็นของนรมน เธอจะกลัวแค่ไหนที่จะอยู่ในความมืดเพียงลำพัง

ถ้าคนเราเกิดมาโดยไม่เห็นแสงสว่าง อย่างนั้นแสงสว่างก็เป็นเพียงจินตนาการและความใฝ่ฝัน แต่นรมนไม่ได้ตาบอดแต่กำเนิด เธอเคยได้เห็นโลกที่เต็มไปด้วยสีสัน เคยได้มองเห็นลูกๆของเธอ และเคยได้มองเห็นบุริศร์ที่หล่อเหลา แล้วจู่ๆจะมาอยู่ในความมืดได้อย่างไร?

ชีวิตของเธอควรมีสีสันไม่ใช่สีดำ

ความโกรธของบุริศร์กำลังลุกโชน

เขาแทบทนไม่ไหว อยากจะบีบคอตุลยาให้ตาย แต่เมื่อคิดอีกที อย่างนี้มันง่ายเกินไป

แล่เนื้อเธอเป็นชิ้นๆ ก็ไม่เพียงพอต่อการระบายความโกรธ

เมื่อตุลยาคิดว่าในที่สุดตัวเองจะได้รับการปลดปล่อย บุริศร์ก็คลายมือลง

“ฉันจะให้แกใช้ชีวิตให้ดี ผ่านไปแต่ละวันอย่างดี”

น้ำเสียงของบุริศร์ไม่ได้แปรปรวนเท่าไหร่ แต่กลับทำให้ใจของตุลยาไม่สบายใจ

“ฆ่าฉันเถอะ! บุริศร์ ฆ่าฉันเสียที!”

ตุลยาตะโกน

‘เธอทนการทรมานแบบนี้ไม่ได้จริงๆ

ถ้าเธอรู้ว่าพิษคืออะไร บางทีเธออาจจะบอกบุริศร์ให้หาทางบรรเทามัน แต่เธอไม่รู้

ทุกคนรู้ว่าเธอให้ยาพิษแก่นรมน แต่ไม่มีใครรู้ว่าพิษของเธอได้รับมาจากกล้าณรงค์

ตอนที่หญิงคนนั้นให้ยาพิษเธอมา ก็ไม่ได้บอกว่าเป็นยาพิษอะไรนี่!

เธอจงใจยั่วยุบุริศร์และกานต์เพื่อร้องขอความตาย แต่ตอนนี้เธอแทบจะทนไม่ไหวแล้ว เธอควรจะทำอย่างไร?

กล้าณรงค์สมควรตาย!

ทำไมยังไม่มาช่วยเธออีก?

เธอไม่อยากมาตายที่นี่ สักนิดก็ไม่!

แต่ตุลยาก็รู้ตัวเองดี เธอเกรงว่าจะถูกโยนมาที่นี่ในฐานะเด็กที่ถูกทอดทิ้งอีกครั้ง

จะทำอย่างไร?

เธอจะออกไปจากที่นี่ได้อย่างไร?

บุริศร์และกานต์เป็นเหมือนมารร้ายต่างขนาดกันสองตัว ตอนนี้จะร้องขอชีวิตก็ไม่ได้ ร้องขอความตายก็ไม่ได้

เธอจะอดทนได้ไม่นานแล้วจริงๆ

ในตอนที่ทุกคนกำลังร้อนใจกับนรมน ในที่สุดทางฝั่งของเจตต์ก็รับรู้ข่าวการป่วยของนรมน

หัวใจของเขากังวลอย่างกะทันหัน เขากำลังจะไปหานรมนอย่างรวดเร็ว แต่เขากลับได้พบกับขวัญตาที่มีสีหน้ามืดมนตรงหน้าประตู

แค้นรักสามีตัวร้าย

แค้นรักสามีตัวร้าย

Status: Ongoing

ไฟเผาความรักทั้งหมดของนรมนที่มีต่อบุริศร์ หลังจากห้าปี เธอกลับไปอย่างงดงามและเพื่อทวงความยุติธรรมสำหรับตัว เธอเอง แต่คาดไม่ถึงว่าเด็กชายที่ถูกพากลับมาด้วยนั้นมีแผน มากกว่าเธอ เด็กน้อยยืนอยู่ข้างหน้าบุริศร์ กล่าวอย่างไร้เดียง สาว่า “คุณลุง สามารถช่วยผมได้ไหม? ผมขอร้อง” บุริศร์ รู้สึกว่าไม่สามารถต้านทานการวิงวอนของเด็กได้ คุกเข่าลง เพื่อช่วย แต่คาดไม่ถึงว่าจะถูกพ่นใส่หน้า อยู่มาวันหนึ่ง บุริศร์ พูดกับเด็กชายหน้าตาดีว่า “เด็กน้อย นี่คือห้องของฉัน!” “แต่ ว่าผมอยากนอนกับหม่าม พวกเรานอนด้วยกันมาห้าปีแล้ว” ชายหนุ่มร้องไห้… แค่ไปจีบภรรยากลับมาเท่านั้น ทำไมลูก ของฉันถึงเอาใจยากเหลือเกิน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท