ช้าก่อน！
เมื่อสักครู่บุริศร์พูดว่าพวกเขา？
พวกเขาคือใคร？
หรือจะไม่ได้มีแค่แม่ของเขาคนเดียว？
ยังมีใครอีก？
ราเชนคาดหวังในใจทันที
เขาลุกขึ้นคิดจะไปหาคนสืบดู แต่เพิ่งจะเดินไปสองก้าวก็หยุดลง
แม่จะต้องเสียใจที่ไม่ได้บอกว่าตนเองยังมีชีวิตอยู่แน่นอน ถ้าตนเองออกไปสืบอย่างสุ่มสี่สุ่มห้าแบบนี้ มันจะเป็นการทรยศแม่หรือเปล่า？
ราเชนใจเย็นลงทันที
เรื่องเซอร์ไพรส์ครั้งใหญ่ทำให้เขาควบคุมตัวเองไม่ได้ แต่คิดไม่ถึงว่าตอนนี้ไม่มีแม้แต่คนให้คุยด้วย
น่าเศร้าจริง ๆ ！
ราเชนหยิบมือถือขึ้นมา เลื่อนดูรายชื่อไปจนสุด ก็ไม่เจอคนที่สามารถพูดความในใจได้
เขาหัวเราะขมขื่น คิดถึงซินดี้มาก ๆ
ไม่รู้ว่ารู้ตัวหรือเปล่า มือถือของเขาโทรออกหาหมายเลขหนึ่งทันที
ราเชนขมวดคิ้วเล็กน้อย เมื่อคิดจะตัดสายอีกฝ่ายก็รับพอดี
“ราเชน มีอะไรหรือเปล่า？”
เสียงอันไพเราะของนรมนเหมือนแสงแดดที่เขี่ยเมฆหมอกออกไป ในชั่วพริบตาราเชนรู้สึกอบอุ่นขึ้น
เขายิ้ม พูดจาดีมาก “ไม่มีอะไร แค่คิดถึงเธอ เลยโทรมาหา อยากได้ยินเสียงเธอแค่นั้น”
นรมนชะงักอย่างห้ามไม่ได้
“ราเชน นายเป็นอะไรหรือเปล่า？”
“ไม่ได้เป็นอะไร แค่โดดเดี่ยวมานาน อยากหาคนคุยด้วย ก็พบว่าไม่มีคนคุยด้วยได้เลย ไม่รู้ว่าเป็นอะไร เลยโทรหาเธอ ไม่ว่าจะพูดอย่างไร เธอก็คือน้องสาวของฉันใช่ไหม？”
นรมนเถียงคำพูดของราเชนไม่ได้สักคำเดียว
เป็นน้องสาว เป็นลูกพี่ลูกน้องแท้ ๆ ！
ตามหลักแล้วสำหรับเธอราเชนไม่ต่างกับเจตต์ แต่เจตต์ทุ่มเทเพื่อเธอมากเกินไป ถึงแม้นรมนจะต้องสละชีวิตก็ได้ทั้งนั้น ส่วนราเชน ถึงอย่างไรก็ยังไม่ค่อยสนิทกัน
นรมนไม่พูดอะไร
ราเชนไม่รู้สึกกระอักกระอ่วน เขาพูดต่อ “ฉันกลับมาแล้วยุ่งมาก ยุ่งกับการแย่งชิงอำนาจ ยุ่งกับการปกป้องตัวเอง ยุ่งกับการยับยั้งของที่อยู่ในมือไอ้สาม ไหนจะต้องยุ่งกับการขยายอำนาจของตนเองอีก ยุ่งจริง ๆ คิดไม่ถึงว่าใกล้จะปีใหม่แล้ว นรมน ช่วงนี้ไม่ได้ติดต่อเธอ อย่าว่าฉันเลยนะ ฉันไม่ได้ตั้งใจจริง ๆ ”
“อืม ไม่เป็นไร นายยุ่งไปเถอะ”
คำพูดของนรมนเป็นทางการมาก หลังจากพูดก็เสียใจเล็กน้อย
ถึงแม้จะรู้ว่ามีความเป็นไปได้สูงที่สถานะและตำแหน่งของราเชนมาพูดสิ่งเหล่านี้กับเธอเพื่อตีสนิทเพื่อเป้าหมายของเขาเอง แต่นรมนยังคงเป็นห่วง
เธอเป็นห่วงลูกพี่ลูกน้องคนนี้！
สิ่งนี้นรมนไม่หลอกตัวเอง
ราเชนเห็นนรมนไม่โกรธ จึงพูดต่อไป “ยุ่งจริง ๆ แต่ฉันยังเป็นห่วงเธอ ได้ยินว่าเธอโดนแมลงมีพิษมา？เป็นไงบ้าง？ดีขึ้นหรือยัง？”
“ดีขึ้นเยอะแล้ว หายแล้ว”
นรมนตอบเสียงเบา
ราเชนไม่รู้ว่าตนเองควรจะพูดอะไรไปพักหนึ่ง เมื่อเขารู้เรื่องนี้ นรมนก็ถอนพิษไปแล้ว เดิมทีเขาคิดจะนั่งเครื่องบินกลับไปเยี่ยมที่เมืองชลธี แต่กลัวจะสร้างความวุ่นวายให้นรมน เนื่องจากสถานะของเขาค่อนข้างละเอียดอ่อน
ช่างเถอะ
นรมนปลอดภัยก็ดีแล้ว ส่วนตนเองจะเป็นห่วงอย่างร้อนใจอะไร ไม่ต้องพูดก็ได้
ราเชนคิดอยู่สักพัก จากนั้นกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ใกล้จะปีใหม่แล้ว เธออยากได้อะไรเป็นของขวัญปีใหม่？พี่จะให้เธอ”
นรมนไม่คิดว่าราเชนจะให้ของขวัญเธอ อดแปลกใจไม่ได้
“ฉันไม่มีอะไรขาดเหลือ”
นี่คือความจริง
บุริศร์รักเธอจนแทบจะเด็ดพระจันทร์บทท้องฟ้าลงมาได้ จึงไม่มีอะไรขาดเหลือโดยปริยาย
จู่ ๆ ราเชนรู้สึกไม่ดีที่น้องสาวแต่งงานกับผู้ชายดี พี่ชายอย่างเขาไม่มีโอกาสได้แสดงออก
แต่เขายังคงยิ้ม “ไม่เป็นไร เดี๋ยวฉันจะซื้อเอง เธออย่าไม่ชอบก็พอ”
“ไม่มีทาง แค่นายให้ฉัน ฉันชอบหมด”
ราเชนพอใจกับคำพูดของนรมน
เขาคิดว่าตนเองมีเป้าหมายใหม่ในชีวิต
เขาต้องการยืนอยู่ในตำแหน่งนั้น และปกป้องคนในครอบครัวให้ดีที่สุด ทำให้พวกเขามีความสุข สงบสุข นี่คือเป้าหมายของการมีชีวิตอยู่
ราเชนคิดถึงตรงนี้ ก็พูดขึ้นทันที “นรมน อย่ามาประเทศ F ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ไม่ว่าจะได้ยินข่าวอะไรของฉัน อย่ามาประเทศ F นะ ชีวิตนี้อย่าได้มาเหยียบแผ่นดินประเทศ F นอกจากวันหนึ่งฉันได้ขึ้นเป็นกษัตริย์ของที่นี่ ฉันจะส่งเที่ยวบินพิเศษไปรับเธอมา”
นรมนซาบซึ้งใจทันที
ไม่ว่าราเชนจะพูดจริงหรือเปล่า ในตอนนี้เธอซาบซึ้งใจ
“พี่ พี่อยู่คนเดียวต้องระวังตัวให้มาก ๆ นะ”
ราเชนสัมผัสได้ถึงความจริงใจจากคำพูดของนรมน เขารู้สึกว่าพอแล้ว
“ฝากสวัสดีคุณตาด้วย บอกว่าราเชนอกตัญญู ปีนี้ไม่สามารถไปอวยพรปีใหม่ท่านด้วยตัวเองได้ รอปีหน้าถ้ามีโอกาส ฉันจะกลับไปแสดงความเคารพต่อท่านแน่นอน”
“อืม ได้”
นรมนน้ำตาคลอ
ถ้าคุณท่านตนุวรรู้ว่าราเชนมีความตั้งใจเช่นนี้ เขาจะต้องดีใจมาก
“เออจริงสิ นายยังมีลูกพี่ลูกน้องอีกคน ชื่อเจตต์ อีกไม่กี่วันเขาจะแต่งงานแล้ว ถ้านายสะดวก หาคนมอบของขวัญให้เขาด้วย”
เดิมทีนรมนไม่คิดจะเล่าเรื่องเจตต์ให้ราเชนฟัง เนื่องจากตอนนี้ชีวิตของราเชนค่อนข้างวุ่นวาย เจตต์ก็เป็นเจ้านายที่ขาดความรัก ถ้ารู้ว่าตนเองยังมีลูกพี่ลูกน้องอยู่ ไม่แน่อาจจะรีบไปช่วย ถึงตอนนั้นขวัญตาจะทำอย่างไร？
แต่ตอนนี้ได้ยินคำพูดของราเชน นรมนรู้ เขาเป็นห่วงคนในครอบครัว จึงไม่ต้องการให้คนในครอบครัวเข้าไปยุ่งเรื่องของเขา
แค่สิ่งนี้ก็เพียงพอให้นรมนเริ่มใหม่อีกครั้งกับราเชนและรับเข้ามาเป็นสมาชิกในครอบครัว
พูดตามความจริง นรมนมีเมตตามาก ปลอบโยนได้เก่ง ตราบใดที่คุณจริงใจกับเธอ เธอก็จะตอบแทนคุณกลับคืนร้อยเปอร์เซ็นต์อย่างจริงใจ ไม่เสแสร้ง
น่าเสียดาย ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ตระกูลธนาศักดิ์ธนหรือว่าเนตราและตุลยา ไม่เคยตระหนักถึงจุดนี้
ราเชนนิ่งไปสักพัก แต่ในเมื่อนรมนพูดมา เขาก็เชื่อ
“ได้ ฉันจะไปเตรียม ฉันยังมีเรื่องจะพูดกับเธออีก”
“หือ？”
นรมนแปลกใจ
ราเชนพูดเสียงเบา “ฉันได้ข่าวที่มีความเชื่อถือได้ กล้าณรงค์อาจจะลงมือกับเธอในวันปีใหม่ เธอต้องระวังตัวให้ดี ถ้าไม่ได้จริง ๆ ให้อยู่แต่บ้านอย่าออกไปไหน ให้บุริศร์อยู่กับเธอตลอด”
แววตาของนรมนปรากฏความมืดมนไม่ชัดเจน
ข่าวนี้เป็นความลับสุดยอด แต่ราเชนกลับหามาได้ แสดงว่าไม่อาจประเมินอำนาจของเขาต่ำเกินไป
จิตใจของนรมนสงบลงไม่น้อย ถ้าคิดแบบนี้ สถานการณ์ของราเชนในประเทศ F ยังพอได้อยู่
คิดถึงตรงนี้ นรมนยิ้ม “พี่ ฉันรู้ข่าวนี้มาก่อนแล้ว”
“หา？”
ราเชนคิดว่าบุริศร์บอก กำลังคิดจะพูด ก็ได้ยินนรมนบอกว่า “คนของฉันแอบแฝงอยู่กับกล้าณรงค์”
คำพูดนี้ทำให้ราเชนช็อก
กล้าณรงค์เป็นคนอย่างไร？
ฉลาดขนาดนั้น เป็นคนที่เหลี่ยมจัดมาก คิดไม่ถึงว่านรมนจะสามารถส่งคนของตนเองไปอยู่กับกล้าณรงค์ได้？
ราเชนไม่กล้าจินตนาการว่าเรื่องนี้มีความยุ่งยากแค่ไหน
“นรมน เธอคิดจะทำอะไร？”
ราเชนเป็นห่วง
เขาคิดมาตลอดว่านรมนเป็นผู้หญิงตัวเล็ก ๆ เป็นคุณนายผู้ร่ำรวยที่ว่างเปิดบริษัทภาพยนตร์เล่น แต่ประโยคนี้ของนรมนทำให้เขารู้ว่าตนเองเข้าใจผิด
นรมนยิ้ม “ฉันจะทำอะไรได้？ก็แค่ปกป้องตัวเอง กล้าณรงค์มุ่งเป้ามาที่ฉันกับบุริศร์ตลอด จนแม้แต่ต้องการชีวิตของพวกฉันอยู่หลายครั้ง พูดอย่างไม่น่าฟังคือ พวกเราคือศัตรูคู่แค้นที่จะสู้จนกว่าจะตาย ถึงแม้ฉันจะไม่ชอบความยุ่งยาก แต่ก็ไม่ชอบให้ตัวเองตกอยู่ในอันตรายตลอด กล้าณรงค์เป็นอันตรายต่อฉันมาก ถ้าเป็นไปได้ ฉันยังอยากจัดการกับความยุ่งยากนี้ด้วยตัวเอง ดังนั้นการที่ฉันสามารถส่งคนเข้าไปอยู่กับเขาไม่มีอะไรน่าแปลก พี่คะ อย่าเห็นฉันเป็นแค่ผู้หญิงตัวเล็กคนหนึ่ง ฉันไม่ใช่แบบนั้น”
ได้ยินนรมนพูดแบบนี้ ราเชนเงียบไป
ผ่านไปไม่กี่วินาที ราเชนกล่าวเสียงเบา “เชื่อฉันนะ ถ้าคนของเธอถูกจับได้ ให้ผลักมาที่ฉัน อย่าดึงเข้าหาตัวเอง ฉันกับไอ้สามยืนอยู่คนละฝั่ง กล้าณรงค์ก็เป็นคนของไอ้สามอีก บอกว่าเป็นฉัน ไม่มีใครสงสัย”
นรมนคิดว่าราเชนจะพูดเรื่องอื่น ไม่คิดว่าเขาจะพูดเช่นนี้ เขายอมผลักตัวเองเข้าไปในใจกลางการต่อสู้แทนที่จะให้กล้าณรงค์โจมตีเธอเหรอ？
ทันใดนั้นเอง นรมนอบอุ่นหัวใจ
“ฉันรู้ว่าจะจัดการอย่างไร นายก็ต้องระวังตัวด้วย ปีนี้ฉลองปีใหม่ด้วยกันไม่ได้ เจอกันปลายปีหน้า”
“อืม”
คำพูดของนรมนให้ความหวังและที่พักพิงใจแก่ราเชน
หลังจากทั้งสองวางสาย จิตใจของราเชนว้าวุ่นอยู่นาน
หลังจากวางสายแล้ว นรมนจึงพบว่าราเชนเรียกเธอว่าน้อง？
และยังรู้ว่ามีคุณท่านตนุวรอยู่ด้วย！
นี่……
นรมนปล่อยวางอย่างรวดเร็ว
แบบนี้ก็ดี ดีกว่าเขาอยู่ตัวคนเดียว
นึกถึงความเกี่ยวข้องระหว่างกล้าณรงค์กับแพรวา นรมนลังเลสักพัก จึงส่งข้อความหาราเชน
“พี่ ถ้าสถานการณ์เอื้ออำนวย ช่วยตรวจดีเอ็นเอให้ฉันได้ไหม？”
“หือ？”
ราเชนแปลกใจ
นรมนรีบตอบ “ตรวจดีเอ็นเอของกล้าณรงค์กับแพรวา ฉันสงสัยว่าพวกเขาจะเป็นแม่ลูกกัน แต่ตอนนี้ยังไม่มีหลักฐาน ฉันรู้ว่านายค้นหาตัวอย่างของแพรวาได้ ส่วนของกล้าณรงค์ฉันจะหาคนส่งไปให้”
“หาใคร？ สายสืบของเธอเหรอ？เพราะเรื่องเล็กน้อยนี้จะทำให้สายสืบของเธอเสี่ยงถูกจับได้ มันคุ้มเหรอ？”
คำพูดของราเชนทำให้นรมนนิ่งไป
เธอนึกถึงสายสืบของตนเอง
หัวใจของนรมนกระตุกอย่างห้ามไม่ได้
ในขณะที่เธอไม่รู้ว่าควรทำอย่างไร ข่าวของราเชนกลับมาอีกครั้ง
“ส่งเรื่องนี้ให้ฉัน ฉันก็มีคนอยู่กับไอ้สาม จะต้องหาโอกาสเอาตัวอย่างของกล้าณรงค์มาได้ เธอต้องการผลตรวจดีเอ็นเอ มะรืนนี้ฉันจะแฟกซ์ไปให้”
นรมนประทับใจทันที
ราเชนต้องการให้คนของตนเองสอดแทรกเข้าไปทางฝั่งขององค์ชายสาม คงทำได้อีกไม่กี่ปี คิดไม่ถึงว่าคำพูดของตนเองมีความเป็นไปได้สูงที่จะทำลายหมากที่เขาใช้เวลาเดินมาหลายปี ทำเช่นนี้ นรมนคิดว่าราเชนพอใช้ได้
อย่างน้อยที่สุดก็ยังดีกับเธอ
หลังจากนรมนวางสาย ลุกขึ้นเดินไปห้องหนังสือ
เธอต้องการเล่าเรื่องนี้ให้บุริศร์ฟัง ให้เขารู้ว่าเธอดีใจมาก
นรมนเดินยิ้มไปที่ห้องหนังสือ แต่เมื่อถึงประตู ได้ยินเสียงบุริศร์ดังออกมาจากด้านในเป็นระยะ กลับทำให้นรมนหน้าเปลี่ยนสีทันที
