แค้นรักสามีตัวร้าย – ตอนที่ 1170

ตอนที่ 1170

กิจจา!

นรมนรีบวิ่งเข้าไปข้างในอย่างรวดเร็ว มองหาตัวของกิจจาไปทั่ว

“มีอะไรเหรอ?”

บุริศร์เห็นท่าทางตื่นตระหนกของนรมน ก็อดไม่ได้ที่จะเดินเข้ามาคว้าตัวเธอไว้

“คุณเห็นกิจจาไหม?”

เมื่อนรมนเห็นบุริศร์ ก็รู้สึกสบายใจขึ้นมา เหมือนกับว่าที่ไหนที่มีเขาเธอก็เหมือนมีที่ยึดเหนี่ยวจิตใจอยู่ด้วย

บุริศร์ขมวดคิ้วเล็กน้อย

กิจจาเหรอ?

เหมือนเมื่อครู่เพิ่งบอกว่าจะไปเข้าห้องน้ำ แต่ว่านี่ก็ผ่านมาสักพักแล้วนะ

“ผมจะลองไปหาดู”

“ฉันจะไปกับคุณด้วย เมื่อกี้พี่ราเชนเพิ่งโทรมา บอกว่ากล้าณรงค์คิดจะลงมือกับคนใกล้ตัวพวกเรา ให้พวกเราระวังเด็กๆ ไว้ ฉันก็เพิ่งพบว่ากิจจาหายไป ฉันเป็นแม่ที่ไม่ดีเลย ฉันลืมกิจจาไปเลย ฉันควรจะไปห้องน้ำเป็นเพื่อนเขา”

นรมนโทษตัวเอง

วันนี้เป็นวันแต่งงานของเจตต์ พวกเขาคิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันไว้มากมายและเตรียมความพร้อมไว้เต็มที่แล้ว แต่เหตุการณ์เดียวที่ไม่ได้เตรียมป้องกันคือการที่ฝั่งตรงข้ามนั้นจะลงมือกับเด็กๆ

บุริศร์เห็นนรมนกำลังจะร้องไห้ ก็รีบพูดปลอบ “ไม่ใช่ความผิดของคุณ คุณคนเดียวความคิดมีจำกัด เรื่องที่คิดไม่ถึงนั้นมีเยอะ นี่เป็นเพียงอุบัติเหตุเท่านั้น เชื่อผมว่ากิจจาจะไม่เป็นอะไร ไปกัน พวกเราไปดูกัน”

“โอเคค่ะ”

ทั้งสองสามีภรรยารีบมุ่งไปที่ห้องน้ำ

เพราะว่าเป็นช่วงเวลาของงานเลี้ยงแต่งงาน บริเวณรอบๆ ห้องน้ำจึงมีคนวนเวียนมาไม่ขาดสาย แต่สำหรับนรมนและบุริศร์นั้น นี่ไม่ใช่ข่าวดีเลย

เพราะว่านี่อาจเป็นได้อย่างมากว่ากิจจาจะโดนคนอุ้มไปโดยไม่มีใครทันสังเกตเห็น

บุริศร์มองไปที่นรมน พูดกับเธอเบาๆ ว่า “คุณรอผมข้างนอกนะ ผมจะเข้าไปดูข้างใน”

“โอเคค่ะ”

นรมนพยักหน้า

หลังจากที่บุริศร์เข้าไป เข้าก็หาค้นหาไปทั่วทุกที่ แต่ก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของกิจจา เพียงแต่พบกระดุมเสื้อของกิจจาตกอยู่บนพื้น

สีหน้าของเขาก็เริ่มบึ้งตึง

นึกไม่ถึงเลยว่าจะลงมือกับเด็กจริงๆ

กล้าณรงค์!

ทางที่ดีแกควรสาบานว่าลูกฉันไม่เป็นอะไร ถ้าไม่เช่นนั้นแล้วละก็ต่อให้ต้องไปถึงประเทศF ฉันก็จะตามไปสับแกให้แหลกเป็นชิ้นๆ !

นรมนเห็นบุริศร์เดินออกมาโดยที่ไม่มีกิจจาออกมาด้วย ก็รู้เลยว่าการคาดการณ์ของเธอเป็นเช่นนั้นจริงๆ

“ฉันจะไปหากิจจา”

นรมรพูดพร้อมกับจะเดินออกไปข้างนอก แต่กลับถูกบุริศร์คว้าตัวไว่ก่อน

“เหตุการณ์วันนี้ไม่เหมาะที่คุณจะออกไป ยิ่งไปกว่านั้นคนของกล้าณรงค์คงกำลังจับตาดูพวกเราอยู่แน่ๆ ถ้าพวกนั้นไม่ได้จับกิจจาไป การที่พวกเราออกไปแบบนี้ก็เหมือนเป็นการเตือนพวกมัน ถึงเวลานั้นเกรงว่ากิจจาจะยิ่งเป็นอันตราย”

“แต่ว่า…”

สมองของนรมนสับสนวุ่นวายไปหมด

บุริศร์โอบกอดเธอไว้แน่นในอ้อมแขน พร้อมพูดเบาๆ “นรมน ผมรู้ว่าคุณเป็นห่วงกิจจา ผมก็เป็นห่วงเหมือนกัน แต่ว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาสับสนวุ่นวาย คุณฟังที่ผมพูดนะ พวกเราจะโทรหาคุณป้าของคุณ เรื่องนี้มีเพียงคุณป้าเท่านั้นที่จะช่วยหาทางออกได้ ถ้าเกิดว่ากิจจาโดนคนของกล้าณรงค์จับตัวไปจริงๆ เธออยู่ในประเทศFมานาน มิลินก็เป็นครูของกิจจา คงไม่นั่งมองเฉยๆ โดยไม่ทำอะไรแน่ พวกเขาจัดการคงจะดีที่กว่าพวกเราที่ไม่มีหนทางอะไรเลย”

ได้ยินบุริศร์พูดเช่นนี้ นรมนก็อุ่นใจขึ้นมาได้บ้าง

“ใช่ใช่ใช่ คุณป้ากับมิลิน ฉันลืมพวกเขาไปเลย”

นรมนพูดพร้อมกับรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหานงลักษณ์และมิลิน พร้อมอธิบายเหตุการณ์ที่ผ่านมาให้ฟังแบบกระชับ

ทางด้านนงลักษณ์ก็บอกว่าจะช่วย ถ้าหากว่าหากิจจาเจอแล้วจะรีบติดต่อนรมนมาในทันที ยิ่งไม่ต้องพูดถึงมิลิน เธอนั้นปฏิบัติกับกิจจาเปรียบเสมือนลูกของเธอจริงๆ

หลังจากวางสายไป นรมนก็ยังไม่ค่อยวางใจ

นี่ก็ใกล้จะปีใหม่แล้ว กิจจาสวมใส่เสื้อผ้าเพียงนิดเดียว ไม่รู้ว่าจะหนาวแค่ไหน

ในใจของบุริศร์ก็ร้อนรนเช่นกัน เขามองไปรอบๆ พร้อมกับจับมือนรมนแล้วพูด “กลับกันเถอะ พวกเราออกมานานขนาดนี้คนอื่นอาจจะสงสัยเอาได้”

“ค่ะ”

นรมนพยักหน้า แต่ดวงตาของเธอนั้นกลับเยือกเย็นขึ้นมา

กล้าณรงค์!

ผู้ชายคนนี้มันสมควรตายจริงๆ

หลังจากกลับมาถึงที่นั่ง แม้ว่าบรรยากาศในงานโดยรอบจะเต็มไปด้วยความรื่นเริงแค่ไหน แต่ก็ไม่อาจทำให้นรมนมีอารมณ์ร่วมไปด้วยได้

เธอรู้ว่าการที่เป็นแบบนี้เหมือนไม่ให้เกียรติเจตต์กับขวัญตา แต่จะให้ทำยังไงได้?

ลูกชายเธอหายไปทั้งคน

ตอนนี้เรื่องอะไรก็ไม่สำคัญเท่ากิจจา

ทางฝั่งกิจจานั้นโดนคนทำให้หมดสติอยู่ในห้องน้ำ ตอนที่เขากำลังจะตอบโต้ก็คงดมยาสลบเข้าไปเยอะมากแล้ว ถึงยังไงเขาก็คือเด็ก ไม่ได้แข็งแรงจนสามารถต้านฤทธิ์ยาได้ขนาดนั้น และก่อนที่จะสลบไปกิจจาก็โมโหจนสบถคำหยาบคายออกมา

เมื่อตอนเขาตื่นฟื้นขึ้นมา เขาก็อยู่บนรถแล้ว

รถสั่นไปมา และทั้งมือทั้งเท้าก็โดนมัด ปากก็ถูกยัดด้วยผ้าเก่าๆ เหมือนกับฉากโดนลักพาตัวที่เห็นในโทรทัศน์ชัดๆ เลย

กิจจาอยากจะกลอกตาอย่างเอือมระอา

รถคันนี้เป็นรถตู้ราคาถูกๆ ที่เต็มไปด้วยกลิ่นคาวปลา อีกทั้งเชือกที่มัดเขาไว้นั้นหยาบซะจนทำให้กิจจารู้สึกว่ามือและเท้านั้นเจ็บแสบไปหมด

นี่มันคือพวกคนโง่

กิจจาพยายามออกแรงสะบัดหัว แต่ก็ได้ยินเสียงผู้ชายสองคนด้านหน้ากำลังเริ่มพูดคุยกัน

“พี่ใหญ่ พี่ว่าพวกเราลักพาตัวเด็กน้อยคนนี้มาแล้วจะได้เงินจริงๆ เหรอ? วันนี้เป็นวันแต่งงานของคุณชายเจตต์ คนที่ไปก็มีแต่คนใหญ่คนโต เด็กคนนี้ใส่เสื้อผ้าดีขนาดนี้ จะใช่ลูกชายคนมีตังค์บ้านไหนหรือเปล่านะ?”

“แกจะสนใจทำไมว่าเขาคือใคร มีคนจ่ายเงินเพื่อจ้างพวกเราให้ไปลักพาตัวเด็กคนนี้มา พวกเราแค่ทำตามนั้นก็พอแล้ว ใครใช้ให้นายไปติดหนี้เยอะขนาดนั้น ถ้าไม่ลักพาตัวเขา นายจะยอมให้คนอื่นตัดแขนตัดขาไปหรือไง? พวกเราก็แค่คนส่งอาหารทะเลให้ห้องครัว จะสืบหายังไงก็คงสืบตามตัวเราไม่เจอหรอก”

คนขับรถนั้นคือพี่ใหญ่ที่กำลังด่าพึมพำอยู่

กิจจารู้สึกว่าตัวเองนั้นโชคร้ายสุดๆ

ถ้าโดนมืออาชีพลักพาตัวมาก็ว่าไปอย่าง คิดไม่ถึงว่าจะโดนคนขายอาหารทะเลลักพาตัวมา ถ้าเรื่องนี้ถูกแพร่งพรายออกไปเขากิจจาคนนี้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?

กิจจาพยายามจะดิ้น แต่ก็ดิ้นไม่หลุด เขาพยายามทำให้ตัวเองสงบลงแล้วคิดถึงตอนฝึกทหารที่ครูฝึกสอนวิธีให้ปลดเชือกด้วยตนเอง

เขาค่อยๆ ทำตามวิธีนั้นอย่างช้าๆ ไม่นานนักเชือกที่มือก็ค่อยๆ คลายออกแล้ว

กิจจาไม่ได้ส่งเสียงรบกวนพวกเขา

เขาล้วงขวดเล็กๆ ออกมาจากกระเป๋ากางเกง จากนั้นก็เอาผ้าที่ยัดปากนั้นมาอุดปากและจมูกตัวเองเอาไว้ แล้วเปิดฝาขวดเล็กๆ นั้น

แล้วกลิ่นหอมๆ ก็ค่อยๆ ลอยออกมาจากขวดเล็กนั้น

“เอ๊? กลิ่นอะไร? ทำไมหอมจัง! พี่ใหญ่ พี่ได้กลิ่นหรือเปล่า?”

ผู้ชายคนที่ติดหนี้หนักนั้นถามขึ้นมา

กิจจากลัวว่าพวกเขาจะรู้ว่าตัวเองตื่นแล้ว จึงรีบกลับไปอยู่ที่เดิมแล้วแกล้งทำเป็นหลับตาลงดังเดิม

พี่ใหญ่ก็ได้กลิ่นแล้วเช่นกัน

เขาหยุดรถ จากนั้นก็ข้ามไปมองข้างหลัง ก็เจอว่ากิจจายังคงนอนหลับอยู่ พร้อมพูดอย่างไม่สามารถอธิบายได้ “แปลก กลิ่นอะไรนะ? เป็นไปได้ไหมที่พวกคนรวยถึงขนาดจะฉีดน้ำหอมบนตัวลูก? ตอนมัดมือยังไม่เห็นได้กลิ่นเลย”

“เอ๊ะพี่ใหญ่ เราลักพาตัวเขาที่ในห้องน้ำ กลิ่นที่ได้กลิ่นตอนนั้นเดาว่าคงจะมีแต่กลิ่นอุจจาระนะ? ยิ่งไปกว่านั้นบนรถพวกเรานี้ก็เป็นกลิ่นของอาหารทะเลทั้งนั้น จะไม่ได้กลิ่นก็คงไม่แปลก ตอนนี้เปิดหน้าต่าง ไม่แน่ว่าอาจจะฉีดน้ำหอมลงบนตัวจริงๆ ก็ได้ กลิ่นมันคงจะตีกันขึ้นมาแหละ”

ชายคนที่ติดหนี้หนักพูดขึ้น

ทั้งสองคนนั้นไม่ได้เห็นกิจจาอยู่ในสายตา

เด็กเมื่อวานซืนสี่ขวบคนเดียว สำหรับผู้ชายแรงเยอะแข็งแรงสองคนนี้จะไปสู้อะไรได้ล่ะ?

แม้พี่ใหญ่จะยังคงสงสัยอยู่เล็กน้อย เพียงแต่คิดกลับไปกลับมาก็คิดไม่ออก เพียงแค่ใช้ฝ่ามือตีไปบนหัวน้องชายเบาๆ พร้อมพูด “ใครให้แกเปิดหน้าต่าง? ถ้าหากว่าเด็กนี่โดนลมพัดจนตื่นจะทำยังไง?

“ไม่เปิดหน้าต่างก็อบอ้าวตายกันหมดนี่พอดี รถนี้มีแต่กลิ่นปลา”

“แกนี่เรื่องมากจริงๆ ”

พี่ใหญ่พูดอย่างหงุดหงิด จู่ๆ ก็รู้สึกเวียนหัวเล็กน้อย

“เจ้ารอง แกรู้สึกไหมว่าเริ่มเวียนหัว?”

พี่ใหญ่เพิ่งจะพูดจบ ก็เห็นเจ้ารองนอนคว่ำหน้าลงที่คอนโซลหน้ารถเสียงดังตุ๊บ

“เจ้ารอง!”

พี่ใหญ่เริ่มไม่ค่อยรู้สึกตัว แต่ก็ยังเปิดประตูรถออก ทั้งตัวนั้นโงนเงน แล้วฟุบลงที่บนพวงมาลัยรถ

กิจจาเห็นพวกเขาเช่นนั้นแล้ว ก็รีบเปิดประตูลงรถไป แล้ววิ่งหนีไปทางหนึ่งอย่างรวดเร็ว

ที่นี่น่าจะเป็นชานเมืองแล้ว

กิจจาคิดได้ว่าคงหาตัวเขาไม่เจอแล้ว ไม่รู้ว่านรมนและบุริศร์จะร้อนใจขนาดไหนแล้ว จำเป็นต้องคิดหาที่ที่มีโทรศัพท์เพื่อโทรบอกพวกเขาแล้วแจ้งความ

วิ่งไปวิ่งไป เขาก็มองเห็นบ้านไม้เล็กๆ ดูแล้วน่าจะเป็นที่สำหรับคนเขาอยู่

แล้วกิจจาก็มองไม่เห็นที่อื่นแล้ว จึงรีบวิ่งเข้าไปเคาะเพื่อขอความช่วยเหลือ

เพียงแต่เรื่องที่คาดเขาไม่คาดคิดนั่นก็คือ คนที่เปิดประตูออกมาทันทีนั้นคือนภดล

ตอนที่นภดลเห็นกิจจานั้นก็ประหลาดใจเป็นอย่างมาก

“กิจจา ทำไมหนูมาอยู่ที่นี่ได้?”

“คุณอานภดลเหรอครับ? โชคดีจริงๆ คุณอานภดลครับ ผมถูกคนลักพาตัวมา เพิ่งจะหนีออกมาได้ คุณอารีบโทรหาแด๊ดดี้หม่ามี้เร็ว พวกเขาจะได้ไม่ต้องกังวล”

กิจจาพูดแบบหอบๆ

“รีบเข้ามาๆ ”

นภดลได้ยินเขาพูดเช่นนี้ก็รู้เลยว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่แล้ว

เขาพากิจจาเข้ามาในห้อง แต่ก็มองเห็นคุณนายตระกูลจันทรวงศ์ยืนเท้าเอวถลึงตามองพวกเขาแล้วพูดว่า “เด็กน้อยมาจากไหน? รีบไล่เขาออกไป! ห้องนอนนี้เล็กจะตาย แค่พวกเราก็นอนไม่พอแล้ว คุณยังจะพาเด็กน้อยคนนี้เข้ามาอีก นภดล คุณอยากจะมีปัญหาเหรอ? คุณก็ไม่คิดบ้าง ว่าที่พวกเราตกต่ำมาถึงขนาดนี้เพราะใครทำร้าย? ถ้าไม่ใช่เพราะว่าคุณไม่มีความสามารถ พวกเราจะได้มาอยู่ในบ้านเก่าๆ ชำรุดแบบนี้ไหม?”

“พอได้แล้ว เธอพูดให้น้อยลงสักหน่อยเถอะ”

ดร.ฐานทัตพูดตำหนิภรรยาอย่างรำคาญเล็กน้อยไปหนึ่งคำ

ในเย็นวันเดียวกันนั้นหลังจากที่พวกเขาโดนบุริศร์ไล่ออกมาก็ประสบเคราะห์ร้ายอย่างคิดไม่ถึงจริงๆ

ไม่ว่านภดลและเธอจะไปสมัครงานที่ไหนก็โดนปฏิเสธ ถึงขนาดที่ว่าไม่มีสักโรงแรมหรือโฮมสเตย์สักแห่งรับพวกเขา จะไปเช่าบ้านเช่าที่ไหนก็ไม่มีใครให้เช่า หมดหนทางจริงๆ นภดลจึงพาพวกเขาขึ้นมาอยู่บนเขา ที่นี่ดูเหมือนจะมีบ้านเล็กๆ ที่คนเขาปล่อยทิ้งไว้ พวกเขาจึงทำได้แค่เบียดกันอาศัยอยู่ที่นี่ชั่วคราว

ดร.ฐานทัตเป็นคนที่ยกให้การทดลองเป็นชีวิตของเขาเลย แล้วตอนนี้เขาก็ไม่ได้จับลูบคลำอุปกรณ์ทดลองมาหลายวันแล้ว ในใจนั้นเป็นทุกข์อย่างมาก แล้วตอนนี้ภรรยาก็ยังคงร้องดุด่าเสียงดังใส่ทุกวัน ทำให้ความคิดดีๆ ของเขาคนเดิมเริ่มจะหายไปหมดแล้ว

แทนที่ภรรยาคิดจะสั่งสอนนภดลแต่กลับถูกนภดลสั่งสอนแทน อดไม่ได้ที่จะพูดออกมาเสียงดัง

“คุณหมายความว่ายังไง? ตอนนี้คุณกับคนแปลกหน้าที่ยืนอยู่ด้วยกันนั้นร่วมมือกันจะจัดการฉันงั้นเหรอ? คุณน่าจะทำให้ชัดเจน ฉันคือคนที่อยู่ใกล้ชิดคุณที่สุด ฉันเป็นภรรยาของคุณ!”

“คุณหุบปากเถอะ! ถ้ายังตะโกนอีกรอบเชื่อไหมว่าผมจะตีคุณ?”

ดร.ฐานทัตอดทนมากพอแล้วจริงๆ

เมื่อภรรยาเขาได้ยินว่าดร.ฐานทัตจะใช้กำลังกับเธอ ก็ชิงลงมือเองเสียก่อน

“คุณตีฉัน? คุณเนรคุณ คุณไม่ลองคิดดูบ้างว่าตอนนี้ตัวเองเป็นยังไง นอกจากฉันยังจะมีใครต้องการคุณอีก”

ทั้งสองซัดสาดกันอย่างเดือดพล่าน

นภดลเพียงแต่มองด้วยความเย็นชา หลังจากนั้นก็ลากพากิจจาไปยังอีกน้องนอนหนึ่ง พร้อมพูดเบาๆ “นี่คือโทรศัพท์ของฉัน หนูรีบโทรหาประธานบุริศร์และคุณนายเพื่อบอกว่าปลอดภัยดี ไม่ต้องให้พวกเขาเป็นห่วง”

“ขอบคุณครับคุณอานภดล”

กิจจารับโทรศัพท์มา ยังไม่ทันได้กดโทร ภรรยาเขาก็พรวดพราดเข้ามา พร้อมกับแย่งโทรศัพท์ในมือของกิจจาไป

“ลูกของประธานบุริศร์เหรอ? ลูกของบุริศร์? นภดล คุณบ้าไปแล้วเหรอ? นรมนทำร้ายพวกเราอย่างน่าสมเพชขนาดนี้ นึกไม่ถึงว่าคุณยังคิดที่จะช่วยพวกเขาตามหาลูกกลับไป? คุณโง่หรือคุณบ้าไปแล้วกันแน่?”

แค้นรักสามีตัวร้าย

แค้นรักสามีตัวร้าย

Status: Ongoing

ไฟเผาความรักทั้งหมดของนรมนที่มีต่อบุริศร์ หลังจากห้าปี เธอกลับไปอย่างงดงามและเพื่อทวงความยุติธรรมสำหรับตัว เธอเอง แต่คาดไม่ถึงว่าเด็กชายที่ถูกพากลับมาด้วยนั้นมีแผน มากกว่าเธอ เด็กน้อยยืนอยู่ข้างหน้าบุริศร์ กล่าวอย่างไร้เดียง สาว่า “คุณลุง สามารถช่วยผมได้ไหม? ผมขอร้อง” บุริศร์ รู้สึกว่าไม่สามารถต้านทานการวิงวอนของเด็กได้ คุกเข่าลง เพื่อช่วย แต่คาดไม่ถึงว่าจะถูกพ่นใส่หน้า อยู่มาวันหนึ่ง บุริศร์ พูดกับเด็กชายหน้าตาดีว่า “เด็กน้อย นี่คือห้องของฉัน!” “แต่ ว่าผมอยากนอนกับหม่าม พวกเรานอนด้วยกันมาห้าปีแล้ว” ชายหนุ่มร้องไห้… แค่ไปจีบภรรยากลับมาเท่านั้น ทำไมลูก ของฉันถึงเอาใจยากเหลือเกิน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท