แค้นรักสามีตัวร้าย – ตอนที่ 1185

ตอนที่ 1185

“ผมหมายถึงอย่างนั้นซะที่ไหนล่ะ? แค่ล้อคุณเล่นเท่านั้น โกรธจริง ๆ แล้วเหรอ?”

พอเห็นภรรยาน้อยใจ บุริศร์ก็หยอกล้อเธอขึ้นมาทันที

นรมนกลับหัวเราะพรืดขึ้นมาทันที

“ฉันก็ล้อคุณเล่นเหมือนกันค่ะ”

“ดีนี่ เดี๋ยวนี้รู้จักแกล้งทำให้ผมตกใจแล้วใช่ไหม? หึ?”

บุริศร์หยุดนิ่งไปครู่หนึ่ง พอเห็นในดวงตาของภรรยามีแววซุกซนกะพริบผ่านไป ก็อดไม่ได้ที่จะยื่นมือไปจั๊กจี้เธอที่ใต้รักแร้

“ไม่เอา! ฮา ฮา! จั๊กจี้!”

นรมนรีบวิ่งหนีขึ้นมาทันที

“อย่าหนีนะ! ถ้าวันนี้ไม่จัดการคุณสักหน่อย ผมดูท่าคุณจะซุกซนจนเสียคนแล้ว”

บุริศร์แสร้งทำเป็นดุ แล้วก็วิ่งไล่ตามนรมนขึ้นมา

นรมนจะไปกล้าให้เขาตามทันได้ยังไง?

วิ่งไปด้วยแล้วก็หัวเราะไปด้วย เสียงหัวเราะที่ไพเราะเด่นชัดนั่นดังอยู่ในค่ำคืนที่ว่างเปล่าฟังแล้วช่างเสนาะหูยิ่งนัก

ธรณีจ้องมองเงาร่างของบุริศร์และนรมนวิ่งไล่กันห่างออกไปเรื่อย ๆ จากหน้าต่าง แล้วก็อดไม่ได้ที่จะคลี่มุมปากยิ้มขึ้น

“ตอนนี้นรมนมีชีวิตอย่างกับเด็กคนหนึ่ง เห็นได้ชัดว่าบุริศร์ดีกับเธอมากจริง ๆ”

“ประธานบุริศร์ดีกับคุณหนูมากจริง ๆ ครับ”

ไม่รู้ว่าพ่อบ้านจัดการธุระเสร็จแล้วกลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่ และมายืนอยู่หลังธรณี และจ้องมองดูพวกบุริศร์และนรมนไปด้วย

“เมื่อกี้ฉันยังกลัวว่านรมนจะเสียใจเพราะว่าเรื่องของพี่รอง นี่แค่ผ่านไปนานแค่ไหนเอง? ก็อารมณ์ดีขนาดนี้แล้ว ดูท่าบุริศร์จะมีวิธีเอาอยู่จริง ๆ”

พ่อบ้านนิ่งไปครู่หนึ่ง แล้วพูดขึ้นว่า “คุณชายสี่ครับ ทำไมคุณไม่ให้คุณหนูเข้าร่วมกับเรื่องนี้ด้วยครับ? เป็นเพราะว่ากลัวคุณชายรองจะคิดไม่ซื่อกับคุณหนูเหรอครับ?”

ดวงตาของธรณีขรึมลงหลายส่วน แล้วพูดเสียงต่ำขึ้นว่า “ตอนนี้พี่รองอยู่ที่ไหนก็ยังไม่รู้ อยู่ที่ประเทศFสถานะจะเป็นยังไงบ้างก็ไม่ชัดเจน ถ้าอยู่ ๆ นรมนก็ไป แล้วทั้งสองคนเกิดต่อสู้กันขึ้นมา มันก็จะคือการเข่นฆ่ากันเอง และอีกอย่างผู้หญิงอย่างนงลักษณ์ก็ลึกซึ้งจนยากที่คาดเดาได้ ที่เธอมาหาฉัน นายนึกว่าแค่มาบอกเล่าเรื่องราวเมื่อตอนนั้นให้ฉันรู้เหรอ? เธอบอกว่าติดค้างพี่สะใภ้คิมไว้ทั้งชีวิต ก็เลยมาบอกเล่าเรื่องราวให้ชัดเจน เพื่อจะได้คือความจริงให้พี่ใหญ่และพี่สะใภ้ หึ! คำพูดแบบนี้นายเชื่อเหรอ? คนก็ตายไปแล้ว คืนความจริงให้แล้วมีประโยชน์อะไร”

สมองของพ่อบ้านหมุนไม่ค่อยทันเท่าไหร่

“คุณชายสี่ งั้นคุณว่าเธอมาพูดเรื่องพวกนี้ที่บ้านตระกูลทวีทรัพย์ธาดาเพื่ออะไรกันครับ?”

“เพื่ออะไรเหรอ? เพื่อยืมคนมั้ง ขอแค่พวกเรารู้ว่าพี่รองยังมีชีวิตอยู่ ก็จะต้องส่งคนไปตามหาเบาะแสของพี่รองที่ประเทศFแน่ แต่พอคนของเราเหยียบลงบนแผ่นดินประเทศFปุ๊บ ก็จะต้องโดนเธอเอาไปใช้เป็นประโยชน์แน่ พอถึงตอนนั้นเธอมาพูดว่าคนของตระกูลทวีทรัพย์ธาดาเราเป็นกองหนุนของเธอ นายรู้สึกว่าผู้นำของประเทศFจะเชื่อเธอหรือว่าเชื่อพวกเราล่ะ?”

พอคำพูดนี้ของธรณีพูดออกไป สีหน้าของพ่อบ้านก็เปลี่ยนไปทันที

“ก็จะต้องเชื่อเธออยู่แล้ว! ผู้หญิงคนนี้นี่เจ้าเล่ห์มากจริง ๆ”

ดวงตาของธรณีมีแววเยือกเย็นกะพริบผ่านไป

“ถึงแม้ว่าฉันจะไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงต้องการให้คนของตระกูลทวีทรัพย์ธาดาเข้าไปแทรกในประเทศF แต่ว่าพี่รองยังไงฉันก็ยังต้องตามหาอยู่แล้ว ตอนนั้นพ่อพลีชีพไปกะทันหัน ท่านจึงไม่ค่อยรู้เรื่องการตัดขาดของพี่รองนัก แต่ว่าแม่รู้ดี หลายปีมานี้ พี่รองเป็นบาดแผลที่อยู่ในใจของแม่มาตลอด เพียงแต่แค่ไม่ได้เอ่ยมาตลอดก็เท่านั้น หลังจากที่พี่ใหญ่พลีชีพแล้ว แม่ก็ยิ่งขังตัวเองไว้ในห้องหลายวันไม่ยอมออกมา จนสุดท้ายได้หมดสติไปเพราะว่าไม่ได้กินอะไรมาหลายวันจนต้องส่งตัวไปช่วยเหลือฉุกเฉินที่โรงพยาบาล เวลานั้นแม่น่าจะคิดถึงพี่รองมาก ที่จริงหลายปีมานี้ แม่ไม่เคยยอมแพ้ที่จะตามหาเบาะแสของพี่รองเลย แต่น่าเสียดายตอนนั้นพี่รองไม่ได้บอกเราไว้ว่าไปประเทศไหน แล้วใครจะไปคิดล่ะว่าเขาจะไปประเทศF? จนแม่เสียชีวิตไป แล้วมีการรายงานข่าวที่ใหญ่โตมากขนาดนั้น แต่พี่รองก็ไม่ปรากฏตัวออกมา ตอนนั้นฉันคิดว่าเขาน่าจะไม่อยู่บนโลกนี้แล้ว และคิดไม่ถึงว่าจะยังสามารถมีข่าวคราวของเขาได้อีก เพราะฉะนั้นไม่ว่ายังไงฉันก็จะต้องตามหาพี่รองกลับมาให้ได้ ไม่ว่าตอนนี้เขาจะเป็นยังไง มีสถานะอะไรอยู่”

มือของธรณีกำเข้าหากันแน่น

พ่อบ้านรู้จักนิสัยของธรณี และตอนนี้ก็ไม่พูดอะไรแล้ว ขอแค่คุณชายสี่สั่งมา เขาก็จะรีบไปทำตาม

หลังจากที่บุริศร์และนรมนหยอกเล่นกันไปพักหนึ่งแล้ว ร่างกายก็ไม่หนาวมากแล้ว

ใบหน้าของเธอดูแดงระเรื่อ มองไปแล้วก็ดูมีเสน่ห์น่ารักมาก

“ขึ้นรถเถอะ บนรถมีเครื่องปรับอากาศ”

บุริศร์จูงมือนรมนไปขึ้นรถ

ทั้งสองคนเปิดเครื่องปรับอากาศในรถขึ้น จากนั้นก็จ้องมองซึ่งกันและกัน แล้วอยู่ ๆ ก็หัวเราะขึ้นมา

เมื่อกี้พวกเขาเหมือนอย่างกับเป็นเด็กเลย

“คุณนี่นะ คาดเข็มขัดนิรภัยให้เรียบร้อยเลย พวกเราจะไปโรงพยาบาลกันแล้ว”

บุริศร์หัวเราะขึ้นหัวเราะจาง ๆ ความรักและเอ็นดูที่ระหว่างคิ้วใช้ได้ดีกับนรมนมาก

ตอนที่ทั้งสองคนขับรถมาถึงโรงพยาบาลนั้น ได้เป็นเวลากลางคืนแล้ว คนในโรงพยาบาลก็น้อยลงไปเยอะ

บุริศร์จูงมือนรมนเอาไว้แล้วก็มาถึงห้องหน้าห้องไอซียูที่ปาณีอยู่อย่างรวดเร็ว

นภดลนั่งอยู่ตรงนั้น และจ้องมองไปข้างในอย่างเป็นกังวล หัวคิ้วขมวดกันแน่น ตอนที่รู้สึกว่ามีคนมาก็รีบเงยหน้าขึ้นมาทันที แล้วก็เห็นว่านรมนจูงมือบุริศร์เดินเข้ามา

นรมนจ้องมองนภดลที่อยู่ตรงหน้า

ไรหนวดของเขาขึ้นมาแล้ว ในดวงตาก็มีเส้นเลือดฝอยแดงชัดขึ้น เห็นได้ชัดว่าน่าจะไม่ได้พักผ่อนดี ๆ หรือจะพูดว่าตั้งแต่ที่ปาณีโดนยิง เขาก็อาจจะไม่ได้พักผ่อนเลย

“ปาณียังสบายดีไหม?”

นรมนเปิดปากพูดขึ้น

นภดลส่ายหน้า แล้วพูดขึ้นอย่างรู้สึกผิดว่า “ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ หมอบอกว่ากระสุนยิงทะลุกระดูกไหล่ อาจจะเป็นแผลเป็น และที่สำคัญต่อไปแขนขวาอาจจะอ่อนแรง เวลาวันฝนตกก็อาจจะปวดด้วย”

ตอนที่พูดมาถึงตรงนี้ ดวงตาของนภดลมีความสงสารและความซับซ้อนที่ไม่รู้ว่าคืออะไรพาดผ่านไป

นรมนสามารถมองออกได้ว่า นภดลนั้นชอบปาณีอยู่ เพียงแต่แค่คนคนนี้ค่อนข้างยึดติดอยู่กับคำมั่นสัญญาที่เคยให้ไว้กับฉัตรยาที่ตายไปแล้วเท่านั้น

คนเห็นแก่คำสัญญาไม่ใช่ว่าไม่ดี แต่ว่าจะชดใช้ด้วยทั้งชีวิตของตัวเองไม่ได้

นรมนจ้องมองนภดล แล้วพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เย็นเล็กน้อยว่า “ทั้ง ๆ ที่ปาณีสามารถมีชีวิตแบบอื่นได้ ถ้าหากไม่ใช่เพราะว่าเธอชอบนาย เธอก็คงจะไม่มาบังกระสุนให้นาย เรื่องนี้ฉันคิดว่าฉันไม่ต้องพูดนายก็น่าจะรู้แล้วนะ”

“ผมรู้ครับ ผมจะไม่ทำให้เธอเสียใจครับ”

อยู่ ๆ นภดลก็ตัดสินใจได้ซะที

ในใจนรมนรู้สึกโล่งใจไปได้เปลาะหนึ่ง

เธอรู้ว่านภดลเป็นคนดื้อด้าน ถ้าได้ทำการตัดสินใจอะไรไปแล้วก็จะไม่ยอมเปลี่ยนแปลงง่าย ๆ มาวันนี้การเสียสละของปาณีเขาก็เห็นกับตาแล้ว และเพราะว่าก่อนหน้านี้ก็มีความรู้สึกกับปาณีอยู่แล้ว และการบาดเจ็บครั้งนี้ก็ยิ่งมาผลักดันความรู้สึกให้กับทั้งสองคน ในจุดนี้ทั้งบุริศร์และเธอต่างก็มองเห็นได้ชัดเจน

แต่ว่านรมนก็พูดเสียงต่ำขึ้นว่า “ความรักกับการสำนึกในบุญคุณนั้นจะเอารวมกันไม่ได้นะ นภดล ถ้านายไม่รักเธอ ก็อย่ามาให้คำมั่นสัญญาอะไรง่าย ๆ บุญคุณมันมีวิธีที่จะทดแทนได้มากมาย วิธีที่จะใช้ร่างกายมาทดแทนนั้นเป็นวิธีที่โง่เขลา แล้วก็ไม่ใช่สิ่งที่ปาณีอยากจะได้ด้วย นายต้องรู้ไว้นะ ว่าสิ่งที่เธอต้องการมาตลอดคือความรักที่บริสุทธิ์เท่านั้น ไม่ใช่เงินทองของนาย ไม่ใช่ตำแหน่งหน้าที่การงานของนาย เพียงแค่นายเป็นนาย แค่เท่านั้น”

ร่างกายของนภดลสั่นไปครู่หนึ่ง

เขารู้ว่าสิ่งที่นรมนพูดมานั้นคือความจริง

สำหรับปาณีแล้ว มันคือการสำนึกบุญคุณเหรอ?

นภดลไม่รู้

หัวสมองของเขานึกย้อนไปที่เรื่องราวต่าง ๆ นานาในตอนที่ได้อยู่กับปาณีอย่างรวดเร็ว

ที่จริงเวลาที่อยู่กับปาณีนั้นไม่ได้นานมาก แล้วก็แค่ไม่กี่ครั้ง แต่ว่าเขาก็สามารถนึกถึงท่าทางที่มีรอยยิ้มของปาณีขึ้นมาได้

เวลาเธอยิ้มขึ้นมามันดูอ่อนโยนมาก ทำให้คนรู้สึกสงบสุขเสี้ยวหนึ่งขึ้นมาจากก้นบึ้งหัวใจ

เขาชอบเวลาที่ได้อยู่กับปาณี

ความรู้สึกแบบนี้ไม่เกี่ยวกับการสำนึกบุญคุณ เขารู้

อยู่ ๆ นภดลถึงเพิ่งพบว่า ถึงแม้เวลาที่ได้อยู่กับปาณีจะไม่นาน แต่ว่าทุกครั้งก็เป็นเวลาที่เขารู้สึกสบายใจที่สุดและมีความสุขที่สุด ถึงแม้ว่าปากของเขาจะไม่พูด แต่ว่าความรู้สึกในใจนั้นหลอกลวงคนไม่ได้หรอก

เขาชอบปาณี!

นี่มันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?

นภดลไม่รู้ แต่กลับเพิ่งจะรู้สึกตัว

หรืออาจจะเริ่มจากวินาทีที่ปาณีช่วยเขาบังกระสุน หรืออาจจะเริ่มจากช่วงเวลาก่อนหน้านี้ที่ปาณีล้อมหน้าล้อมหลังเขาอยู่ หรืออาจจะยิ่งเริ่มจากตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกับปาณี

เขาจำไม่ได้แล้ว แต่กลับจำได้ว่าทุก ๆ รอยยิ้มของปาณีล้วนยิ้มให้กับตัวเอง ทุกครั้งที่จะต้องลำบากก็เพื่อตัวเอง

ความรู้สึกชอบแบบนี้ไม่ได้ปรากฏออกมานานหลายปีแล้ว

ตั้งแต่ตอนที่อายุสิบแปด ฉัตรยาบอกกับเขาว่าชอบเขา

รอบยิ้มของเธอสวยมาก เหมือนกับดวงอาทิตย์ยังไงอย่างงั้น

ในตอนนั้นหัวใจของนภดลก็สั่นไหวอยู่ แต่เพราะว่าความรู้สึกชอบของฉัตรยา เขาต้องทนทุกข์กับการด่าทอทุบตีของคุณนายตระกูลจันทรวงศ์ ตอนนั้นเขารู้ดีว่าตัวเองไม่คู่ควรกับฉัตรยา

แล้วรักครั้งแรกของเขาก็จบลงภายใต้สถานการณ์กดดันแบบนี้

ไม่รู้ว่าเริ่มตั้งแต่เมื่อไหร่ ฉัตรยากลายเป็นความรับผิดชอบอย่างหนึ่งของเขาไป และยิ่งไปกว่านั้นก็คือความรู้สึกผิด

ในเมื่อเด็กสาวแบบนั้นสามารถมีทางเลือกที่มากกว่านี้ได้ แต่กลับเลือกที่จะทะเลาะกับแม่เพราะเขา ทุกครั้งที่ทะเลาะกันก็จะโดนคุณนายตระกูลจันทรวงศ์กักบริเวณ แต่ฉัตรยาก็จะเริ่มใช้ทุกวิถีทางเพื่อที่จะได้เจอเขา

อดอาหาร และ ฆ่าตัวตาย

ถึงแม้ความพยายามแต่ละครั้งจะทำให้นภดลซาบซึ้งมาก แต่ก็กดดันมาก

ความรู้สึกแบบนี้มันโดนคุณนายตระกูลจันทรวงศ์แทรกเข้ามาทำให้เปลี่ยนแปลงไปตั้งนานแล้ว

แต่ทำยังไงได้ในเมื่อฉัตรยายังคงยืนหยัดมาตลอด นภดลจึงได้แต่ต้องอยู่เป็นเพื่อนด้วย

ต่อมาคุณนายตระกูลจันทรวงศ์ทนฉัตรยาที่ลุ่มหลงอยู่ในความรักมากเกินไปไม่ไหวแล้ว ก็เลยร่วมมือกับคนนอกขายนภดลไป

ครั้งนั้นนภดลรู้สึกดีใจมากจริง ๆ

ถึงแม้ว่าการโดนคนขายไปในเมืองใต้ดินทำให้เขารู้ว่าอนาคตตัวเองอาจจะตายได้ แต่ว่าเขาก็โล่งอกไปได้เปลาะหนึ่งยังไงไม่รู้ หนำซ้ำยังรู้สึกว่าก้อนหินใหญ่ที่อุดอยู่ในใจก็ได้โดนยกออกไปแล้ว

ในที่สุดเขากับฉัตรยาก็ได้แยกจากกันแล้ว

เขาจะได้ไม่ต้องเผชิญหน้ากับแววตาที่อ่อนโยนของฉัตรยาอย่างรู้สึกผิดอีกแล้ว แล้วก็ไม่ต้องมีชีวิตอยู่อย่างยากลำบากท่ามกลางคุณนายตระกูลจันทรวงศ์กับฉัตรยาอีกแล้ว

ฉัตรยาเหมือนกับนางฟ้า ส่วนคุณนายตระกูลจันทรวงศ์ก็เหมือนกับปีศาจ

ชีวิตที่มีสวรรค์กับนรกอยู่รวมกันแบบนี้ นภดลอยู่มามากพอแล้ว แต่กลับไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ

ในตอนที่เขาโดนพาตัวเข้าไปในเมืองใต้ดินนั้น นภดลรู้สึกว่าในที่สุดเขาก็ได้หลุดพ้นแล้ว

ถึงแม้ว่าจะโดนคนฆ่าตายไป ดูดเลือดจนแห้งไปก็เป็นการตายที่มีความสุขทั้งนั้น

ความรักที่ติดค้างฉัตรยาอยู่ เขาเอาชีวิตมาชดใช้ ก็พอแล้ว

แต่ว่าเขากลับคิดไม่ถึงว่า เพื่อเขาแล้วฉัตรยาจะตามมาถึงเมืองใต้ดิน ไม่เพียงแค่มาเมืองใต้ดิน แต่ยังมีความเกี่ยวข้องและเชื่อมโยงกับนรมนอีก

ที่จริงตอนนั้นนภดลไม่อยากจะไปจริง ๆ แต่ทำยังไงได้เพราะที่เมืองใต้ดินมันวุ่นวายมากเกินไป ถ้าฉัตรยาเป็นอะไรไปที่นี่ ถึงแม้ว่านภดลจะต้องตายก็คงจะตายตาไม่หลับ

เขาก็เลยจำเป็นต้องส่งตัวฉัตรยากลับไป

แต่ว่าครั้งนี้กลับทำให้ฉัตรยาออกมาไม่ได้อีกเลย

เธอป่วย แล้วต่อมาก็ตายไป และเอาความรักมากมายที่มีให้กับนภดลไปจากโลกนี้ด้วย

วินาทีนั้น นภดลรู้สึกสิ้นหวังมาก

เขาจะชดใช้บุญคุณที่มีต่อฉัตรยายังไงดี?

ในตอนแรกยังมีความหวังอยู่เสี้ยวหนึ่งว่าจะสามารถใช้ชีวิตอย่างคนทั่วไปได้ ถึงแม้ว่าจะต้องตายก็ยังจะสามารถหลุดพ้นได้แต่ทำยังไงได้ในเมื่อก่อนฉัตรยาจะตายได้ฝากฝังให้เขาดูแลพ่อแม่เธอด้วย และถือได้ว่าเป็นเป้าหมายและแรงขับเคลื่อนที่ทิ้งไว้ให้เขามีชีวิตต่อไป

แต่ว่าฉัตรยาไม่เคยรู้เลย ว่าที่จริงแล้วนภดลนั้นรู้สึกเหนื่อยตั้งนานแล้ว

ในความรักครั้งนี้ ไม่มีความซาบซึ้งและความหวั่นไหวอย่างตอนแรกทั้งนานแล้ว สิ่งที่เหลืออยู่มีแต่เพียงความเหนื่อยล้าและบาดแผลมากมาย

แต่ว่าแม้แต่สิทธิ์ที่จะตายเขาก็ยังไม่มี

เขาไม่มีวิธีที่จะพูดคุยเรื่องทุกอย่างกับฉัตรยา แม้แต่โอกาสแค่นิดเดียวก็ไม่มี เขาได้แต่มีชีวิตอยู่อย่างซากศพเดินได้ตัวหนึ่ง และคิดไม่ถึงว่าจะได้เจอกับปาณีเข้า

ปาณีเป็นคนที่มาช่วยให้เขามีชีวิตรอด ทำให้หัวใจที่เหมือนกับตายไปแล้วของเขามีชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง แต่ว่าเขาก็รู้ว่าชาตินี้เขาไม่มีทางที่จะสลัดคุณนายตระกูลจันทรวงศ์หลุดได้ แล้วเขาจะให้ปาณีมาตกนรกไปกับตัวเองด้วยได้ยังไง?

มาวันนี้ความไม่คิดชีวิตของปาณีทำให้นภดลไม่มีทางที่จะหลีกหนี และไม่มีทางที่จะไม่สนใจความรู้สึกของตัวเองได้อีก วินาทีนี้ เขารู้แล้วว่า เพื่อปาณีแล้ว เขาจะเป็นอย่างนี้ต่อไปอีกไม่ได้แล้ว

พอคิดมาถึงตรงนี้ นภดลก็เงยหน้าขึ้นมาทันที แล้วอยากจะพูดอะไร แต่อยู่ ๆ เสียงสัญญาณฉุกเฉินในห้องไอซียูก็ดังขึ้นมา

สีหน้าของนรมน บุริศร์ รวมทั้งนภดลเปลี่ยนไปทันทีเลย

แค้นรักสามีตัวร้าย

แค้นรักสามีตัวร้าย

Status: Ongoing

ไฟเผาความรักทั้งหมดของนรมนที่มีต่อบุริศร์ หลังจากห้าปี เธอกลับไปอย่างงดงามและเพื่อทวงความยุติธรรมสำหรับตัว เธอเอง แต่คาดไม่ถึงว่าเด็กชายที่ถูกพากลับมาด้วยนั้นมีแผน มากกว่าเธอ เด็กน้อยยืนอยู่ข้างหน้าบุริศร์ กล่าวอย่างไร้เดียง สาว่า “คุณลุง สามารถช่วยผมได้ไหม? ผมขอร้อง” บุริศร์ รู้สึกว่าไม่สามารถต้านทานการวิงวอนของเด็กได้ คุกเข่าลง เพื่อช่วย แต่คาดไม่ถึงว่าจะถูกพ่นใส่หน้า อยู่มาวันหนึ่ง บุริศร์ พูดกับเด็กชายหน้าตาดีว่า “เด็กน้อย นี่คือห้องของฉัน!” “แต่ ว่าผมอยากนอนกับหม่าม พวกเรานอนด้วยกันมาห้าปีแล้ว” ชายหนุ่มร้องไห้… แค่ไปจีบภรรยากลับมาเท่านั้น ทำไมลูก ของฉันถึงเอาใจยากเหลือเกิน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท