“ประธานบุริศร์ ได้เวลามื้อค่ำแล้วค่ะ”
ไม่ทันรู้สึกตัว ทุกคนเล่นกันนานมาก
นรมนขยับคอที่ปวดเมื่อย “เกมนี้สนุกจัง กลับไปพวกเราลองเล่นกันทุกวัน”
“หม่ามี้ พูดจริงหรือคะ”
กมลมองนรมนตื่นเต้นมาก
“จริงจ้ะ”
นรมนลูบหัวของเธอ รักใคร่เอ็นดู
ทุกคนไปกินข้าวกัน
กมลเห็นอาหารป่าบนโต๊ะ ก็อดไม่ได้ที่จะดีใจ “ว้าว ไก่ป่า! ต้องอร่อยแน่!”
“จอมตะกละ”
เห็นดวงตากมลเป็นประกายสดใส กานต์กับกิจจาก็ยิ้มมุมปาก
“บอกว่าฉันตะกละ พี่มีความสามารถก็อย่ากินสิ แค่ดูก็อิ่มแล้ว ใช่มั้ย พี่กิจจา”
กมลบ่นกานต์ ท่าทางไม่พอใจ
กานต์ส่ายหัวนั่งลง
บุริศร์นั่งข้างนรมน เห็นอาหารอร่อยเต็มโต๊ะก็ยิ้ม “กินเยอะๆ นะ สองวันนี้คุณเหนื่อยมาก บำรุงหน่อย”
พูดพลาง คีบไก่ชิ้นหนึ่งให้นรมน
นรมนแทบจะบ้าตาย
เธอเสียแรงมากเกินไปเป็นความผิดของใครล่ะ
นรมนจ้องมองเขา ท่าทางไม่พอใจนั่นทำให้บุริศร์อยากจะทุ่มเธออีกรอบจริงๆ
“อะแฮ่ม ระวังหน่อย ที่นี่ยังมีเด็กอยู่นะ”
กานต์ทนดูต่อไปไม่ไหวแล้ว
ตั้งแต่มาที่นี่เขาเห็นว่าคุณบุริศร์ชักจะหน้าไม่อายมากไปแล้ว
วันๆ เอาแต่ยึดตัวหม่ามี้ไว้ ทำอะไรอยากให้ทุกคนรู้
คุณบุริศร์หน้าหนาอย่างนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่
หรือว่าเป็นเพราะผู้ใหญ่เก็บกดความเย็นชาไว้แล้วระเบิดออกมากะทันหัน
น่ากลัวมากๆ
กานต์ตัวสั่น ท่าทางกลัวความหนาวทำให้นรมนไม่มีหน้ากินข้าวแล้ว
“เงียบไปเลย กินของคุณไปเลย”
นรมนยัดไก่เข้าไปในปากบุริศร์
หางตาบุริศร์มองกานต์ อีกฝ่ายมองสายตาเขาเรียบเฉย และยังมองเขาดูถูกแวบหนึ่ง
เด็กเวร!
บุริศร์พึมพำในใจ แต่ก็ยังกินต่อไปเต็มปากเต็มคำ
กมลไม่สนใจอะไรทั้งนั้น เธอรู้สึกเหมือนขึ้นสวรรค์ กินเที่ยวเล่นมีครอบครัวเป็นเพื่อน สำคัญที่สุดคือทุกคนอยู่พร้อมหน้าบรรยากาศนี้เยี่ยมยอดมาก
กิจจาเห็นเธอกินเลอะเทอะ ก็รีบหยิบกระดาษทิชชูส่งให้
“กินช้าๆ ไม่มีใครแย่งหรอก น่องไก่นี้ให้เธอ”
กิจจายกน่องไก่ตัวเองให้กมล
“ขอบคุณค่ะ พี่กิจจา”
กมลปากมันแผล็บยิ้มให้กิจจา
กานต์พูดจาไม่ชอบใจ “กมล เธอเป็นคุณหนูของทุกคน ตระกูลโตเล็กไม่ได้ขาดแคลนอาหาร ขอร้องล่ะเวลากินข้าวกินเรียบร้อยหน่อยได้มั้ย ดูตัวเองสิท่าทางเหมือนผีหิวโซ ใครจะกล้าแต่งกับเธอ”
“พี่เงียบไปเลย!”
กมลปากระดูกไก่ที่กินแล้วใส่กานต์
กานต์ยกแขนขึ้นทันที กระดูกไก่ตกลงไปในชามน้ำแกงตรงหน้า น้ำแกงในชามกระฉอกออกมา ถูกแขนเสื้อของกานต์ มันจนกานต์ย่นคิ้วทันที
“กมล อยากถูกตีหรือไง”
“มาสิ มาตีฉันสิ! แบร่ๆ!”
กมลแลบลิ้นใส่กานต์ยั่วแหย่ ทำให้กานต์โมโหจนพับแขนเสื้อขึ้น
“เจ้าเด็กบ้า ตอนนี้อยากตายหรือไง มานี่เดี๋ยวนี้!”
“พี่ให้ฉันไปฉันก็ไปหรือ งั้นฉันก็ขายหน้าสิ!”
กมลกระโดดลงจากเก้าอี้ปราดเปรียว วิ่งไปรอบๆ โต๊ะ
“หยุดเดี๋ยวนี้นะ”
“เก่งจริงก็จับให้ได้สิ!”
คนหนึ่งอยู่ข้างหน้าอีกคนอยู่ข้างหลัง คนหนึ่งวิ่งหนีคนหนึ่งวิ่งไล่ เล่นกันสนุกสนานครึกครื้น
กานต์ไม่ได้ไล่ตามจริงๆ เพียงแต่รู้สึกว่าช่วงนี้กมลแรงเยอะขึ้นมาก ก็เลยเป็นเพื่อนเล่นกับเธอ
กมลเล่นสนุกมาก เดี๋ยวๆ ก็ดึงตัวนรมนมาบัง เล่นจนนรมนหัวเราะไม่ออก
คราบมันบนมือเจ้าเด็กคนนี้จับตัวเธอ
บุริศร์เห็นความครึกครื้นวุ่นวายตรงหน้า ในใจกลับรู้สึกสงบ
การเลี้ยงลูกให้มีความสุขก็คือแบบตรงหน้านี้ใช่มั้ย
เมื่อก่อนเขาไม่คิดว่าตัวเองจะมีความสุขแบบนี้
กิจจาเห็นสองคนเล่นกันสนุก เม้มริมฝีปากยิ้ม ปอกเปลือกวางกุ้งลงในจานของกมลอย่างใส่จาน
เด็กคนนี้ชอบกินกุ้ง แต่ไม่ชอบแกะเปลือก เขาจึงต้องช่วยทำให้
นรมนเห็นกิจจารู้ความอย่างนี้ รักกมลอย่างนี้ ก็อดพูดไม่ได้ “กิจจา ลูกก็กินเยอะๆ ไม่ต้องดูแลน้องหรอก กระเพาะคนนั้นไม่มีก้น กินเท่าไหร่ก็ไม่เต็ม”
“ไม่เป็นไรหม่ามี้ เดี๋ยวผมค่อยกิน”
กิจจายิ้มอ่อนโยนมาก
นรมนรู้สึกว่าความสุขที่สุดของตัวเองก็คือมีเด็กสามคนนี้
กมลเล่นกับกานต์พักหนึ่งก็เหนื่อยมาก
“ไม่เล่นแล้วๆ เหนื่อยจะตาย พี่ น่ารำคาญที่สุด ไม่รู้จักยอมให้ฉันหน่อย อยากให้ฉันเหนื่อยตายหรือไง”
กานต์พูดไม่ออก
ถ้าหากเขาไม่ยอมล่ะก็ เธอถูกฉันจับได้ไปตั้งนานแล้วรู้มั้ย
สองคนกลับมานั่งที่โต๊ะ
กมลเห็นกุ้งวางในจาน ตาก็เป็นประกาย
“ขอบคุณค่ะพี่กิจจา พี่กิจจาดีที่สุดเลย”
“ขี้ประจบ”
กานต์ส่ายหัว มองกมลกินท่าทางมีความสุข ก็อดยิ้มไม่ได้
ครอบครัวอิ่มเอมมื้อค่ำแล้ว นรมนนั่งที่เก้าอี้ รู้สึกแน่นมาก
“ออกไปเดินเล่นกันเถอะ กินเยอะแล้ว”
“ก็ดี”
ตอนนี้นรมนบอกว่าให้ไปตายบุริศร์ก็คงจะตอบตกลง
กมลไม่อยากออกไป แต่ถูกกิจจากับกานต์ลากออกไป
กลางคืนบนภูเขาอากาศค่อนข้างเย็น
บุริศร์ออกมาข้างนอกแล้วถึงรู้สึก
เขาบอกกับลูกๆ “เด็กๆ เข้าไปใส่เสื้อคลุมก่อนแล้วค่อยออกมา เดี๋ยวจะเป็นหวัด”
เด็กๆ เชื่อฟังทำตามที่เขาบอก
นรมนใส่เสื้อคลุมกำมะหยี่ มองขึ้นไปบนท้องฟ้า ทันใดนั้นก็รู้สึกทอดถอนใจ “หลายปีแล้วไม่ได้ดูดาวชัดๆ อย่างนี้นะคะ”
“บนภูเขาไม่มีมลพิษ ชั้นบรรยากาศที่นี่ย่อมโปร่งโล่ง ดาวบนฟ้าก็เลยสวยเป็นพิเศษ”
บุริศร์จูงมือนรมนเดินช้าๆ ไปตามทาง จังหวะช้ามากๆ
ตอนที่เด็กๆ ออกมา ก็เห็นหิ่งห้อยพอดี
“ว้าว มันคืออะไร สวยจังค่ะ!”
กมลเป็นคนแรกที่เห็น ร้องอุทานตื่นเต้น
“พี่ พี่กิจจา หนูอยากได้แมลงนั่น แมลงที่มีแสงสว่าง เหมือนดวงดาวจัง!”
นรมนมองไปตามเสียง ก็เห็นหิ่งห้อย อดแปลกใจไม่ได้
“อากาศเย็นขนาดนี้ มีหิ่งห้อยด้วยหรือ”
“ขอแค่ผมอยากให้มี มันก็จะมี”
คำพูดของบุริศร์ทำให้นรมนอึ้งไป
หมายความว่ายังไงกัน
ขณะที่กำลังคิดนั้น เบื้องหน้าก็เต็มไปด้วยหิ่งห้อยนับไม่ถ้วน
มันบินผ่านไปทางหนึ่ง
สายตาของนรมนถูกดึงดูด
หิ่งห้อยพวกนั้นบินไปกลางอากาศ ทันใดนั้นก็เรียงตัวเป็นรูปหัวใจ จากนั้นก็เป็นตัวอักษรบุริศร์นรมน พลันทำให้นรมนตกตะลึง
“นี่ ทำยังไงหรือคะ”
บุริศร์มองเห็นท่าทางมีความสุขระคนประหลาดใจของภรรยา ก็รู้สึกมีความสุขเป็นพิเศษ
“ไม่มีอะไรมาก ก็แค่ใช้กลิ่นหรืออาหารที่พวกมันชอบ มันก็จะบินเป็นรูปแบบตามที่คนคิด เป็นไงบ้าง คุณชอบมั้ย”
“โรแมนติกจัง!”
นรมนยังไม่ทันตอบ กมลก็ประคองหน้าเคลิบเคลิ้มเข้ามาพูด
บุริศร์มองลูกสาว ส่ายหน้าพลางยิ้มออกมา
“ฉันชอบค่ะ”
นรมนจะไม่ชอบได้อย่างไร
ผู้ชายคนหนึ่งตั้งอกตั้งใจทำให้เธอยิ้ม ทำให้เธอมีความสุข นั่นคือการแสดงออกว่ารักเธอ เธอจะไม่ชอบได้อย่างไรกัน
บุริศร์โอบกอดนรมนจากด้านหลัง พูดเสียงอ่อนโยน “หวังว่าพวกเราจะเป็นอย่างนี้ตลอดไป”
“ไม่ค่อยได้ยินคุณทอดถอนใจแบบนี้ เป็นอะไรไปคะ บริษัทไม่อยากได้แล้ว เงินไม่อยากได้แล้ว”
คำพูดของนรมนทำให้บุริศร์ยิ้มออกมา “ยังมีพวกชัยยศอยู่ไม่ใช่หรือ บริษัทจ้างพวกเขาเงินเดือนสูง คงไม่ให้ประธานอย่างผมเหนื่อยตายหรอกใช่มั้ย ตอนนี้ผมอยากอยู่กับพวกคุณ วันแบบนี้เหมือนสวรรค์เลย”
“พูดอย่างกับคุณเคยไปสวรรค์แหนะ”
นรมนเถียง แต่มุมปากมีรอยยิ้มงามพิศ
หิ่งห้อยบินเป็นรูปร่างไม่นานก็หายไป
“พี่คะ หนูชอบพวกมัน”
กมลดึงชายเสื้อกานต์ร้องขอ
แน่นอนว่ากานต์ไม่คิดปฏิเสธ
แป๊บเดียวเด็กๆ ก็วิ่งออกไปไล่ตามหิ่งห้อย
“ไม่อันตรายใช่มั้ยคะ”
“ไม่เป็นไรหรอก มีคนตามไป”
เมื่อบุริศร์พูดเช่นนั้นทำให้นรมนสังเกตเห็น พวกกมลเพิ่งออกไป ก็มีเงาตามไป บุริศร์คงจะเตรียมบอดี้การ์ดไว้
หิ่งห้อยตกลงใส่หน้านรมน
“อย่าขยับ!”
จู่ๆ บุริศร์ก็พูดขึ้น แล้วปิดหน้านรมน
นรมนรู้สึกใจเต้นโครมคราม
เขาอยู่ใกล้เกินไป ใกล้จนเธอเห็นรูขุมขนของบุริศร์ได้ชัดเจน
ดูเหมือนช่วงนี้ผู้ชายคนนี้จะผิวดีขึ้นมาก
น่าแปลกชะมัด ผู้ชายคนนี้ทำไมดูดีขึ้นเรื่อยๆ
นรมนอดไม่ได้ที่จะรู้สึกอิจฉาเอามากๆ
บุริศร์หยิบหิ่งห้อยออกจากหน้าของนรมน กำมือตรงหน้านรมน ยิ้มแย้ม “ผมให้คุณ มันทำให้คุณสมหวังได้ ตอนนี้อธิษฐานสิ คุณนายบุริศร์”
ใจของนรมนยังไม่ทันนิ่งสงบ มองผู้ชายตรงหน้า อดที่จะหัวเราะไม่ได้ “ฉันขอให้ครอบครัวของเราแข็งแรงมีความสุข อยู่ด้วยกันตลอดไปค่ะ”
ดวงตาของบุริศร์แสดงความรู้สึก แล้วปล่อยมือ
หิ่งห้อยตัวเล็กๆ บินขึ้นไปบนฟ้า นำพาความปรารถนาที่สวยงามของนรมนบินขึ้นไปบนท้องฟ้า
บุริศร์ดึงเธอเข้ามาในโอบกอด กระซิบ “วางใจเถอะ พวกเราจะอยู่ด้วยกันตลอดไป และจะแข็งแรงมีความสุขมากด้วย!”
“ฉันเชื่อค่ะ เพราะผู้ชายของฉันคือบุริศร์”
คำพูดนี้ของนรมนเติมเต็มใจของบุริศร์ ทำให้เขารู้สึกปลื้มปริ่ม
“คุณนายบุริศร์ คุณกำลังเกี้ยวพาผม”
“พูดบ้าๆ! ฉันกำลังชมคุณชัดๆ”
นรมนหมุนตัวกลับมา โอบรอบคอเขาไว้
สองคนจ้องมองกันลึกซึ้งใต้แสงจันทรา ในสายตามีเพียงกันและกัน
นรมนจู่ๆ รู้สึกหายใจเร็ว อยากจะผลักบุริศร์ออกไป แต่รู้สึกมีแรงผลักที่เอว ตัวเองโผเข้าไปในอ้อมกอดของบุริศร์ทันที
“คุณนายบุริศร์ นี่หมายความว่าคุณเข้ามากอดผมเองใช่มั้ย”
เสียงยั่วล้อของบุริศร์ดังขึ้น
นรมนหน้าแดงเรื่อทันที
ผู้ชายบ้าหน้าไม่อาย!