แค้นรักสามีตัวร้าย – บทที่ 1303 แอบอ้างสถานะของผู้อื่น

บทที่ 1303 แอบอ้างสถานะของผู้อื่น

นรมนอยู่ข้างนอกไปอีกพักหนึ่ง พอข้างในไม่มีเสียงลอยมาแล้วเธอถึงจากไป

เธอไม่รู้ว่าพอบุณพจน์รู้ว่าพรวลัยกินยาพิษเข้าไปแล้วจะมีสภาพจิตใจยังไง ถ้าหากเป็นบุริศร์ละก็ คาดว่าน่าจะทุกข์ใจมากละมั้ง

แต่ว่าเรื่องความรู้สึกนั้น เธอช่วยอะไรไม่ได้จริง ๆ

หลังจากที่นรมนจากมาแล้วก็กลับมาถึงหมู่บ้านดารายน

ด้านนงลักษณ์ยังคงยุ่งมาอยู่ อาจจะกำลังตรวจสอบปัญหาเรื่องตัวตนของพิรุณอยู่ แต่พอมิลินเห็นนรมนนั้น ก็รีบพาตัวเธอมาอีกข้างหนึ่ง แล้วพูดเสียงต่ำขึ้นว่า “ผู้ใหญ่บ้านติดต่อฉันแล้วค่ะ”

“อะไรนะ?”

นรมนรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย

ทำไมบุริศร์ถึงไม่ติดต่อกับเธอ? แต่กลับติดต่อไปหามิลินล่ะ?

เหมือนกับว่าจะรู้ว่านรมนกำลังคิดอะไรอยู่ มิลินก็รีบพูดขึ้นว่า “สัญญาณของทางผู้ใหญ่บ้านโดนดักฟัง ไม่มีวิธีที่จะโทรศัพท์ได้ เพราะฉะนั้นเขาก็เลยใช้วิธีติดต่อที่มีแต่หมู่บ้านดารายนเราเท่านั้นติดต่อฉันมา”

“หนอนพิษเหรอ?”

วิธีติดต่อที่นรมนสามารถนึกออกได้ก็มีแต่วิธีนี้เท่านั้น

มิลินพยักหน้าเล็กน้อย

“ผู้ใหญ่บ้านนั้นมีพรสวรรค์มากเลย ถึงกับใช้หนอนพิษติดต่อฉันเป็นด้วย เขาบอกว่าพวกเขาไม่เป็นอะไร ให้พวกเราไม่ต้องเป็นห่วง ปกป้องทางเข้าหมู่บ้านราดายนไว้ให้ดี แล้วรอข่าวจากเขา”

มิลินดูไปแล้วตื่นเต้นมาก ในเมื่อมีข่าวของบุริศร์แล้ว ขอเพียงผู้ใหญ่บ้านยังอยู่ เธอก็จะมีที่พึ่ง แต่ว่านรมนกลับไม่ได้มองโลกในแง่ดีแบบนั้นเหมือนกับเธอ

“บุริศร์ใช้หนอนพิษไม่เป็น”

หลังจากที่พูดประโยคนี้จบ นรมนก็ยกเท้าแล้วเดินจากไปเลย เหลือมิลินให้ยืนเหม่ออยู่ที่เดิมคนเดียว

ใช้หนอนพิษไม่เป็นงั้นเหรอ?

จะเป็นไปได้ยังไง?

“คุณนายคะ ฉันไม่ได้โกหกนะ ผู้ใหญ่บ้านติดต่อฉันมาจริง ๆ นะ หนอนพิษตัวนั้นฉันยังเก็บไว้อยู่ เป็นหนอนที่ใช้ส่งข่าวสารโดยเฉพาะเลยนะคะ”

มิลินรีบร้อนอธิบาย แต่ในสมองของนรมนกลับปรากฏภาพของคนคนหนึ่งออกมา

ปีวรา!

แม่ของเธอเป็นลูกหลานของหมู่บ้านดารายน ถ้าจะรู้เรื่องหนอนพิษก็เป็นเรื่องปกติ ผู้ใหญ่บ้านของหมู่บ้านน้ำใสบอกว่าตั้งแต่เด็กๆ ปีวราก็ไม่เคยได้สัมผัสกับเรื่องพวกนี้มาก่อนเลย นรมนไม่เชื่อหรอก

ถ้าหากว่าปีวราเป็นคนใช้สถานะของบุริศร์มาส่งข่าวพวกนี้จริง นรมนไม่ได้รู้สึกถูกปลอบขวัญเลย แต่กลับอดไม่ได้ที่จะเป็นกังวลขึ้นมา

สถานะของปีวราในตอนนี้จะเป็นมิตรหรือเป็นศัตรูก็ไม่ชัดเจน ถึงแม้ว่าเธอจะหลอกใช้กมลจนตามหาคริชณะเจอ ก็ไม่สามารถพูดได้ชัดว่าปีวราจะเป็นคนของพิรุณ

และอย่างเช่นพรวลัย

เธอเองก็ปล่อยตัวพิรุณไปไม่ใช่เหรอ?

แต่ว่าปฏิกิริยาที่เธอมีต่อพิรุณกลับทำให้คนต้องครุ่นคิดอย่างหนัก

หัวสมองของนรมนรู้สึกเจ็บปวดขึ้นมาเล็กน้อย มีเรื่องราวที่คิดไม่ตกมากมายล้อมรอบตัวเธออยู่ ความรู้สึกเหนื่อยล้าระลอกแล้วระลอกเล่าทำให้ร่างกายเธอรู้สึกไม่ค่อยไหว

ไม่รู้ว่ากิจจาปรากฏตัวมาตั้งแต่เมื่อไหร่ และถือซุปพุทราจีนไว้ถ้วยหนึ่ง แล้วพูดเสียงต่ำขึ้นว่า “หม่ามี้ หม่ามี้กินอะไรหน่อยนะครับ ผมให้ในครัวทำมาให้ครับ”

“ขอบใจจ้ะกิจจา”

นรมนจ้องมองดูลูกชายที่รู้เรื่องมากขนาดนี้ แล้วก็อดไม่ได้ที่จะคิดถึงกานต์ขึ้นมา

ถ้าหากว่าเวลานี้มีกานต์อยู่ด้วยละก็ ก็ไม่รู้ว่าจะมีสถานการณ์เป็นแบบไหนไปจริง ๆ

กิจจาเห็นนรมนดื่มซุปพุทราจีนจนหมดแล้ว ก็ถือถ้วยไว้แล้วก็เดินออกไปเลย

นรมนคิดถึงกานต์ขึ้นมาเลย

เธอเอาโทรศัพท์ออกมาแล้วโทรวิดีโอคอลหากานต์สายหนึ่ง

ในตอนที่สายวิดีโอคอลโทรติดนั้น กานต์กำลังกินยาอยู่ ใบหน้าที่ย่นแบบนั้นนรมนเห็นแล้วมุมปากก็ค่อย ๆ คลี่ขึ้นมา

“หม่ามี้ไม่รู้เลยนะเนี่ยว่าลูกชายตัวเองจะกินยาได้อย่างยากลำบากขนาดนี้?”

กานต์รีบโยนเข้าไปในปาก แล้วก็ดื่มน้ำตามลงไปคำหนึ่ง แต่ก็ยังคงข่มรสชาติขมนั่นไม่อยู่ จึงรีบกินส้มลูกหนึ่งขึ้นมา แล้วถึงพูดเสียงต่ำขึ้นมาว่า “หม่ามี้ หม่ามี้ไม่รู้หรอก วันหนึ่งต้องกินสามมื้อติดต่อกัน จะกินจนเกิดโรคขึ้นมาแล้วจริง ๆ”

“นั่นก็เป็นเพราะคำนึงถึงร่างกายของหนู เป็นยังไงบ้าง? รู้สึกดีขึ้นบ้างหรือยัง?”

พอนรมนได้เห็นหน้าลูกชายอารมณ์ก็ดีขึ้นมากแล้ว

กานต์ยิ้มแล้วพูดขึ้นว่า “ดีขึ้นเยอะแล้วครับ หม่ามี้ ทางหม่ามี้เป็นยังไงบ้างคะ? มีอะไรคืบหน้าบ้างหรือเปล่าครับ?”

นรมนส่ายหน้าแล้วพูดขึ้นว่า “ไม่มีอะไรคืบหน้าเลย แต่ก็ไม่มีอันตรายอะไร หนูอย่าเป็นห่วงพวกเราเลย รักษาตัวเองให้ดี ๆ รีบ ๆ หายแล้วมาอยู่ข้างกายหม่ามี้เร็ว ๆ นะ หม่ามี้คิดถึงหนูแล้ว”

“หนูก็คิดถึงหม่ามี้ครับ”

กานต์พูดจบแล้วใบหน้าก็แดงขึ้นมาเล็กน้อย ดูแล้วน่ารักมากเลย

นรมนรักท่าทางเล็ก ๆ แบบนี้ของกานต์จะตายอยู่แล้ว จนแทบอยากหยิกผ่านหน้าจอไปทีหนึ่งเลย

“ลูกชายของหม่ามี้หล่อจังเลย มาจุ๊บทีหนึ่งซิ”

สำหรับการจุ๊บผ่านหน้าจอของนรมน กานต์กลับยิ่งหน้าแดงมากขึ้น และหูก็แดงขึ้นด้วย

“หม่ามี้ หม่ามี้มีเรื่องอะไรจะให้ผมไปทำใช่หรือเปล่าครับ?”

กานต์รู้สึกว่าตัวเองค่อนข้างที่จะรับหม่ามี้ที่ลุ่มร้อนอย่างนี้ไม่ไหวแล้ว

แต่นรมนกลับส่ายหน้าแล้วพูดขึ้นว่า “ไม่มีจ้ะ หม่ามี้หวังว่าหนูจะสามารถรักษาตัวเองให้ดี ๆ ก็พอแล้ว”

ในเวลานี้ นรมนรู้สึกดีใจเป็นอย่างมากที่กานต์ไม่ได้ตามมาด้วย ไม่งั้นละก็ไม่รู้ว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นมาบ้าง และตอนนี้กมลจะเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้ ทุกอย่างได้แต่รอต่อไปเท่านั้น

สองแม่ลูกพูดคุยกันไปอีกพักหนึ่ง แล้วกานต์ก็เสนอให้เล่นเกมกันสักรอบ แต่กลับโดนนรมนปฏิเสธไป

“หม่ามี้ เป็นเพราะว่าคุณบุริศร์ไม่อนุญาตเหรอครับ? อ๋อใช่แล้ว คุณบุริศร์ล่ะ? ทำไมถึงไม่เห็นคุณบุริศร์เลยละครับ?”

กานต์ถึงเพิ่งจะพบว่าบุริศร์ไม่อยู่ข้างกาย

ปกติแล้วในเวลาแบบนี้บุริศร์ไม่ควรจะต้องเฝ้าอยู่ข้างกายนรมนหรอกเหรอ?

นรมนยิ้มแล้วพูดขึ้นอย่างสงบนิ่งว่า “แด๊ดดี้ของหนูมาที่นี่มีเรื่องมากมายต้องทำ จะมามีเวลาอยู่กับหม่ามี้ที่ไหน? อ๋อใช่แล้ว ตามหาลุงคริชณะของหนูเจอแล้วนะ ตอนนี้คิดว่าทั้งสองคนคงจะพูดคุยกันอยู่ข้างนอกละมั้ง”

สำหรับเรื่องนี้ นรมนคิดว่าไม่มีความจำเป็นที่จะต้องปิดบังกานต์ และก็จะสามารถทำให้เขาสบายใจได้บ้างหน่อยหนึ่ง

และก็เป็นเช่นนั้น กานต์ยิ้มแล้วพูดขึ้นว่า “คุณลุงคริชณะยังสบายดีไหมคะ?”

“สบายดีจ้ะ ไม่ต้องเป็นห่วง พวกเราไม่อยู่ข้างกายหนู ตัวหนูเองต้องดูแลตัวเองให้ดีนะ เข้าใจไหม?”

“เข้าใจแล้ว ในเมื่อคุณบุริศร์ไม่มีเวลาอยู่เป็นเพื่อนหม่ามี้ งั้นก็เล่นเกมกับผมสักตาเป็นไง”

นรมนยิ้มแล้วก็พูดขึ้นว่า “มิลินกลับมาแล้ว นงลักษณ์ก็มาที่นี่แล้ว หม่ามี้จำเป็นที่จะต้องอยู่สอบถามเรื่องของอารองตระกูลทวีทรัพย์ธาดากับพวกเขาสักหน่อย เพราะฉะนั้นคงจะเล่นเกมกับหนูไม่ได้แล้ว หนูเองก็รีบพักผ่อนเร็ว ๆ นะ รู้ไหม?”

“อ๋อ ได้ครับ ลาก่อนครับหม่ามี้”

“ลาก่อนจ้ะ!”

หลังจากที่วางสายวิดีโอคอลของลูกชายไปแล้ว นรมนถึงได้โล่งใจไปได้เปลาะหนึ่ง

เธอเองก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร แค่อยู่ ๆ ก็คิดถึงกานต์ขึ้นมา แล้วก็เป็นห่วงเล็กน้อย ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าอยู่ในฐานทัพใหญ่ของสหภาพQTกานต์น่าจะปลอดภัยได้ แต่ว่าตั้งแต่เกิดเรื่องของกมลแล้ว ก็เหมือนกับว่าไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรเธอก็จะไม่เชื่อเลย

นรมนหมุนตัวแล้วเดินออกไปนอกประตู ก็เห็นนงลักษณ์ยืนอยู่ที่หน้าประตู ไม่รู้ว่ามานานเท่าไหร่แล้ว

“คุณป้าใหญ่? ทำไมไม่เข้ามานั่งละคะ?”

นรมนเปิดประตูออก จนทำให้นงลักษณ์ตกใจจนสะดุ้งทีหนึ่ง

เธอส่ายหน้าเล็กน้อยแล้วพูดขึ้นว่า “ไม่เข้าไปแล้ว ฉันไปสืบค้นเรื่องตัวตนของพิรุณมา เธอพูดไว้ไม่ผิดเลย เขาอาจจะไม่ได้เป็นเพียงนักสำรวจธรณีวิทยาธรรมดาคนหนึ่งจริง ๆ ด้วย”

“หมายความว่าไงคะ? สืบค้นอะไรเจอเหรอคะ?”

นรมนรู้สึกสนใจขึ้นมาทันที

นงลักษณ์กลับส่ายหน้าแล้วพูดขึ้นว่า “ยังสืบค้นตัวตนที่แท้จริงไม่เจอ เหมือนกับว่ามีคนตั้งใจลบล้างเบาะแสไป แต่ว่าสิ่งที่สามารถแน่ใจได้คือ พิรุณแอบอ้างสถานะของคนอื่นมาใช้

“แอบอ้างเหรอ?”

หัวคิ้วของนรมนขมวดกันแน่น

นงลักษณ์พยักหน้าแล้วพูดขึ้นว่า “ใช่ มีคนชื่อพิรุณจริง ๆ แล้วก็เป็นนักสำรวจธรณีวิทยาจริง ๆ แต่ว่าคนคนนั้นไม่ใช่พิรุณคนที่เราเห็นตรงหน้านี้ เธอดูอันนี้ซิ”

นงลักษณ์เอารูปที่บันทึกมาจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ยื่นให้นรมนดู

“คนคนนี้ถึงจะเป็นพิรุณตัวจริง ฉันได้ให้คนไปตรวจสอบมาแล้ว เขาเกิดอยู่ในหมู่บ้านเล็ก ๆ ในหุบเขาทางนี้ ต่อมาก็สอบติดมหาวิทยาลัย ผลการเรียนก็ดีมากมาตลอด และที่สำคัญหลังจากจบการศึกษาแล้วก็เข้าสู่การเป็นนักสำรวจธรณีวิทยาเลย แต่ว่าคนคนนี้หลังจากที่ทำงานได้ปีหนึ่งแล้ว ในระหว่างที่เข้าสำรวจธรณีวิทยาครั้งหนึ่งก็เจอเขากับดินถล่ม และได้เสียชีวิตไปแล้ว”

ฟังนงลักษณ์พูดไปแบบนี้ แล้วก็จ้องมองรูปถ่ายที่แปลกหน้าที่อยู่ในมือ ใจของนรมนก็สั่นสะเทือนเป็นอย่างมากเลย

“ความหมายของคุณคือตอนนี้พิรุณแอบอ้างใช้สถานะของคนตายอยู่เหรอคะ?”

“ใช่ เมื่อสามสิบกว่าปีก่อนอินเทอร์เน็ตยังไม่ครอบคลุมมากขนาดนี้ สถิติมากมายต่างก็ไม่ได้โอนย้าย ตอนนั้นตอนที่พิรุณตายไปแล้วก็โดนคนที่บ้านรับศพกลับไป ถ้าพูดตามหลักแล้วควรจะต้องทำจำหน่ายชื่อออกจากทะเบียนบ้านและทำใบมรณบัตร แต่ว่าคนในครอบครัวของเขากลับไม่ได้ทำเรื่องนี้มาตลอด สิ่งที่สำคัญคือ คนของฉันไปสืบมาแล้ว ปีที่สองหลังจากที่พิรุณตายไป ญาติสนิททั้งหมดของเขาหายไปหมดเลยภายในคืนเดียว”

พอได้ยินนงลักษณ์พูดแบบนี้ ดวงตาของนรมนก็มืดขรึมลงเล็กน้อย

“หายไปภายในคืนเดียวเหรอ? คือโดนฆ่าไปหมดเหรอ?”

“ไม่รู้ ไม่มีร่องรอยอะไรเลย และอีกอย่างพวกเพื่อนนักเรียนที่เกี่ยวข้องกับพิรุณต่างก็พูดเหมือนกันว่าจำไม่ได้แล้วว่าพิรุณหน้าตายังไง ฉันรู้สึกว่าเรื่องนี้ต้องไม่ปกติแน่ บางทีคนทั้งหมดที่รู้จักกับพิรุณอาจจะโดนซื้อตัวไปแล้ว แต่ว่าคนที่สามารถซื้อตัวคนได้เยอะขนาดนี้ในเวลาไม่นาน หนำซ้ำยังสามารถทำให้ญาติสนิทของพิรุณหายไปในคืนเดียว จะต้องไม่ธรรมดาแน่ และก็ไม่ใช่เรื่องที่คนธรรมดาคนหนึ่งจะสามารถทำได้ด้วย

นรมนพยักหน้าเล็กน้อย

สิ่งที่นงลักษณ์พูดก็เป็นสิ่งที่เธอคิดอยู่ด้วย แต่ว่าในใจของเธอก็ยังคงสั่นสะเทือนจะแย่อยู่แล้ว

พิรุณกลับไม่ใช่พิรุณเหรอ!

แม้แต่ป้าโอเมื่อสามสิบกว่าปีก่อนก็ยังไม่รู้สถานะที่แท้จริงของคนรักในรักครั้งแรกของตัวเอง เห็นได้ชัดว่าพิรุณคนนี้แอบซ่อนไว้ได้ลึกแค่ไหน

ตกลงเขาเป็นใครกันนะ?

ทำไมจะต้องใช้สถานะของพิรุณมามีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ด้วย?

“ยังตรวจสอบเจอข่าวคราวอย่างอื่นอีกไหม?”

“ไม่มี”

นงลักษณ์ส่ายหัวเล็กน้อย แล้วพูดอย่างเบื่อหน่ายขึ้นว่า “พิรุณคนนี้กับพิรุณคนที่ตายไปเวลามันช่างประจวบเหมาะกันมากเลย หนำซ้ำยังแทบจะถือได้ว่าเป็นเสื้อไร้รอยตะเข็บเลย เพราะฉะนั้นฉันสงสัยว่าตอนนั้นพิรุณตัวจริงคนนั้นอาจจะไม่ได้เกิดเรื่องขึ้นเพราะว่าดินถล่มหรอก ไม่แน่อาจจะโดนลอบทำร้ายก็ได้นะ”

นรมนนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง แล้วก็รู้สึกว่าอาจจะมีความเป็นไปได้แบบนี้

ตอนแรกเธอนึกว่ายิ่งอยู่ก็ยิ่งเข้าใกล้ความจริงมากขึ้นทุกทีแล้ว แต่กลับคิดไม่ถึงว่าพอปัดหมอกควันปริศนาที่หนาแน่นออกแล้ว เรื่องราวกลับกลายเป็นซับซ้อนซ่อนเงื่อนขนาดนี้แล้ว

พิรุณที่อยู่ตรงหน้านี้กลับแอบอ้างชื่อและสถานะคนอื่นมาใช้ตั้งสามสิบกว่าปีแล้ว นี่มันช่างน่ากลัวมากจริง ๆ เลย

“บุณพจน์รู้เรื่องนี้ไหม?”

“น่าจะไม่รู้นะ ความลับของพิรุณน่าจะแม้แต่ผู้หญิงที่อยู่ข้างกายเขาก็ไม่รู้เรื่อง”

หัวคิ้วของนงลักษณ์ขมวดเข้าด้วยกันแน่น

พิรุณคนนี้ช่างซับซ้อนมากขนาดนี้ แล้วตอนนี้โดนปล่อยตัวหนีไปแล้ว ต่อไปถ้าจะจับตัวเขาไว้อาจจะไม่ง่ายขนาดนั้นแล้ว

“มีข่าวพิรุณบ้างหรือยัง?”

นรมนส่ายหน้าเล็กน้อย

“พรวลัยกินยาพิษไปแล้ว ตอนนี้หมดสติอยู่ไม่ฟื้นขึ้นมา พวกเราไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงปล่อยตัวพิรุณไป ก่อนที่ตัวเธอจะกินยาพิษก็ไม่ยอมพูด ตอนนี้ก็ได้แต่หวังว่าเธอจะฟื้นขึ้นมาได้เร็ว ๆ จากนั้นก็พูดข่าวที่มีประโยชน์หน่อยออกมาได้”

ในจุดนี้ นรมนเองก็รู้สึกเบื่อหน่ายเป็นอย่างมากเลย

พอนงลักษณ์เห็นเธอเป็นเช่นนี้ ก็ตบบ่าของเธอเบา ๆ แล้วพูดเสียงต่ำขึ้นว่า “อย่ากังวลไปเลย อ๋อใช่แล้ว ทางบุริศร์มีข่าวคราวมาบ้างหรือยัง?”

“มิลินได้รับหนอนพิษส่งสารมาตัวหนึ่ง บอกว่าพวกเขาไม่เป็นอะไร ให้พวกเราเฝ้ารอกันอยู่เฉย ๆ แต่ว่าฉันมักจะรู้สึกว่าบุริศร์ไม่ได้เป็นคนส่งมา เพราะว่าเขาไม่รู้จักหนอนพิษส่งสารด้วยซ้ำ”

พอได้ยินนรมนพูดแบบนี้ ดวงตาของนงลักษณ์ก็หรี่ลงครู่หนึ่ง แล้วก็ถามขึ้นว่า “งั้นจะเป็นใครล่ะ?”

“ฉันสงสัยว่าจะเป็นปีวรา”

“ปีวราเหรอ?”

“ใช่ สำหรับสถานะของผู้หญิงคนนี้ฉันรู้สึกแปลกใจและสงสัยอยู่บ้าง เพราะฉะนั้นฉันจึงกะว่าจะไปหมู่บ้านน้ำใสสักเที่ยว”

คำพูดของนรมนทำให้นงลักษณ์รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันที

“ในเวลาแบบนี้เธอจะไปหมู่บ้านน้ำใส นั่นไม่ใช่ไปรนหาที่ตายเองเหรอ?”

แค้นรักสามีตัวร้าย

แค้นรักสามีตัวร้าย

Status: Ongoing

ไฟเผาความรักทั้งหมดของนรมนที่มีต่อบุริศร์ หลังจากห้าปี เธอกลับไปอย่างงดงามและเพื่อทวงความยุติธรรมสำหรับตัว เธอเอง แต่คาดไม่ถึงว่าเด็กชายที่ถูกพากลับมาด้วยนั้นมีแผน มากกว่าเธอ เด็กน้อยยืนอยู่ข้างหน้าบุริศร์ กล่าวอย่างไร้เดียง สาว่า “คุณลุง สามารถช่วยผมได้ไหม? ผมขอร้อง” บุริศร์ รู้สึกว่าไม่สามารถต้านทานการวิงวอนของเด็กได้ คุกเข่าลง เพื่อช่วย แต่คาดไม่ถึงว่าจะถูกพ่นใส่หน้า อยู่มาวันหนึ่ง บุริศร์ พูดกับเด็กชายหน้าตาดีว่า “เด็กน้อย นี่คือห้องของฉัน!” “แต่ ว่าผมอยากนอนกับหม่าม พวกเรานอนด้วยกันมาห้าปีแล้ว” ชายหนุ่มร้องไห้… แค่ไปจีบภรรยากลับมาเท่านั้น ทำไมลูก ของฉันถึงเอาใจยากเหลือเกิน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท