หลังจากที่บุริศร์พานรมนออกมาแล้วก็หาที่ที่ลับตาคนแห่งหนึ่งซ่อนตัวไว้ นรมนกลับมองไปทางห้องของหงส์อย่างเป็นห่วงอยู่บ้างแล้วถามขึ้นว่า “พวกเขาสองคนจะไม่เป็นอะไรจริง ๆ นะคะ?”
ถึงแม้ว่าเธอจะอยากให้หงส์สามารถหาคู่ครองได้ แล้วไม่ต้องมาพิศวาสสามีเธออีก แต่ว่าในใจลึก ๆ ก็เป็นห่วงหงส์มากจริง ๆ
เรื่องความรู้สึกนั้นไม่ใช่ว่าคุณเห็นใครดีกับใครก็จะเหมาะสมกันได้ ก็เหมือนกับคนที่ดื่มน้ำเองเท่านั้นถึงจะรู้ร้อนหรือเย็น ในจุดนี้ยังไงนรมนก็ยังหวังว่าหงส์จะสามารถตามหาความรักของตัวเองเจอได้
บุริศร์พูดเสียงต่ำขึ้นว่า “สายตาที่จณัตว์มองหงส์นั้นไม่เหมือนกับปกติ น่าจะเป็นเพราะว่าชอบเธอ แล้วอีกอย่างเขาเป็นคนยังไงผมก็เคยถามอาสามมาแล้ว อาสามบอกว่าสามารถเชื่อถือได้ หลายปีมานี้หงส์เองก็ลำบากมามาก ถ้าหากจะสามารถตามหาความสุขที่เป็นของตัวเองเจอได้แล้วทำไมจะเป็นไปไม่ได้ล่ะ”
“แต่ว่าจณัตว์จะทำอะไรเธอหรือเปล่าละคะ?”
พอนึกถึงยาปลุกอารมณ์ที่จณัตว์พูดขึ้น ยังไงนรมนก็ยังไม่ค่อยวางใจเท่าไหร่
“วางใจเถอะ จณัตว์ยังไม่ถึงขนาดต้องทำเรื่องไม่มีศีลธรรมขนาดนั้น อย่างมากสุดก็แค่ทำให้เธอตกใจหน่อยเท่านั้น หลายปีมานี้หงส์ใช้ชีวิตอยู่อย่างราบรื่นไร้ขวากหนาม เบื้องหลังก็มีสหภาพQTคอยสนับสนุนอยู่ แน่นอนว่าจะต้องมีความทะนงตนมากไปบ้าง ตอนนี้สามารถมีคนมาทำให้เธอพ่ายแพ้บ้างก็ดีเหมือนกัน”
สำหรับจุดนี้บุริศร์กลับมองได้เข้าใจ
“นี่คุณตั้งใจใช่ไหมคะ?”
นรมนจ้องมองบุริศร์ ยังไงก็ยังคาดเดาได้บ้าง
บุริศร์กลับยิ้มแล้วพูดขึ้นว่า “ตอนนี้คุณกลับกลายไปเป็นเพื่อนสนิทของเธอแล้วละซิ? ทำไม? ไม่กลัวคนอื่นมาพิศวาสสามีคุณแล้วเหรอ?”
“ว่าแล้วว่าคุณต้องตั้งใจจริง ๆ ด้วย!”
นรมนนั้นไม่สนใจหรอกว่าบุริศร์จะพูดอะไร แล้วก็หมุนตัวไปมองภาพเหตุการณ์ภายนอก แล้วดวงตาก็หรี่ขึ้นมาเล็กน้อย
“กล้าณรงค์ออกจากงานแล้วค่ะ”
ปฏิกิริยาของบุริศร์ก็เคร่งขรึมขึ้นมา
“คุณรออยู่ที่นี่อย่าขยับไปไหนนะ ผมจะตามไปดูสักหน่อย”
“ไม่ได้ ฉันจะไปกับคุณด้วย อย่าคิดนะว่าฉันจะไม่รู้ว่าคุณอยากจะไปปฏิบัติการตัวคนเดียว ตอนนี้กล้าณรงค์เป็นเป้าหมายของพวกเราทั้งคู่นะคะ”
นรมนคว้าแขนของบุริศร์ไว้ทีหนึ่ง
บุริศร์จ้องมองนรมนอย่างไม่รู้จะทำยังไงดี จึงได้แต่ต้องยอมแพ้
“ได้ แต่คุณจะต้องเชื่อฟังผมนะ”
“พูดอย่างกับฉันไม่เชื่อฟังคุณตอนไหนงั้นแหละ”
นรมนพร่ำบ่นไป ท่าทางที่น่ารักแบบนี้กลับทำให้บุริศร์รู้สึกมองยังไงก็ไม่รู้สึกเบื่อเลย
เขาจูงมือของนรมนเอาไว้แล้วเดินตามหลังกล้าณรงค์ไปเงียบ ๆ
กล้าณรงค์เดินไปทางข้างหลัง กลับยิ่งเดินก็ยิ่งรกร้าง ยิ่งเดินก็ยิ่งห่างไกลผู้คนมากยิ่งขึ้น นรมนและบุริศร์มีความระแวงขึ้นมาเสี้ยวหนึ่ง
“นรมน คุณฟังผมนะ ทางโค้งตอนข้างหน้านั้นคุณต้องแยกออกไป แล้วตัวเองก็หาที่สักแห่งซ่อนตัวเอาไว้ ทำไมผมมักจะรู้สึกเหมือนกับว่ากล้าณรงค์จะรู้ตัวแล้วว่าพวกเราตามอยู่ข้างหลัง”
ความรู้สึกแบบนี้ตัวนรมนเองก็รู้สึกเหมือนกัน
ครั้งนี้เธอไม่ได้โต้แย้งกับบุริศร์อีก และก็แยกตัวออกไปตรงทางโค้งอย่างเชื่อฟังแล้วก็หายตัวไปอย่างรวดเร็วเลย
สำหรับการหายตัวไปของนรมนที่อยู่ข้างหลังนั้น หัวคิ้วของกล้าณรงค์ขมวดขึ้นเล็กน้อย แล้วในที่สุดก็หยุดลงตรงที่กว้างไม่ไกลนัก
ที่นี่กว้างขวางมาก ไม่มีที่ให้หลบซ่อนตัวเลยสักแห่ง บุริศร์ลองหลบอยู่ข้างหลังเสาอย่างอัตโนมัติ แล้วก็ได้ยินกล้าณรงค์หัวเราะแล้วก็พูดขึ้นว่า “ออกมาเถอะ”
บุริศร์พอได้ยินก็เดินออกไปแบบสงบนิ่ง
“ฉันควรพูดว่ายังไงดีล่ะ? ไม่เจอกันนานเลยนะ? หรือว่าตั้งแต่จากกันคราวนั้นแล้วก็ไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นเลยใช่ไหม?”
เรื่องที่กล้าณรงค์และบุริศร์แอบประลองกันอย่างลับ ๆ ก็ผ่านมาช่วงเวลาหนึ่งแล้ว ตอนนี้สามารถมาพูดคุยกันซึ่ง ๆ หน้าได้ ก็ถือได้ว่าไม่ได้เจอมานานมากแล้วจริง ๆ
“รู้ว่าพวกเรามาตั้งแต่เมื่อไหร่?”
บุริศร์ถามไปเรียบ ๆ แต่ก็ไม่มีการกระวนกระวายใด ๆ
กล้าณรงค์จ้องมองเขาทีหนึ่ง จ้องมองผู้ชายคนนี้ที่โดนพ่อตัวเองและลุงใหญ่วางเล่ห์เหลี่ยมใส่ แต่กลับยังเปิดเผยความสามารถออกมาได้ ซึ่งจะต้องยอมรับเลยว่าเขาเป็นคนที่ยอดเยี่ยมมากจริง ๆ
แต่ว่าคนที่ยอดเยี่ยมนี้กลับเป็นศัตรูของตัวเอง นี่ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่
“ตั้งแต่ที่พวกคุณเข้าไปในห้องของไอ้สามก็รู้แล้ว หรือว่าชัญญาก็โดนพวกคุณช่วยไปด้วยใช่ไหมล่ะ?”
“ใช่แล้วจะทำไม?”
ว่าแล้วว่าต้องเป็นตอนนั้นจริง ๆ
ดูท่าระบบตรวจจับรังสีอินฟราเรดนี่จะไฮเทคมากจริง ๆ ด้วย คิดไม่ถึงว่าระบบรักษาความปลอดภัยทางทหารจะโดนสมชัยเอามาใช้ในเรื่องจับตาดูคนของตัวเอง และก็ได้เปิดโปงการมาของเขากับนรมนไปอย่างไม่คาดคิดด้วย แต่ยังดีที่ตอนนี้นรมนไม่ได้อยู่ด้วย ยังไงบุริศร์ก็ยังพอปลอบใจตัวเองได้บ้าง
กล้าณรงค์ยิ้มจาง ๆ ขึ้น ต่อกรกับบุริศร์ยังไงก็ยังดีกว่าต่อการกับเจ้าโง่พรินทร์นั่นเยอะ
เขาเอาบุหรี่ออกมาจุดม้วนหนึ่งอย่างสงบนิ่ง แถมยังยื่นให้บุริศร์ม้วนหนึ่งอย่างเป็นมิตรมากด้วย
“สูบไหม?”
“เลิกแล้ว”
บริศร์มองซ้ายมองขวาเล็กน้อย ตอนแรกนึกว่ากล้าณรงค์จะวางกับดักอะไรไว้ที่นี่ แต่กลับคิดไม่ถึงว่าที่นี่จะว่างเปล่าไม่มีใครเลย เหมือนกับว่าจะมีแค่ตัวเขาคนเดียว
เขานี่มีความกล้าอยู่บ้างจริง ๆ
“นี่คุณกล้ามาเจอผมตัวคนเดียวเลยเหรอ? ไม่กลัวผมจะจับตัวคุณไว้ตอนนี้เลยเหรอ?”
“ไม่หรอก”
กล้าณรงค์สูบบุหรี่ไปคำหนึ่ง แล้วก็พูดเสียงเรียบ ๆ ไป จากนั้นก็ชี้ไปที่ก้อนหินที่อยู่ข้าง ๆ แล้วตัวเองก็นั่งลงไปก่อน
บุริศร์เองก็ไม่ได้ไม่เต็มใจอะไร พอเดินไปแล้วก็นั่งลงเลย
พอมามองกล้าณรงค์ใกล้ ๆ ก็พบว่าที่จริงแล้วเขาก็มีหน้าตาที่คล้ายคลึงกับสมชัยอยู่เหมือนกัน แต่เป็นเพราะเกี่ยวกับมารดา ใบหน้าจึงไม่ค่อยโดดเด่นสักเท่าไหร่ แต่ว่ารูปลักษณ์ของผู้ชายนั้นก็ไม่ใช่สิ่งที่สามารถตัดสินความสามารถได้ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ถ้าหากกล้าณรงค์เป็นคนดีละก็ ก็น่าจะมีผลงานได้สักชุดหนึ่งเหมือนกัน น่าเสียดายจริง ๆ
พอเห็นว่าบุริศร์กำลังมองสำรวจตัวเองอยู่ กล้าณรงค์เองก็ไม่ได้ขัดขวาง แต่กลับยิ้มอ่อน ๆ แล้วพูดขึ้นว่า “ที่จริงตัวคุณน่าสงสาร แล้วทำไมตัวผมจะไม่น่าสงสารด้วยล่ะ? คุณโดนเรณุกาหลอกลวง แต่อย่างน้อยคุณยังมีคนเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ แล้วตัวผมล่ะ? ผมมีทั้งพ่อทั้งแม่ แต่กลับต้องมีชีวิตอยู่อย่างเด็กกำพร้า หนำซ้ำแม้แต่นามสกุลของตัวเองก็ยังต้องปิดบังเอาไว้ คุณเป็นคุณชายใหญ่ของตระกูลโตเล็ก กินอยู่ไม่ต้องเป็นกังวล แต่ว่าตอนเด็ก ๆ ผมกลับต้องแย่งชิงกับคนอื่นเพียงเพราะแค่ของกินคำเดียว แถมอาจจะยังต่อยตีกัน จนบาดแผลเต็มไปทั้งตัว ถ้านับกันแบบนี้แล้วผมน่าสงสารกว่าคุณอีกนะ บุริศร์”
“มันไม่เหมือนกัน ทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับผมมันเป็นเพราะคุณกับพ่อของคุณและลุงของคุณเป็นคนวางแผนให้ ตั้งแต่แรกผมสามารถมีครอบครัวที่สุขสันต์ได้ มีชีวิตที่สวยงามได้ และไม่ใช่ต้องมาอยู่ในท่ามกลางการหลอกลวงกันแบบนี้ แต่ว่ากลับต้องสูญเสียทุกอย่างนี้ไปเพราะพวกคุณ ส่วนความทุกข์ยากของคุณนั้นคือพ่อของคุณและลุงของคุณเป็นคนประทานให้ทั้งนั้น เป็นสิ่งที่พวกคุณทำตัวพวกคุณเอง ถ้าหากไม่ใช่เพราะว่าจิตใจคิดชั่ว คุณเองก็ถือว่าเป็นชนชั้นสูงคนหนึ่ง แต่ทำไมถึงได้มีชีวิตต่ำต้อยได้ขนาดนี้? ทุกอย่างนี้ถ้าจะโทษ ก็ต้องไปโทษพ่อของคุณกับสมชัยถึงจะถูก”
คำพูดของบุริศร์ไม่ไว้หน้ากันเลยสักนิด
กล้าณรงค์อึ้งไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็ยิ้มเย็นแล้วพูดขึ้นว่า “ดูท่าคุณคงจะไม่คิดปรองดองกับผมแล้วนะ?”
“ปรองดอง? คุณทำเรื่องชั่วมามากมายขนาดนี้ ทำไมถึงรู้สึกว่าผมจะปรองดองกับคุณได้ล่ะ? ยังไม่พูดถึงความรู้สึกส่วนตัวของผมว่าเป็นยังไง แค่พูดถึงสถานะของผม หน้าที่รับผิดชอบของผมก็ไม่อนุญาตให้คุณหนีรอดไปจากการลงโทษทางกฎหมายได้แล้ว อย่ามาคิดว่าตัวตนที่แท้จริงของคุณถูกเปิดเผยออกมาแล้วคุณก็จะหนีรอดไปได้นะ ตอนนี้สัญชาติของคุณยังเป็นสัญชาติประเทศผมอยู่ แล้วเรื่องที่คุณทำไว้ก็เป็นโทษหนักทั้งนั้น มาตอนนี้คุณคงรู้สึกว่าคุณได้กลับประเทศแล้ว ได้กลับมาถึงบ้านเกิดตัวเอง แต่ว่าความจริงแล้ว กล้าณรงค์ คุณเป็นนักโทษหลบหนีออกนอกประเทศ โทษหนักไม่สามารถให้อภัยได้ หน้าที่และความรับผิดชอบของผมก็คือมานำตัวผู้ร้ายข้ามแดนอย่างคุณกลับประเทศ เพื่อไปรับการตัดสินจากประชาชน ไปรับโทษที่คุณควรจะได้รับ”
บุริศร์เป็นคนที่มีความศรัทธาคนหนึ่ง ยิ่งไปกว่านั้นทุกอย่างที่กล้าณรงค์ทำกับเขาทำกับนรมนทำกับตระกูลพรโสภณและตระกูลทวีทรัพย์ธาดา จำเป็นที่จะต้องมีคำตอบอย่างหนึ่งออกมา
ดวงตาของกล้าณรงค์เย็นลงเล็กน้อย
“ตอนแรกผมนึกว่าจะสามารถพูดคุยดี ๆ กับคุณได้ ถ้าหากคุณเป็นคนที่ฉลาดหลักแหลมพอละก็ ผมก็อาจจะให้ตำแหน่งอัครมหาเสนาบดีของประเทศFกับคุณได้ คุณจะไม่ลองคิดดูสักหน่อยเหรอ?”
อยู่ ๆ บุริศร์ก็หัวเราะออกมา
“ตำแหน่งอัครมหาเสนาบดีนั้นน่าจะเป็นตำแหน่งที่สูงมากเลยละมั้ง? จากที่ผมรู้มา คนที่จะมาดำรงตำแหน่งนี้ได้จะต้องให้พระราชาอนุญาตก่อนนี่ ทำไม? คุณถึงได้มั่นใจขนาดนั้นว่าสมชัยจะยอมให้ผมเป็นอัครมหาเสนาบดีของประเทศFของพวกคุณได้?”
“เขาเหรอ? เหอะ เหอะ”
กล้าณรงค์ยิ้มเย็นแล้วพูดขึ้นว่า “ความทุกข์ยากของผมนั้นเขาเป็นคนสร้างขึ้นมาทั้งนั้น บอกว่าจะชดเชยให้ผมกับพ่อผม แต่ว่าจะมีของอะไรที่สามารถมาทดแทนทุกอย่างที่ผมและพ่อผมสูญเสียไปในหลายปีนี้ได้? ตอนแรกพ่อผมสามารถเป็นองค์ชายคนหนึ่ง สามารถอยู่ในประเทศได้อย่างอิสรเสรีและได้รับความเคารพนับถือจากผู้คน แต่กลับต้องมาทอดทิ้งสถานะไปเป็นพิรุณอะไรนั่น แล้วก็ยังทำให้แม่ผมไปรับใช้คนอย่างเชษฐ์นั่นด้วย ไม่ว่าเป้าหมายของเขาจะคืออะไร ก็ไม่สมควรที่จะมาหลอกใช้คนในครอบครัวเราแบบนี้ ครอบครัวเราทั้งสามคนโดนเขาหลอกใช้มาตลอด ตำแหน่งพระราชานี่จะเป็นของใครยังไม่แน่เลย ”
จากคำพูดพวกนี้ บุริศร์สามารถฟังออกได้ว่า กล้าณรงค์คนนี้คงจะอยากแย่งชิงบัลลังก์แล้วจริง ๆ
“แต่ว่าเรื่องทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่พ่อของคุณยินดีที่จะไปทำเองไม่ใช่เหรอ? และก็เป็นเพราะว่าพ่อของคุณกับสมชัยอยากได้เส้นทางแร่ของประเทศเราถึงได้ยอมเสียสละออกมาแบบนี้ คุณยังจะมารู้สึกไม่ยุติธรรมอะไร?”
“ยินดีที่จะไปเองเหรอ? ใครบอกคุณว่าพ่อผมยินดีที่จะไปเอง? ทุกอย่างนี้ล้วนเป็นเพราะสมชัยบีบบังคับมา! ตอนนั้นผมยังไม่คลอดออกมา แต่หมอหลวงก็ได้ตรวจออกมาแล้วว่าผมเป็นเด็กผู้ชาย สมชัยใช้ชีวิตผมมาบีบบังคับให้พ่อผมต้องออกจากบ้านไป ต้องสละตำแหน่งองค์ชายของตัวเองไปเพื่อไปตามหาความมั่งคั่งที่ประเทศZ แต่ว่าพอผมคลอดออกมาแล้วล่ะ? เพื่อที่จะหลอกใช้แม่ผม เขาได้ให้คนเอาตัวผมไปไว้ที่บ้านเด็กกำพร้าในประเทศZ แล้วบอกกับแม่ผมว่าจะต้องไปประเทศZถึงจะตามหาผมเจอ และนี่ก็ได้ทำให้แม่ผมต้องทิ้งตำแหน่งพระสนมไป แล้วไปที่ประเทศของพวกคุณ ถ้าหากไม่ใช่เพราะกลลวงและการบีบบังคับของเขา ทำไมหลายปีมาขนาดนี้ครอบครัวพวกเราสามคนถึงยังไม่สามารถอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันได้อีกล่ะ? ตอนนี้แม่ผมตายไปแล้ว แต่จนถึงตายเธอก็ยังไม่ได้เจอหน้าพ่อผม ส่วนพ่อผมตั้งนานหลายปีมานี้ก็ยังไม่สามารถกลับคืนสู่แผ่นดินเกิดได้ เรื่องทั้งหมดนี้สมชัยเป็นคนทำให้เกิดขึ้นมา ตอนนี้เขายังมาพูดอย่างหน้าไม่อายว่าจะชดเชยให้ผมกับพ่ออีก? จะเอาอะไรมาชดเชยให้ล่ะ? แต่งตั้งตำแหน่งให้อันหนึ่ง ให้ชื่อเสียงเกียรติยศนิดหน่อยก็จะสามารถทดแทนทุกอย่างที่พวกเราทั้งครอบครัวเสียสละไปในหลายปีนี้ได้แล้วเหรอ? ประเทศFนี้เป็นสิ่งที่พ่อผมกับแม่ผมกอบกู้มา หลายปีมานี้ถ้าไม่ใช่เพราะว่าพ่อผมส่งเงินทองมาให้เขาไม่หยุด เขาจะสามารถมีตำแหน่งอย่างวันนี้ได้เหรอ? ตั้งแต่แรกมันก็ควรเป็นของผมกับพ่อแล้ว รอให้พ่อผมหาวิธีเข้าไปในเหมืองแร่ให้ได้ก่อน สมชัยก็จะไม่มีความจำเป็นที่จะต้องอยู่ต่อไปแล้ว สำหรับพวกลูก ๆ ของเขานั้น ผมก็จะไม่เก็บพวกเขาไว้แน่! โดยเฉพาะราเชน!”
ตอนที่พูดถึงราเชนนั้น ทั้งตัวของกล้าณรงค์ก็เต็มไปด้วยความโหดเหี้ยม
และก็คือเจ้าชั่วคนนี้ที่เป็นคนเฉือนแม่ของเขาทีละครั้งทีละครั้ง ความแค้นนี้เขาจะต้องชำระให้ได้ เขาเองก็จะให้ราเชนได้ลิ้มลองความเจ็บปวดของการโดนสับเป็นหมื่น ๆ ครั้งดู!
บุริศร์รู้สึกอยากจะหัวเราะขึ้นมาเล็กน้อย
และนี่ก็คือที่สมชัยพูดว่าพี่น้องมีหัวใจเดียวกันเหรอ?
ที่แท้คนเราเมื่อไม่มีความศรัทธาแล้ว ก็สามารถชั่วร้ายได้จนถึงขั้นทำให้คนรู้สึกขนหัวลุกได้เลย
กล้าณรงค์มีความในใจแอบแฝงต่อสมชัยอยู่ แล้วสมชัยจะไม่มีต่อกล้าณรงค์และฉัตรพลได้ยังไง?
เขาจะต้องไม่ได้เป็นคนดีมีเมตตาเหมือนอย่างที่เห็นในภายนอกแน่
หัวสมองของบุริศร์หมุนวนไปอย่างรวดเร็ว อยู่ ๆ เขาก็รู้สึกว่าเอาความโกรธแค้นที่ฉัตรพลและกล้าณรงค์มีต่อสมชัยมาใช้ดูบางทีอาจจะสามารถโค่นสมชัยให้ล้มลงมาจริง ๆ ก็ได้ และอีกอย่างหลายปีมานี้สมชัยทำอะไรไปบ้าง ลูก ๆ ของเขาอาจจะไม่รู้ แต่ฉัตรพลจะต้องรู้แน่ ๆ
ขอแค่ฉัตรพลสามารถออกมาเป็นพยาน อย่างงั้นสมชัยก็หนีไม่รอดแล้ว เพียงแต่ว่าสถานการณ์ในตอนนี้ทำให้เขารู้สึกลำบากอยู่บ้าง เขาจะต้องทำยังไงถึงจะสามารถยุยงให้ระหว่างฉัตรพลกับสมชัยเกิดการต่อสู้ขึ้นมาได้ล่ะ?