แค้นรักสามีตัวร้าย – บทที่ 1381 นี่คุณตั้งใจจริง ๆ

บทที่ 1381 นี่คุณตั้งใจจริง ๆ

หลังจากที่บุริศร์พานรมนออกมาแล้วก็หาที่ที่ลับตาคนแห่งหนึ่งซ่อนตัวไว้ นรมนกลับมองไปทางห้องของหงส์อย่างเป็นห่วงอยู่บ้างแล้วถามขึ้นว่า “พวกเขาสองคนจะไม่เป็นอะไรจริง ๆ นะคะ?”

ถึงแม้ว่าเธอจะอยากให้หงส์สามารถหาคู่ครองได้ แล้วไม่ต้องมาพิศวาสสามีเธออีก แต่ว่าในใจลึก ๆ ก็เป็นห่วงหงส์มากจริง ๆ

เรื่องความรู้สึกนั้นไม่ใช่ว่าคุณเห็นใครดีกับใครก็จะเหมาะสมกันได้ ก็เหมือนกับคนที่ดื่มน้ำเองเท่านั้นถึงจะรู้ร้อนหรือเย็น ในจุดนี้ยังไงนรมนก็ยังหวังว่าหงส์จะสามารถตามหาความรักของตัวเองเจอได้

บุริศร์พูดเสียงต่ำขึ้นว่า “สายตาที่จณัตว์มองหงส์นั้นไม่เหมือนกับปกติ น่าจะเป็นเพราะว่าชอบเธอ แล้วอีกอย่างเขาเป็นคนยังไงผมก็เคยถามอาสามมาแล้ว อาสามบอกว่าสามารถเชื่อถือได้ หลายปีมานี้หงส์เองก็ลำบากมามาก ถ้าหากจะสามารถตามหาความสุขที่เป็นของตัวเองเจอได้แล้วทำไมจะเป็นไปไม่ได้ล่ะ”

“แต่ว่าจณัตว์จะทำอะไรเธอหรือเปล่าละคะ?”

พอนึกถึงยาปลุกอารมณ์ที่จณัตว์พูดขึ้น ยังไงนรมนก็ยังไม่ค่อยวางใจเท่าไหร่

“วางใจเถอะ จณัตว์ยังไม่ถึงขนาดต้องทำเรื่องไม่มีศีลธรรมขนาดนั้น อย่างมากสุดก็แค่ทำให้เธอตกใจหน่อยเท่านั้น หลายปีมานี้หงส์ใช้ชีวิตอยู่อย่างราบรื่นไร้ขวากหนาม เบื้องหลังก็มีสหภาพQTคอยสนับสนุนอยู่ แน่นอนว่าจะต้องมีความทะนงตนมากไปบ้าง ตอนนี้สามารถมีคนมาทำให้เธอพ่ายแพ้บ้างก็ดีเหมือนกัน”

สำหรับจุดนี้บุริศร์กลับมองได้เข้าใจ

“นี่คุณตั้งใจใช่ไหมคะ?”

นรมนจ้องมองบุริศร์ ยังไงก็ยังคาดเดาได้บ้าง

บุริศร์กลับยิ้มแล้วพูดขึ้นว่า “ตอนนี้คุณกลับกลายไปเป็นเพื่อนสนิทของเธอแล้วละซิ? ทำไม? ไม่กลัวคนอื่นมาพิศวาสสามีคุณแล้วเหรอ?”

“ว่าแล้วว่าคุณต้องตั้งใจจริง ๆ ด้วย!”

นรมนนั้นไม่สนใจหรอกว่าบุริศร์จะพูดอะไร แล้วก็หมุนตัวไปมองภาพเหตุการณ์ภายนอก แล้วดวงตาก็หรี่ขึ้นมาเล็กน้อย

“กล้าณรงค์ออกจากงานแล้วค่ะ”

ปฏิกิริยาของบุริศร์ก็เคร่งขรึมขึ้นมา

“คุณรออยู่ที่นี่อย่าขยับไปไหนนะ ผมจะตามไปดูสักหน่อย”

“ไม่ได้ ฉันจะไปกับคุณด้วย อย่าคิดนะว่าฉันจะไม่รู้ว่าคุณอยากจะไปปฏิบัติการตัวคนเดียว ตอนนี้กล้าณรงค์เป็นเป้าหมายของพวกเราทั้งคู่นะคะ”

นรมนคว้าแขนของบุริศร์ไว้ทีหนึ่ง

บุริศร์จ้องมองนรมนอย่างไม่รู้จะทำยังไงดี จึงได้แต่ต้องยอมแพ้

“ได้ แต่คุณจะต้องเชื่อฟังผมนะ”

“พูดอย่างกับฉันไม่เชื่อฟังคุณตอนไหนงั้นแหละ”

นรมนพร่ำบ่นไป ท่าทางที่น่ารักแบบนี้กลับทำให้บุริศร์รู้สึกมองยังไงก็ไม่รู้สึกเบื่อเลย

เขาจูงมือของนรมนเอาไว้แล้วเดินตามหลังกล้าณรงค์ไปเงียบ ๆ

กล้าณรงค์เดินไปทางข้างหลัง กลับยิ่งเดินก็ยิ่งรกร้าง ยิ่งเดินก็ยิ่งห่างไกลผู้คนมากยิ่งขึ้น นรมนและบุริศร์มีความระแวงขึ้นมาเสี้ยวหนึ่ง

“นรมน คุณฟังผมนะ ทางโค้งตอนข้างหน้านั้นคุณต้องแยกออกไป แล้วตัวเองก็หาที่สักแห่งซ่อนตัวเอาไว้ ทำไมผมมักจะรู้สึกเหมือนกับว่ากล้าณรงค์จะรู้ตัวแล้วว่าพวกเราตามอยู่ข้างหลัง”

ความรู้สึกแบบนี้ตัวนรมนเองก็รู้สึกเหมือนกัน

ครั้งนี้เธอไม่ได้โต้แย้งกับบุริศร์อีก และก็แยกตัวออกไปตรงทางโค้งอย่างเชื่อฟังแล้วก็หายตัวไปอย่างรวดเร็วเลย

สำหรับการหายตัวไปของนรมนที่อยู่ข้างหลังนั้น หัวคิ้วของกล้าณรงค์ขมวดขึ้นเล็กน้อย แล้วในที่สุดก็หยุดลงตรงที่กว้างไม่ไกลนัก

ที่นี่กว้างขวางมาก ไม่มีที่ให้หลบซ่อนตัวเลยสักแห่ง บุริศร์ลองหลบอยู่ข้างหลังเสาอย่างอัตโนมัติ แล้วก็ได้ยินกล้าณรงค์หัวเราะแล้วก็พูดขึ้นว่า “ออกมาเถอะ”

บุริศร์พอได้ยินก็เดินออกไปแบบสงบนิ่ง

“ฉันควรพูดว่ายังไงดีล่ะ? ไม่เจอกันนานเลยนะ? หรือว่าตั้งแต่จากกันคราวนั้นแล้วก็ไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นเลยใช่ไหม?”

เรื่องที่กล้าณรงค์และบุริศร์แอบประลองกันอย่างลับ ๆ ก็ผ่านมาช่วงเวลาหนึ่งแล้ว ตอนนี้สามารถมาพูดคุยกันซึ่ง ๆ หน้าได้ ก็ถือได้ว่าไม่ได้เจอมานานมากแล้วจริง ๆ

“รู้ว่าพวกเรามาตั้งแต่เมื่อไหร่?”

บุริศร์ถามไปเรียบ ๆ แต่ก็ไม่มีการกระวนกระวายใด ๆ

กล้าณรงค์จ้องมองเขาทีหนึ่ง จ้องมองผู้ชายคนนี้ที่โดนพ่อตัวเองและลุงใหญ่วางเล่ห์เหลี่ยมใส่ แต่กลับยังเปิดเผยความสามารถออกมาได้ ซึ่งจะต้องยอมรับเลยว่าเขาเป็นคนที่ยอดเยี่ยมมากจริง ๆ

แต่ว่าคนที่ยอดเยี่ยมนี้กลับเป็นศัตรูของตัวเอง นี่ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่

“ตั้งแต่ที่พวกคุณเข้าไปในห้องของไอ้สามก็รู้แล้ว หรือว่าชัญญาก็โดนพวกคุณช่วยไปด้วยใช่ไหมล่ะ?”

“ใช่แล้วจะทำไม?”

ว่าแล้วว่าต้องเป็นตอนนั้นจริง ๆ

ดูท่าระบบตรวจจับรังสีอินฟราเรดนี่จะไฮเทคมากจริง ๆ ด้วย คิดไม่ถึงว่าระบบรักษาความปลอดภัยทางทหารจะโดนสมชัยเอามาใช้ในเรื่องจับตาดูคนของตัวเอง และก็ได้เปิดโปงการมาของเขากับนรมนไปอย่างไม่คาดคิดด้วย แต่ยังดีที่ตอนนี้นรมนไม่ได้อยู่ด้วย ยังไงบุริศร์ก็ยังพอปลอบใจตัวเองได้บ้าง

กล้าณรงค์ยิ้มจาง ๆ ขึ้น ต่อกรกับบุริศร์ยังไงก็ยังดีกว่าต่อการกับเจ้าโง่พรินทร์นั่นเยอะ

เขาเอาบุหรี่ออกมาจุดม้วนหนึ่งอย่างสงบนิ่ง แถมยังยื่นให้บุริศร์ม้วนหนึ่งอย่างเป็นมิตรมากด้วย

“สูบไหม?”

“เลิกแล้ว”

บริศร์มองซ้ายมองขวาเล็กน้อย ตอนแรกนึกว่ากล้าณรงค์จะวางกับดักอะไรไว้ที่นี่ แต่กลับคิดไม่ถึงว่าที่นี่จะว่างเปล่าไม่มีใครเลย เหมือนกับว่าจะมีแค่ตัวเขาคนเดียว

เขานี่มีความกล้าอยู่บ้างจริง ๆ

“นี่คุณกล้ามาเจอผมตัวคนเดียวเลยเหรอ? ไม่กลัวผมจะจับตัวคุณไว้ตอนนี้เลยเหรอ?”

“ไม่หรอก”

กล้าณรงค์สูบบุหรี่ไปคำหนึ่ง แล้วก็พูดเสียงเรียบ ๆ ไป จากนั้นก็ชี้ไปที่ก้อนหินที่อยู่ข้าง ๆ แล้วตัวเองก็นั่งลงไปก่อน

บุริศร์เองก็ไม่ได้ไม่เต็มใจอะไร พอเดินไปแล้วก็นั่งลงเลย

พอมามองกล้าณรงค์ใกล้ ๆ ก็พบว่าที่จริงแล้วเขาก็มีหน้าตาที่คล้ายคลึงกับสมชัยอยู่เหมือนกัน แต่เป็นเพราะเกี่ยวกับมารดา ใบหน้าจึงไม่ค่อยโดดเด่นสักเท่าไหร่ แต่ว่ารูปลักษณ์ของผู้ชายนั้นก็ไม่ใช่สิ่งที่สามารถตัดสินความสามารถได้ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ถ้าหากกล้าณรงค์เป็นคนดีละก็ ก็น่าจะมีผลงานได้สักชุดหนึ่งเหมือนกัน น่าเสียดายจริง ๆ

พอเห็นว่าบุริศร์กำลังมองสำรวจตัวเองอยู่ กล้าณรงค์เองก็ไม่ได้ขัดขวาง แต่กลับยิ้มอ่อน ๆ แล้วพูดขึ้นว่า “ที่จริงตัวคุณน่าสงสาร แล้วทำไมตัวผมจะไม่น่าสงสารด้วยล่ะ? คุณโดนเรณุกาหลอกลวง แต่อย่างน้อยคุณยังมีคนเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ แล้วตัวผมล่ะ? ผมมีทั้งพ่อทั้งแม่ แต่กลับต้องมีชีวิตอยู่อย่างเด็กกำพร้า หนำซ้ำแม้แต่นามสกุลของตัวเองก็ยังต้องปิดบังเอาไว้ คุณเป็นคุณชายใหญ่ของตระกูลโตเล็ก กินอยู่ไม่ต้องเป็นกังวล แต่ว่าตอนเด็ก ๆ ผมกลับต้องแย่งชิงกับคนอื่นเพียงเพราะแค่ของกินคำเดียว แถมอาจจะยังต่อยตีกัน จนบาดแผลเต็มไปทั้งตัว ถ้านับกันแบบนี้แล้วผมน่าสงสารกว่าคุณอีกนะ บุริศร์”

“มันไม่เหมือนกัน ทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับผมมันเป็นเพราะคุณกับพ่อของคุณและลุงของคุณเป็นคนวางแผนให้ ตั้งแต่แรกผมสามารถมีครอบครัวที่สุขสันต์ได้ มีชีวิตที่สวยงามได้ และไม่ใช่ต้องมาอยู่ในท่ามกลางการหลอกลวงกันแบบนี้ แต่ว่ากลับต้องสูญเสียทุกอย่างนี้ไปเพราะพวกคุณ ส่วนความทุกข์ยากของคุณนั้นคือพ่อของคุณและลุงของคุณเป็นคนประทานให้ทั้งนั้น เป็นสิ่งที่พวกคุณทำตัวพวกคุณเอง ถ้าหากไม่ใช่เพราะว่าจิตใจคิดชั่ว คุณเองก็ถือว่าเป็นชนชั้นสูงคนหนึ่ง แต่ทำไมถึงได้มีชีวิตต่ำต้อยได้ขนาดนี้? ทุกอย่างนี้ถ้าจะโทษ ก็ต้องไปโทษพ่อของคุณกับสมชัยถึงจะถูก”

คำพูดของบุริศร์ไม่ไว้หน้ากันเลยสักนิด

กล้าณรงค์อึ้งไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็ยิ้มเย็นแล้วพูดขึ้นว่า “ดูท่าคุณคงจะไม่คิดปรองดองกับผมแล้วนะ?”

“ปรองดอง? คุณทำเรื่องชั่วมามากมายขนาดนี้ ทำไมถึงรู้สึกว่าผมจะปรองดองกับคุณได้ล่ะ? ยังไม่พูดถึงความรู้สึกส่วนตัวของผมว่าเป็นยังไง แค่พูดถึงสถานะของผม หน้าที่รับผิดชอบของผมก็ไม่อนุญาตให้คุณหนีรอดไปจากการลงโทษทางกฎหมายได้แล้ว อย่ามาคิดว่าตัวตนที่แท้จริงของคุณถูกเปิดเผยออกมาแล้วคุณก็จะหนีรอดไปได้นะ ตอนนี้สัญชาติของคุณยังเป็นสัญชาติประเทศผมอยู่ แล้วเรื่องที่คุณทำไว้ก็เป็นโทษหนักทั้งนั้น มาตอนนี้คุณคงรู้สึกว่าคุณได้กลับประเทศแล้ว ได้กลับมาถึงบ้านเกิดตัวเอง แต่ว่าความจริงแล้ว กล้าณรงค์ คุณเป็นนักโทษหลบหนีออกนอกประเทศ โทษหนักไม่สามารถให้อภัยได้ หน้าที่และความรับผิดชอบของผมก็คือมานำตัวผู้ร้ายข้ามแดนอย่างคุณกลับประเทศ เพื่อไปรับการตัดสินจากประชาชน ไปรับโทษที่คุณควรจะได้รับ”

บุริศร์เป็นคนที่มีความศรัทธาคนหนึ่ง ยิ่งไปกว่านั้นทุกอย่างที่กล้าณรงค์ทำกับเขาทำกับนรมนทำกับตระกูลพรโสภณและตระกูลทวีทรัพย์ธาดา จำเป็นที่จะต้องมีคำตอบอย่างหนึ่งออกมา

ดวงตาของกล้าณรงค์เย็นลงเล็กน้อย

“ตอนแรกผมนึกว่าจะสามารถพูดคุยดี ๆ กับคุณได้ ถ้าหากคุณเป็นคนที่ฉลาดหลักแหลมพอละก็ ผมก็อาจจะให้ตำแหน่งอัครมหาเสนาบดีของประเทศFกับคุณได้ คุณจะไม่ลองคิดดูสักหน่อยเหรอ?”

อยู่ ๆ บุริศร์ก็หัวเราะออกมา

“ตำแหน่งอัครมหาเสนาบดีนั้นน่าจะเป็นตำแหน่งที่สูงมากเลยละมั้ง? จากที่ผมรู้มา คนที่จะมาดำรงตำแหน่งนี้ได้จะต้องให้พระราชาอนุญาตก่อนนี่ ทำไม? คุณถึงได้มั่นใจขนาดนั้นว่าสมชัยจะยอมให้ผมเป็นอัครมหาเสนาบดีของประเทศFของพวกคุณได้?”

“เขาเหรอ? เหอะ เหอะ”

กล้าณรงค์ยิ้มเย็นแล้วพูดขึ้นว่า “ความทุกข์ยากของผมนั้นเขาเป็นคนสร้างขึ้นมาทั้งนั้น บอกว่าจะชดเชยให้ผมกับพ่อผม แต่ว่าจะมีของอะไรที่สามารถมาทดแทนทุกอย่างที่ผมและพ่อผมสูญเสียไปในหลายปีนี้ได้? ตอนแรกพ่อผมสามารถเป็นองค์ชายคนหนึ่ง สามารถอยู่ในประเทศได้อย่างอิสรเสรีและได้รับความเคารพนับถือจากผู้คน แต่กลับต้องมาทอดทิ้งสถานะไปเป็นพิรุณอะไรนั่น แล้วก็ยังทำให้แม่ผมไปรับใช้คนอย่างเชษฐ์นั่นด้วย ไม่ว่าเป้าหมายของเขาจะคืออะไร ก็ไม่สมควรที่จะมาหลอกใช้คนในครอบครัวเราแบบนี้ ครอบครัวเราทั้งสามคนโดนเขาหลอกใช้มาตลอด ตำแหน่งพระราชานี่จะเป็นของใครยังไม่แน่เลย ”

จากคำพูดพวกนี้ บุริศร์สามารถฟังออกได้ว่า กล้าณรงค์คนนี้คงจะอยากแย่งชิงบัลลังก์แล้วจริง ๆ

“แต่ว่าเรื่องทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่พ่อของคุณยินดีที่จะไปทำเองไม่ใช่เหรอ? และก็เป็นเพราะว่าพ่อของคุณกับสมชัยอยากได้เส้นทางแร่ของประเทศเราถึงได้ยอมเสียสละออกมาแบบนี้ คุณยังจะมารู้สึกไม่ยุติธรรมอะไร?”

“ยินดีที่จะไปเองเหรอ? ใครบอกคุณว่าพ่อผมยินดีที่จะไปเอง? ทุกอย่างนี้ล้วนเป็นเพราะสมชัยบีบบังคับมา! ตอนนั้นผมยังไม่คลอดออกมา แต่หมอหลวงก็ได้ตรวจออกมาแล้วว่าผมเป็นเด็กผู้ชาย สมชัยใช้ชีวิตผมมาบีบบังคับให้พ่อผมต้องออกจากบ้านไป ต้องสละตำแหน่งองค์ชายของตัวเองไปเพื่อไปตามหาความมั่งคั่งที่ประเทศZ แต่ว่าพอผมคลอดออกมาแล้วล่ะ? เพื่อที่จะหลอกใช้แม่ผม เขาได้ให้คนเอาตัวผมไปไว้ที่บ้านเด็กกำพร้าในประเทศZ แล้วบอกกับแม่ผมว่าจะต้องไปประเทศZถึงจะตามหาผมเจอ และนี่ก็ได้ทำให้แม่ผมต้องทิ้งตำแหน่งพระสนมไป แล้วไปที่ประเทศของพวกคุณ ถ้าหากไม่ใช่เพราะกลลวงและการบีบบังคับของเขา ทำไมหลายปีมาขนาดนี้ครอบครัวพวกเราสามคนถึงยังไม่สามารถอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันได้อีกล่ะ? ตอนนี้แม่ผมตายไปแล้ว แต่จนถึงตายเธอก็ยังไม่ได้เจอหน้าพ่อผม ส่วนพ่อผมตั้งนานหลายปีมานี้ก็ยังไม่สามารถกลับคืนสู่แผ่นดินเกิดได้ เรื่องทั้งหมดนี้สมชัยเป็นคนทำให้เกิดขึ้นมา ตอนนี้เขายังมาพูดอย่างหน้าไม่อายว่าจะชดเชยให้ผมกับพ่ออีก? จะเอาอะไรมาชดเชยให้ล่ะ? แต่งตั้งตำแหน่งให้อันหนึ่ง ให้ชื่อเสียงเกียรติยศนิดหน่อยก็จะสามารถทดแทนทุกอย่างที่พวกเราทั้งครอบครัวเสียสละไปในหลายปีนี้ได้แล้วเหรอ? ประเทศFนี้เป็นสิ่งที่พ่อผมกับแม่ผมกอบกู้มา หลายปีมานี้ถ้าไม่ใช่เพราะว่าพ่อผมส่งเงินทองมาให้เขาไม่หยุด เขาจะสามารถมีตำแหน่งอย่างวันนี้ได้เหรอ? ตั้งแต่แรกมันก็ควรเป็นของผมกับพ่อแล้ว รอให้พ่อผมหาวิธีเข้าไปในเหมืองแร่ให้ได้ก่อน สมชัยก็จะไม่มีความจำเป็นที่จะต้องอยู่ต่อไปแล้ว สำหรับพวกลูก ๆ ของเขานั้น ผมก็จะไม่เก็บพวกเขาไว้แน่! โดยเฉพาะราเชน!”

ตอนที่พูดถึงราเชนนั้น ทั้งตัวของกล้าณรงค์ก็เต็มไปด้วยความโหดเหี้ยม

และก็คือเจ้าชั่วคนนี้ที่เป็นคนเฉือนแม่ของเขาทีละครั้งทีละครั้ง ความแค้นนี้เขาจะต้องชำระให้ได้ เขาเองก็จะให้ราเชนได้ลิ้มลองความเจ็บปวดของการโดนสับเป็นหมื่น ๆ ครั้งดู!

บุริศร์รู้สึกอยากจะหัวเราะขึ้นมาเล็กน้อย

และนี่ก็คือที่สมชัยพูดว่าพี่น้องมีหัวใจเดียวกันเหรอ?

ที่แท้คนเราเมื่อไม่มีความศรัทธาแล้ว ก็สามารถชั่วร้ายได้จนถึงขั้นทำให้คนรู้สึกขนหัวลุกได้เลย

กล้าณรงค์มีความในใจแอบแฝงต่อสมชัยอยู่ แล้วสมชัยจะไม่มีต่อกล้าณรงค์และฉัตรพลได้ยังไง?

เขาจะต้องไม่ได้เป็นคนดีมีเมตตาเหมือนอย่างที่เห็นในภายนอกแน่

หัวสมองของบุริศร์หมุนวนไปอย่างรวดเร็ว อยู่ ๆ เขาก็รู้สึกว่าเอาความโกรธแค้นที่ฉัตรพลและกล้าณรงค์มีต่อสมชัยมาใช้ดูบางทีอาจจะสามารถโค่นสมชัยให้ล้มลงมาจริง ๆ ก็ได้ และอีกอย่างหลายปีมานี้สมชัยทำอะไรไปบ้าง ลูก ๆ ของเขาอาจจะไม่รู้ แต่ฉัตรพลจะต้องรู้แน่ ๆ

ขอแค่ฉัตรพลสามารถออกมาเป็นพยาน อย่างงั้นสมชัยก็หนีไม่รอดแล้ว เพียงแต่ว่าสถานการณ์ในตอนนี้ทำให้เขารู้สึกลำบากอยู่บ้าง เขาจะต้องทำยังไงถึงจะสามารถยุยงให้ระหว่างฉัตรพลกับสมชัยเกิดการต่อสู้ขึ้นมาได้ล่ะ?

แค้นรักสามีตัวร้าย

แค้นรักสามีตัวร้าย

Status: Ongoing

ไฟเผาความรักทั้งหมดของนรมนที่มีต่อบุริศร์ หลังจากห้าปี เธอกลับไปอย่างงดงามและเพื่อทวงความยุติธรรมสำหรับตัว เธอเอง แต่คาดไม่ถึงว่าเด็กชายที่ถูกพากลับมาด้วยนั้นมีแผน มากกว่าเธอ เด็กน้อยยืนอยู่ข้างหน้าบุริศร์ กล่าวอย่างไร้เดียง สาว่า “คุณลุง สามารถช่วยผมได้ไหม? ผมขอร้อง” บุริศร์ รู้สึกว่าไม่สามารถต้านทานการวิงวอนของเด็กได้ คุกเข่าลง เพื่อช่วย แต่คาดไม่ถึงว่าจะถูกพ่นใส่หน้า อยู่มาวันหนึ่ง บุริศร์ พูดกับเด็กชายหน้าตาดีว่า “เด็กน้อย นี่คือห้องของฉัน!” “แต่ ว่าผมอยากนอนกับหม่าม พวกเรานอนด้วยกันมาห้าปีแล้ว” ชายหนุ่มร้องไห้… แค่ไปจีบภรรยากลับมาเท่านั้น ทำไมลูก ของฉันถึงเอาใจยากเหลือเกิน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท