แค้นรักสามีตัวร้าย – บทที่ 1405 ความรู้สึกแบบนี้มันย่ำแย่มาก

บทที่ 1405 ความรู้สึกแบบนี้มันย่ำแย่มาก

“ใครน่ะ?”

หงส์ตะโกนเสียงเข้มออกไปคำหนึ่ง แล้วอีกฝ่ายก็กระโดดออกไปนอกหน้าต่างแล้วก็ไม่เห็นตัวอีกเลย

พอบุริศร์กับนรมนได้ยินเสียงก็รีบวิ่งออกมาทันที

“เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”

“เมื่อกี้มีคนคนหนึ่งอยู่หน้าประตูห้องของพวกคุณไม่รู้ว่าจะทำอะไร”

ปฏิกิริยาของหงส์นั้นเคร่งขรึมเป็นอย่างมาก

นรมนขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย

“พวกเราเพิ่งมาถึงบ้านตระกูลแหลมวิไลไม่นาน แต่กลับเกิดเรื่องขึ้นมาติด ๆ กัน และเป้าหมายก็ชัดเจนมาก เหมือนกับว่าจะเป็นพวกเรา จะเป็นใครกันนะที่สังเกตเห็นถึงความเคลื่อนไหวของพวกเราแล้ว?”

นรมนรู้สึกเป็นกังวลขึ้นมาเล็กน้อย ถ้าหากว่าเป็นคนของสมชัย งั้นจณัตว์และคนทั้งตระกูลแหลมวิไลก็ตกอยู่ในอันตรายแล้ว

ดวงตาของบุริศร์เองก็ขรึมลงหลายส่วน

“ยังไงเรื่องนี้ก็ต้องบอกกับจณัตว์”

“ได้ เดี๋ยวฉันไปบอกพี่ชายฉันเอง”

นรมนอาสาเป็นคนไปเอง

ที่หงส์มาก็จะต้องมีเรื่องที่จะพูดอยู่แล้ว แต่ว่าดูจากท่าทางน่าจะไม่ได้มาหาตัวเอง ตั้งแต่ที่รู้ว่าหงส์ยอมตัดใจจากบุริศร์แล้ว นรมนก็ไม่คิดอะไรมากอีก แน่นอนว่าก็ต้องให้เวลาส่วนตัวกับพวกเขาสักหน่อย

ยังไงเธอก็ยังเชื่อใจบุริศร์อยู่แล้ว

“ระวังตัวหน่อยนะ”

บุริศร์เองก็รู้ว่าหงส์จะต้องไม่มาหาเขาโดยไม่มีเหตุผลแน่ และจะต้องมีเรื่องอะไรจะถามแน่ ๆ ยิ่งไปกว่านั้นตัวเองเคยบอกกับเธอแล้วว่าจณัตว์เคยช่วยชีวิตเธอมาก่อน แล้วดูจากเวลาแล้ว ทั้งสองคนน่าจะได้เจอกันมาแล้ว และก็คงจะพูดอะไรกันมาแล้วมั้ง และหงส์ก็คงจะเกิดความสงสัยขึ้นมาอีก

ตอนนี้นรมนกับบุริศร์นั้นรู้ใจกันเป็นอย่างมาก มีเรื่องบางอย่างไม่ต้องพูดก็สามารถเข้าใจความหมายของอีกฝ่ายได้ เพราะฉะนั้นตอนที่นรมนบอกว่าจะไปหาจณัตว์นั้น บุริศร์ก็ไม่ได้ขัดขวาง เพียงแต่ว่าที่นี่เหมือนกับว่าจะไม่ค่อยสงบสุข ยังไงเขาก็หวังว่าเธอจะระวังตัวหน่อย

“รู้แล้ว ถึงอีกฝ่ายจะหยิ่งผยองแค่ไหนก็คงไม่กล้าลงมือกับพวกเราอย่างเปิดเผยในบ้านใหญ่ตระกูลแหลมวิไลหรอก วางใจเถอะ ที่นี่มีบอดี้การ์ดที่ลาดตระเวนอยู่ไม่น้อย ถ้าไม่ได้ยังไงฉันก็หาทางที่มีคนเยอะ ๆ เดินก็ได้”

นรมนยิ้มให้กับหงส์เล็กน้อยแล้วก็จะเดินไป แต่ก็ได้ยินบุริศร์พูดขึ้นว่า “อีกครู่หนึ่งผมไปหาคุณ คุณรออยู่ตรงที่จณัตว์เลยนะ”

“ได้ค่ะ”

ในช่วงเวลาที่พิเศษนั้นนรมนก็ยังเชื่อฟังอยู่

พอเห็นนรมนเป็นแบบนี้ หงส์กลับรู้สึกเขินอายขึ้นมาเล็กน้อยแล้ว

“พี่สะใภ้ ฉันแค่มาถามเฮียบุริศร์ไม่กี่ประโยคเท่านั้น เดี๋ยวถามเสร็จฉันก็ไปแล้ว”

“ไม่ต้องรีบร้อนหรอก ฉันก็มีธุระจะหาพี่ชายฉันพอดีเลย”

นรมนนั้นกลับใจกว้างมาก ชั่วขณะหนึ่งก็ทำให้หงส์เข้าใจขึ้นมาแล้วว่าบุริศร์ชอบอะไรในตัวเธอ

ผู้หญิงอย่างนี้ถ้าตัวเองเป็นผู้ชายก็คงจะชอบอยู่แหละมั้ง

บุริศร์จ้องมองหงส์ทีหนึ่ง แล้วก็พูดเสียงต่ำขึ้นว่า “เธอมีเวลาแค่ห้านาที”

พอไม่มีนรมนอยู่ตรงหน้า บุคลิกของบุริศร์ก็เปลี่ยนกลับไปเป็นนิ่งเฉยอย่างเย็นชาและห่างเหินจากผู้คนเป็นพันลี้อีกครั้งหนึ่ง

ในใจของหงส์รู้สึกขมขื่นเล็กน้อย ถึงแม้ว่าจะรู้ว่าตัวเองไม่มีความหวังแล้ว แต่ว่าพอมาเปรียบเทียบกันดูแล้วก็ยังเจ็บปวดมากอยู่ดี

“เฮียบุริศร์ ฉันแค่อยากจะถามสักหน่อยเท่านั้น ตอนนั้นที่ฉันร้องขอให้คุณแต่งงานกันฉันนั้นเกิดเรื่องอะไรขึ้นมาใช่หรือเปล่า? อาจจะเป็นเรื่องที่ฉันหลงลืมไป”

หงส์ถามได้อย่างจริงจังเป็นอย่างมาก

บุริศร์อึ้งไปครู่หนึ่ง ไม่ว่ายังไงก็คิดไม่ถึงว่าหงส์จะถามเรื่องนี้ แต่ก็ยังพูดอย่างมีความรับผิดชอบเป็นอย่างมากว่า “ตอนนั้นที่เธอบอกให้ฉันแต่งงานกับเธอ มีคนอยู่เยอะขนาดนั้นฉันจะหักหน้าเธอก็ไม่ดี เพราะฉะนั้นจึงไม่ได้เปิดปากพูดปฏิเสธไป แต่ว่าฉันมาคิดดูดี ๆ แล้ว ความรู้สึกที่ฉันมีต่อเธอมันไม่ใช่ความรักแบบหนุ่มสาว ถ้าแต่งงานกับเธอไป ทั้งต่อเธอและต่อฉันต่างก็ไม่ยุติธรรม เพราะฉะนั้นฉันก็เลยไปหาเธอแล้วก็บอกความคิดของฉันออกไป แถมยังกลัวว่าเธอจะอึดอัด คืนนั้นฉันก็เลยจากไปเลย น่าจะถือได้ว่าเป็นการจากไปโดยไม่ล่ำลามั้ง”

พอคำพูดนี้พูดออกมาหงส์ก็เข้าใจแล้ว

ในความทรงจำของเธอนั้นเป็นตอนที่เธอช่วยบุริศร์เสร็จแล้วและจะให้บุริศร์แต่งงานกับเธอมาตลอด จากนั้นก็ไม่มีเนื้อหาต่ออีกเลย เพราะฉะนั้นเธอก็เลยคิดว่านี่คือคำสัญญาที่บุริศร์มีต่ออย่างอัตโนมัติ เพียงแต่ว่าไม่กล้าพูดออกมาเท่านั้น ต่อมาบุริศร์ก็มักจะหลบหน้าเธอตลอด และวินเซนต์ก็เอาแต่บอกกับเธอว่าบุริศร์ไม่อยากทำตามสัญญาแล้ว หงส์ถึงได้ออกจากสหภาพQTมาอย่างผิดหวัง แล้วกลับมาที่ประเทศF

มาตอนนี้เรื่องมันเป็นอย่างนี้เองเหรอ?

บุริศร์ได้ปฏิเสธเธอไปตั้งแต่ตอนนั้นแล้วเหรอ?

และเพราะว่าการปฏิเสธของบุริศร์ เพราะฉะนั้นเธอถึงได้ไปหาจณัตว์เหรอ?

พอคิดได้แบบนี้ก็เหมาะสมกับนิสัยของเธอแล้ว

เพราะฉะนั้นระหว่างเธอกับจณัตว์เคยนอนด้วยกันมาก่อนจริง ๆ เหรอ?

สีหน้าของหงส์ขาวซีดราวกับกระดาษขึ้นมาทันที จนทำบุริศร์ตกใจจนรู้สึกเป็นกังวลขึ้นมาเล็กน้อย

“เธอไม่เป็นไรใช่ไหม? จณัตว์บอกอะไรกับเธอมาใช่ไหม?”

“ไม่มีอะไรค่ะ?

หงส์ส่ายหัวเล็กน้อย

เรื่องนี้จะบอกกับบุริศร์ยังไงล่ะ?

ถ้าหากว่าตัวเองเป็นฝ่ายเริ่มต้นก่อนจริง ๆ จณัตว์เองก็น่าจะเป็นฝ่ายเสียหายด้วยละมั้ง ถึงว่าล่ะเขามักจะไม่ค่อยรู้สึกเป็นมิตรกับตัวเองซะเท่าไหร่

ไม่ใช่ซิ

ฝีมือของจณัตว์ดีกว่าตัวกว่าตัวเองตั้งเยอะ

หงส์รีบถามขึ้นว่า “เฮียบุริศร์ ตอนนี้ฝีมือการต่อสู้ของจณัตว์เป็นยังไงบ้าง?”

“เขาไม่ได้มีฝีมืออะไร ที่มีอยู่ก็แค่เปลือกนอกเท่านั้น ตอนนั้นเขาโดนกลุ่มผู้ก่อการร้ายจับตัวไป และเป็นเพราะพวกเรามาถึงทันเวลาก็เลยช่วยพวกเขาเหล่านั้นไว้ได้ ทำไมถึงถามเรื่องพวกนี้ขึ้นมาล่ะ?”

“ไม่ ไม่มีอะไรค่ะ”

ในใจของหงส์วุ่นวายเป็นอย่างมาก

ถ้าหากสิ่งที่บุริศร์พูดมาเป็นความจริง ถ้าอย่างงั้นด้วยนิสัยในตอนนั้นของเธออาจจะข่มขืนจณัตว์ได้จริง ๆ เหรอ? และถ้าหากว่าตัวเองดื่มจนเมาละก็

พอคิดได้แบบนี้ หงส์ก็แทบอยากจะหารูสักแห่งมุดเข้าไปเลย

นี่มันช่างน่าอายมากเลยนะรู้ไหม?

เธอทำแบบนี้ได้ยังไงกัน!

“เฮียบุริศร์ ฉันยังมีธุระอีก ขอตัวก่อนนะคะ”

หงส์พูดจบก็หมุนตัววิ่งไปเลย

เธอกลัวว่าถ้าตัวเองอยู่ต่ออาจจะเผลอพูดเรื่องนี้ออกไป เฮียบุริศร์ก็คงจะรังเกียจเธอแน่

และผู้หญิงแบบเธอนี้ถึงว่าล่ะเฮียบุริศร์ถึงได้ไม่ชอบ

หงส์รู้สึกเสียใจเล็กน้อย พอเพิ่งหมุนตัวไปแล้ววิ่งได้ก้าวเดียว ก็ได้ยินเสียงปืนดัง“ปัง”ขึ้นมาครั้งหนึ่ง แล้วก็ทำให้ทั้งเธอและบุริศร์สองคนตื่นเต้นขึ้นมาทันที

“ฟังจากเสียงน่าจะดังมาจากทางห้องของจณัตว์นะ”

“นรมน!”

บุริศร์รู้สึกถึงอะไรขึ้นมาทันที แล้วก็ก้าวเท้าแล้วพุ่งออกไปเลย

หงส์เองก็ไม่กล้าเสียเวลา และก็ตามไปอย่างรวดเร็ว

รอจนถึงตอนที่พวกเขามาถึงก็เห็นแจกันตรงหน้าประตูที่นำเข้าสู่ห้องของจณัตว์โดนยิงจนแตกไปแล้ว และกระจัดกระจายไปทั่ว และบนพื้นก็มีคราบเลือดอยู่เล็กน้อยด้วย

หัวใจของบุริศร์บิดตัวกันขึ้นมาทันที

“นรมน นรมน!”

“ฉันอยู่นี่ค่ะ”

นรมนเดินออกมาจากหลังกระถางต้นไม้ บนใบหน้าสกปรกเล็กน้อย ผมเผ้าก็ยุ่งเล็กน้อยเหมือนกัน

บุริศร์เดินไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว แล้วก็รีบตรวจดูว่าเธอได้รับบาดเจ็บหรือเปล่า

“ฉันไม่เป็นไรค่ะ คราบเลือดนั่นไม่ใช่ของฉัน ฉันโยนมีดสั้นออกไปเล่มหนึ่ง แล้วก็ทิ่มโดนคนคนนั้น แต่ว่ามือเขามีปืนอยู่ ฉันก็เลยไม่กล้าไปฝืนต่อสู้ด้วย เขาก็เลยหนีไปได้”

แน่นอนว่านรมนรู้อยู่แล้วว่าบุริศร์เป็นกังวลอะไรอยู่ จึงรีบพูดออกมา

จณัตว์ได้ยินเสียงปืนก็รีบวิ่งออกมาเหมือนกัน

“เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”

“ยังจะมาถามผมอีกว่าเรื่องอะไร? ในบ้านใหญ่ตระกูลแหลมวิไลของคุณนี่มันมีหนอนบ่อนไส้อยู่ เมื่อกี้เพิ่งลากหนอนบ่อนไส้ที่บ่อน้ำร้อนออกมาได้ แล้วนี่กลางวันแสก ๆ ก็มีหนอนบ่อนไส้ออกมาก่อการร้ายแล้ว จณัตว์ ถ้าหากที่คุณนี่ไม่ปลอดภัยก็รีบพูดมาเร็ว ๆ ผมจะได้พานรมนไปจากที่นี่”

บุริศร์รู้ว่าการพูดแบบนี้กับจณัตว์นั้นไม่ยุติธรรม แต่ว่าความหวาดกลัวแบบนี้มันทำให้เขามีเหงื่อเย็น ๆ ออกมาทั้งตัว

ถ้าหากนรมนหลบไม่พ้นล่ะ?

ถ้าหากว่าอีกฝ่ายเป็นคนพลีชีพคนหนึ่งล่ะ และถ้าหากว่าจะฆ่านรมนด้วยล่ะ?

พอคิดถึงเรื่องพวกนี้แล้ว บุริศร์ก็สงบนิ่งไม่ได้แล้ว

สีหน้าของจณัตว์ก็ไม่ได้ดูดีเท่าไหร่นัก

ก่อนหน้านี้ตระกูลแหลมวิไลเหมือนกับว่ามีการป้องกันที่แข็งแกร่งมาตลอด ไม่มีทางที่คนนอกอะไรจะเข้ามาได้ทั้งนั้น แต่ตอนนี้กลับเป็นอะไรไป ?

“เนกษ์!”

อารมณ์ของจณัตว์เองก็ไม่ดีขึ้นมาแล้ว

นรมนเป็นน้องสาวของเขา ถ้าหากว่าเกิดเรื่องขึ้นมาในพื้นที่ของเขา แล้วเขาจะบอกกับอาสามยังไง?

แน่นอนว่าเนกษ์เองก็ได้ยินเสียงปืนและก็ตามมาด้วยแล้ว พอได้ยินจณัตว์เรียกเขา ก็รีบพูดขึ้นว่า “ผมได้ส่งคนไปค้นหาแล้วครับ”

“ระบบรักษาความปลอดภัยของตระกูลแหลมวิไลแย่ไปขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่? ถึงกับกล้าก่อการร้ายกลางวันแสก ๆ วันนี้ถ้าหาคนไม่เจอ คนทั้งหมดต่างก็ต้องไปรับโทษ”

แน่นอนว่านรมนรู้ว่าจณัตว์นั้นเป็นห่วงพวกเขา จึงรีบพูดขึ้นว่า “พวกเรากลับรู้สึกว่าไม่ใช่ปัญหาของระบบป้องกันความปลอดภัยของตระกูลแหลมวิไล”

“นรมน”

บุริศร์รู้สึกไม่พอใจขึ้นมาเล็กน้อย

นรมนกลับปลอบใจเขา แล้วพูดเสียงต่ำขึ้นว่า “ตอนที่พวกเรายังไม่มาตระกูลแหลมวิไลก็สงบสุขมาตลอด และนี่ถึงสามารถทำให้พี่ชายฉันพัฒนาขึ้นมาได้ แต่ว่าตั้งแต่ที่พวกเรามาถึงแล้วตระกูลแหลมวิไลก็ไม่สงบสุขแล้ว ฉันรู้สึกว่าอีกฝ่ายต้องมาเพราะพวกเราแน่”

บุริศร์ไม่ได้พูดอะไร

การคาดเดาแบบนรมนตัวเขาเองก็มี

จณัตว์ขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย

“คนที่ต่อต้านพวกคุณก็มีแต่สมชัยกับฉัตรพลแล้ว แต่ว่าตอนนี้ถ้าสมชัยรู้ว่าพวกคุณอยู่ที่บ้านผมนี่ละก็ ก็คงจะต้องไม่มีทางที่จะไม่สนใจอะไรผมเลย”

“ผมกลับรู้สึกว่าคนคนนี้กับคนที่อยู่ในบ่อน้ำร้อนนั่นมีเจ้านายคนเดียวกัน”

บุริศร์เปิดปากพูดขึ้น

จณัตว์เองก็คิดแบบนี้

“ทางที่ดีตอนนี้พวกคุณอย่าออกไปไหน ผมจะส่งคนมาคุ้มครองพวกคุณยี่สิบสี่ชั่วโมงเลย”

คำพูดของจณัตว์ทำให้นรมนส่ายหน้าเล็กน้อย

“ไม่ ถ้าเอาแต่ปกป้องพวกเราอยู่ก็จะหาตัวผู้ร้ายตัวจริงไม่เจอ อยู่ที่ประเทศFนี่เราไม่ได้มีศัตรูอะไร ที่มีก็มีแค่คนพวกตระกูลจันทรวงศ์เท่านั้น ยังมีกล้าณรงค์ แต่ว่ากล้าณรงค์ก็ได้ตายไปแล้ว น่าจะมาต่อต้านพวกเราไม่ได้แล้ว เพราะฉะนั้นอำนาจที่ต่อต้านพวกเราอยู่นี้จะต้องคอยระมัดระวัง ถ้าหากพวกเราไม่เป็นฝ่ายตามหาพวกเขาออกมา กลัวว่าวันเวลาต่อไปพวกเราก็ต้องอยู่อย่างมีภัยอันตรายจากศัตรูรอบด้านแน่”

คำพูดของนรมน บุริศร์เองก็เห็นด้วย

“ถูกต้อง ในเมื่อเป้าหมายของพวกเขาก็คือพวกเรา งั้นเราก็มาล่อเสือออกจากถ้ำกันเถอะ”

“พวกคุณบ้าไปแล้วเหรอ?”

จณัตว์เป็นคนแรกที่ไม่เห็นด้วย

“อีกฝ่ายสามารถมาลอบฆ่าพวกคุณในกลางวันแสก ๆ ได้ เห็นได้ชัดว่าน่าจะเกลียดพวกคุณเข้ากระดูกดำแล้ว แล้วพวกคุณยังจะเปิดเผยตัวเองออกไปให้มันมาฆ่าอีก พวกคุณนี่คิดว่าชีวิตยืนยาวเกินไปแล้วใช่ไหม?”

แล้วในเวลานี้หงส์ก็เปิดปากพูดขึ้นมา

“ฉันกับรู้สึกว่าได้ ฉันจะแอบปกป้องพวกเฮียบุริศร์อยู่อย่างลับ ๆ เอง”

“คุณหุบปากไปเลย! คุณคิดว่าตัวเองเก่งมากนักเหรอ? คิดว่าเรื่องทั้งหมดที่คุณทำอยู่ในวังนั้นสมชัยไม่รู้เรื่องเลยเหรอ? ก็เพียงแต่แค่เขาไม่พูดเท่านั้น คนพวกนั้นของคุณ เฉียงและติณห์คนนั้น เอกสารของพวกเขาได้วางอยู่บนโต๊ะของสมชัยตั้งนานแล้ว และก่อนหน้านี้คุณไม่ได้ทำเรื่องที่อันตรายต่อสมชัย สมชัยก็เลยทำลืมตาข้างหนึ่งหลับตาข้างหนึ่งทำเป็นไม่รู้เรื่องอะไร ถ้าตอนนี้คุณปรับเปลี่ยนให้พวกเขามาคุ้มครองบุริศร์กับนรมน คนที่สมชัยจะต่อต้านคนแรกก็จะคือคุณ!”

คำพูดของจณัตว์ทำให้หงส์ลืมตาโตขึ้น แล้วพูดอย่างไม่อยากจะเชื่อว่า “จะเป็นไปได้ยังไง?”

“ทำไมจะเป็นไปไม่ได้? ถ้าหากคุณไม่เชื่อละก็ อีกเดี๋ยวผมจะพาคุณเข้าวัง คุณไปดูที่ห้องหนังสือเองเลย”

น้ำเสียงของจณัตว์ไม่ได้ดีเท่าไหร่นัก

ช่วงหลายปีมานี้หงส์มักจะอยู่อย่างปลีกวิเวก ไม่มีคนมาหาเรื่อง จนได้ทำให้เธอสูญเสียจิตใจที่หวาดระแวงขั้นพื้นฐานไปแล้ว การเคลื่อนไหวเล็ก ๆ ของสองปีมานี้ก็ยิ่งไม่ได้ระมัดระวังมากขึ้นแล้ว แม้แต่เขาเองก็ยังรู้รายชื่อกลุ่มคนที่เป็นความลับส่วนหนึ่งของหงส์เลย ยิ่งไม่ต้องพูดสมชัย มีเพียงแต่ยัยผู้หญิงโง่คนนี้เท่านั้น ที่ยังดีอกดีใจคิดว่าตัวเองได้สร้างเกาะป้องกันที่แข็งแกร่งและยิ่งใหญ่ไว้เพื่อบุริศร์แล้ว

หงส์อึ้งไปหมดทั้งตัวเลย เธออยากจะพูดอะไรสักหน่อยแต่กลับเปิดปากไม่ออก เธอรู้สึกว่าอยู่ต่อหน้าจณัตว์นั้นตัวเองไม่ได้เป็นตัวอะไรเลย ความรู้สึกแบบนี้มันแย่มากเลย

นรมนทนเห็นบรรยากาศอึมครึมแบบนี้ไม่ได้ เธอเดินหน้าเข้าหน้าก้าวหนึ่งและกำลังอยากจะพูดอะไรสักหน่อย อยู่ ๆ ลูกศรดอกหนึ่งก็พุ่งทะลุผ่านอากาศมุ่งตรงมาที่เธอ

แค้นรักสามีตัวร้าย

แค้นรักสามีตัวร้าย

Status: Ongoing

ไฟเผาความรักทั้งหมดของนรมนที่มีต่อบุริศร์ หลังจากห้าปี เธอกลับไปอย่างงดงามและเพื่อทวงความยุติธรรมสำหรับตัว เธอเอง แต่คาดไม่ถึงว่าเด็กชายที่ถูกพากลับมาด้วยนั้นมีแผน มากกว่าเธอ เด็กน้อยยืนอยู่ข้างหน้าบุริศร์ กล่าวอย่างไร้เดียง สาว่า “คุณลุง สามารถช่วยผมได้ไหม? ผมขอร้อง” บุริศร์ รู้สึกว่าไม่สามารถต้านทานการวิงวอนของเด็กได้ คุกเข่าลง เพื่อช่วย แต่คาดไม่ถึงว่าจะถูกพ่นใส่หน้า อยู่มาวันหนึ่ง บุริศร์ พูดกับเด็กชายหน้าตาดีว่า “เด็กน้อย นี่คือห้องของฉัน!” “แต่ ว่าผมอยากนอนกับหม่าม พวกเรานอนด้วยกันมาห้าปีแล้ว” ชายหนุ่มร้องไห้… แค่ไปจีบภรรยากลับมาเท่านั้น ทำไมลูก ของฉันถึงเอาใจยากเหลือเกิน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท