“เป็นยังไงบ้างคะ? คุณหมอมิลิน”
หงส์ไม่เคยรู้สึกกังวลใจขนาดนี้มาก่อนเลย ความรู้สึกราวกับถูกบีบคออยู่ตลอดเวลา ทำให้เธอหายใจไม่ออก
ในที่สุดเธอก็เข้าใจความห่วงใยที่จณัตว์มีให้เธอ นี่เธอเพิ่งเป็นครั้งแรกยังรู้สึกขนาดนี้ แล้วจณัตว์ที่ห่วงใยเธอมาตลอดหลายปีละ
พลันหงส์ก็รู้สึกถึงความรักอันยิ่งใหญ่ที่ชายหนุ่มมอบให้ เมื่อก่อนกลับไม่รู้ มันช่างน่าเสียดายเหลือเกิน
หมอมองไปทางหงส์ ก่อนพูดว่า “จบแล้วครับ แต่ว่าต้องระวังการติดเชื้อหลังผ่าตัดวันสองวันนี้นะครับ เขาเป็นหมอ เขาน่าจะรู้เรื่องพวกนี้ดี องค์หญิงห้าให้คนมาดูแลเขาให้ดีก็พอแล้วครับ”
ตอนแรกหงส์ถูกผู้ช่วยของนายน้อยตระกูลแหลมวิไลพาไป เรื่องนี้เป็นที่รู้จักทั่วประเทศ มีรายงานในภายหลังว่าผู้ช่วยเสียชีวิต แต่ตอนนี้เขาปรากฏตัวต่อหน้าคุณหมอมิลิน และคุณหมอมิลินก็รู้ดีว่าเขาเห็นอะไร
“อย่างนี้ดีแล้ว องค์หญิงห้าครับ สองสามวันนี้ผมไม่มีเรื่องอะไรที่ต้องทำ ไม่อย่างนั้นผมจะคอยอยู่ที่นี่ดูแลเขา?”
คุณหมอมิลินเข้าใจความลับของวังแล้ว ในเมื่อเขาได้รู้ถึงในสิ่งที่ไม่ควรรู้ ชีวิตของเขาจึงน่าเป็นห่วง เพื่อครอบครัวและลูกๆ เขาจึงเลือกที่จะอยู่ต่อไป จนกระทั่งสงครามวังหลวงจะจบลง
หงส์ฟังความของคำพูดออกหมด เธอพยักหน้า “โอเคค่ะ ฉันจะส่งคนไปคุ้มครองคนในครอบครัวคุณ”
“ขอบคุณครับองค์หญิงห้า”
คุณหมอมิลิน รู้ว่านี่เป็นวิธีที่ดีที่สุด
เมื่อหงส์ส่งคนไปรับคนในครอบครัวคุณหมอมิลินมา คุณหมอมิลินก็ไม่พูดอะไรอีก
จณัตว์ถูกเข็นเข้าไปในห้อง ภายในราเชนจัดการเอาไว้ให้ทุกอย่างแล้ว เพียงแค่มองก็รู้ว่าในใจของราเชนมีจณัตว์
มันช่างไม่สบอารมณ์
หงส์อดที่จะปวดใจไม่น้อยเมื่อเห็นจณัตว์ที่กำลังนอนสลบอยู่
รูปร่างของจณัตว์ไม่ใช่รูปร่างแบบสง่าผ่าเผยและห้าวหาญ เขาค่อนข้างจะผอมบาง หากดูจากขนาดร่างกายแล้ว คงไม่มีใครเชื่อว่าชายผู้นี้มีความสามารถ หรือเป็นกระทั่งทหาร แต่เมื่อเวลานี้ที่ชุดของเขาถูกถอดออก ร่างกายของเขาก็ทำให้หงส์หน้าดำหน้าแดงไปเสียหมด
ถึงแม้เธอจะคิดขึ้นมาหมด แต่เธอก็ไม่คิดเลยว่ารูปร่างของเขาจะยอดเยี่ยมขนาดนี้ มันช่างทำให้คนคิดจินตนาการไปไกลเสียจริง
หงส์ตบหน้าตัวเอง ก่อนจะเดินไปหาดขา
จณัตว์ยังคงนอนหลับใหล
หงส์ยื่นมือไปแนบหน้าผากของเขา อุณหภูมิร่างกายของเขาลดลงแล้ว เธอนั่งลงข้างเตียงเพื่อรอเขาตื่นขึ้นมา
ข้างนอกยังมีเรื่องอีกมาก แต่หงส์ไม่สนใจ ในเมื่อราเชนไม่ให้เธอเข้าไปยุ่ง มันแสดงให้เห็นว่าเขาพร้อมเต็มที่ และหลักฐานของฉัตรพล คนของตัวเองก็จะนำกลับมาได้ทันเวลา ดังนั้นไม่ว่าข้างนอกจะเกิดอะไรขึ้น เธอก็ไม่สน
ตอนนี้คนรักเธออยู่ตรงหน้า ตรงนี้ก็คือบ้านของเธอ
หงส์เช็ดตัวเขาเป็นครั้งคราว ไม่รู้ว่าจณัตว์จะตื่นมาเมื่อไหร่ เธอพูดกับตัวเองว่า “แม้ว่าฉันจะมีชะตากรรมที่เลวร้าย แต่ตั้งแต่เด็กจนโตฉันไม่เคยดูแลใครเลย คุณคือคนที่โชคดีนะ รอคุณตื่นขึ้น เราจะต้องชำระบัญชี”
“อย่าคิดว่าสิ่งที่คุณทำเพื่อฉันมากมายมันจะยิ่งใหญ่ ฉันบอกคุณไว้เลยนะว่า เรื่องที่ฉันไม่รู้ไม่นับ คิดขึ้นมาได้คุณไม่เคยตามจีบฉันเลยนี่ ฉันถูกลักพาตัวแล้วกลายเป็นหญิงที่แต่งงานแล้ว คิดคิดแล้วก็น่ากลัวอยู่นะ”
หงส์ยิ่งพูดมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่รู้ตัวเลยสักนิดว่าจณัตว์ลืมตาขึ้นแล้ว มองเธอด้วยรอยยิ้มอ่อนบนใบหน้า
“แล้วก็นะ คุณพูดถึงฐานะของคุณตอนนี้ จะให้ฉันทำยังไง? คุณเป็นพี่ชายแท้ๆของพี่รองของฉัน หลังจากที่ฉันแต่งงานกับคุณ ฉันจะเรียกพี่รองของฉันว่าอะไร? คุณจะเรียกเขาว่าลุง หรือให้เขาเรียกฉันว่าสะใภ้ใหญ่? ปวดหัวจะตาย แล้วยังเฮียบุริศร์อีก คุณเป็นลูกพี่ลูกน้องของนรมน นรมนเป็นภรรยาของเฮียบุริศร์ ฉันเรียกว่าสะใภ้ใหญ่ สุดท้ายแล้วเธอต้องเปลี่ยนมาเรียกฉันว่าสะใภ้ใหญ่ นี่มันวุ่นวายจะตายแล้ว ช่างมันเถอะ หรือไม่แต่งดีนะ”
“กล้าเหรอ!”
ถึงแม้เสียงของจณัตว์จะเบาหวิว แต่ก็ยังมีความถือดีมาก
“ใบทะเบียนก็รับมาแล้ว คุณเสียใจไปก็ไร้ประโยชน์นา”
เมื่อหงส์ได้สติว่าจณัตว์ฟื้นแล้ว เธอรู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อยเมื่อคิดได้ว่าเมื่อกี้เธอพูดกับตัวเองเหมือนเป็นคนโง่
“นี่คุณแอบฟังฉันพูดเหรอ?”
“ผมไม่ได้แอบฟังเลยนะ แต่คุณพูดให้ผมฟังมากกว่า”
จณัตว์ตกหลุมรักหงส์ที่มีท่าทางเขินอายคนนี้
ตอนนี้แม้เขาป่วย แต่เมื่อถูกเปิดโปงเรื่องน่าอายนี่ก็ทำให้หงส์ไปไม่เป็น อีกอย่างโดยส่วนตัวเธอไม่ใช่ผู้หญิงที่ถูกเอาเปรียบ จึงอดไม่ได้ที่จะยื่นนิ้วมือออกไปหยิกที่เนื้อของจณัตว์
“ยังจะพูดอีก! คุณไม่รู้เหรอว่าหลังแต่งงาน ภรรยาพูดอะไรก็จะถูกหมด”
หงส์ออกแรงบิด แต่แรงเล็กน้อยของเธอทำให้จณัตว์รู้สึกจั๊กจี้ ในทางตรงกันข้ามมันทำให้หงส์หมดแรงด้วยซ้ำ
“นี่เนื้อคุณเหรอ? แข็งอะไรขนาดนี้ ไม่เจ็บเลยเหรอ?”
“นี่คุณลูบคลำมัน ไม่ใช่ว่าจะเป็นสบายมากต่างหากหรอกเหรอ?”
คำพูดของจณัตว์ ทำให้หงส์หน้าแดงเป็นลูกเชอรี่
“ฮึ อย่าทำชื่อเสียงของฉันเสื่อมเสียนะ ฉันเป็นคนเจ้าชู้ไหม?”
“อืม คุณเป็นคนเจ้าชู้ ไม่รู้ว่าใครให้ผมมา”
เมื่อคิดไปถึงเรื่องราวทั้งหมดของพวกเขาก่อนหน้า ก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา
“อย่าพูดนะ! ใครละ? ไม่ใช่ฉันแน่”
หงส์แบกรับความอับอายไว้จนจบ แต่เธอรู้สึกว่าใบหน้าของเธอแดงมาก
จณัตว์หยุดหยอกล้อเธอ ก่อนจะพูดด้วยรอยยิ้มว่า “รินน้ำให้ผมหน่อยสิ ผมหิวน้ำมากเลย”
“ไม่ได้ หมอบอกไว้แล้ว ว่าดื่มน้ำไม่ได้ ใช้ได้แค่สำลีก้านติดกันเท่านั้น รอก่อนนะคะ”
หงส์รีบลุกขึ้นรินน้ำ
เธอเคยทำสิ่งเหล่านี้เพื่อดูแลผู้คนมาก่อน แต่ตั้งแต่กลับมาที่ประเทศF นานแล้วที่เธอไม่ได้ทำ ไม่คิดเลยว่าจะมาทำอีกครั้งเพื่อจณัตว์ แต่ใจของเธอก็ไม่ได้ขัดแย้งอะไร
ทำตามคำสั่งของแพทย์ทำให้ริมฝีปากของจณัตว์ชุ่มชื่น จากนั้น เมื่อเห็นดวงตาที่ร้อนแรงของจณัตว์หัวใจของหงส์ก็เต้นแรงในทันใด
“คุณเพิ่งผ่าตัดเสร็จ นอนสักหน่อยเถอะค่ะ”
“คุณจะอยู่เป็นเพื่อนผมตลอดไหม?”
“อยู่สิ”
ไม่คิดเลยว่าจะมีวันที่จณัตว์ทำตัวเหมือนเด็กน้อย
จณัตว์ยิ้ม ก่อนจะปิดตาลง ไม่นอนนักเขาก็เข้าสู่นิทรา
อย่างไรเขาก็ได้รับการผ่าตัด แม้จะร่างกายแกร่งขนาดไหนก็รับไม่ไหว
เมื่อหงส์นึกถึงร่างกายของจณัตว์ เธอจึงสั่งให้คนมาดูแลเขา ก่อนที่ตัวเองจะเดินไปยังห้องครัว
คนที่ทำซุปได้มีไม่มาก ให้ถูกปากของจณัตว์
เธอคิดพลางยิ้ม
รอให้จณัตว์คืนสติ เธอสูดดมกลิ่นหอมของอาหาร อดไม่ได้ที่จะรู้สึกหิว
“ทำอะไรนะ หอมจัง”
“โจ๊กข้าวฟ่างนะ”
หงส์ยิ้มบาง ก่อนจะยกโจ๊กมา
โจ๊กข้าวฟ่างปรุงออกมาได้ดีมาก หนืดมาก
จณัตว์มองไปยังมือของหงส์ ก่อนจะถามเสียงเบาว่า “ทำเองกับมือเลยเหรอ?”
“ทำไมละคะ? กลัวฉันจะวางยาเหรอ?”
หงส์คิดว่าจณัตว์ไม่ชอบฝีมือของตัวเอง
จริงๆแล้ว นอกจากทำโจ๊กข้าวฟ่าง เธอก็ทำอย่างอื่นไม่ได้อีก อีกอย่างตอนนี้เขาจะกินอาหารอะไรได้บ้างไม่ทราบ?
แต่จณัตว์กลับส่ายหัว “หลังจากเรื่องราวพวกนี้ ผมจะทำเอง มือของคุณจะได้ไม่ต้องกร้าน”
หงส์นิ่งไปนิด ทันใดก็รู้สึกว่ามีกระแสอบอุ่นไหลวนในใจ
“ผู้ชายตัวใหญ่อย่างคุณจะเข้าครัวทำอาหาร จะดีเหรอ?”
“ไม่มีอะไรดีหรือไม่ดีหรอก ห้องครัวมีแต่กลิ่นควัน มันจะทำให้คุณแสบจมูกเอาได้”
“ฉันไม่ได้บอบบางขนาดนั้นนะคะ”
หงส์โต้กลับโดยไม่รู้ตัว เมื่อเห็นว่าจณัตว์กำลังยิ้ม ท่าทางนั้นทำให้หงส์กลืนคำพูดตัวเองลงไป
“ยิ้มอะไรคะ?ฟันขาวไหม?รีบกินสิ”
“ครับ เมียผู้ยิ่งใหญ่”
คำว่าภรรยาจากปากจณัตว์ ทำให้เธอหน้าชา
“ยังไม่จัดงานแต่งเลย ห้ามเรียกอย่างนั้น”
“นี่คุณกำลังโทษว่าผมไม่ได้จัดงานแต่งที่ใหญ่โตให้ใช่ไหม?”
“ฉันไม่ได้พูดแบบนั้นเลยนะ จณัตว์ คุณเข้าใจความหมายของฉันผิดไปได้ยังไงกัน”
หงส์รู้สึกเกลียดผู้ชายคนนี้จริงๆ
สีหน้าของจณัตว์เคร่งขรึม
“หงส์ ผมอาจจะไม่สามารถจัดงานใหญ่ให้คุณได้ในตอนนี้ พ่อของผมเพิ่งเสีย ผมต้องจัดการงานศพกับเนกษ์ มีงานมงคลควบคู่มากับงานศพด้วย เกรงว่างานแต่งของเราคงต้องเลื่อนไปก่อนนะ”
“ฉันเข้าใจค่ะ ไม่โทษคุณหรอก“
หงส์เข้าใจสถานการณ์ของจณัตว์ ถ้าไม่ใช่เพราะสมชัย ตระกูลแหลมวิไลคงไม่เป็นเช่นนี้
“เนกษ์ละ?”
จณัตว์ค่อยนึกถึงเนกษ์ขึ้นมาได้ถึงมิตรภาพของเขาทั้งสอง ตอนนี้เขาคืนสติแล้ว เป็นไปไม่ได้ที่เนกษ์จะไม่มาหาเขา
นอกเสียจาก… …
สีหน้าของจณัตว์เปลี่ยนไป
หงส์เห็นเขาตระหนก จึงรีบพูดว่า “ไม่ต้องห่วงค่ะ พี่รองของฉันพาเขาไป ไม่เกิดอะไรขึ้นกับเขาแน่ค่ะ ยิ่งไปกว่านี้ ฉันไม่คิดว่าจะมีอะไรผิดปกติกับเนกษ์เมื่อไปที่นั่น พละกำลังพี่รองของฉันไม่เหมือนอย่างที่เราเห็น และเราประเมินพี่รองต่ำเกินไปมาหลายปีแล้ว ฉันเพิ่งรู้ตอนนี้ว่าถ้าเขาได้นั่งในตำแหน่งนั้น มันเป็นอะไรที่สมควรแล้ว”
จณัตว์นึกถึงราเชน จึงนึกขึ้นมาได้ว่านี่ไม่ใช่ที่อยู่ของเขาและหงส์ ดังนั้น… …
“นี่บ้านของราเชน?”
“ใช่ค่ะ ถ้าไม่ใช่เพราะพี่รอง ฉันคุณหรือเนกษ์ คงไม่รอดแน่ พี่รองพาคนมาช่วยเราออกมาจากที่นั่น แล้วเขาก็ไปที่วัง”
คำพูดของหงส์ทำให้จณัตว์แปลกใจ และกังวลเล็กน้อย เขาดิ้นรนลุกขึ้นยืน ทว่าหงส์ห้ามเขาไว้ก่อน
“คุณจะทำอะไรคะ? สภาพของตัวเองเป็นยังไงไม่รู้บ้างเหรอ?”
“ถ้าเขาบีบบังคับให้กษัตริย์สละราชสมบัติ ใครจะรับประกันได้ว่าไม่ใช่กับดักของสมชัย? หุนหันเกินไปแล้ว!”
จณัตว์ไม่สามารถนอนเฉยๆ ได้อีกต่อไป
หงส์ไม่ได้คิดความเป็นไปได้ข้อนี้เลย แต่อาการขาดเจ็บของจณัตว์สำคัญที่สุด เธอขวางจณัตว์ ก่อนพูดอย่างจริงจังว่า
“พี่รองพูดกับฉันว่า เรื่องของนอกไม่ต้องให้ฉันเข้าไปยุ่งค่ะ เขาจัดการเองได้ หน้าที่ของฉันคือดูแลคุณ
ดังนั้นนะคะจณัตว์ อย่าให้ฉันต้องใช้ความรุนแรงกับคุณเลย”
“ญาณิน นี่ไม่ใช่เรื่องล้อเล่นนะ ให้ผมไป!”
“ให้อะไร? จณัตว์ คุณคิดว่าถ้าโลกนี้ขาดคุณไปแล้วมันจะไม่หมุนเหรอคะ? หรือว่าตัวคุณสำคัญขนาดนั้นกัน สำคัญขนาด
ที่ว่าใครๆ ก็ต้องการคุณ? ถ้าหากตอนนี้คุณคอยช่วยเหลือพี่รองมาตลอด หลังจากเขาได้นั่งตำแหน่งนั้น หรือว่าคุณอยาก
จะสำเร็จราชการแทนพระราชา? สอนเขาว่าควรจัดการบ้านเมืองยังไง? พี่รองฉันไม่เด็กแล้วนะ เขารู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไร”
ตลอดมาหงส์ไม่เคยชัดเจนเกี่ยวกับคนนี้ขนาดนี้เลย
ราเชนไม่ใช่คนใจแคบ!
“คุณเชื่อเขาขนาดนั้นเลย?”
“ฉันเชื่อ! เหมือนเมื่อปีก่อนๆ ที่ฉันเชื่อว่าคุณจะแกร่งขึ้นได้ เป็นคนที่จะปกป้องฉันจากอันตรายที่มีอยู่ได้แบบนั้นเลย!”
ดวงตาของหงส์แน่วแน่
จณัตว์มองไปที่เธอ พลันหัวใจก็เต้นรัว เขายื่นมือออกไปดึงเธอเข้ามาในอ้อมแขน ก่อนจะประทับจูบอันร้อนแรงลงไปบน
ริมฝีปากของเธอแทน