แค้นรักสามีตัวร้าย – บทที่ 1481 เธอลำพองใจเกินไป

บทที่ 1481 เธอลำพองใจเกินไป

ใบหน้าของหญิงสาวปรากฏขึ้นในสมองของกานต์

โดยไม่พูดอะไร เขารีบหาเบอร์ของอีกฝ่าย ก่อนจะพิมพ์สองคำแสนเย่อหยิ่งและกดส่งไปหา

“ไสหัวออกไป!”

หลังจากทำเรื่องนี้เสร็จ กานต์ก็นอนพักผ่อน

ตั้งแต่กลับมาเขาไม่เคยได้พักผ่อนดีๆ เลย ดูสภาพของคุณบุริศร์ ต่อไปคงจะลำบากมาก ดังนั้นเขาควรนอนเอาแรงเสียก่อน

บุริศร์ส่ายหัวเล็กน้อยเมื่อสังเกตเห็นว่าลูกชายของเขาหายไป มุมปากของยกขึ้นเล็กน้อย

หลังจากที่เขาบล็อกสัญญาณโดยรอบตามหมายเลขโทรศัพท์ที่เจตต์ส่งมาให้แล้วนั้น จึงโทรหาอีกฝ่ายทันที

“ผมคือคนที่เจตต์แนะนำ ถ้ามีเรื่องอะไรเขาให้โทรหาคุณ”

บุริศร์ใช้โปรแกรมแปลงเสียง

เขาไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะเป็นมิตรหรือว่าศัตรู เขาจะไม่เปิดเผยตัวเองอย่างรวดเร็ว

อักฝ่ายเป็นผู้หญิง เมื่อได้ยินเสียงของบุริศร์ เธอจึงรีบพูดว่า “ฉันรู้ว่าคุณต้องการถามอะไร ทุกอย่างที่นี่ยังเหมือนเดิม ผู้อำนวยการออกไปดูงานเมื่อไม่นานมานี้ แต่ออฟฟิศของผู้อำนวยการดูเหมือนจะมีคนอยู่ ไม่อนุญาตให้ใครเข้าไปค่ะ”

“โอเค ขอบคุณมาก เรื่องในวันนี้หวังว่าคุณจะทำว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น”

บุริศร์วางสาย จากนั้นจึงหาตำแหน่งออฟฟิศของผู้อำนวยการผ่านทางคอมพิวเตอร์ ส่งไปให้ชัยยศ

“ไปตรวจสอบดูว่ามีอะไรที่ไม่เข้าท่าในออฟฟิศนี้”

“ครับ”

ชัยยศวางงานในมือลง ก่อนจะติดอาวุธเข้าสนามรบ

ไม่นานนักบุริศร์ก็ได้รับข้อความตอบกลับจากชัยยศ ว่าในออฟฟิศของผู้อำนวยการไม่มีอะไร ไม่มีเบาะแสใดหลงเหลือเลย เขาเก็บลายนิ้วมือมาตรวจ และนอกจากลายนิ้วมือของผู้อำนวยการก็ไม่มีของใครอื่นอีก

ตรงจุดนี้ทำให้บุริศร์สงสัย

หรือว่าสายลับจะโกหกเขา หรือไม่ก็ฝั่งตรงข้ามจะระวังตัวแจและเปลี่ยนตำแหน่งไปแล้ว

ไม่ว่าจะพูดอย่างไร เงื่อนงำนี้ก็ถูกตัดขาดไปแล้ว นภดลตอนนี้อยู่ที่ไหน ก็มีเพียงฟ้าที่รู้ ได้แต่สืบหาไปตามเบาะแส

บุริศร์ตรวจสอบตำแหน่งของจุดสีแดง ตอนนี้ได้เข้ามายังชายแดนของประเทศF แล้ว แต่กลับหยุดอยู่ที่ไหนสักแห่ง

เมื่อเขารีบขยายดูระยะทางเพื่อสังเกต ก็พบว่าเป็นจวนของพระอนุชาฉัตรพล

ถ้าอย่างนั้นดร.ฐานทัตก็เป็นคนที่เกี่ยวข้องกับคนที่อยู่เบื้องหลังเขาและฉัตรพลเหรอ?

บุริศร์ไม่เข้าใจ เขาส่งข้อความหงส์และจณัตว์โดยตรง

คืนเดียวกันในวันนั้น ในจวนของพระอนุชาฉัตรพลกำลังเกิดไฟไหม้ ความรุนแรงของไฟแผดเผาท้องฟ้าไปเสียครึ่งหนึ่ง และในขณะเดียวกัน การสู้รบของสมชัยและฉัตรพลก็เข้าขั้นดุเดือน

ฉัตรพลรู้สึกว่านี่เป็นตัวสมชัยเองที่ลงมือกับตัวเอง

ในช่วงที่กำจัดไฟคณะรัฐมนตรีก็ได้เริ่มช่วยกันก่อกบฏกับสมชัย และในขณะเดียวกันหงส์และจณัตว์ก็ได้แอบเข้าไปในซากปรักหักพังของจวนพระอนุชาฉัตรพล

จณัตว์มองไปยังหงส์ที่ตามหลังเขามา ก่อนจะพูดอย่างช่วยไม่ได้ว่า “ไม่ใช่ว่าผมให้คุณคอยสนับสนุนข้างนอกเหรอ?”

“คุณคิดว่าฉันจะฟังหรือไงคะ? ช่วงนี้คุณชักจะสั่งฉันเยอะไปหน่อยแล้วนะ”

หงส์กรอกตาอย่างล้อเลียน ท่าทางนั้นช่างน่ารักเหลือทน

จณัตว์ลูบหัวเธออย่างช่วยไม่ได้ ก่อนจะพูดเสียงต่ำว่า “อีกเดี๋ยวก็อย่าพุ่งไปข้างหน้า มีอันตรายอะไรก็บอกผมก่อนค่อยลงมือ รู้ไหม?”

“โอย รู้แล้วน่า คุณนี่น่ารำคาญจริงเลย”

พูดจบหงส์ก็ก้าวไปข้างหน้า แต่กลับถูกจณัตว์ดึงคอเสื้อเสียก่อน และลากไปทางอื่นเหมือนไก่

“มาทางนี้ แค่ทิศทางยังไม่ถูก แล้วยังจะทำเป็นทหารแนวหน้า”

จณัตว์ยิ้มขำ คำดูถูกทำให้หงส์หงุดหงิด

“อย่าลำพองใจไปหน่อยเลยค่ะ รอกลับก่อนเถอะ คอยดูแล้วกันว่าฉันจะจัดการคุณยังไง”

หงส์ขู่ฟ่อ ยังไม่ทันได้พูดจบ จณัตว์ก็เอามือปิดปากเธอ ก่อนหิ้วเธอหลบซ่อนตัว

ฝีเท้าหลายคู่ที่ดังมา ทำให้หงส์ละทิ้งความขี้เล่น เธอยืนข้างจณัตว์อย่างระวังตัว

เธอพยายามชะโงกไปดูหลายรอบว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ทว่าถูกจณัตว์กดศีรษะลงไป ทำให้มองอะไรไม่เห็น

ไอ้นี่

ครั้งหน้าจะไม่ออกมากับเขาละ

หงส์พึมพำในใจ

เสียงฝีเท้าที่แน่นขึ้นเรื่อยๆ ทำให้คิ้วของจณัตว์ขมวดมุ่น

เสื้อผ้าของอีกฝ่ายเป็นเสื้อกาวน์แล็บสีขาวล้วน เห็นได้ชัดว่ามาจากห้องวิจัย แต่ไม่ชัดเจนว่าใครเป็นเจ้าของห้องวิจัยนี้

สถาบันวิจัยทางทหารที่ดำเนินการโดยสมชัย อาจถูกฉัตรพลเข้ายึดหรือเปล่า?

จณัตว์ไม่ค่อยแน่ชัด

หงส์มองเห็นคนเหล่านั้นเดินไปอีกทางหนึ่งจากช่องว่างผ่านแขนของจณัตว์ และอดไม่ได้ที่จะกระซิบว่า “เหมือนฉันจะรู้จักคนนั้นนะ”

“คนไหน?”

“คนที่นำหน้า ดูเหมือนเป็นคนจากสถาบันวิจัยของสมชัย”

คำพูดของหงส์ยืนยันการคาดเดาของจณัตว์

แน่นอนแล้วว่า คนของสมชัยถูกควบคุมโดยฉัตรพล

หรืออีกอย่างก็คือฉัตรพลรู้เรื่องภายในของสมชัยมากเกินไป ดังนั้นตอนนี้ฉัตรพลคงได้เปรียบในการดวลกันครั้งนี้

“จณัตว์ คุณว่าตอนนี้เกิดอะไรขึ้นกันแน่? หรือจะเป็นอย่างที่เฮียบุริศร์พูดจริงๆ ว่านภดลถูกจับมาที่นี่”

“ไม่แน่ใจ อีกสักพักค่อยลองเข้าไปดู ที่นี่ถูกเผาราบอย่างนี้ คิดไม่ถึงเลยว่ายังมีคนของสถาบันวิจัยอยู่ที่นี่ สถาบันวิจัยอยู่ที่นี่แต่น่าจะอยู่ใต้ดิน”

จณัตว์กระซิบ

หงส์คิดตาม

ใต้ดิน?

ถ้าอยู่ข้างล่างจริงเหมือนว่าเธอจะรู้ช่องทางอื่นนะ

“ตามฉันมา”

เธอตบบ่าของจณัตว์

“ไปทำไม?”

จณัตว์อดจะถามไม่ได้เมื่อเห็นหงส์เดินออกไป

“เดินไปกับฉันก็พอแล้วค่ะ นี่คืออาณาเขตของฉัน ฉันรู้จักมันดีกว่าคุณ”

ท่าทางอวดเก่งของหงส์ ทำให้จณัตว์ยิ้มบางๆ ขึ้นมา

“โอเค นี่อาณาจักรคุณนี่”

ท่าทางขี้เล่นตอนนี้ของเขาทำให้หงส์รู้สึกไม่จริง

จณัตว์คนก่อนอยู่ไหน?

หงส์สลัดความคิดบ้าๆบอ ๆ ในใจออกอย่างรวดเร็ว และดึงจณัตว์ออกจากจวนของพระอนุชาฉัตรพล

ตรงทางเดินข้างนอกเต็มไปด้วยทหาร สภาพนี้คงอยู่มาช้านาน และกระทบกับชีวิตปกติของประชาชนอย่างสาหัส

หงส์กระซิบ “เรื่องนี้จะจบลงเมื่อไหร่นะ? สงครามกลางเมืองมันรุกรานประชาชน ใครที่กุมอำนาจไม่สำคัญสำหรับพวกเขาหรอก คนที่ทำให้พวกเขาอยู่อย่างสงบสุขต่างหากที่สำคัญที่สุด ถึงแม้ประเทศF จะเป็นประเทศเล็กๆ ทว่าคนส่วนใหญ่ยังคงสนับสนุนสันติภาพและประชาธิปไตย”

จณัตว์รู้ดีว่าสงครามกลางเมืองได้นำพาประชาชนไปสู่ความร้ายแรงเพียงใด แต่เมื่อพิจารณาจากสถานการณ์ปัจจุบัน สงครามกลางเมืองนี้น่าจะจบลงในไม่ช้า

“คาดว่าคงจะใกล้สิ้นสุดแล้วละ”

“อะไรทำไมให้พูดอย่างนี้ได้คะ?”

หงส์แปลกใจ

ข้อมูลบางอย่างเกี่ยวกับสงครามกลางเมืองนั้นเป็นสิ่งที่พวกเขาไม่สามารถเข้าร่วมและถามได้ แต่ตอนนี้ในเมื่อจณัตว์พูดขึ้นมา มันทำให้หงส์ประหลาดใจเล็กน้อย

จณัตว์พูดเสียงต่ำ “ถ้าหากคนที่จับนภดลไปมีความสัมพันธ์กับผู้สั่งการเบื้องหลังและฉัตรพลละก็ เท่ากับว่าฉัตรพลได้รับความช่วยเหลือจากต่างประเทศเป็นพิเศษ และตัวของสมชัยเองกับเขาก็ถูกจับคู่อย่างเท่าเทียม ตอนนี้ก็เป็นฝ่ายเสียเปรียบแล้ว ถ้าผมเดาไม่ผิดนะ ไม่กี่วันนี้ก็รู้ผลแล้วละ”

หงส์เพิ่มความสงสัย

“ไม่ใช่ว่าคนเบื้องหลังที่จับตัวนภดลไปคือฉัตรพลเหรอ?”

“ถ้าหากฉัตรพลคือคนเบื้องหลังที่จับนภดลไป ถ้าอย่างนั้นในหลายปีมานี้ฉัตรพลคงไม่สามารถนอนจำศีลอยู่เฉยๆ อย่างนี้แน่ และถ้าเป็นเขาตั้งแต่ทีแรก ตอนกล้าณรงค์ตายเขาก็คงฆ่าสมชัยโดยตรง แทนที่จะปล่อยเวลาให้ยาวนานอย่างนี้ เห็นได้ชัดเลยว่าฉัตรพลเพิ่งจะติดต่อกับคนเบื้องหลังคนนั้นเมื่อไม่นานมานี้”

เมื่อได้ยินจณัตว์พูดอย่างนี้ หงส์ก็รู้สึกไม่เข้าท่า

“คนที่อยู่เบื้องหลังนี่เป็นใครกันแน่?”

“เดี๋ยวก็รู้ ตอนนี้คุณกำลังผมไปที่สถาบันวิจัยใต้ดินใช่ไหม?”

“อืม คุณก็เคยไปมาแล้ว”

คำพูดของหงส์ทำให้จณัตว์นิ่งงัน ก่อนจะเข้าใจว่าคืออะไร

“คุณหมายถึงสถาบันวิจัยการทหารที่สมชัยดูแลอยู่? สามารถทะลุไปบ้านของฉัตรพลได้?”

“ฉันเดาค่ะ ดังนั้นก็เลยต้องพิสูจน์ ถึงแม้ประเทศFจะเล็กแต่ที่หลบภัยใต้ดินเชื่อมต่อกันทั้งหมด เดิมทีแล้วได้รับการออกแบบมาเพื่อป้องกันผู้คนบุกรุกมาจากภายนอก โดยปกติแล้วผู้คนยังมีที่ว่างอยู่ใต้บ้านอีกด้วย ดังนั้นถ้าเป็นสถาบันวิจัยใต้ดินละก็ ไม่จำเป็นต้องเข้าทางด้านบน”

หงส์ได้ศึกษาประเทศ F อย่างถี่ถ้วนมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา ตอนนี้มันช่วยเธอได้มาก

จณัตว์มองไปทางภรรยาตัวน้อย และยิ้มพลางพูดไปด้วยว่า “คุณว่าสมชัยจะรู้สึกยังไงถ้าเห็นคุณทำแบบนี้กับเขา?”

“เขาคงเกลียดฉันมาก แล้วก็คงไม่พิจารณาถึงเรื่องที่ตัวเองทำผิดหรอก และเขาก็ไม่ได้มีความรู้สึกอะไรกับฉันด้วย”

มีร่องรอยความเกลียดชังพาดผ่านในแววตาของหงส์

สำหรับสมชัย เธอไม่มีความรู้สึกรักใคร่แบบพ่อกับลูกสาวเลยสักนิด มีบางครั้งเธอรู้สึกว่าตัวเองเลือดเย็น ไม่มีความรู้สึกรักเทิดทูนกับผู้เป็นพ่อ ทว่าด้วยสิ่งที่เขาทำทั้งหมดมันทำให้เธอไม่ได้มีความรู้สึกดีๆ ด้วย

จณัตว์มองหงส์ ราวกับมีอะไรจะพูด แต่ก็ลังเลอยู่นาน สุดท้ายเขาก็ไม่ได้พูดอะไรออกไป

“ไปหาคนก่อนเถอะ”

“โอเค”’

ทั้งสองคนตรงไปยังสถาบันวิจัยการทหาร

ประตูของที่นี่ถูกล็อคไว้แล้ว ดูเหมือนว่าสมชัยจะปิดที่นี่ไว้ เนื่องจากมีภาวะสงครามกลางเมืองกับฉัตรพล แต่ยังไงหงส์ก็เข้าไปได้

เธอหยิบกุญแจออกมาจากกระเป๋ากางเกง ก่อนจะเปิดประตูเข้าไป

จณัตว์กระซิบ “คุณมีกุญแจของสถาบันวิจัยการทหารได้ยังไง? มีที่ไหนในประเทศFบ้างที่คุณเข้าไปไม่ได้?”

“มีสิ ห้องน้ำผู้ชายไง”

คำพูดของหงส์ทำให้หน้าของจณัตว์มืดมน

“นี่คุณคิดอยากเข้าห้องน้ำผู้ชาย? ญาณิน คุณหมายความว่าอะไร? มีผมมันยังไม่พอเหรอ? ผู้ชายพวกนั้นมีคนดูดีกว่าผม?”

เมื่อได้ฟังคำพูดหน้าไม่อายของเขา มุมปากของหงส์ก็กระตุก เธอไม่สนใจเขาอีกต่อไป

เมื่อทั้งสองเข้าไปในสถาบันวิจัยการทหารแล้ว จณัตว์ก็พบเห็นบางอย่างผิดปกติ

พูดตามหลักคือที่นี่ถูกปิด ของทุกอย่างในนั้นควรถูกกำจัดทิ้งไป แต่ตอนนี้ เมื่อเห็นห้องปฏิบัติการที่ยังคงทำงานอยู่ และแม้แต่ร่องรอยของตัวอย่างการวิจัยทุกชิ้นที่ถูกเคยพลิกไปมา จณัตว์ก็เข้าใจในทันใดว่าหงส์กำลังพูดอะไร

ดูเหมือนช่องใต้ดินคงเชื่อมต่อกันจริงๆ

หงส์พาจณัตว์ซอกแซกไปมา เมื่อมาถึงห้องเก็บของ ก็กระซิบบอกเขาว่า “ที่นี่น่าจะเป็นทางลงไปใต้ดิน เป็นครั้งแรกที่ฉันมานี่ ดังนั้นข้างล่างจะมีอะไรเกิดขึ้นฉันก็ไม่รู้ จณัตว์ พวกเราควรพาคนมากกว่านี้ลงไปด้วยไหม?”

“ไม่ต้องหรอก แต่ผมจะส่งข้อความไปบอกคนอื่นก่อน”

ดวงตาของจณัตว์อลหม่าน เขาไปอีกทางเพื่อส่งข้อมูลให้เนกษ์

หงส์ไม่ได้พูดอะไร เธอรู้สึกเสมอว่าจณัตว์ดูเหมือนจะทำอะไรที่ยิ่งใหญ่ และสิ่งที่ยิ่งใหญ่นี้ดูเหมือนจะเกี่ยวข้องกับเธอ

แต่จณัตว์ไม่พูด เธอก็ไม่ได้ถาม นี่คือความไว้วางใจที่เธอมีต่อเขา

เมื่อจณัตว์ส่งข้อความเสร็จแล้ว ก็วางแผนจะลงไปข้างล่างผ่านทางห้องเก็บของกับหงส์ ทันใดก็มีเสียงฝีเท้าหนักๆ ดังแว่วมาจากข้างล่าง ทำให้หงส์กับจณัตว์ต้องซ่อนตัวอย่างเร็ว

####บทที่1482 ฉันจะช่วยคุณให้ถึงที่สุด

หงส์ตื่นเต้นเล็กน้อย เธอคว้าแขนเสื้อของจณัตว์ไว้แน่น ใบหน้าเล็กที่จริงจังแนบเข้ากับหน้าอกแกร่งของจณัตว์ ลมหายใจอุ่นๆของเธอแผ่ซ่านปะทะเขาเป็นครั้งคราว

สีหน้าของจณัตว์แดงเล็กน้อย

ผู้หญิงคนนี้ทำให้เขาโหยหาได้ตลอดเวลา ยิ่งตอนนี้ทำให้เลือดในกายเห่อร้อน นี่ถ้าไม่ใช่สถานการณ์ฉุกเฉิน เขาจะคิดว่าหงส์ตั้งใจ

หงส์ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับความคิดจณัตว์ ท่าทางระมัดระวังทำให้จณัตว์ละทิ้งเธอไม่ได้

หลายปีมานี้หงส์จะระมัดระวังตัว และตัวสั่นงันงกตลอด เมื่ออารมณ์ตึงเครียดเธอมักจะแสดงอาการอยู่ตลอดเวลา ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าวิตกและน่าไม่สบายใจจริงๆ

เขาเหยียดแขนออกไปโอบหงส์ไว้แน่น ลมหายใจที่พัวพันกันและกัน ทำให้เขารู้สึกคลุมเครือเล็กน้อย

หลังจากที่หงส์ได้รู้ถึงปัญหานี้ เธอต้องการที่จะถอนกายออก ทว่าถูกจณัตว์รัดเอาไว้แน่น เธอรู้สึกได้ถึงไอร้อนในกายเขาได้อย่างชัดเจน

ทันใดหน้าของเธอก็แดงก่ำ

จณัตว์ชื่นชมความเขินอายของภรรยาตัวน้อยของเขา แต่น่าเสียดายที่สถานที่นี้ไม่เหมาะ

เขาสำรวมอาหาร เมื่อได้ยินว่าประตูห้องใต้ดินของห้องเก็บของถูกเปิดออก กลุ่มคนก็ขึ้นมาจากด้านล่าง

“ระวังหน่อย เลือดนี้มีค่ามาก อย่าทำหก”

คนที่เป็นหัวหน้าสวมหน้ากากอนามัย และมองไม่เห็นว่าหน้าตาเป็นอย่างไร แต่เลือดในมือของเขาทำให้จณัตว์รู้สึกคุ้นตา

เลือดของนภดล!

เลือดสีน้ำเงินส่องประกายแวววับ

จณัตว์หรี่ตา

เลือดที่ถูกดึงออกมา หรือที่ได้รับมาตอนนี้ ดังนั้นจึงไม่รู้แน่ชัดถึงที่อยู่ของนภดล

หงส์เห็นแล้ว อดไม่ได้ที่จะตามออกไป แต่กลับถูกจณัตว์ขวางไว้ก่อน

เขาส่ายหน้า รอให้คนเหล่านั้นออกไปก่อนจึงพูดว่า “ตอนนี้การหานภดลสำคัญที่สุด”

“แต่ถ้าคนเหล่านั้นศึกษาองค์ประกอบของเลือดอย่างละเอียดถี่ถ้วน นั่นคือหายนะ”

หงส์กังวลใจ

จณัตว์เคยบอกกับเธอไว้ว่าเลือดของนภดลมีค่ามาก มันจะทำให้เกิดหายนะถ้าถูกใช้โดยคนที่มีจิตใจคาดเดาไม่ได้

“ไม่เป็นไร การวิจัยของพวกเขาจะไม่ประสบความสำเร็จ”

ดวงตาของจณัตว์มีแววเย็นชา

เขาเดินตามไปอย่างรวดเร็ว ฉวยโอกาสทำคนสุดท้ายหมดสติ ก่อนจะถอดเสื้อคลุมสีขาวของอีกฝ่ายออกแล้วสวม หงส์ก็ให้ความร่วมมือในลากคนนั้นออกไป

ทุกคนสวมหน้ากาก ไม่นานจณัตว์ก็ซึมเข้าไปได้

เขาดูหัวหน้านำเลือดของนภดลไปที่ห้องวิจัย ดวงตาเป็นประกายด้วยความตื่นเต้นและพูดว่า “ดร.ฐานทัตยังไม่มา เลือดนี้ต้องถูกเก็บไว้อย่างปลอดภัย รอให้ดร.ฐานทัตมาพรุ่งนี้ พวกเราก็จะเริ่มวิจัยได้ ช่างเป็นเลือดที่อัศจรรย์มาก เป็นครั้งแรกที่ฉันได้เห็นเลือดสีน้ำเงิน”

คนอื่นๆก็ดูปีติยินดีเช่นกัน

จณัตว์ครุ่นคิด

ดร.ฐานทัตยังไม่มาอีกเหรอ?

ถ้าอย่างนั้นเครื่องบินลำนั้นพาใครมา?

จุดสีแดงบนร่างกายของนภดลปรากฏบนเครื่องบินได้อย่างไร?

ดร.ฐานทัตอยู่ที่ไหน?

เครื่องหมายคำถามแวบผ่านในสมองของจณัตว์ เขารีบสำรวมอาการ เมื่อเห็นหัวหน้าคนนั้นเก็บเลือดไว้ในที่ที่ปลอดภัย ด้วยฟังก์ชั่นการเก็บรักษา ก็ดูระมัดระวังจริงๆ

จณัตว์เมื่อเห็นพวกเขาทำเรื่องพวกนี้เสร็จก็วางแผนที่จะแฝงอยู่ในกลุ่มนี้ต่อไป ลองดูว่านภดลจะอยู่ที่ไหน หงส์กลับร้อนใจ

อีกฝ่ายเป็นใครไม่รู้ มีกี่คน ไม่รู้ว่าจะมีกับดักรอพวกเขาอยู่ไหมเธอไม่รู้แน่ชัด จณัตว์เข้าไปอย่างประมาทเลินเล่อได้อย่างไร?

แต่เธอออกไปไม่ได้ จึงอดที่จะยิ่งร้อนใจไม่ได้

จณัตว์รู้ว่าหงส์เป็นห่วง แต่ว่าตอนนี้เขาไม่มีเวลามาอธิบายอะไรกับหงส์อีกแล้ว

เธอมองตามจณัตว์ที่เดินไปกับกลุ่มคนเหล่านั้นไป ร้อนใจจนแทบอยากตามไปกับเขาด้วย แต่กลับนึกถึงเนกษ์และพวกตระกูลแหลมวิไล

ถ้าเธอและจณัตว์ถูกจับขัง ใครจะไปแจ้งเนกษ์ละ?

แม้ว่าหงส์จะเศร้าใจ แต่ก็ห้ามตัวเองไม่ให้ใจร้อน

เมื่อมองไปที่เลือดของนภดลที่ถูกเก็บไว้อย่างปลอดภัย หงส์ก็นึกถึงคำพูดของจณัตว์

เขาบอกว่าพวกเขาจะวิจัยไม่สำเร็จ หรือพูดอีกอย่างคือจณัตว์มีแผน แต่ตอนนี้จณัตว์ตามคนเหล่านั้นไป เธอไม่รู้ว่าแผนนี้จะเริ่มดำเนินการเมื่อไหร่

หงส์หรี่ตาลงเล็กน้อย ก่อนจะก้าวไปข้างหน้าอย่างเงียบ ๆ และเปิดตู้นิรภัยโดยใช้วิธีการก่อนหน้านี้ ก่อนจะนำเลือดของ นภดลออกมา แล้วรีบออกจากสถาบันวิจัยการทหาร และตรงไปยังบ้านตระกูลแหลมวิไล

เธอเชื่อว่านั่นคือสิ่งที่จณัตว์ต้องการทำ ดังนั้นเธอจึงทำมัน และขั้นตอนต่อไปคือแจ้งให้ครอบครัวของจณัตว์และคนของตัวเองไปช่วยจณัตว์

จณัตว์เดินตามกลุ่มคนลงไปข้างล่างอยู่นาน ระหว่างเดินผ่านก็ได้ทำการตรวจสอบและซักถาม โชคดีที่เขายังมีไหวพริบ ก็เลยแฝงตัวอยู่ได้

หลังจากที่มาถึงหลุมหลบภัยที่อยู่ใต้จวนของพระอนุชาฉัตรพลแล้ว นี่เป็นครั้งแรกที่จณัตว์เห็นนภดล

นภดลถูกยานอนหลับ เขานอนหลับเงียบๆอยู่ในโลงแก้ว

มีเครื่องมือต่างๆ รอบตัวเขา ซึ่งดูเหมือนหนูขาวที่กำลังถูกทดลอง

ทันใดจณัตว์ก็รู้สึกโศกเศร้า

เขาเคยฟังบุริศร์ นภดลใช้ชีวิตแบบนี้มาตั้งแต่เด็ก เขาเป็นแพทย์ วิจัยหัวข้อต่างๆ รู้ว่าจะต้องประสบอะไรมาบ้าง เมื่อกี้นึกขึ้นมาได้ว่าเห็นเลือดสีน้ำเงินของนภดล ดวงตาของจณัตว์ก็มืดครึ้มลง

แผนของนภดลจณัตว์รู้ บุริศร์ขอให้เขาปกป้องความปลอดภัยของนภดล ดังนั้นจณัตว์จึงไม่อาจทำอะไรสะเพร่าได้

ที่นี่คือคนของสถาบันวิจัยการทหาร อาจจะติดตั้งอุปกรณ์ ดังนั้นระบบกล้องวงจรปิดก็คงดีมาก ใครก็ตามที่ต้องการส่งข้อความที่นี่โดยพื้นฐานแล้วจะถูกบล็อก ดังนั้นตอนนี้จณัตว์ก็เหมือนพลทหารที่เข้าร่วมสงครามอย่างโดดเดี่ยว

ไม่รู้ว่าหงส์กลับไปหรือยัง?

หวังว่าผู้หญิงคนนั้นจะไม่ตามเขามา

จณัตว์คิดพลางเดินตามกลุ่มคนจากไป

เขารู้ว่าตัวเองไม่อาจอยู่ที่นี่ได้นาน ไม่อย่างนั้นจะถูกคนสงสัยเอาได้ และก็คงแอบซ่อนอยู่ได้ไม่นานด้วย เพราะว่าตอนกลางคืนจะมีการตอกบัตรออกจากพื้นที่ ในขณะนั้นจะต้องมีการตรวจสอบลายนิ้วมือด้วย

จณัตว์จำตำแหน่งไว้แล้ว เขาจะฉวยโอกาสตอนที่ผู้คนไม่ค่อยสนใจหลบหนีออกมาอย่างเร็ว

เขาไม่รู้ว่า หงส์จะทำลายเลือดของนภดลหรือไม่ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการช่วยเหลือนภดลก่อนตอนนี้

จณัตว์หลีกเลี่ยงทีมลาดตระเวนด้วยทักษะที่ว่องไวของเขา ก่อนจะรีบไปที่โลงแก้วของนภดลอย่างรวดเร็ว

เมื่อตอนที่เขากำลังจะตัดพลังงาน ทันใดนภดลก็ลืมตาตื่นขึ้น

“อย่าขยับ! มีสัญญาณเตือนภัย”

จณัตว์ชะงัก เห็นความตื่นตัวในดวงตาของนภดลทันที

นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นนภดล และเป็นครั้งแรกที่เห็นดวงตาของเขา ทันใดก็เข้าใจว่าทำไมหลายคนถึงอยากศึกษาเขา

“ผมคือจณัตว์”

เขารีบเปิดเผยชื่อตัวเอง เพราะกลัวจะทะเลาะกัน

นภดลถูกทำให้สลบแต่กลับตื่นมาเร็วขนาดนี้ ดูท่าจะคิดเตรียมการไว้นานแล้ว

เมื่อได้ยินว่าเขาเป็นใคร ความระมัดระวังของนภดลเลือนหายไปอย่างกะทันหัน และมีร่องรอยของมิตรภาพตามมาเล็กน้อย

“อย่าเพิ่งช่วยผมก่อน ดร.ฐานทัตและคนเบื้องหลังก็ยังไม่มา ผมมาที่นี่ก็เป็นแค่หน้าฉาก หลอกล่อให้พวกคุณมาที่นี่ ส่วนเหตุผลที่แท้จริงผมไม่แน่ชัด”

คำพูดของนภดลทำให้จณัตว์ขมวดคิ้ว

“หลอกล่อพวกเรามาที่นี่หมายความว่าอะไร?”

“ผมไม่แน่ใจ ก่อนหมดสติผมได้ยินคนพูดกับดร.ฐานทัตแบบนี้ และผมไม่รู้ว่าอีกฝ่ายคิดอย่างไร ดังนั้นอย่าเพิ่งช่วยผม”

นภดลไม่อาจควบคุมตัวเองไม่ให้ถูกทำให้สลบได้ ถึงแม้ว่าตอนนี้การต่อต้านของเขาจะลดลง แต่ก็ยังคงไม่อาจหลีกเลี่ยงได้

จณัตว์ครุ่นคิด บางทีเขาอาจจะเข้าใจอะไรบางอย่าง

“มันจะอันตรายถ้าคุณยังอยู่ที่นี่?”

“ใครไม่เสี่ยงบ้าง? ถ้าหากไร้หนทางหลอกล่อคนเบื้องหลังออกมา กำจัดคนเหล่านี้ให้หมดสิ้น พวกเราจะไม่มีใครมีชีวิตที่ราบรื่นได้”

นภดลกระซิบ “คุณเป็นหมอ คุณน่าจะมีวิธีเปลี่ยนองค์ประกอบเลือดของผมนะ ใช่ไหม?”

“ใช่ แต่คุณอาจจะสลดใจเล็กน้อย ตั้งแต่ที่บุริศร์ส่งเลือดของคุณมาให้ผมเพื่อทำการวิจัย ผมพบว่าปัจจัยที่คุณดุร้ายฉุนเฉียวเป็นเพราะในร่างกายของคุณไม่ได้เป็นยีนของมนุษย์ บางทีอาจจะเป็นเพราะเมื่อคุณอยู่ในครรภ์แม่ และอาจจะถูกคนฉีดยา ถ้าผมเดาไม่ผิด แม่ของคุณคงรับไม่ไหวกับร่างกายที่แหลกสลายและได้เสียชีวิตลง”

เมื่อได้ยินคำพูดของจณัตว์ ดวงตาขอนภดลก็หม่นลงเล็กน้อย

เขาไม่เคยเห็นแม่ของเขาตั้งแต่จำความได้ และไม่รู้ด้วยซ้ำว่าแม่ของตัวเองคือใคร พ่อคือใคร แล้วก็ไม่มีหลุมศพของพวกเขา ดังนั้นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับพวกเขา นภดลไม่รู้เรื่องอะไรเลยสักนิด เมื่อได้ยินจณัตว์เดาเรื่องราวไว้เช่นนี้ เขาก็อดไม่ได้ที่เศร้าใจ

“ผมไม่รู้ ผมไม่เคยเจอพวกเขาเลย”

”เรื่องนี้ผมจะสืบให้ว่าพวกเขาเป็นใคร แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือการทำให้อาการฉุนเฉียวในร่างกายของคุณหายไป สิ่งนี้ต้องการการทำให้ยีนเป็นกลาง คุณอาจมีอาการปวดมาก และไม่สามารถทำได้ในเวลาอันสั้น ดังนั้นคุณต้องเตรียมใจ”

นภดลมองไปทางจณัตว์ ก่อนพูดอย่างชัดถ้อยชัดคำว่า “ถ้าทำลายไอ้ที่ทำให้เป็นกลางนี่หายไป ผมจะสามารถเป็นคนปกติไหม?”

“แน่นอนสิ บางสิ่งในร่างกายของคุณที่ไม่ใช่ส่วนหนึ่งของยีนมนุษย์ ผมจะพยายามทำให้เป็นกลาง แต่มันไม่อาจทำได้ในชั่วข้ามคืน และสถานการณ์ปัจจุบันของคุณก็อันตรายมากคนเบื้องหลังสามารถทำอะไรกับคุณได้ตลอดเวลา ดังนั้นผมไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรถึงจะดีกับคุณที่สุด”

นี่คือความยุ่งเหยิงของจณัตว์

แต่นภดลกลับพูดอย่างไม่ใส่ใจ “ไม่เป็นไรครับ แค่เพียงได้เป็นคนธรรมดา ผมทำอะไรก็ได้ ตั้งแต่เด็กจนโต ผมก็เจ็บปวดมามากมาย ไม่มีความเจ็บปวดอะไรในโลกที่ผมจะทนไม่ไหว ถ้าอย่างนั้นแล้วคุณหมอจณัตว์ ผมไหว้คุณละ”

“โอเค ถ้าอย่างนั้นผมจะพยายามช่วยคุณให้มากที่สุด ตอนนี้ผมจะฉีดยาให้คุณก่อน ถึงแม้พวกเขาจะเอาเลือดของคุณไป พวกเขาก็จะไม่สามารถศึกษาอะไรได้ในตอนนี้”

จณัตว์เตรียมพร้อมสำหรับสิ่งนี้ เขาหยิบกระบอกฉีดยาและขวดของเหลวที่เตรียมไว้นานแล้วออกจากกระเป๋าของเขา

นภดลพยักหน้า

จณัตว์ฉีดยาให้เขาด้วยความเร็ว ไม่นานนักนภดลก็ผล็อยหลับไป

ตามที่นภดลพูด ดร.ฐานทัตไม่ได้มา ถ้าอย่างนั้นเมื่อตอนอยู่ที่สถานพักฟื้น ดร.ฐานทัตก็ลงมาจากเครื่องแล้ว

ดังนั้นแล้วสถานพักฟื้นก็เป็นศูนย์บังคับบัญชาของดร.ฐานทัตและคนเบื้องหลังคนนั้น

จณัตว์รีบออกมาจากสถาบันวิจัยการทหาร แต่กลับไม่ได้ไปยังบ้านตระกูลแหลมวิไล แต่มุ่นหน้าไปยังวัง

ที่นั่นมีคนรอเขาอยู่ และการปรากฏตัวของบุคคลนี้และสิ่งที่พวกเขากำลังจะทำ เขาไม่ต้องการให้หงส์เข้าร่วม

ไม่ใช่ว่าไม่เชื่อหงส์ แต่เขาไม่ต้องการให้เธอทำเรื่องที่มันหนักหนา

แค้นรักสามีตัวร้าย

แค้นรักสามีตัวร้าย

Status: Ongoing

ไฟเผาความรักทั้งหมดของนรมนที่มีต่อบุริศร์ หลังจากห้าปี เธอกลับไปอย่างงดงามและเพื่อทวงความยุติธรรมสำหรับตัว เธอเอง แต่คาดไม่ถึงว่าเด็กชายที่ถูกพากลับมาด้วยนั้นมีแผน มากกว่าเธอ เด็กน้อยยืนอยู่ข้างหน้าบุริศร์ กล่าวอย่างไร้เดียง สาว่า “คุณลุง สามารถช่วยผมได้ไหม? ผมขอร้อง” บุริศร์ รู้สึกว่าไม่สามารถต้านทานการวิงวอนของเด็กได้ คุกเข่าลง เพื่อช่วย แต่คาดไม่ถึงว่าจะถูกพ่นใส่หน้า อยู่มาวันหนึ่ง บุริศร์ พูดกับเด็กชายหน้าตาดีว่า “เด็กน้อย นี่คือห้องของฉัน!” “แต่ ว่าผมอยากนอนกับหม่าม พวกเรานอนด้วยกันมาห้าปีแล้ว” ชายหนุ่มร้องไห้… แค่ไปจีบภรรยากลับมาเท่านั้น ทำไมลูก ของฉันถึงเอาใจยากเหลือเกิน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท