นรมนเงยหน้าขึ้น เห็นบุริศร์เดินย้อนแสงเข้ามา ร่างสูงใหญ่ทำให้เธออดไม่ได้ที่จะรู้สึกปลอดภัยมากขึ้น
“ด้านนอกเกิดอะไรขึ้น? ฉันได้ยินทั้งเสียงเตือนทั้งเสียงตะโกน ฉันจึงไม่กล้าออกไป กลัวคนเยอะแล้วจะมาชนฉัน”
นรมนวางหนังสือในมือลง จับมือของบุริศร์เอาไว้ รู้สึกได้ว่ามือของเขาไม่มีความเย็นเลย ก็แสดงว่าเขาอยู่ในห้องตลอด
นึกถึงตรงนี้ นรมนจึงคลายกังวลอย่างไม่มีสาเหตุ
บุริศร์เห็นท่าทีเป็นห่วงของนรมน จึงครุ่นคิดว่าจะพูดกับเธอยังไงดี แต่นึกถึงคำพูดพวกนั้นที่ นรมนเคยบอกเอาไว้ อย่าคิดว่าหวังดีกับเธอแล้วจะตัดสินใจโดยพลการได้ บุริศร์จึงตัดสินใจเล่าเรื่องทั้งหมดให้เธอฟัง
ถึงพ่อตาจะกำชับเอาไว้ แต่ทุกเรื่องภรรยาสำคัญที่สุดไม่ใช่เหรอ?
นรมนฟังบุริศร์เล่าเรื่องพวกนี้จนจบ จึงอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว
“เลือดของพี่ชายฉันไม่มีปัญหาจริงๆใช่ไหม?”
“ไฟล์เอกสารติดตั้งระบบทำลายตัวเองเอาไว้ จริงๆเป็นอย่างนี้ก็ดี ถ้าไฟล์นั้นยังอยู่ ถึงยังไงก็เป็นภัยกับจณัตว์อยู่ดี ผู้รับผิดชอบตอนนี้คงไม่ทำอะไรจณัตว์หรอก ถึงคุณชายธเนศพลเข้ารับตำแหน่งแล้วก็คงไม่ทำอะไร แต่ใครจะรับประกันได้ว่าคนต่อไปจะไม่ทำ?
เก็บไฟล์นี้ไว้สุดท้ายก็จะไม่ปลอดภัยอยู่ดี ตอนนี้ทำลายตัวเองไปก็ไม่แย่ เพียงแค่ต่อไปกลัวว่าจณัตว์คงเป็นกังวลมาก เลือดของเขาไม่ควรให้ใครสะเปะสะปะ”
บุริศร์ครุ่นคิดถึงปัญหามากมาย
เขาเชื่อในผู้รับผิดชอบตอนนี้ แล้วก็เชื่อธเนศพล แต่ใครก็คงไม่กล้ารับประกันว่าวันหน้าอาจจะเกิดเรื่องที่ไม่ได้คาดคิด ถ้ามีช่องโหว่เพียงเล็กน้อย สำหรับจณัตว์กับตระกูลทวีทรัพย์ธาดาแล้วก็คือความหายนะที่ถึงแก่ชีวิต
ตอนนี้ทำลายของสิ่งนี้ไป คนที่รู้เรื่องเลือดของจณัตว์มีไม่กี่คน ต่อให้พวกเขาคิดจะทำอะไร ก็ต้องดูว่าจณัตว์ให้ความร่วมมือหรือเปล่า อันที่จริงตอนนี้จณัตว์ไม่ใช่เขาในวัยเด็กอีกแล้ว
นรมนแค่ได้ฟังก็สบายใจลงไม่น้อยเลย
“คุณว่าสมชัยทำลายคนอื่นไปตั้งเท่าไหร่ เขาตายง่ายดายขนาดนั้นไม่สมกับความแค้นเลยจริงๆ”
นรมนนึกถึงครอบครัวของตนเองที่ต้องอดทนต่อทุกอย่างก็ยิ่งเกลียดชังสองพี่น้องสมชัยกับฉัตรพลเหลือเกิน
บุริศร์ยื่นมือไปโอบเธอเข้ามาในอ้อมกอด พูดขึ้น: “ทุกอย่างจะผ่านไป แกะดำอย่างนี้ ถึงจะเจริญรุ่งเรือง แต่คงหนีไม่พ้นขอบข่ายกฎหมายหรอก”
“แต่คนบริสุทธิ์มากมายที่ได้รับผลกระทบไปด้วย”
“แต่ไหนแต่ไรบนโลกนี้ก็ไม่ได้เรียกว่ายุติธรรมขนาดนั้นอยู่แล้ว คนอ่อนแอย่อมตกเป็นเหยื่อของคนที่แข็งแกร่งถือเป็นกฎของการดำรงชีวิตเสมอมา เราควรจะยินดีที่พวกเราได้ใช้ชีวิตอยู่ในสังคมที่สงบสุขและในประเทศที่มีเมตตา ถ้าอยู่ต่างประเทศ ใครจะสนใจความเป็นความตายของคนพวกนั้นล่ะ?”
หัวข้อสนทนาของทั้งสองคนจริงจังขึ้นเรื่อยๆ บุริศร์จึงรีบเบี่ยงประเด็น
“แต่ว่าก่อนที่ข้อมูลเลือดของจณัตว์จะทำลายตัวเองผมดาวน์โหลดเอาไว้แล้ว ผมอยากรู้จริงๆที่เบื้องบนทำกับจณัตว์หมายความว่ายังไงกันแน่ ถ้ามีความหมายของการบีบบังคับแค่เล็กน้อย ผมจะให้พ่อแม่กับพวกคุณอาเตรียมตัวล่วงหน้า”
คำพูดของบุริศร์ทำให้นรมนชะงักงัน
เธอเข้าใจความหมายของบุริศร์ในทันที
ถ้าเกี่ยวพันไปถึงความปลอดภัยของจณัตว์จริงๆ บุริศร์ก็ไม่ลังเลที่จะยืนเคียงข้างจณัตว์
มีสามีที่ดีขนาดนี้ จะต้องการอะไรอีก!
ในใจของนรมนอัดแน่นไปด้วยความอบอุ่น
“สามี คุณแสนดีจริงๆ”
นรมนเข้าไปในอ้อมอกของบุริศร์ กลิ่นหอมอ่อนๆนั้นกำลังยั่วเย้าบุริศร์อยู่ ทำให้ร่างกายของเขาร้อนขึ้น แต่นึกถึงสถานการณ์ของนรมนในตอนนี้ เขาทำได้เพียงควบคุมคลื่นความร้อนนั้นเอาไว้
“ภรรยา ผมค่อนข้างเสียใจแล้วนะที่เก็บลูกคนนี้ไว้”
“ห๊ะ?”
นรมนมองบุริศร์ด้วยความแปลกใจ จู่ๆก็รู้สึกได้ถึงการตอบสนองทางร่างกายของบุริศร์อย่างรวดเร็ว จึงอดไม่ได้ที่จะหน้าแดงด้วยความเคอะเขิน
“ทั้งวันคุณคิดอะไรอยู่เนี่ย”
“ผมคิดถึงภรรยาน่ะสิ อายุของผมไม่ควรจะเป็นช่วงวัยที่กำลังดุเดือดหรอกเหรอ? ถ้าคุณยังยั่วผมอย่างนี้ ผม……”
“หุบปาก!”
นรมนยิ่งหน้าแดงมากขึ้น
ผู้ชายคนนี้อัดอั้นจะแย่แล้วมั้ง?
จู่ๆเธอก็รู้สึกว่าความคิดของตนเองเปลี่ยนไปไม่ดีซะแล้ว
บุริศร์ทนไม่ไหวแล้วจริงๆ เสียงแหบพร่าพูดขึ้น: “อยากดูไฟล์นั้นของจณัตว์ไหม?”
“อื้ม”
นรมนนั่งตัวตรง ตอนนี้ทรมานตัวเองให้น้อยลงคงจะดีกว่า ร่างกายของเธอทนทรมานไม่ไหวแล้วจริงๆ
ทั้งสองคนเปิดคอมพิวเตอร์
บุริศร์รีบนำไฟล์เข้ามา
ด้านบนบันทึกข้อมูลเลือดของจณัตว์ตอนที่โดนพิษเอาไว้ชัดเจนรวมไปถึงข้อมูลเลือดหลังจากที่ใช้น้ำยาทดลอง ถึงกับยังมีส่วนเล็กๆน้อยๆของชีวิตตั้งแต่เล็กจนโตของจณัตว์กับบันทึกการตรวจสุขภาพหลายๆครั้ง ก็บอกได้ว่าจณัตว์ถูกจับตามองตั้งแต่เกิดมาจนถึงตอนนี้
ประเด็นนี้ทำให้นรมนกับบุริศร์ไม่สบายใจมากๆ
บางทีในโลกนี้คงไม่มีใครชอบถูกจับตามองหรอก
ถึงขั้นที่การเจอกันของจณัตว์กับหงส์ก็ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นการวางแผนในแต่ละครั้ง เพื่อให้เกิดความรู้สึกระหว่างจณัตว์กับหงส์ ดังนั้นจึงสร้างความกดดันต่อประเทศFสำรองเอาไว้เมื่อมีผลกระทบ
อ่านถึงตรงนี้ สีหน้าของนรมนกับบุริศร์ก็แย่มาก
“ไฟล์นี้ทำลายไปน่ะดีแล้ว ไม่งั้นถ้าหงส์มาเจอเข้า ฉันกลัวว่าจะเข้าใจผิด”
นรมนเข้าใจผู้หญิงด้วยกันที่สุด ถึงเธอจะเชื่อว่าจณัตว์ไม่รู้รายละเอียดล่วงหน้า แต่ไม่มีใครที่ชอบให้ความรู้สึกของตนเองถูกวางแผนเอาไว้หรอก อีกอย่างหลังจากที่หงส์สูญเสียความทรงจำจณัตว์จึงโดนจัดเข้าไปทำงานในสถาบันวิจัย แค่เห็นก็รู้แล้วว่าใช้ความรู้สึกไม่สำเร็จ ถึงได้วางแผนใช้หนทางอื่น
“ไฟล์นี้พ่อฉันเห็นหรือยัง?”
“ผมเดาว่าพ่อตาไม่มีอำนาจพอที่จะได้ดูไฟล์นี้ นี่เป็นไฟล์ที่ป้องกันไว้ด้วยรหัส คนที่ดูได้ไม่เกินสามคน”
คำพูดของบุริศร์ทำให้นรมนสบายใจขึ้นบ้าง
“ทำลายไปเถอะ”
บุริศร์ขมวดคิ้วพูดขึ้น: “อย่างอื่นทำลายได้ แต่ข้อมูลนี้เก็บไว้ให้จณัตว์เถอะ เขาอยากศึกษาพิษในร่างกายของคุณอารองและวิจัยยาที่จะยับยั้งนภดล ข้อมูลนี้สำคัญกับเขามาก”
“อื้ม นอกจากข้อมูลนี้ อย่างอื่นทำลายไปดีกว่า”
นรมนค่อนข้างเคร่งขรึม
เธอรู้ว่าบางเวลาการมีความสามารถจะทำให้ได้รับอันตราย แต่เมื่อถึงคราวของคนในครอบครัวตนเองเธอกลับยอมรับไม่ได้เลย
“ในเมื่อด้านนอกมีข่าวการตายของพี่ฉันแพร่กระจายอยู่แล้ว งั้นตายไปเลยจริงๆคงดีกว่า”
คำพูดของนรมนทำให้บุริศร์ตกอกตกใจ
“คุณพูดเล่นใช่ไหม?”
“คิดอะไรน่ะ”
นรมนเห็นสายตาที่ตกใจของบุริศร์ก็รู้แล้วว่าเขาคิดต่างไปจากความคิดของตนเอง
“นั่นพี่ฉันนะ! ฉันจะทำให้เขาตายจริงๆหรือไง? ความหมายของฉันคือ ในเมื่อคนข้างนอกคิดว่าเขาตายไปแล้ว งั้นก็ยืมเหตุผลนี้ให้พี่ชายฉันหายไปจากฝูงชนเลยดีกว่า”
บุริศร์มองนรมน พูดขึ้น: “นี่มันเรื่องใหญ่นะ ผมคิดว่าเราจนปัญญาที่จะตัดสินใจแทนจณัตว์ อีกอย่างความคิดของพ่อตาคือให้พวกเรากลับเมืองหลวง”
กลับเมืองหลวง?
ให้ชิ้นเนื้ออ้วนๆที่ทุกคนต่างจับจ้องอย่างจณัตว์เข้าไปในศูนย์กลางอำนาจเนี่ยนะ นรมนคิดๆแล้วรู้สึกหวาดกลัว
ตอนนี้เธอกลับเข้าใจจุดประสงค์ที่จณัตว์ไม่บอกข่าวที่ตนเองยังมีชีวิตอยู่ให้หงส์รู้แล้ว
“ถ้าพี่ชายฉันเข้าไปต้องเป็นที่สนใจแน่ๆเลยใช่ไหม?”
“แน่นอน”
บุริศร์ลูบๆผมของนรมนพูดขึ้น: “อย่ากังวลเลย ถ้าคุณอยากให้จณัตว์รู้ ผมก็ไม่ใช่ไม่มีวิธีนะ”
“งั้นก็ฝากสามีด้วยนะ”
นรมนยิ้มให้เขา
จะเป็นไปได้ยังไงที่บุริศร์จะมีภูมิคุ้มกันกับรอยยิ้มของเธอ? แค่รู้สึกว่าหัวใจเต้นตึกตัก เลือดสูบฉีด แต่น่าเสียดายที่ต้องรอให้ลูกคลอดออกมาก่อน
ลูกหนอลูก!
บุริศร์มองท้องของนรมนด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย สุดท้ายต้องลุกขึ้นอย่างยอมรับในชะตากรรม ออกจากระเบียงไปที่ห้องของจณัตว์ ไม่นานก็ลากจณัตว์เข้ามา
จณัตว์เพิ่งอาบน้ำเสร็จ ยังเช็ดผมไม่แห้งก็โดนบุริศร์ลากเข้ามาแล้ว จึงอดไม่ได้ที่จะอาฆาตแค้น
“บุริศร์ นายเจตนาหาเรื่องฉันใช่ไหม? นายไม่กลัวฉันเป็นหวัดหรือไง?”
“พี่คะ”
เสียงเรียก “พี่” นุ่มๆของนรมน ทำให้จณัตว์สงบลงได้ทันที
“นรมน เธอยังไม่นอนอีกเหรอ?”
“ยังค่ะ ฉันให้บุริศร์ไปเชิญพี่มาเอง”
คำพูดของนรมนมีวาทศิลป์ คำว่า “เชิญ” ที่ทำให้จณัตว์ได้ยินแล้วสบายใจมากๆ อย่างที่คิดเลยยังเป็นน้องสาวที่น่ารักของตนเองเสมอ
เขาถลึงตาใส่บุริศร์ คว้าผ้าขนหนูมาเช็ดผมตามอำเภอใจ แล้วนั่งลงไปบนเก้าอี้ถามขึ้น: “ดึกขนาดนี้ให้พี่มาทำอะไรเหรอ? เจ้านี่รังแกเธอใช่ไหม? เธอบอกพี่มา พี่จะสั่งสอนเขาแทนเธอเอง”
บุริศร์ได้ยินจณัตว์เอาแต่คิดจะสั่งสอนตนเอง จึงอดไม่ได้ที่จะค้อนขวับ
แต่นรมนกลับรู้สึกขำๆ
เธอพูดขึ้น: “พี่คะ เรื่องของพี่ฉันฟังมาจากบุริศร์แล้ว บุริศร์ดาวน์โหลดไฟล์นั้นไว้ก่อนที่มันจะทำลายตัวเอง พี่อยากดูหน่อยไหม?”
สีหน้ายิ้มแย้มของจณัตว์หยุดลงทันที แล้วมองบุริศร์ด้วยความงุนงง
บุริศร์กระแอมเล็กน้อยแล้วพูดขึ้น: “ตอนนั้นมันเร่งด่วน ฉันจึงบอกอะไรนายไม่ทัน แค่อยากเก็บไฟล์ไว้ก่อนแล้วค่อยว่ากัน อีกอย่างขั้นตอนการทำลายตัวเองก็รุนแรงมาก แม้แต่คอมพิวเตอร์เครื่องที่ใช้ก็ระเบิดไปด้วย ร่องรอยทั้งหมดจึงไม่เหลือแล้ว ฉันก็เลยคว้าช่องโหว่นี้ส่งไฟล์มาที่เครื่องฉันที่นี่โดยตรง”
จณัตว์อดไม่ได้ที่จะนับถือ
ภายในเวลายี่สิบกว่าวินาทีทำได้ขนาดนี้ สมควรแล้วจริงๆที่บุริศร์เป็นอัจฉริยะ โชคดีที่นายคนนี้เป็นน้องเขยของเขา ถ้าเป็นคู่แข่งก็น่ากลัวเกินไปแล้ว
เขาเดินเข้าไป ดูเนื้อหาภายในไฟล์อย่างเงียบๆอยู่นาน
นรมนกลัวเขาไม่สบายใจ จึงรีบพูด: “พี่คะ ถ้ารู้สึกลำบากใจ สามารถ……”
“ไม่ลำบากหรอก เมื่ออยู่ในตำแหน่งก็ต้องรับหน้าที่นั้น ถ้าฉันเป็นนักการเมือง ปรากฏคนอย่างนี้ออกมา ฉันก็คงทำทุกวิถีทางเพื่อตีสนิทแล้วดึงเข้ามาในค่ายของตนเองเหมือนกันแหละ”
คำพูดของจณัตว์ทำให้นรมนค่อนข้างประหลาดใจ
เอาเถอะ ว่าแล้วแหละเธอไม่เข้าใจความคิดทั้งหมดของผู้ชายหรอก ยิ่งได้สัมผัสกับทหารพวกนี้ ก็ยิ่งนับถือ เธอรู้ว่าสิ่งที่ตนเองได้รู้จักมันน้อยมาก แต่ความศรัทธากับความซื่อสัตย์ของคนพวกนี้กลับมากเกินกว่าที่เธอจินตนาการเยอะเลย
นรมนเหมือนจะเข้าใจบ้างแล้ว ทำไมภายในประเทศมากมาย ประเทศของตนเองถึงค่อยๆเจริญรุ่งเรืองในแต่ละวัน การทหารเจริญก้าวหน้าขึ้นทุกวันๆ ทุกสิ่งทุกอย่างเพียงแค่อยู่กับความศรัทธาของคน
วินาทีนี้ จู่ๆเธอก็รู้สึกว่าจณัตว์กับบุริศร์ยิ่งใหญ่อย่างนั้น
บางทีพวกเขาเป็นแค่สมาชิกที่อยู่ภายในบรรดาลูกหลานทหารมากมาย แต่พวกเขาแต่ละคนที่ยืนออกมาต่างก็เป็นแบบอย่างที่ดี
ในเวลาเดียวกันนรมนก็ถอนใจด้วยความหดหู่ เมื่อเธอได้ยินจณัตว์พูดต่อว่า: “แต่ไม่ลำบากใจไม่ได้หมายความว่าพี่เห็นด้วย ยิ่งไม่ได้หมายความว่าพี่จะเข้าร่วมด้วย ไม่มีใครชอบเป็นหนูทดลอง อีกอย่างใครก็ไม่กล้ารับรองว่าผู้รับผิดชอบจะมีความคิดอย่างนี้ ดังนั้น……”