แค้นรักสามีตัวร้าย – บทที่ 1518 ดวงตาน้องชายสวยมาก

บทที่ 1518 ดวงตาน้องชายสวยมาก

“ออกไป! อายุเท่าไรแล้วยังพูดเลี่ยนๆ อีก”

บุณพจน์พูดอย่างดูถูกทันที แต่มุมปากยกขึ้นเล็กน้อย

บุริศร์ก็ไม่พูดเรื่องอื่น ยิ้มขณะตบบ่าเขาแล้วพูดขึ้น “อย่าเพิ่งทำอะไร รอผลสรุปออกมาดูสถานการณ์ด้านในก่อนค่อยว่ากัน”

“นายยังมีความหวังบางอย่างกับพวกเขาสินะ”

บุณพจน์ก็ฟังเข้าใจความหมายของบุริศร์แล้ว

บุริศร์ยิ้มอย่างไม่แยแส

“พี่ ฉันกับพี่โตมาในสภาพแวดล้อมต่างกัน ฉันเชื่อว่าเบื้องบนจะเมตตากับฉัน”

“หวังว่านายจะคิดถูก”

บุณพจน์ก็ไม่โต้เถียง แต่ก็ยังเรียกคนของตัวเองมาที่เมืองหลวง เผื่อเอาไว้

สำหรับเรื่องนี้บุริศร์ก็ไม่ได้ห้าม

เมื่อนรมนตื่นขึ้นมาเห็นมีคนเต็มห้อง ก็ยิ้มขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้

“อาธรณี พี่สะใภ้ พวกคุณมากันแล้วเหรอ?”

หงส์เดินมาตรงหน้านรมน พูดขึ้นอย่างค่อนข้างอิจฉา “เธอนี่สุดยอดจริงๆ เป็นหม่ามี้มีลูกห้าคนแล้ว น่าอิจฉาจะตายอยู่แล้ว”

“คุณเลี้ยงกับฉันก็ได้นะ ฉันคนเดียวดูเจ้าเด็กแสบสองคนไม่ไหวหรอก”

นรมนมองหงส์ พบว่าตอนนี้เธออารมณ์ดีมาก ก็ไม่รู้ว่าได้ก้าวข้ามผ่านจากความตายของจณัตว์หรือยัง และไม่รู้ว่าเธอแสร้งหัวเราะมีความสุขต่อหน้าตนหรือไม่

หงส์รีบพูดขึ้น “นี่เธอพูดเองนะ ฉันอยากอยู่กับเธอ เลี้ยงลูกกับเธอ เฮียบุริศร์ คุณมีปัญหาไหม?”

บุริศร์เดินกลับมาจากข้างนอกได้ยินหงส์พูดแบบนี้ ก็ยิ้มขึ้นทันทีแล้วพูดขึ้น “เดิมทีแล้วตระกูลโตเล็กก็เป็นครอบครัวเธอ เธอจะอยู่นานแค่ไหนก็ไม่เป็นอะไร”

“ดีจัง งั้นก็ตกลงตามนี้ ฉันอยากมีลูกฉลาดน่ารักเหมือนกานต์ตั้งนานแล้ว น่าเสียดายที่ฉันมีเองไม่ได้ ตอนนี้พวกคุณมีเด็กน้อยน่ารักสองคน ฉันก็ขอติดอยู่บ้านพวกคุณแล้วกัน”

เห็นอารมณ์ของหงส์ค่อนข้างดี นรมนกับบุริศร์ก็วางใจ

“พอดีเลย คุณดูลูกให้พวกเรา เราจะได้มีโลกของเราสองคน”

คำพูดบุริศร์ทำให้คนในห้องตกตะลึง นรมนก็อายจนหน้าแดงไปหมด

ผู้ชายคนนี้ตอนนี้ยิ่งไม่มีขอบเขตขึ้นเรื่อยๆ แล้ว

เธอจ้องบุริศร์ด้วยความเกลียดชัง จากนั้นก็พบว่าพวกลูกๆ ของตัวเองยังไม่มา

“กานต์ กมลและกิจจาล่ะ? พวกเขายังไม่มาเหรอ?”

นานมากแล้วที่ไม่ได้เจอพวกลูกๆ นรมนคิดถึงพวกเขามากจริงๆ

บุณพจน์อยู่ด้านนอกดับควัน ก่อนจะเดินเข้ามาพูดขึ้น “เด็กสามคนมาพร้อมกับฉัน อยากไปซื้อของขวัญให้น้องชาย ฉันให้ชัยยศพาพวกเขาไปแล้ว เดี๋ยวก็กลับมา”

“เด็กๆ พวกนี้มีความเป็นพี่ชายกับพี่สาวคนโตแล้ว รู้จักซื้อของขวัญให้น้องๆ ด้วย”

ในใจนรมนก็สบายใจจริงๆ

กานต์ กมลและกิจจามาถึงร้านทอง กานต์ซื้อสร้อยข้อมือทองให้พวกน้องชาย กิจจาซื้อกำไลข้อเท้าทองให้ กมลซื้อจี้ทองสองชุดให้ จากนั้นทั้งสามคนก็กลับมาที่โรงพยาบาล

เพราะกลัวรบกวนการพักผ่อนของนรมนและเด็กๆ พวกธรณีและบุณพจน์เยี่ยมเสร็จก็ออกไปแล้ว เหลือแค่หงส์

นรมนเห็นหงส์มีท่าทางชอบเด็ก ในใจก็รู้สึกแย่

“หงส์ ตอนนี้เธอก้าวข้ามผ่านมันหรือยัง?”

นรมนไม่ตั้งใจจะถาม แต่มันอดไม่ได้

หงส์ชะงักไป จากนั้นก็ยิ้มขณะพูดขึ้น “อืม ก้าวข้ามผ่านมันแล้ว จณัตว์หวังว่าฉันจะมีความสุขได้ ถ้าฉันเอาแต่หน้านิ่วคิ้วขมวดทั้งวัน เดาว่าเขาอยู่ด้านล่างคงไม่สงบ ในเมื่อมันเป็นแบบนี้ ฉันก็จะใช้ชีวิตอยู่กับความสุขส่วนนั้นของเขาต่อไป”

ได้ยินหงส์พูดแบบนี้ ก้นบึ้งหัวใจของนรมนก็ประทับใจมาก คำพูดที่อยู่มุมปากก็กลืนลงไปอีกครั้ง

อย่างไรแล้วก็เพิ่งยกเลิกการตรวจสอบ ด้านนอกกับรอบๆ มีคนหรือไม่ก็ยังไม่แน่ใจ เธอกับบุริศร์ก็ยืนหยัดกันมานานมาก จะล้มเหลวจากการขาดความพยายามในเวลานี้ได้อย่างไรกัน

“ในอนาคตคุณมีแผนอะไร?”

“ไม่รู้ เขียนหนังสือ เล่นเน็ตมั้ง ใช้ชีวิตแบบนี้ก็เท่ดีเหมือนกัน”

คำพูดของหงส์ทำให้นรมนตกตะลึงเล็กน้อย

“คุณไม่คิดจะหาแฟนใหม่เหรอ?”

“ไม่หาแล้ว ความรักมันน่าเสียใจเกินไป หัวใจฉันเล็กนิดเดียว ให้ผู้ชายได้แค่คนเดียว ถึงพวกคุณจะบอกว่าเวลาคือยารักษาที่ดีที่สุด บางทีอาจจะค่อยๆ ลืมความเจ็บปวดพวกนั้น หาความสุขของตัวเองเจออีกครั้ง แต่ฉันรู้ ชีวิตนี้หัวใจฉันล็อกไว้แล้ว นอกจากผู้ชายคนนั้น ใครก็เปิดไม่ได้ อีกอย่างตอนนี้ฉันอยู่คนเดียวมันก็ดีมากเหมือนกัน จริงๆ นะ ไม่ต้องเป็นห่วงฉัน เดี๋ยวฉันจะช่วยเธอเลี้ยงลูกชาย ลูกชายของเธอยังไงก็ต้องเรียกฉันว่าคุณน้าไม่ใช่เหรอ? คุณน้าก็คือแม่ ฉันมีความสุขนะ”

ดูออกว่าหงส์มีความสุขจริงๆ

ในใจนรมนถือว่าสบายใจขึ้นบ้าง โชคดีที่หงส์คิดในแง่บวก ถ้าสักวันหนึ่งได้เจอจณัตว์อีกครั้ง เดาว่าคงเซอร์ไพรส์

ทั้งสองคุยกันอีกไม่กี่ประโยค กานต์ก็พากิจจาและกมลเข้ามา

“หม่ามี้!”

กมลวิ่งพุ่งเข้ามาหานรมนเหมือนรถไฟขบวนเล็ก ขณะที่โผเข้าหาอ้อมกอดนรมน เธอรู้สึกว่าปลอกคอตัวเองถูกใครบางคนดึงไว้

“ทำอะไร?”

เธอหันศีรษะกลับไปทันที เห็นกานต์ดึงปลอกคอเธอเอาไว้ แล้วพูดเรียบๆ “หม่ามี้เพิ่งคลอดพวกน้องชาย ร่างกายยังอ่อนแอมาก เธอพุ่งเข้าไปเต็มที่แบบนี้แล้วทำให้หม่ามี้บาดเจ็บจะทำยังไง?”

เมื่อกมลได้ยิน ก็เก็บฝีเท้าทันที พูดขึ้นอย่างรู้สึกผิด “หม่ามี้ ขอโทษนะคะ”

“ไม่เป็นไร หม่ามี้ก็คิดถึงพวกหนู”

นรมนลูบศีรษะกมล รู้สึกว่าในเวลานี้ความสุขมันอยู่ใกล้ตนมาก

กานต์และกิจจาก็เดินไป เรียกหม่ามี้อย่างดีใจเป็นพิเศษ

“หม่ามี้ คุณอ้วนขึ้นมากเลยนะ”

กิจจาก็ดีใจกับเรื่องนี้เช่นกัน กลัวนรมนจะซูบผอม เห็นว่าเป็นแบบนี้ก็ดีมาก

กานต์เงยหน้ายิ้มขึ้นมา

“หม่ามี้ ขอบคุณที่มีน้องชายตัวน้อยให้พวกเรานะครับ”

“รีบไปดูน้องชายตัวน้อยของพวกลูกสิ”

นรมนยู่ปากชี้บอก เด็กทั้งสามก็รีบวิ่งไปอย่างอดไม่ได้

“ว้าว น่ารักมากเลย”

กมลหลงเด็กน้อยน่ารักเหลือเกิน เธอยื่นนิ้วออกไปให้เด็กน้อยจับนิ้วของเธอมาเล่น หัวเราะคิกคักมีความสุขตลอดเวลา

กานต์และกิจจาก็รู้สึกแปลกๆ เกาะรถเข็นแล้วมองซ้ายขวา

“หม่ามี้ พวกเขาตัวเล็กจัง”

“ตอนพวกลูกเด็กๆ ก็แบบนี้เหมือนกัน”

นรมนนึกถึงตอนกานต์และกมลเด็กๆ ก้นบึ้งหัวใจก็อ่อนลงอย่างสิ้นเชิง

เด็กสามคนอยู่ล้อมรอบเด็กน้อยสองคนด้วยความดีใจขณะพูดเจื้อยแจ้ว ในที่สุดก็ทำให้เหล่าเด็กน้อยตื่น

ตาโตสีดำเหมือนองุ่นของลูกคนโตมองพวกเขา ถึงจะมองไม่ค่อยชัด แต่ก็ยังยิ้มกว้าง ถึงขนาดยื่นมือเล็กต้องการจะจับอะไรบางอย่าง

กมลดีใจสุดๆ เลย

“ว้าว ดวงตาของน้องชายสวยมากเลย เขายิ้มให้ฉันด้วยล่ะ”

ลูกคนเล็กก็ลืมตาขึ้นมาเช่นกัน มองรอบๆ ด้วยความงุนงง กานต์และกิจจาสูดหายใจเข้าเฮือกใหญ่ทันที

“ว้าว ตาสีฟ้า! น้องคนเล็กตาสีฟ้าจริงๆ!”

เด็กทั้งสองราวกับพบแผ่นดินใหม่ ท่าทางแปลกประหลาดนั้นทำให้นรมนค่อนข้างกังวล

หงส์ลูบมือเธอแล้วพูดขึ้น “ไม่ต้องกังวลนะ พระเจ้าคงไม่ให้ภัยพิบัติทั้งหมดกับเราหรอก”

“ก็ขอให้เป็นแบบนั้น ฉันมีลูกสองคนนี้ได้ทั้งหมดก็เป็นเพราะเลือดนั้นของนภดล ในตอนนี้ถึงลูกคนเล็กจะมีอะไรบางอย่างจริงๆ ฉันก็ยังซาบซึ้งกับนภดลอยู่ดี บางทีนี่อาจจะเป็นชะตากรรมของฉันกับพวกลูกๆ”

นรมนไม่บ่นและไม่น้อยเนื้อต่ำใจ คิดว่าทุกอย่างมันถูกกำหนดไว้แล้ว

หงส์ก็ประหลาดใจที่เธอคิดในแง่บวกได้ แต่พอนึกถึงนภดล สีหน้าเธอก็ค่อนข้างแย่ในท้ายที่สุด

นรมนรู้ความหนักใจของหงส์ อยากช่วยพูดให้นภดลสักสองสามประโยคแต่ก็ไม่รู้จะเอ่ยปากอย่างไร จึงเงียบปาก

เหล่าเด็กๆ ยังคงพูดเจื้อยแจ้ว เด็กน้อยสองคนราวกับรู้เหมือนกันว่าคือพี่ชายและพี่สาวของตน ไม่นานก็หัวเราะคิกคักขึ้นมา เสียงอ้อแอ้นั้นคือโน้ตเพลงที่งดงามที่สุดบนโลกใบนี้ เคาะหัวใจของทุกคนให้เอ่อล้นไปด้วยความสุข

เวลาผ่านไปนานมาก หงส์ก็เอ่ยปากพูดขึ้น “หลังจากจณัตว์ตายไป นภดลก็หายไปแล้ว เธอคิดว่าเขาจะไปไหน?”

หัวใจนรมนชะงักไปเล็กน้อย รีบพูดขึ้น “ไม่รู้สิ ทุกคนกำลังตามหาอยู่ตลอดไม่ใช่เหรอ?”

“ใช่ ตามหากันอยู่ ปาณีก็ตามหามาเกือบปีแล้ว ก็ยังไม่มีข่าวอะไรเลย ฉันไม่เชื่อว่าคนเป็นๆ จะระเหยไปจากโลกได้ คนที่อยู่เบื้องหลังในตอนแรกที่จะหลอกใช้ดร.ฐานทัตในการได้ตัวนภดลก็หายเกลี้ยงไปหมด ฉันมักรู้สึกว่าทุกอย่างนี้เหมือนความสงบก่อนพายุจะมาเลย มันน่ากดดันมากๆ”

คำพูดของหงส์ทำให้นรมนค่อนข้างกังวล แต่สุดท้ายก็ไม่ได้พูดอะไร

เด็กน้อยสองคนรู้สึกหิวแล้ว

นรมนอุ้มลูกขึ้นมาป้อนนม กิจจาพาน้องชายและน้องสาวออกไป บุริศร์เตรียมอีกห้องหนึ่งให้พวกเขาพักผ่อน

เพราะการคลอดธรรมชาติ จริงๆ แล้ววันที่สามนรมนก็สามารถออกจากโรงพยาบาลพาลูกกลับบ้านได้เลย แต่ก็ต้องอยู่ต่อเพราะเรื่องข้อมูลเลือดของพวกลูก

โพนี่อ่านข้อมูลวิเคราะห์ในข้อมูลเลือด กำลังจะไปหานรมน ก็ถูกใครบางคนหยุดไว้

“สวัสดีครับ ผอ.โพนี่ เราคือทหาร ต้องการรายงานตรวจเลือดและรายงานการตรวจร่างกายของเด็กทั้งสองคน”

อีกฝ่ายหยิบใบรับรองออกมา

โพนี่ขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่รู้หน้าที่ของตัวเอง จึงเอารายงานให้พวกเขา

อีกฝ่ายดูมัน ราวกับว่าประหลาดใจเล็กน้อย ถามขึ้นโดยไม่รู้ตัว “หมอโพนี่ คุณคงไม่ได้แอบทำอะไรบางอย่างใช่ไหม?”

“ได้โปรดรับผิดชอบสิ่งที่ตัวเองพูดด้วยนะ ไม่งั้นฉันจะฟ้องพวกคุณ”

เสียงอ่อนโยนของโพนี่มีความเย็นชา ทำให้ทั้งสองคนค่อนข้างอับอายทันที

ถึงแม้โพนี่จะเป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลทหาร แต่คุณพ่อของโพนี่เป็นใครพวกเขาก็รู้จัก นอกจากนี้ยังมีแม่เลี้ยงคนนั้นของเธอด้วย เป็นคนที่ยั่วยุไม่ได้ รวมถึงตระกูลพรรณโรจน์ ทั้งสองมองหน้ากัน แล้วรีบพูดขึ้น “ขอโทษครับ เราแค่ถามเฉยๆ”

“ฉันกล้ารับประกันด้วยจรรยาบรรณวิชาชีพของฉันและนิสัยของฉัน ข้อมูลทุกอย่างในนี้เป็นของจริงและเชื่อถือได้ ถ้าพวกคุณไม่เชื่อ ก็ไปหาคนมาตรวจสอบอีกครั้งได้”

คำพูดโพนี่ทำให้ทั้งสองตกตะลึง จากนั้นก็ไปโทรศัพท์ ไม่นานก็มีแพทย์จากด้านนอกเดินมา เอาเลือดเด็กทั้งสองไปทำการตรวจ เห็นได้ชัดว่าไม่เชื่อใจโพนี่

โพนี่โกรธจนหน้าอกค่อนข้างเจ็บ ถ้าเป็นคนอื่นเธอคงวิ่งไปขอความเป็นธรรมจากเบื้องบนแล้ว แต่เพราะความสัมพันธ์ของตัวเองกับตระกูลโตเล็ก โพนี่จึงอดทน

แต่ก็ไม่เป็นอะไร อย่างไรแล้วเธอก็ไม่ได้ทำอะไร โชคดีที่เธอพิมพ์รายงานเพิ่มอีกหนึ่งฉบับ โพนี่หยิบรายงานเลือดและรายงานการตรวจร่างกายฉบับนั้นเดินไปที่ห้องผู้ป่วยนรมนทันที

แค้นรักสามีตัวร้าย

แค้นรักสามีตัวร้าย

Status: Ongoing

ไฟเผาความรักทั้งหมดของนรมนที่มีต่อบุริศร์ หลังจากห้าปี เธอกลับไปอย่างงดงามและเพื่อทวงความยุติธรรมสำหรับตัว เธอเอง แต่คาดไม่ถึงว่าเด็กชายที่ถูกพากลับมาด้วยนั้นมีแผน มากกว่าเธอ เด็กน้อยยืนอยู่ข้างหน้าบุริศร์ กล่าวอย่างไร้เดียง สาว่า “คุณลุง สามารถช่วยผมได้ไหม? ผมขอร้อง” บุริศร์ รู้สึกว่าไม่สามารถต้านทานการวิงวอนของเด็กได้ คุกเข่าลง เพื่อช่วย แต่คาดไม่ถึงว่าจะถูกพ่นใส่หน้า อยู่มาวันหนึ่ง บุริศร์ พูดกับเด็กชายหน้าตาดีว่า “เด็กน้อย นี่คือห้องของฉัน!” “แต่ ว่าผมอยากนอนกับหม่าม พวกเรานอนด้วยกันมาห้าปีแล้ว” ชายหนุ่มร้องไห้… แค่ไปจีบภรรยากลับมาเท่านั้น ทำไมลูก ของฉันถึงเอาใจยากเหลือเกิน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท