แค้นรักสามีตัวร้าย – บทที่ 1543 ฉันจะอยู่เคียงข้างคุณเองค่ะ

บทที่ 1543 ฉันจะอยู่เคียงข้างคุณเองค่ะ

หลังจากที่นรมนยิ้มแย้มและเอาเรื่องของน้ำมาพูดให้โพนี่ฟังราวกับเป็นเรื่องซุบซิบนินทาเรื่องหนึ่งไปแล้ว สุดท้ายก็พูดขึ้นว่า “อ๋อใช่แล้ว ผู้หญิงคนนี้ยังมีนามสกุลเดียวกับสกุลพรรณโรจน์ของพวกเธอด้วยนะ ชื่อว่าน้ำ เหมือนกับว่าผู้ชายที่แต่งงานด้วยในตอนนั้นจะเป็นตระกูลผู้ดีด้วยนะ ชื่อว่าเบิร์ดอะไรนี่แหละ ช่างเป็นผู้ชายชั่วช้าจริง ๆ”

หัวคิ้วของโพนี่ขมวดขึ้นมาเล็กน้อย แล้วก็ได้แต่ฟังอยู่เงียบ ๆ

“เอาล่ะ ฉันก็แค่จะมาเล่าเรื่องสนุกให้เธอฟังเรื่องหนึ่ง นี่เธอเพิ่งตื่นใช่ไหม?”

“อืม”

โพนี่พยักหน้าเล็กน้อย

“งั้นก็รีบไปล้างหน้าแปรงฟันกินข้าวเช้าเถอะ ทางฉันก็ง่วงแล้วเหมือนกัน จะไปนอนแล้ว บาย ๆ นะ”

หลังจากที่วางสายแล้ว โพนี่ก็มีเรื่องให้ครุ่นคิดขึ้นมา

ตอนที่ป้องออกมาจากห้องน้ำก็เห็นโพนี่มีท่าทางแบบนี้ แล้วก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะและถามขึ้นว่า “เป็นอะไรไป? ทำไมถึงได้มีท่าทีแบบนี้ พี่สะใภ้รองพูดอะไรกับคุณไปบ้างเหรอ?”

“ป้องคะ พวกเราอาจจะมีเรื่องยุ่งแล้ว”

คำพูดของโพนี่ทำให้ป้องนิ่งอึ้งไปเล็กน้อย

“หึ?”

โพนี่เล่าเรื่องที่นรมนพูดมาใหม่อีกรอบหนึ่ง และยังตั้งใจพูดถึงน้ำและเบิร์ดออกมาอีกด้วย

สีหน้าของป้องเปลี่ยนไปทันที

“คุณว่าใครนะ?”

“น้ำ นรมนพูดมาอย่างนี้ค่ะ ฉันรู้สึกว่าถ้าหากไม่มีความเกี่ยวข้องกับพวกเราละก็ นรมนก็คงจะไม่โทรมาหาฉันสายนี้หรอกค่ะ และที่สำคัญเธอยังตั้งใจพูดขึ้นมาด้วยว่าน้ำนามสกุลพรรณโรจน์ คิดว่าน่าจะเตือนอะไรพวกเราอยู่นะคะ”

โพนี่นั้นไม่ได้รู้จักน้ำ อย่างแรกเป็นเพราะว่าป้องไม่อยากจะให้เธอใกล้ชิดกับคนพวกตระกูลพรรณโรจน์มากเกินไป แล้วอย่างที่สองเรื่องของน้ำกับธเนศพลนั้นเป็นความลับมาตั้งแต่แรกแล้ว เธอรู้จักแต่เพียงจิรารัตน์ สำหรับน้ำนั้น เพราะว่าหลังจากที่แต่งงานแล้วคนตระกูลพรรณโรจน์ก็มักจะไม่พูดถึง แน่นอนว่าก็คงจะไม่มีโอกาสได้ไปรู้จักแน่ และป้องก็ไม่เคยพูดถึงคนคนนี้ด้วย

พอตอนนี้เห็นปฏิกิริยาของป้องแล้ว โพนี่ก็อดไม่ได้ที่จะนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง

“คุณเป็นอะไรไปคะ?”

“น้ำเป็นลูกพี่ลูกน้องของผม เป็นลูกบ้านอารอง ตั้งแต่เด็ก ๆ ก็มีความสัมพันธ์ที่ดีกับผมมาก ๆ ผมนึกว่าเธอแต่งงานกับเบิร์ดไปแล้วถึงจะไม่มีความสุขเท่าไหร่ แต่ก็คงจะไม่น่าที่จะมีสภาพอย่างเช่นตอนนี้ และอีกอย่างตระกูลธีรกุลภักดี​ก็ได้ล้มละลายไปในชั่วข้ามคืน แล้วเบิร์ดก็พาคนในครอบครัวออกไปจากเมืองหลวง ในตอนที่ผมจะไปสืบหานั้นก็ไม่มีเบาะแสอะไรแล้ว ตอนแรกผมนึกว่าถ้าน้ำมีความเป็นอยู่ที่ไม่ดี ก็คงจะต้องมาขอความช่วยเหลือจากผม แต่กลับคิดไม่ถึงว่าเธอจะมีสภาพแบบนี้ไปได้”

จิตใจของป้องเจ็บปวดแทบตายขึ้นมา

น้องสาวที่เธอประคบประหงมไว้ในมือ กลับโดนตระกูลธีรกุลภักดี​ทรมานจนกลายมาเป็นสภาพแบบนี้ น้ำที่เคยเปล่งประกายราวกับไข่มุก ตอนนี้กลับกลายเป็นคนไร้ค่าคนหนึ่งไป!

ป้องมีความคิดอยากจะฆ่าเบิร์ดขึ้นมาเลย

“ผมจะไปประเทศYเที่ยวหนึ่ง”

“คุณไปไม่ได้นะ”

โพนี่คว้าตัวป้องเอาไว้ทีหนึ่ง แล้วพูดเสียงต่ำขึ้นว่า “คุณไม่ได้คิดถึงอย่างอื่นเลยเหรอ?”

“อะไร?”

ตอนนี้ป้องโดนเรื่องของน้ำยึดครองหัวสมองไปหมด พอเห็นโพนี่ที่มีท่าทางขมวดคิ้ว ก็อดไม่ได้ที่จะอึ้งไปครู่หนึ่ง

โพนี่รีบพูดขึ้นว่า “ตระกูลธีรกุลภักดี​เป็นตระกูลผู้ดี อยู่ในเมืองหลวงก็เจริญรุ่งเรืองมาตั้งหลายปี แล้วทำไมพอแต่งงานกับน้ำปุ๊บตระกูลก็มาล้มละลายไป? เรื่องนี้ถ้าจะบอกว่าไม่มีแรงผลักดันมาจากภายนอกมันจะเป็นไปได้ยังไงกัน? ป้อง ฉันรู้ว่าคุณเป็นห่วงน้ำ แต่ว่าเมื่อเทียบกับน้ำแล้ว อาจจะมีเรื่องบางอย่างที่สำคัญกว่านะคะ ในเมื่อไม่มีทางที่อยู่ดี ๆ นรมนก็มาบอกเรื่องนี้กับฉันหรอกค่ะ ถ้าเพียงเพราะน้ำเป็นน้องสาวคุณละก็ พี่รองกับนรมนบอกพวกเรามาตรง ๆ ก็พอแล้วนี่คะ? ทำไมจะต้องพูดอ้อมค้อมมากขนาดนี้ด้วย? ฉันคิดว่าคุณควรจะไปตรวจสอบดูสักหน่อยแล้วล่ะค่ะ”

พอป้องได้ยินโพนี่พูดแบบนี้ จู่ ๆ ก็เข้าใจขึ้นมาทันทีเลย

“เดี๋ยวผมโทรหาพี่รองแป๊บหนึ่งนะ”

“ถ้าหากพี่รองสามารถคุยกับคุณได้ ก็คงไม่ต้องให้นรมนโทรศัพท์หาฉันแล้ว”

โพนี่ขวางป้องเอาไว้ซะก่อน

แล้วก็ในเวลานี้พอดี นรมนก็ส่งข้อความมาให้โพนี่อีกข้อความหนึ่ง

“คนที่น้ำเคยชอบคือธเนศพล”

ตอนที่คุยโทรศัพท์กับโพนั้น นรมนไม่ได้พูดชื่อของธเนศพลออกไป บอกแต่เพียงว่าเป็นคุณชายตระกูลร่ำรวยคนหนึ่ง เพราะกลัวว่าโทรศัพท์จะมีคนดักฟัง

เพราะฉะนั้นตอนนี้คำพูดประโยคนี้ต่างหากถึงจะเป็นสิ่งสำคัญ

ดวงตาของโพนี่หรี่ลงอย่างรวดเร็วทีหนึ่ง ป้องเองก็เห็นแล้วเหมือนกัน และอดไม่ได้ที่จะอึ้งไปครู่หนึ่ง

ต่อจากนั้นข้อความบนโทรศัพท์ของโพนี่ก็หายด้วยความเร็วเท่าที่สายตาสามารถมองเห็น

ป้องรู้ดี ว่านี่เป็นฝีมือของบุริศร์

พอเอ่ยถึงธเนศพล ป้องก็สงบนิ่งไม่ไหวอีกแล้ว

“เป็นไปได้ยังไง?”

“คุณรู้อะไรมาบ้างคะ?”

พอโพนี่เห็นท่าทีของสามีเป็นแบบนี้ ถึงจะความรู้สึกจะช้าแค่ไหนก็ต้องรู้แล้วว่าป้องต้องรู้อะไรมาบ้างแน่

ป้องรีบพูดขึ้นว่า “สิ่งที่ผมรู้มาคือจิรารัตน์กับธเนศพลต่างหากที่เป็นคู่รักกัน ตอนนั้นธเนศพลยังฆ่าคนเพื่อจิรารัตน์ แล้วโดนจับไปติดคุก ต่อมาพอออกมาแล้วก็ไปจัดการจิรารัตน์เลย แล้วตั้งแต่นั้นมาก็อยู่ห่างจากผู้หญิงเลย แล้วนี่ทำไมถึงได้มาเกี่ยวข้องกับน้ำเข้าได้ล่ะ?”

เรื่องนี้ป้องรู้สึกว่าต้องไปตรวจสอบดูสักหน่อยแล้ว

และเพื่อสิ่งนี้เขาก็จะไปสนใจเรื่องทำงานไม่ไหวแล้ว จึงได้ลางาน แล้วก็หาคนที่น่าเชื่อถือได้ไปตรวจสอบเรื่องราวสักหน่อย

ในเมื่อบุริศร์มีใจอยากจะให้ป้องไปตรวจสอบ แน่นอนว่าจะต้องเอาเรื่องบางส่วนเปิดเผยให้ป้องแน่ เพราะฉะนั้นป้องจึงไม่ได้เปลืองแรงมากไปเท่าไหร่ก็สามารถรู้เรื่องทุกอย่างแล้ว แล้วตัวทั้งตัวก็ตกใจจนหน้าขาวซีดไปเลย

ตระกูลพรรณโรจน์เหรอ!

ทั้งตระกูลของเขาวุ่นวายไม่มีที่สิ้นสุด ถ้าหากว่าเรื่องนี้เป็นความจริงละก็ งั้นเขาก็แทบจะสามารถคาดเดาได้ถึงความพังพินาศของตระกูลพรรณโรจน์แล้ว

พอคิดมาถึงตรงนี้ ป้องก็โทรศัพท์หาคุณท่านจิรเมธโดยตรงเลย

“คุณปู่ครับ”

ตั้งแต่ที่แต่งงานแล้ว ป้องก็ติดต่อกับคุณท่านจิรเมธน้อยมาก มาวันนี้จู่ ๆ ก็โทรศัพท์มาจึงทำให้คุณท่านจิรเมธรู้สึกแปลกใจอยู่บ้าง

“เจ้าเด็กอย่างนายนี่ยังจำได้ว่ามีปู่อย่างฉันคนหนึ่งด้วยเหรอ?”

มาวันนี้คนที่เป็นนายใหญ่ของตระกูลพรรณโรจน์นั้นคือลุงใหญ่ของป้องขวัญชนก

ป้องไม่มีอารมณ์จะมาต่อปากต่อคำกับชายชรา แล้วก็เอาเรื่องที่ตัวเองสืบค้นมาเล่าให้คุณท่านจิรเมธฟังอย่างละเอียดไป

คุณท่านจิรเมธนิ่งอึ้งไปเลยทันที

“ที่แกพูดมาเป็นความจริงหมดเลยใช่ไหม?”

“ใช่ครับ เรื่องนี้คุณชายธเนศพลยังไม่ได้เริ่มยื่นมือเข้ามาตรวจสอบ แต่ว่าก็เป็นเรื่องเร็ว ๆ นี้แล้ว ได้ยินมาว่าวิสุทธิ์ได้บินไปประเทศYแล้ว ขอแค่มั่นใจว่าลูกสาวของน้ำชมพูเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของธเนศพลเท่านั้น ตระกูลพรรณโรจน์ของเราก็คงจะหนีเคราะห์กรรมครั้งนี้ได้ยากแล้ว คุณปู่ครับ ตอนนั้นคุณลุงทำเรื่องอย่างนั้นกับน้ำจริง ๆ เหรอครับ?”

ป้องไม่อยากจะเชื่อจริง ๆ แต่ก็รู้สึกว่าจะต้องเป็นความจริงแน่ เพราะว่าตัวเขาเองเกิดมาจากตระกูลใหญ่อยู่แล้ว พวกเรื่องสกปรกของการแก่งแย่งชิงดีในนั้นก็ได้ยินมานานแล้ว และนี่ก็เป็นสาเหตุที่ว่าทำไมป้องถึงได้ไม่ชอบตำแหน่งนายใหญ่ประจำตระกูล

เขาแค่อยากจะมีชีวิตอยู่อย่างเรียบง่ายเท่านั้น!

แต่ไม่ว่ายังไงเขาก็คิดไม่ถึงว่าคุณลุงใหญ่ขวัญชนกจะทำเรื่องอย่างนี้ออกมาได้

หลายปีมานี้คุณปู่ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้มานานแล้ว และก็ไม่รู้ว่าเป็นความจริงหรือเปล่า แต่ว่าในเมื่อโดนคนสืบค้นออกมาแล้ว งั้นก็หมายความว่าขวัญชนกได้เคยทำมาก่อนจริง ๆ และตอนนี้ก็แค่รอการยืนยันเท่านั้น

เวลามีไม่ทันให้คุณท่านจิรเมธไปคิดหาวิธีอะไรแล้ว

ถึงแม้ว่าป้องจะบอกกับเขาเป็นอันดับแรก แต่ในเมื่อวิสุทธิ์ได้บินไปประเทศYแล้ว งั้นจุดจบของตระกูลพรรณโรจน์จะเป็นยังไง คุณท่านจิรเมธก็พอเดาออกมาได้แล้ว

ตอนนี้ทำอะไรก็ไม่ทันการณ์ซะแล้ว บาปกรรมที่ตระกูลพรรณโรจน์ได้ก่อเอาไว้แน่นอนว่าก็ต้องมาชดใช้ แต่ว่า……

คุณท่านจิรเมธพูดเสียงต่ำขึ้นว่า “เริ่มตั้งแต่นี้ไป แกจะไม่ใช่คนของตระกูลพรรณโรจน์อีก”

“คุณปู่ครับ!”

ป้องเข้าใจความหมายของคุณปู่ขึ้นมาทันที จึงอดไม่ได้ที่อยากจะพูดอะไรสักหน่อย แต่กลับได้ยินคุณปู่พูดขึ้นว่า “ป้อง แกฟังฉันนะ ลุงของแกขวัญชนกได้ก่อเรื่องอย่างนี้ออกมา มันไม่มีทางที่จะแก้ไขได้แล้ว ตอนนี้คุณชายธเนศพลมีสถานะยังไงอยู่นั้นแกรู้ดีมากกว่าฉัน ระบอบการปกครองจะเปลี่ยนแปลงแล้ว ตระกูลใหญ่ต่างก็กำลังรักษาชีวิตรอดของตัวเองอยู่ แต่กลับคิดไม่ถึงว่าตอนนั้นเจ้าชั่วขวัญชนกนั่นจะทำร้ายญาติพี่น้องของตัวเองแบบนี้ ตระกูลพรรณโรจน์รักษาไว้ไม่อยู่แล้ว แต่ว่าแกมันไม่เหมือนกัน ตอนนี้แกไม่มีตำแหน่งอยู่ติดตัว แล้วพ่อตาก็เป็นผู้มีตำแหน่งสูงและมีอำนาจ ขอแค่แกไม่เป็นคนตระกูลพรรณโรจน์แล้ว ก็จะสามารถรักษาความปลอดภัยของแกไว้ได้

ขอแค่แกไม่เป็นอะไร ตระกูลพรรณโรจน์ก็จะมีโอกาสผงาดขึ้นมาได้อีกครั้ง ฟังคำพูดปู่นะ หลังจากที่ตระกูลพรรณโรจน์พังพินาศไปแล้ว แกก็เอาทรัพย์สมบัติส่วนตัวส่งมอบออกมาให้หมดทุกอย่างอย่าให้เหลือ ขอแค่แกเป็นประชาชนธรรมดาคนหนึ่ง และไม่มีกำลังทรัพย์ ด้วยความสัมพันธ์ของแกกับคุณชายธเนศพล คุณชายธเนศพลจะต้องคุ้มครองแกแน่ คุณท่านขวัญชัยที่อยู่เบื้องบนก็คงไม่เข่นฆ่าแกให้สิ้นซากหรอก ขอแค่แกยังมีชีวิตอยู่ ตัวแกและลูกชายของแกก็เป็นความหวังที่จะทำให้ตระกูลพรรณโรจน์ลุกขึ้นมาได้อีกครั้ง เงินไม่มีแล้วสามารถหาใหม่ได้ แต่ถ้าคนตายไปแล้วก็จบเห่แล้วจริง ๆ”

คุณท่านจิรเมธค่อนข้างรักหลานชายคนนี้มาตลอด แต่น่าเสียดายที่ความสนใจของป้องไม่ได้อยู่ที่ตระกูลพรรณโรจน์

มาวันนี้ตระกูลพรรณโรจน์มีเคราะห์กรรมมาหาถึงบ้านและยากที่จะหลีกหนีได้ คุณท่านจิรเมธจึงได้ทำการตัดสินใจออกมาอย่างรวดเร็ว คือการเสียสละสิ่งที่สำคัญไปเพื่อมาปกป้องสิ่งที่สำคัญที่สุดเอาไว้!

“คุณปู่ครับ!”

ป้องเกิดเสียงสะอื้นขึ้นมาทันที

คุณท่านจิรเมธรู้ว่าในใจของป้องนั้นเจ็บปวด แต่ว่าก็ยังรู้สึกโชคดีมาก อยู่ในตระกูลที่ยิ่งใหญ่นี้ ความสัมพันธ์ญาติมิตรจืดจางกันจนน่ากลัว แล้วมีเพียงแต่ป้องหลานชายคนนี้ที่มีความจริงใจและไม่อยากใช้ขั้นตอนสกปรกพวกนั้น ก็เลยหลีกหนีออกไปจากตระกูลไปเจริญเติบโตด้วยตัวเอง แต่กลับได้ทำให้คุณท่านจิรเมธได้มีดื่มด่ำกับความสุขที่มีต่อลูกหลานอยู่หลายปี

มาวันนี้พอคิดถึงว่าต่อไปอาจจะไม่มีโอกาสได้เจอหน้าป้องอีกแล้ว ดวงตาของคุณท่านจิรเมธก็แดงขึ้นมา

“โพนี่เป็นผู้หญิงที่ดี มาวันนี้ตระกูลพรรณโรจน์ก็มาเจอกับเคราะห์กรรมที่ใหญ่หลวงขนาดนี้ ตระกูลพรรณโรจน์ของเราเป็นคนทำผิดต่อเธอเอง ย่าของแกเคยเหลือกำไลคู่หนึ่งทิ้งเอาไว้ แล้วโดนฉันเอาไปฝากไว้ที่ธนาคารซิตี้แบงก์ แกไปเอาออกมาแล้วมอบให้กับเธอซะ ต่อไปก็ใช้ชีวิตอยู่กับเธอดี ๆ นะ”

ป้องรู้ดีว่า กำไลคู่นั้นเป็นเครื่องหมายของนายหญิงประจำตระกูล และยังเป็นของขวัญต่างงานของคุณย่าอีกด้วย ถึงขวัญชนกจะได้เป็นนายใหญ่ประจำตระกูลแล้ว แต่ว่าคุณปู่ก็ไม่ได้เอากำไลคู่นี้มอบให้คุณป้าเลย คิดไม่ถึงว่าวันนี้จะเอามามอบให้กับโพนี่ได้

“คุณปู่ครับ ขอโทษครับ ตอนนี้ผมกลับไปไม่ได้”

ตอนนี้ป้องอยู่ที่เมืองหลวง เพราะว่ามีความสนิทสนมกับบุริศร์ เพราะฉะนั้นตอนนี้จึงไม่มีทางที่จะไปจากเมืองหลวงได้

คุณท่านจิรเมธจะไม่รู้ได้ยังไงล่ะ?

เขาพูดเสียงต่ำขึ้นว่า “ไม่ต้องกลับมาหรอก! แกสามารถรู้เรื่องนี้ได้ และบอกฉันทันทีก็ถือว่าไม่ง่ายแล้ว ป้อง ปู่จะไม่พูดเยอะแล้วนะ ต่อไปตระกูลพรรณโรจน์ก็ต้องพึ่งแกแล้วนะ การตกต่ำและการผงาดของตระกูลใหญ่ก็เหมือนกับอาทิตย์และพระจันทร์ที่สับเปลี่ยนกัน มีทั้งความรุ่งเรืองและความเสื่อมโทรม นี่เป็นเรื่องธรรมดา แต่ว่าจะพัฒนาตระกูลใหญ่ให้เติบโตกลับมายังไง นี่ถึงจะเป็นเรื่องที่แกต้องไปคิด ต้องไปทำในตอนนี้ ปู่เชื่อว่า แกจะต้องทำให้ตระกูลพรรณโรจน์กลับมาเป็นตระกูลที่รุ่งเรืองได้อีกครั้งแน่”

ป้องกำโทรศัพท์ไว้แน่น น้ำตาเอ่อล้นเต็มดวงตา

เขารู้ดีว่านี่คือการคุยโทรศัพท์กันครั้งสุดท้ายกับปู่แล้ว

“คุณปู่ครับ พวกเรามาเปิดวิดีโอคอลกันหน่อยดีไหมครับ?”

“ไม่ต้องหรอก”

พูดจบคุณปู่ก็วางสายไปเลย

แล้วน้ำตาของป้องก็กลั้นไม่อยู่อีกแล้วก็ไหลลงมา

ไม่รู้ว่าโพนี่มายืนอยู่ข้างหลังป้องตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วก็โอบกอดเขามาจากข้างหลัง และพูดเสียงต่ำขึ้นว่า “ฉันจะอยู่เคียงข้างคุณเองค่ะ”

ป้องหันกลับไปกอดโพนี่ไว้อย่างรวดเร็ว แล้วเอาใบหน้าซุกเข้าไปในซอกคอของเธอ ของเหลวอุ่นร้อนตกกระทบลงบนซอกคอของโพนี่ และรู้สึกร้อนแรงเป็นอย่างมาก

ใจของโพนี่เองก็ไม่ทุกข์ใจเป็นอย่างมากด้วย แต่เธอเองก็รู้ มีเรื่องบางเรื่องไม่ใช่แรงมนุษย์จะสามารถไปหยุดยั้งได้ ถ้าไม่ใช้เพราะว่าบุริศร์และนรมนมาบอกพวกเขา ก็มีความเป็นไปได้สูงมากที่สิ่งที่รอพวกเขาอยู่จะเป็นจุดจบเดียวกับของพวกขวัญชนก

มาตอนนี้ถือได้ว่าสามารถป้องกันป้องให้ปลอดภัยได้แล้ว ถึงตระกูลพรรณโรจน์จะล่มสลายไป แต่ที่จริงชีวิตความเป็นอยู่ของป้องและโพนี่ก็ไม่ได้มีผลกระทบมากเท่าไหร่ หลังจากพวกทรัพย์สมบัติส่วนตัวของป้องถูกส่งมอบออกไปแล้ว ธเนศพลก็คงจะไม่ทนดูป้องต้องเกาะเมียกินหรอก

เพราะฉะนั้น ป้องจึงจะถือได้ว่าเป็นคนของธเนศพลไปหมดแล้วจริง ๆ

แค้นรักสามีตัวร้าย

แค้นรักสามีตัวร้าย

Status: Ongoing

ไฟเผาความรักทั้งหมดของนรมนที่มีต่อบุริศร์ หลังจากห้าปี เธอกลับไปอย่างงดงามและเพื่อทวงความยุติธรรมสำหรับตัว เธอเอง แต่คาดไม่ถึงว่าเด็กชายที่ถูกพากลับมาด้วยนั้นมีแผน มากกว่าเธอ เด็กน้อยยืนอยู่ข้างหน้าบุริศร์ กล่าวอย่างไร้เดียง สาว่า “คุณลุง สามารถช่วยผมได้ไหม? ผมขอร้อง” บุริศร์ รู้สึกว่าไม่สามารถต้านทานการวิงวอนของเด็กได้ คุกเข่าลง เพื่อช่วย แต่คาดไม่ถึงว่าจะถูกพ่นใส่หน้า อยู่มาวันหนึ่ง บุริศร์ พูดกับเด็กชายหน้าตาดีว่า “เด็กน้อย นี่คือห้องของฉัน!” “แต่ ว่าผมอยากนอนกับหม่าม พวกเรานอนด้วยกันมาห้าปีแล้ว” ชายหนุ่มร้องไห้… แค่ไปจีบภรรยากลับมาเท่านั้น ทำไมลูก ของฉันถึงเอาใจยากเหลือเกิน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท