แค้นรักสามีตัวร้าย – บทที่ 1667 มีอะไรก็ไปทำ

บทที่ 1667 มีอะไรก็ไปทำ

เมื่อนะโมได้ยินก็รู้ได้ในทันทีว่าไม่ใช่เรื่องดีอะไร ที่กิจจาไม่บอกที่มาที่ไปกับกมล แน่นอนว่าต้องไม่อยากให้เธอรู้ ตอนนี้เขาควรพูดอะไรดี?

แต่ถ้าไม่พูด กมลก็คงไม่ยอมเลิกราง่ายๆ เขายิ่งรู้สึกกลุ้มใจมากกว่าเดิม

“โอ๊ย ปวดท้อง!”

เขาพูดพร้อมกับกุมท้องเตรียมวิ่งเข้าไปในห้องน้ำ แต่กลับถูกกมลกระชากเสื้อเอาไว้ก่อน

“อย่าหนี คิดว่าฉันไม่กล้าเข้าห้องน้ำผู้ชายเหรอ? นะโม นายคิดให้ดีๆนะ ถ้าฉันเข้าห้องน้ำไปกับนาย นายต้องรับผิดชอบฉันยังไง”

เมื่อได้ยินคำว่ารับผิดชอบ นะโมก็สะดุ้ง

“ชิ เธอนี่มัน……”

นะโมหาคำมาบรรยายเธอไม่ถูก

กมลยิ้มสวยออกมา “มันอะไร?”

“ช่างเถอะ ฉันช่วยก็ได้โอเคไหม? แต่ถ้าเฮียมาฟันหัวฉัน เธอก็ต้องคุ้มกันฉันด้วยได้ยินไหม?”

กมลเอ่ยพูดอย่างดูแคลน “ให้ผู้หญิงปกป้อง นายไม่อายเหรอ?”

“อายสิ ฉันไม่ได้อยากลงเรือลำเดียวกันกับเธอเลยสักนิด แต่ถูกเธอบังคับต่างหาก แล้วเธอไม่คิดจะปกป้องฉันเลยหรือไง?”

“ได้ๆๆ ฉันจะปกป้องนายเอง!แต่ตอนนี้นายรีบๆสักทีซิ”

กมลใจร้อนจนจะบ้าตายแล้ว

นะโมยืดลุกขึ้นช้าๆ แล้วเดินไปยังห้องสมุด ขณะที่เดินเขาก็ส่งซิกทางสายตาให้คนใช้ คนใช้ที่ตาไวจึงรีบออกไปข้างนอกเพื่อต่อสายหากิจจา

นะโมเปิดคอมพิวเตอร์ แล้วเคาะแป้นพิมพ์อย่างรวดเร็ว

ทางด้านกานต์เมื่อได้ทราบข่าว จึงชะงักนิ่งไปเล็กน้อย จากนั้นก็เปิดคอมพิวเตอร์ เพื่อคุยกับนะโมด้วยรหัสลับ

“บอกกมลไปว่า ภาณไม่สบาย อาการป่วยค่อนข้างพิเศษ พี่กิจเลยมาช่วยดู เพื่อไม่ให้เธอเป็นห่วง อีกสองสามวันพี่กิจก็จะพาภาณกลับไปด้วย แล้วก็บอกตาทวดเองก็กังวลเรื่องนี้จนเจ็บไข้ได้ป่วย เพราะฉะนั้นให้เธออยู่ดูแลตาทวดดีๆ”

“ว่าแต่ภาณป่วยจริงๆเหรอ?”

นะโมเริ่มเป็นห่วงขึ้นมาบ้างแล้ว

“ไม่ใช่ แต่ถูกลักพาตัว คนของตระกลูสิทธิรัตน์สุนทรจับตัวภาณไป แค้นนี้ไม่ช้าก็เร็วฉันต้องได้ชำระกับพวกเขา”

“ตระกลูสิทธิรัตน์สุนทร? ตระกลูสิทธิรัตน์สุนทรที่เมืองหลวงน่ะเหรอ?”

“อืม นายเองก็ระวังด้วย ฉันจำได้ว่ามีคนในกองทหารมาจากตระกลูสิทธิรัตน์สุนทร ช่วงนี้ก็อย่าทำตัวเด่นเกินไปนะ”

กานต์ไม่ค่อยสบายใจกับนะโมเท่าไหร่

“สบายใจได้ แด๊ดดี้ของฉันคือชวกรเชียวนะ ถ้าเขากล้าทำอะไรฉันก็ลองดู แต่ไม่กี่วันก่อนฉันกลับบ้านที่เมืองY เห็นว่ามีคนมาคุยกับแด๊ดดี้ฉันที่บ้าน บังเอิญไปได้ยินเกี่ยวกับตระกลูสิทธิรัตน์สุนทร ไม่ใช่ว่าพอซื้อใจตระกูลโตเล็กของนายไม่ได้ แล้วหันมาซื้อใจตระกลูสมบัติศิริของพวกฉันแทนนะ?”

“ไม่แน่ใจ เรื่องของผู้ใหญ่นายอย่าไปยุ่งเลย ช่วงนี้ร่างกายนายเป็นยังไงบ้าง?”

“ดีมาก นายไม่ต้องห่วงฉันหรอก มีเรื่องอะไรก็บอกฉันได้ ฉันพร้อมสแตนด์ตลอดเวลา”

“ได้”

กานต์อุ่นใจขึ้นมาบ้าง

นะโมเป็นหนึ่งในเพื่อนที่เหลือไม่มากของเขา

กมลอ่านรหัสลับระหว่างพวกเขาไม่เข้าใจ จึงอดขมวดคิ้วแล้วเอ่ยถามไม่ได้ว่า “ได้หรือยัง?”

“เธอคิดว่าการแฮ็กมันทำกันง่ายๆเหรอ? ฉันค่อยๆหาอยู่นี่ไง!”

นะโมเอ่ยพูดอย่างรวดเร็ว

เมื่อเห็นนิ้วเรียวของนะโมพิมพ์บนคีย์บอร์ดอย่างรวดเร็ว เธอก็อดคิดถึงกานต์ขึ้นมาไม่ได้ ไม่รู้ว่าตอนนี้จะเป็นยังไงบ้าง

เธอคิดถึงเขาซะแล้วสิ

กมลรอเขาอย่างเงียบๆ ผ่านไปสักพักนะโมถึงได้นำเรื่องที่กานต์บอกมาเล่าให้กมลฟัง

สีหน้าของเธอฉายแววกังวล

“ป่วยเป็นอะไร? อาการหนักไหม?”

“คุณหนู เรื่องนี้ฉันสืบหาไม่ได้หรอกนะ กิจจาไปถึงนั้นแล้ว คงไม่ฝากไข้ไที่ไหนหรอก พอไม่มีการฝากไข้แล้วฉันจะไปสืบหามาแต่ไหน?”

เขาพูดออกมาอย่างไม่มีพิรุธ

เมื่อบรรลุจุดประสงค์แล้ว กมลด็ลุกขึ้นเดินออกไป

“ใจร้ายเกินไปแล้วหรือเปล่า?”

นะโมฮึดฮัดยิ่งกว่าเดิม

กมลโบกมือ“ไว้คราวหลังฉันซื้อของอร่อยๆมาให้แล้วกัน”

นี่เขาดูอดยากขนาดนั้นเลยเหรอ?

เหรอ?

นะโมมองมาที่คนใช้ คนใช้จึงรีบก้มหน้าลง แต่ละคนต่างเม้มปากแน่นไม่กล้ายิ้มออกมา

“ไปๆๆ มีอะไรก็ไปทำ”

นะโมส่ายหัว แล้วรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าออกไปข้างนอก

หลังจากที่กมลรู้ว่าเรื่องเป็นยังไง ก็รีบตรงไปที่โรงพยาบาล

พี่ชายพูดถูก พวกเขากำลังรักษาน้องชาย เธอก็ต้องมาอยู่เฝ้าตาทวด อีกอย่างภาคินก็อยู่กับตาทวดด้วย

ด้านกิจจาพอขึ้นมาบนเครื่องบินได้ไม่นานก็เดินทางมาถึงเมืองหลวง คนที่มารับเขาคือชมพู

ถ้าให้คนอื่นมารับกานต์ไม่วางใจ ธเนศพลเองก็ไม่ได้คัดค้านอะไร เขาเองก็หวังว่าลูกสาวของเขากับเด็กๆตระกูลโตเล็กจะสนิทกันมากขึ้น

หลังจากลงมาจากเครื่องกิจจาก็ติดต่อหากานต์ด้วยความรวดเร็ว เมื่อรู้ว่าคนที่มารับตัวเองคือลูกสาวของคุณชายธเนศพล ก็ค่อนข้างเหนือความคาดหมาย แต่ก็ไม่ได้แสดงความรู้สึกอะไรออกไป

“พี่กิจ เชิญทางนี้”

ชมพูเรียกชื่อเขาตามกานต์

แม้ว่ากิจจาจะค่อนข้างประหลาดใจ แต่ก็ยังพยักหน้าไปให้ เมื่อขึ้นมาบนรถก็เปิดไอแพดดูอะไรบางอย่าง

ชมพูกวาดตามอง ก็พบว่าล้วนแล้วแต่เป็นภาษาแพทย์ทั้งนั้น ดูอ่านยาก เธออ่านไม่เข้าใจ จึงเอ่ยถามอย่างอดไม่ได้ว่า “พี่กิจ พี่อ่านอะไรพวกนี้เข้าใจด้วยเหรอ?”

“นี่มันหัวข้อวิจัยฉัน”

กิจจาเอ่ยพูดโดยที่ยังไม่เงยหน้าขึ้นมา

ชมพูรู้สึกนับถือ

เธอนับถือคนที่ใช้สมองหากินมาตลอด ซึ่งพี่ชายของพี่กานต์เป็นอย่างนั้น

ชมพูนั่งเงียบๆอยู่ข้างๆไม่ได้เอ่ยพูดรบกวน ทำให้กิจจารู้สึกคาดคิดไม่ถึง แต่กระนั้นก็รู้สึกไม่อึดอัด

ทั้งสองเงียบมาตลอดทางจนถึงตระกูลธนเกียรติโกศล

กานต์มารอเขาอยู่ก่อนแล้ว เมื่อเห็นกิจจาจึงรีบเดินเข้าไปหา

“พี่!”

“กานต์!”

กิจจาเดินเข้าไปหา พี่น้องทั้งสองกอดกันแน่น

ชมพูนิ่งไปอย่างอดไม่ได้

กานต์เย็นชากับทุกคน นึกว่ากับคนในครอบครัวก็คงจะเป็นอย่างนี้ด้วย แต่กลับคิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะกอดคนอื่นเป็นด้วย?

ไม่รู้ว่าทำไม จู่ๆชมพูก็รู้สึกอิจฉาพี่น้องของกานต์ขึ้นมา

หลายปีมานี้กานต์โตเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาก ยิ่งโตยิ่งเหมือนพี่ชายคนโตของตระกูลโตเล็ก แบบนี้ยิ่งทำให้กานต์ดีใจเป็นพิเศษ

ทั้งสองกอดกันอยู่สักพักก็แยกออกจากกัน กิจจาเอ่ยถามขึ้นมาว่า “ภาณล่ะ?”

“อยู่ข้างใน”

กานต์เดินนำหน้า กิจจาเดินตามหลัง ส่วนชมพูถูกทั้งสองมองข้ามไป

เมื่อธเนศพลเห็นกิจจาก็รู้สึกดีใจไม่น้อย

“กิจจามาแล้วเหรอ?”

“สวัสดีครับน้าพล”

แม้ว่าความสัมพันธ์ของตระกูลโตเล็กกับตระกูลธนเกียรติโกศลจะดี แต่กิจจาก็ไม่ได้มองข้ามเรื่องมารยาท

ธเนศพลยิ่งชื่นชมเขามากกว่าเดิม

“ไม่ต้องเห็นเป็นคนอื่นคนไกลหรอก ตามฉันมาที่ห้องหนังสือหน่อยแล้วกัน ฉันมีเรื่องจะคุยกับแก”

ธเนศพลพากิจจาและกานต์มาที่ห้องหนังสือ กลัั้นทุกคนเอาไว้ข้างนอก

หลังจากได้รู้เรื่องราวทั้งหมด กิจจาก็อดรู้สึกกรุ่นโกรธขึ้นมาไม่ได้

ดูเหมือนเขาต้องพัฒนาตัวเองให้เร็วกว่านี้เสียแล้วสิ ไม่อย่างนั้นพวกคนจัญไรก็คงคิดจะเล่นงานตระกูลโตเล็กไม่หยุด

เขาจะไม่ยอมให้โศฏนาตรกรรมในรุ่นแด๊ดดี้ฉายซ้ำอีกเด็ดขาด!

เขาต้องพัฒนาตัวเองให้แข็งแกร่ง ถึงจะสามารถปกป้องคนที่อยากปกป้องได้!

ดังนั้นกิจจาไม่ปฏิเสธคำเชิญชวนของธเนศพล

“ได้ ผมตกลงเข้าร่วม แต่ผมขอมีสิทธิในการพูดอย่างเด็ดขาด อย่างน้อยในขอบเขตนี้ ผมก็หวังว่าจะไม่ถูกใครบังคับให้ไปซ้ายหรือขวา”

สิ่งนี้ขัดกับเจตจำนงของธเนศพลโดยสิ้นเชิง อีกอย่างยังดูทะนงตัวอีกด้วย ซึ่งความทะนงตัวนี่แหละทำให้ธเนศพลยิ่งรู้สึกชื่นชมกว่าเดิม

แค้นรักสามีตัวร้าย

แค้นรักสามีตัวร้าย

Status: Ongoing

ไฟเผาความรักทั้งหมดของนรมนที่มีต่อบุริศร์ หลังจากห้าปี เธอกลับไปอย่างงดงามและเพื่อทวงความยุติธรรมสำหรับตัว เธอเอง แต่คาดไม่ถึงว่าเด็กชายที่ถูกพากลับมาด้วยนั้นมีแผน มากกว่าเธอ เด็กน้อยยืนอยู่ข้างหน้าบุริศร์ กล่าวอย่างไร้เดียง สาว่า “คุณลุง สามารถช่วยผมได้ไหม? ผมขอร้อง” บุริศร์ รู้สึกว่าไม่สามารถต้านทานการวิงวอนของเด็กได้ คุกเข่าลง เพื่อช่วย แต่คาดไม่ถึงว่าจะถูกพ่นใส่หน้า อยู่มาวันหนึ่ง บุริศร์ พูดกับเด็กชายหน้าตาดีว่า “เด็กน้อย นี่คือห้องของฉัน!” “แต่ ว่าผมอยากนอนกับหม่าม พวกเรานอนด้วยกันมาห้าปีแล้ว” ชายหนุ่มร้องไห้… แค่ไปจีบภรรยากลับมาเท่านั้น ทำไมลูก ของฉันถึงเอาใจยากเหลือเกิน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท