เขาจงใจเหยียบเท้าของโสธร เจ็บจนโสธรที่สลบไปแล้วสะดุ้งตื่นขึ้นมา
“ถ้าไม่อยากเสียใจไปตลอดชีวิตก็บุกไปพร้อมกับฉัน!”
เจตต์พูดเสียงเบา เบาจนเหมือนกำลังพูดงึมงำกับตัวเอง แต่ว่าโสธรก็ยังได้ยิน
เมื่อนึกถึงรอยยิ้มสุดท้ายของนิวรา ชั่วขณะนั้นก็มีแรงขึ้นมาในทันที
ทั้งสองคนจัดการลูกน้องทหารตามหลังกันติดๆ จนแย่งปืนในมือของพวกเขามาได้ จากนั้นก็สาดกระสุนอย่างบ้าคลั่ง
เสียงปืนดังขึ้นถี่ๆจนหัวหน้าทหารจนหยุดการกระทำลง
“เกิดอะไรขึ้น?”
เสื้อผ้าของนิวราขาดรุ่งริ่ง ร่างกายถูกเปิดเปลือย ซึ่งเธอได้กัดลิ้นตัวเองจนสลบไปนานแล้ว
นั่นเพราะเธอคิดที่จะกัดลิ้นให้ตัวเองตายๆไป
ในตอนนี้เองทหารนายอื่นก็ส่งเสียงมาจากข้างนอก
“หัวหน้า สองคนนั้นดิ้นหลุดแล้ว พวกมันเก่งมาก เอาไงดีครับ!”
“แม่ง!”
หัวหน้ารูดกางเกงขึ้นแล้วเดินออกไปข้างนอก ทว่ายังไม่ทันได้เดินออกไปไหน โสธรก็พุ่งเข้ามาถีบหน้าอกเขาจนหงายหลัง โดยเฉพาะในตอนที่เห็นเลือดสดๆที่ไหลตามมุมปากของนิวรา เพลิงโกรธของเขาก็แล่นขึ้นหัว
“ไอ้สัสเอ้ย!”
เขาเล็งปืนไปที่หัวหน้าโดยไม่หยุดคิด
แม้ว่าหัวหน้าจะหลบเร็วแค่ไหน แต่ก็ยังถูกลูกกระสุนอยู่ดี เขาเจ็บจนต้องส่งเสียงร้องออกมา
โสธรถอดเสื้อตัวนอกของตัวเองมาคลุมให้นิวรา ดวงตาชื้นไปด้วยหยาดน้ำ
“นิวรา ตื่นขึ้นมาสิ พี่จะพาเธอกลับบ้าน!”
โสธรกอดเธอไว้แน่น แต่กลับไม่รู้สึกถึงปฏิกิริยาใดๆของนิวรา
ทันใดนั้นเขาก็เริ่มลนลานขึ้นมา
ด้านเจตต์ทั้งสู้ทั้งกระหน่ำยิงอยู่ข้างนอกอย่างบ้าคลั่ง ทว่าพละกำลังเริ่มจะเอาไม่อยู่แล้ว
ตาของเขาเริ่มพร่าเบลอ ร่างกายหยุดนิ่งค้าง ทันใดนั้นเขาก็ถูกหมัดหลุนๆพุ่งเข้าใส่ จนล้มลงกับพื้น
จระเข้ที่อยู่ในสระเมื่อได้กลิ่นเลือดสดๆก็พุ่งมาทางนี้อย่างรวดเร็ว
เจตต์กำลังจะขยับตัวหนี แต่ถูกทหารจับกดน้ำอย่างรุนแรง
เขารู้ว่าเขาอาจจะตายอยู่ที่นี่
น่าเสียดาย เขายังไม่ได้เจอขวัญตาเป็นครั้งสุดท้ายเลย ไม่รู้ว่าลูกที่อยู่ในท้องจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย
เขาอาจจะไม่มีโอกาสได้ส่งของขวัญที่เขาซื้อให้สองแม่ลูกเองกับมือ
แต่เขาไม่เสียใจหรอกนะ!
ต่อให้มีโอกาสอีกครั้ง เขาก็จะไม่ให้ผู้หญิงคนหนึ่งต้องถูกทารุณในสถานที่ต่างบ้านต่างเมืองเพียงเพราะความเป็นความตายของเขาเด็ดขาด!
เจตต์หลับตาลง รอคอยชั่ววินาทีแแห่งความตาย
เขาไม่มีแรงเลยแม้แต่น้อย
ในตอนที่จระเข้ใกล้จะถึงตัวเจตต์ ทันใดนั้นเสียงเฮลิคอปเตอร์ก็ดังมาจากข้างบน ลูกระสุนลอยลงมาจากฟ้ายิงเข้าที่หัวจระเข้ตัวนั้น เลือดสดๆกลิ่นเหม็นคาวกระจายเปรอะหน้าเจตต์ในชั่ววินาที
เจตต์ลืมตาโพลงขึ้นมา ก็เห็นบุริศร์ในชุดนักรบกำลังปีนลงจากบันไดของเฮลิคอปเตอร์
“ตายหรือยัง?”
“พ่อง!ถ้านายมาช้ากว่านี้ฉันคงตายไปแล้ว!”
เจตต์พลันระเบิดหัวเราะออกมา ทั้งหัวเราะทั้งร้องไห้
แม่งเอ้ย
คิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะกลัวตาย
เขากลัวว่าถ้าหากเขาตาย แล้วขวัญตากลายเป็นแม่หม้ายจะทำยังไง?
เมื่อบุริศร์เห็นสภาพสะบักสะบอมและบาดแผลบนร่างกายของเจตต์ ก็เดินเข้าไปกระชากเขาเข้ามาในอ้อมกอด
“ขอโทษที่มาช้า ฉันนึกว่าจะได้มาเก็บศพนายซะแล้ว คิดไม่ถึงเลยว่านายจะทนอยู่ที่นี่จนถึงตอนนี้ได้”
“ฝากเอาไว้ก่อนเถอะ!”
ตอนนี้เจตต์ไร้เรี่ยวแรง ขนาดแรงจะตอบโต้คำแซวของบุริศร์ยังแทบจะไม่มี เขาทำได้เพียงเอ่ยเสียงต่ำว่า “โสธรพาผู้หญิงคนหนึ่งมาที่นี่ ผู้หญิงคนนั้น……”
คำพูดที่เหลือเขาไม่ได้พูดออกมา แต่บุริศร์ก็เดาออก
ชั่วขณะสีหน้าของเขาก็พลันขาวซีด
ผู้หญิง?
มากับโสธร?
หรือว่าจะเป็นนรมน?
นอกจากนรมนแล้ว คนที่มากับโสธรจะเป็นใครไปได้อีก?
จู่ๆบุริศร์ก็ร้อนใจขึ้นมา
เขาโยนเจตต์ให้ทหารที่ตามมาข้างหลัง จากนั้นก็วิ่งเข้าไปข้างในด้วยความรวดเร็ว
“นรมน!”
บริเวณรอบด้านล้วนแล้วแต่เป็นเสียงปืนของคนที่บุริศร์พามาเพื่อกวาดล้างที่นี่ แต่เหมือนบุริศร์จะไม่ได้ยินเสียงปืนดังสนั่นอย่างไรอย่างนั้น เขาเปิดประตูห้องเข้าไปด้วยความรวดเร็ว จึงเห็นโสธรนั่งกอดผู้หญิงคนหนึ่งอยู่บนพื้นน้ำตาไหลเต็มหน้า
“ประธานบุริศร์ มีหมอไหม?”
ทันใดนั้นบุริศร์ก็รู้สึกว่ามือไม้เย็นไปหมด
ไม่!
ไม่ใช่
ไม่ใช่นรมน!ไม่ใช่แน่ๆ!
บุริศร์ตะโกนออกมา
“แพทย์หทาร!ตามแพทย์ทหารมาที่นี่!”
แพทย์ทหารที่อยู่ข้างนอกได้ยินเสียงของบุริศร์ก็รีบวิ่งเข้ามา
“คุณชายบุริศร์”
“รีบมาดูอาการเธอเร็วเข้า!”
บุริศร์รู้สึกเหมือนร่างกายหนักอึ้ง เขาเดินเข้าไปหาโสธรทีละก้าวอย่างเชื่องช้า
แพทย์ทหารกำลังจะตรวจดูบาดแผลของนิวรา โสธรกลับพูดเสียงเบาขึ้นมาว่า “แผลบนร่างกายของเธอมาจากการถูกเฆี่ยนตีและลากถู เท้าซ้ายแพลง ข้อต่อน่าจะหลุดไปแล้ว เธอกัดลิ้นตัวเองเพื่อฆ่าตัวตาย เมื่อกี้ผมเปิดปากของเธอดูแล้ว ลิ้นของเธอ…..”
โสธรสะอึกจนพูดต่อไปไม่ได้
นิวราตัดสินใจกัดลิ้นฆ่าตัวตาย ดังนั้นครึ่งหนึ่งของลิ้นจึงแทรกเข้าไปในร่องฟัน ในช่องปากคละคลุ้งไปด้วยเลือด
โสธรไม่เคยช็อกขนาดนี้มาก่อน หัวใจเหมือนแตกออกเป็นเสี่ยงๆ ความเจ็บปวดแพร่กระจายไปตามร่างกายทีละนิด
เขาไม่เข้าใจ ผู้หญิงตัวเล็กแค่นี้ไปเอาแรงมาจากไหนกัน?
เมื่อบุริศร์ได้ยินที่โสธรพูดมาอย่างนี้ ก็ทรงตัวไม่อยู่ จนกระทั่งเห็นหน้านิวรา
ไม่ใช่นรมน?
เขานิ่งอึ้งไป จากนั้นก็ทรุดนั่งลงกับพื้น
เขารู้ว่าทำอย่างนี้ไม่ค่อยดี แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็อดที่จะถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกไม่ได้
ไม่ใช่นรมนก็ดีแล้ว
ชั่วขณะเขารู้สึกเหมือนถูกดูดกำลังไปจนหมด นั่งหอบหายใจอยู่บนพื้น ตอนที่ต้องลักลอบเข้าไปในทำเนียบรัฐบาลของศัตรูคนเดียว ยังไม่รู้สึกหวั่นกลัวเท่านี้เลย
“นรมนได้มาด้วยไหม?”
บุริศร์ยังคงเอ่ยถามอย่างไม่วางใจ
โสธรเพิ่งนึกขึ้นมาได้ว่าตัวเองไม่ได้คิดถึงนรมนเลย
เขาส่ายหัวแล้วพูดว่า “ผมไม่ให้คุณนายมา คนเบื้องหลังตระกูลนนท์สัจทัศน์ก่อเรื่องที่โรงพยาบาลสนามรบ ผมกลัวว่าเธอจะเป็นอะไรไปเมื่อมาที่นี่ ก็เลยให้เธอนั่งเฉยๆคอยออกคำสั่งก็พอ”
โสธรรู้สึกดีใจกับการตัดสินใจของตัวเองในตอนนั้น
ถึงแม้เขาจะรู้ว่าถ้านรมนโดนจับบางทีนิวราอาจจะไม่มีจุดจบอย่างนี้ แต่ถ้าสมมติล่ะ? ถ้าเผื่อมันเกิดขึ้นล่ะ?
เขากับบุริศร์คงไม่มีใครรับการสมมติในลักษณะนี้ได้
เมื่อบุริศร์ได้ยินว่านรมนไม่ได้มาถึงได้วางใจที่กำลังแขวนอยู่กลางอากาศลง
ไม่มาก็ดีแล้ว!
ดีมากๆ!
ในตอนนี้บุริศร์เพิ่งรู้ตัวว่าฝ่ามือของตัวเองชื้นไปด้วยเหงื่อมากแค่ไหน
เมื่อเห็นสภาพน่าอดสูของนิวราที่อยู่ในอ้อมกอดของโสธร จึงตบไหล่ของเขาเบาๆ ออกคำสั่งให้คนข้างนอกเข้ามาช่วยหามนิวราขึ้นเฮลิคอปเตอร์
สงครามขนาดย่อมข้างนอกได้สิ้นสุดลงแล้ว
โสธรเดินออกมาพร้อมคนที่กำลังช่วยหามนิวรา ถึงได้พบว่าคนที่บุริศร์พามาไม่ใช่คนของตัวเอง แต่เหมือนจะเป็นคนของกองกำลังทำเนียบประธานาธิบดีศัตรู บุริศร์กับทำเนียบประธานาธิบดีร่วมมือกันเหรอ?
แบบนั้นก็เท่ากับว่าสงครามในครั้งนี้กำลังจะจบแล้วใช่ไหม? พวกเขากำลังจะได้กลับบ้านแล้ว?
โสธรครุ่นคิดอยู่ในใจ แต่เมื่อเห็นใบหน้าไร้สีเลือดของนิวรา อารมณ์ดีใจก็หายวับไปกับตา
ในตอนนี้เอง เสียงกระหึ่มของเฮลิคอปเตอร์ก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง พลอยทำให้หัวใจของทุกคนพลันโพงโตอีกหน