แค้นรักสามีตัวร้าย – บทที่ 1726 อยากใช้ชีวิตยังไงก็ตามใจ

บทที่ 1726 อยากใช้ชีวิตยังไงก็ตามใจ

“เพราะเรื่องของอาณาจักรรัตติกาลใช่ไหม? ฉันสาบานได้……”

“ไม่ต้อง!”

บุริศร์ตัดบทคำพูดของธเนศพล มองแววตาที่ซับซ้อนของเขา แต่สุดท้ายกลับไม่ได้พูดอะไร

แม้จะเป็นเช่นนี้ ธเนศพลยังคงรู้สึกถึงความเหินห่างและเย็นชาที่บุริศร์มีต่อตนเอง

ในที่สุดก็มีบางอย่างที่ไม่เหมือนเดิมแล้ว

แต่ก่อนได้ยินอยู่เสมอๆว่าถ้าจะอยู่บนตำแหน่งนั้นก็ต้องกลายเป็นคนโดดเดี่ยวเดียวดาย เขามักจะรู้สึกว่าตนเองไม่มีทางเป็นเช่นนั้นแน่ๆ ข้างกายมีมิตรสหายมากมายขนาดนั้นไม่ใช่เหรอ?

แต่ทำไมเดินไปพร้อมกันแต่ก็ต้องแยกย้ายไปล่ะ?

ผลลัพธ์อย่างนี้ไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการ ยิ่งไม่ใช่สิ่งที่เขาคาดหวัง แต่เขากลับไม่มีเรี่ยวแรงที่จะปฏิเสธได้

บุริศร์เข้าใจความเสียใจของเขา แต่สิ่งที่คุณท่านขวัญชัยทำครั้งนี้ทำให้พวกเขาผิดหวังจริงๆ ถ้าเขาไม่เห็นแก่หน้าของธเนศพล ไม่เห็นแก่ประเทศนี้ที่ตนเองกล้าเสี่ยงชีวิตเพื่อปกป้องเอาไว้ เขาคงไม่ปล่อยผ่านไปอย่างนี้เด็ดขาด แต่ตอนนี้กลับเหมือนไม่มีอะไรจะพูดแล้ว

บางครั้งเรื่องที่ต้องปล่อยทิ้งไปก็เกิดขึ้นได้ในทันที

ยุคสมัยของสังคมที่มีวีรบุรุษ ไม่มีบุริศร์อีกแล้ว แต่ยังเหลือกานต์กับกิจจาอยู่ไม่ใช่เหรอ? แค่หวังว่าวันข้างหน้าพวกเขาจะไม่ผิดหวังจนเจ็บปวดก็พอ

เขาอยากดูแลเพียงแค่ชีวิตของนรมนเท่านั้น

นรมนทำอาหารให้กานต์นิดหน่อย ลูกชายที่กำลังกินอย่างสบายอกสบายใจ กลับทำให้นรมนอารมณ์ดีขึ้นมากเลย

เธอมองเห็นบุริศร์กับธเนศพลคุยกันจากทางหน้าต่างราวกับไม่ค่อยน่ายินดีสักเท่าไหร่ ธเนศพลขมวดคิ้วอยู่ตลอด ส่วนบุริศร์กลับมีท่าทีห่างเหินเหมือนตอนที่เพิ่งรู้จักเขา

จู่ๆนรมนก็ถอนหายใจด้วยความหดหู่

หลังจากกานต์เห็นจึงพูดขึ้น: “หม่ามี้ ที่ผมกับพี่อยู่ในประเทศหม่ามี้กับแด๊ดดี้ไม่สบายใจใช่ไหมครับ?”

“ไม่หรอกลูก”

นรมนลูบหัวของลูกชาย พูดยิ้มๆ: “พวกลูกแต่ละคนต่างมีลักษณะเฉพาะของตัวเอง ต่างมีชีวิตของตัวเอง หม่ามี้กับแด๊ดดี้แค่ให้คำปรึกษาและเข้าไปมีส่วนร่วมด้วยเท่านั้น แต่จะไม่บงการชีวิตของพวกลูก แค่ลูกกับกิจจารู้ว่าตัวเองต้องการอะไรจริงๆก็พอ กานต์ ไม่ต้องสนใจเรื่องของผู้ใหญ่ว่าพวกเขาจะคิดยังไงจะทำยังไงจะอยู่ร่วมกันยังไงหรอกนะ ทำเรื่องของพวกลูกเองให้ดี รับมือกับแวดวงสังคมของลูกๆเองให้ดีก็พอแล้ว”

จู่ๆกานต์ก็รู้สึกดีใจที่หม่ามี้ของตนเองรับฟังความคิดเห็นเช่นนี้มาโดยตลอดเลย เขาอดไม่ได้ที่จะยื่นมือไปโอบเอวของนรมนเอาไว้ แนบหน้าลงไปบนท้องของเธอ พูดขึ้น: “ขอบคุณนะครับหม่ามี้”

“เด็กโง่”

เธอสงสารลูกชายคนนี้ แต่ก็ยังยอมตามใจเขา แค่เป็นเส้นทางที่เขาอยากเดินไป เป็นชีวิตที่เขาต้องการเธอล้วนแต่สนับสนุนได้ทุกอย่าง ถึงยังไงลูกชายของตระกูลโตเล็กก็ไม่จำเป็นต้องทำให้ตัวเองลำบาก อยากใช้ชีวิตยังไงก็ตามใจ

บทสนทนาระหว่างธเนศพลกับบุริศร์สุดท้ายแล้วก็จบลงแบบค้างคา เขาเห็นความเจ็บปวดของคนเจ็บเหล่านั้น ทำให้ธเนศพลรู้สึกเหมือนตนเองได้รับความเจ็บปวดไปด้วย หลายวันนี้จึงอยู่กับพวกคนเจ็บตลอด

ส่วนกิจจาที่ด้านนี้ภายใต้การศึกษาวิจัยไปพร้อมๆกับหมอและจณัตว์ในที่สุดก็ทำการผลิตยาถอนพิษออกมาได้แล้ว ทั้งยังทำการทดสอบอย่างละเอียดรอบคอบ ภายใต้สถานการณ์ที่ได้รับการวินิจฉัยการันตีว่ามีความปลอดภัยสูงมากจึงเริ่มดำเนินการนำไปใช้

ตอนนี้สิ่งที่เรียกว่าโรคระบาดได้โจมตีประชาชนอย่างไม่ทันตั้งตัวราวกับพายุทอร์นาโด แต่ก็เพราะยาถอนพิษที่ผลิตออกมาอย่างประสบความสำเร็จและกำจัดเชื้อไวรัสให้หมดสิ้นไปได้อย่างรวดเร็ว

สามเดือนผ่านไป โรคระบาดสิ้นสุดลงได้ด้วยน้ำมือมนุษย์ สนามรบต่างประเทศจึงกลับมาสงบสุขแล้ว

พฤกษ์ในฐานะที่เป็นผู้มีคุณงามความดีของสนามรบต่างประเทศครั้งนี้ ไม่มีใครเทียบได้ จึงได้รับการเลื่อนขั้นจากธเนศพลเป็นหัวหน้ากรม ส่วนเจตต์ปฏิเสธที่จะกลับไปอยู่ในเขตทหาร หลังจากสถานการณ์โรคระบาดสิ้นสุดลงจึงควบรวมกิจการของบริษัทตระกูลรัตติกรวรกุลกับตระกูลปวนะฤทธิ์เข้าด้วยกัน ก่อตั้งเป็นบริษัทใหม่ แต่กลับก่อตั้งสำนักงานใหญ่ไว้ที่ประเทศF เรื่องนี้ทำให้ธเนศพลค่อนข้างทุกข์ใจแต่ก็ไม่มีทางเลือก

อาการป่วยของคุณท่านตนุวรดีขึ้นมาก แต่ข้างกายยังต้องมีคนดูแลอยู่ตลอด ด้วยการครุ่นคิดในหลายๆด้าน นงลักษณ์กับคิมหลังจากทั้งสองคนได้รับความเห็นชอบให้ซื้อบ้านไว้ที่ประเทศFจากคุณท่านตนุวรแล้ว ก็จะให้เขาย้ายมาตั้งถิ่นฐานอยู่ที่ประเทศF เพื่อการดูแลอย่างใกล้ชิด

ธรรศกับธรณีก็อยากจะตามไปด้วย แต่น่าเสียดายที่ทำไม่ได้ ธรรศเป็นเพราะกองบัญชาการทหารออกคำสั่งโยกย้าย จึงต้องไปที่ฐานบังคับบัญชาการเขตตะวันออกเฉียงเหนือทันที ส่วนธรณีเป็นเพราะรถชนเข้ากับเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง เล่ากันว่าบาดเจ็บสาหัส ธรณีจึงต้องอยู่ดูแล ว่ากันว่าหลังจากที่เด็กผู้หญิงคนนั้นลืมตาก็ถูกอกถูกใจธรณี เป็นตายยังไงก็จะจีบธรณีให้ได้

ส่วนชินทรกับบุญทิวาอยู่ที่ประเทศFแล้ว

หลังจากสถานการณ์โรคระบาดสิ้นสุดลงนรมนได้จัดการยุบอาณาจักรรัตติกาลแล้ว แม้ข้อเสนอของธเนศพลกับคุณท่านขวัญชัยจะให้มอบอาณาจักรรัตติกาลแก่กานต์ แต่นรมนไม่อยากให้เป็นเพราะอำนาจที่มอบให้ลูกชายนี้นำมาซึ่งการคิดร้ายและกลอุบายที่มากขึ้น

ค่ายทหารควรจะเป็นสถานที่ที่เรียบง่าย ถึงกานต์จะเลือกอยู่ในค่ายทหาร เธอก็หวังว่าลูกชายจะสะอาดบริสุทธิ์ ไม่ต้องการให้เป็นเพราะอำนาจของอาณาจักรรัตติกาลจึงโดนคนมากมายจับจ้อง

ทายาทของตระกูลโตเล็กไม่ต้องการสิ่งเหล่านี้!

หลังจากอาณาจักรรัตติกาลสิ้นสุดลงกิมจิก็ตามนรมนไปที่ประเทศFอย่างที่คิดเอาไว้ เปิดผับแห่งหนึ่ง กิจการเฟื่องฟู เจริญรุ่งเรืองอย่างรวดเร็ว

ว่ากันว่าหลังจากที่อาณาจักรรัตติกาลยุบตัวลง คุณท่านขวัญชัยได้พยายามก่อตั้งขึ้นมาอีกครั้ง แต่น่าเสียดายที่ไม่สำเร็จ และหลังจากที่ธเนศพลได้ขึ้นสู่ตำแหน่งสำเร็จ ก็ส่งกานต์ไปต่างประเทศไปเรียนที่โรงเรียนทหารอย่างลับๆ ไม่ให้โอกาสใครๆได้ติดต่อเขาและคิดบัญชีกับเขาเลย

ป้องกับภรรยาอยู่ที่เมืองหลวง ทั้งสองคนกลายเป็นคนสนิทของธเนศพลไปแล้ว

คมทิพย์กับขวัญตาแทบจะคลอดตามกันมาติดๆ เป็นลูกชายทั้งสองคน เวลานี้ทำให้พฤกษ์กับเจตต์ดีใจสุดๆ

เจตต์พาครอบครัวของพฤกษ์ย้ายเข้ามาในตระกูลรัตติกรวรกุล ภายใต้ชื่อของพรรษาผู้เป็นพ่อ ในตอนนี้ด้วยความสนิทสนมกัน ส่วนคมทิพย์กับขวัญตาก็กลายเป็นพี่สะใภ้น้องสะใภ้ไปแล้ว ความสัมพันธ์เข้ากันได้ดี

นภดลกับปาณีอยู่ที่เขตทหาร ว่ากันว่านภดลแสดงออกได้อย่างโดดเด่น จึงได้เลื่อนตำแหน่งกลายเป็นผู้ช่วยผู้บังคับกองร้อย ส่วนปาณีก็มีผลคะแนนยอดเยี่ยม กลายเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงของโรงพยาบาลทหาร

นรมนเห็นทุกคนสมบูรณ์แบบแล้ว ในใจก็ปลาบปลื้มยินดี บุริศร์จูงมือของเธอพูดขึ้น: “บริษัทผมจะยกให้ชัยยศกับสมจิตแล้ว เจ้าสองแสบนั่นก็มีคุณตาคอยดูแลพวกเขาอยู่ งั้นพวกเราไปเที่ยวกันสักหน่อยดีกว่าไหม?”

“พากมลไปด้วยไหม?”

นรมนถามขึ้น ถึงยังไงกมลก็มาถึงประเทศFกับพวกเขาแล้ว อยู่ด้วยกันทุกวัน กลับมีความสุขมากๆ

แต่บุริศร์กลับขมวดคิ้วพูดขึ้น: “คุณคิดจะพาศัตรูหัวใจของคุณไปเที่ยวด้วย? คุณแน่ใจ?”

“งั้นก็ ช่างเถอะ”

นรมนนึกถึงบุริศร์ที่ตามใจกมล จึงล้มเลิกความคิดทันที ในคืนเดียวกันก็จองตั๋วเครื่องบินแล้วออกไปจากประเทศFพร้อมกับบุริศร์ ใครก็ไม่รู้ว่าพวกเขาไปเที่ยวที่ไหน

—สิบห้าปีต่อมา—

ตอนที่นรมนกับบุริศร์ได้รับข่าวว่ากานต์เกิดเรื่อง ทั้งสองคนเพิ่งกลับมาจากเล่นสกีที่ต่างประเทศ ยังไม่ทันได้เจอเพื่อนเก่าได้พูดคุยกันก็ได้รับข่าวร้ายนี้แล้ว

ด้านหน้าของนรมนมืดสนิทจนเกือบจะล้มลงไป โชคดีที่บุริศร์ประคองเอาไว้

“อย่าลนลาน! นี่ยังไม่ได้เจอกานต์ไม่ใช่เหรอ? สถานการณ์เป็นยังไงพวกเรายังไม่ชัดเจนเลย แรงของเจ้าเด็กนั่นเยอะมาก คงไม่เกิดเรื่องจริงๆหรอก ผมว่าน่าจะแค่บาดเจ็บเล็กๆน้อยๆ เราไปดูหน่อยก็ดี”

แม้บุริศร์จะพูดอย่างนี้ แต่นรมนกลับไม่คิดอย่างนั้น

หลายปีมานี้กานต์ได้เลื่อนยศทหารอยู่ต

ลอด น้อยมากที่จะมีข่าวไม่ดีแพร่ออกมา ตอนนึ้ในเมื่อมีข่าวไม่

ดีแพร่ออกมา นั่นก็แสดงว่ากานต์เกิดเรื่องแล้วจริงๆ!

แค้นรักสามีตัวร้าย

แค้นรักสามีตัวร้าย

Status: Ongoing

ไฟเผาความรักทั้งหมดของนรมนที่มีต่อบุริศร์ หลังจากห้าปี เธอกลับไปอย่างงดงามและเพื่อทวงความยุติธรรมสำหรับตัว เธอเอง แต่คาดไม่ถึงว่าเด็กชายที่ถูกพากลับมาด้วยนั้นมีแผน มากกว่าเธอ เด็กน้อยยืนอยู่ข้างหน้าบุริศร์ กล่าวอย่างไร้เดียง สาว่า “คุณลุง สามารถช่วยผมได้ไหม? ผมขอร้อง” บุริศร์ รู้สึกว่าไม่สามารถต้านทานการวิงวอนของเด็กได้ คุกเข่าลง เพื่อช่วย แต่คาดไม่ถึงว่าจะถูกพ่นใส่หน้า อยู่มาวันหนึ่ง บุริศร์ พูดกับเด็กชายหน้าตาดีว่า “เด็กน้อย นี่คือห้องของฉัน!” “แต่ ว่าผมอยากนอนกับหม่าม พวกเรานอนด้วยกันมาห้าปีแล้ว” ชายหนุ่มร้องไห้… แค่ไปจีบภรรยากลับมาเท่านั้น ทำไมลูก ของฉันถึงเอาใจยากเหลือเกิน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท