แค้นรักสามีตัวร้าย – บทที่ 1723 ดูความตื่นตัวของเธอสิ

บทที่ 1723 ดูความตื่นตัวของเธอสิ

บางทีเรียนทำอาหารก็คงไม่เลวสินะ?

เขาฉลาดขนาดนี้ คงเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็วอยู่แล้วใช่ไหมล่ะ?

ในใจของกานต์กำลังครุ่นคิด ใบหน้าไม่ได้แสดงออกมาอย่างชัดเจน ก้มหน้ากินบะหมี่ไปหนึ่งคำ อื้ม รสชาติไม่เลว

“กินสิ”

“ไม่รีบ”

“อยู่ที่นี่ฝึกกินข้าวเร็วๆจะดีที่สุด ไม่งั้นแม้แต่ซุปก็จะไม่เหลือให้เธอได้กิน หลังจากฉันออกเดินทางไปเธอก็อยู่ที่ห้องฉันนี่แหละ มีอะไรก็ไปหานะโมได้ทันที ให้เขาจัดการให้เธอ อย่าสนิทสนมกับคนอื่นๆจนเกินไป สถานะของเธอไม่เหมือนกัน ฉันไม่อยู่ถ้าพวกเขารังแกเธอ……”

พูดถึงตรงนี้จู่ๆกานต์ก็หยุดชะงัก

รังแกเธองั้นเหรอ?

นึกถึงพละกำลังของไอรา เขาจึงปิดปากลงเงียบๆ

ไอรายังคงรอให้เขาพูดต่อ ก็เห็นกานต์ปิดปากลงแล้ว จึงอดไม่ได้ที่จะถามขึ้น: “ถ้ารังแกฉันฉันสามารถรังแกกลับได้ใช่ไหม?”

“อื้ม”

กานต์พยักหน้า นึกถึงท่าทีของไอราที่รบเร้าจะต่อสู้กันครั้งแรก

เอาเถอะ เขาคิดเยอะไปแล้ว

“ถ้าไม่เข้าใจก็ถามนะโมได้”

“อื้ม”

จู่ๆกานต์ก็ไม่รู้ว่าต้องพูดอะไรอีก จึงถอนหายใจพูดขึ้น: “อีกเดี๋ยวฉันจะไปแล้ว จะดูงานของฉันในตอนนี้หน่อยไหม?”

“พริมาเคยบอกฉันไว้แล้ว ฉันสามารถเริ่มลงมือได้เลย”

“งั้นเธอไปเถอะ”

กานต์กลับรู้สึกสบายใจขึ้นมาก

จนกระทั่งตอนนี้คนที่พอจะเทียบเคียงฝีมือกับเขาได้ คนหนึ่งก็คือชมพูอีกคนหนึ่งก็คือพริมา ถึงไอราจะบอกว่าหลายปีนี้ตนเองได้ศึกษาเกี่ยวกับเทคโนโลยีเครือข่ายอยู่ แต่กานต์ไม่รู้สึกว่าเธอจะไปถึงระดับขั้นสูงของพริมาได้

แทนที่จะบอกว่าเขาเชื่อมั่นในตัวไอเรา สู้บอกว่าเขาเชื่อมั่นในทักษะของพริมาดีกว่า

แต่ทว่านอกจากท่าทีของไอราที่ทำให้เขาประหลาดใจ

เขารู้ว่าการที่ชมพูจะมาที่นี่จำเป็นต้องยื่นหนังสือรายงานเบื้องบนทีละขั้นตอน แต่นึกถึงท่าทางของคุณท่านขวัญชัย เขาค่อนข้างชอบการสนับสนุนของคุณอาอรรณพมากกว่า

“ระวังตัวหน่อยนะ มีเรื่องก็โทรมาหาฉัน”

“อืม”

ไอรากลับยิ้มออกมา

มาครั้งนี้กลับทำให้ท่าทีของกานต์ที่มีต่อตนเองดีขึ้นมากเลย ไม่เลวๆ พยายามต่อไปได้

เป็นผลมาจากที่ต้องแยกกับไอรา กานต์จึงขมวดคิ้วอยู่ตลอดเวลา

เขารีบส่งข้อความไปหาพริมา

“คอยๆดูพี่เธอหน่อยนะ พี่เธอค่อนข้างวู่วาม เธอหาผู้ช่วยสักคนไว้สกัดกั้นอยู่ที่ด้านนอกจะดีที่สุด แล้วก็ ทางนะโมน่าจะวางแผนเอาไว้แล้ว เธอติดต่อกับเขาให้มากหน่อย”

“ทราบแล้ว แต่ว่านายก็ประเมินพี่ฉันต่ำเกินไป สองปีนี้เธอตั้งใจเรียนสุดๆเลยนะ”

พริมาอดไม่ได้ที่จะเป็นเดือดเป็นร้อนแทนพี่สาวของตนเอง

สองปีนี้ความพยายามของไอราที่ทุ่มเทออกไปไม่มีใครชัดเจนไปกว่าเธอแล้ว และที่พี่เธอทำขนาดนี้เพราอะไร พริมาก็รู้ ไม่ใช่เพื่อกานต์หรอกเหรอ?

จริงๆเลย!

แค่ผู้ชายใจร้ายคนหนึ่งเท่านั้น!

ถ้าในวันข้างหน้าตนเองไม่เจอผู้ชายที่เหมือนแด๊ดดี้ เธอยอมอยู่คนเดียว ดีกว่าที่จะทำให้ตัวเองได้รับความไม่ยุติธรรม

เหมือนอย่างไอราที่น่าสงสารจนเกินไป

แต่กานต์กลับไม่คิดเยอะขนาดนั้น พูดอย่างไม่ใส่ใจ: “ตอนนี้เธอเป็นองค์หญิงแล้ว จะไม่จริงจังอีกได้ยังไง? เอาล่ะ ฉันต้องวางก่อนแล้ว เธอควบคุมหน่อยแล้วกัน”

หลังจากวางโทรศัพท์กานต์ก็เริ่มเก็บของ ตอนนี้ทางหม่ามี้ไม่รู้ว่าเป็นยังไงบ้าง ในเมื่อต้องไปอยู่แล้วก็ถือโอกาสไปเร็วหน่อยดีกว่า

ส่วนธเนศพลไม่ได้รับข่าวคราวว่าชมพูขึ้นเครื่องบินเลย ลองสอบถามดูจึงได้รู้ว่าโดนคุณท่านขวัญชัยขวางเอาไว้แล้ว ทำให้เขาค่อนข้างกลุ้มใจ

“พ่อ นี่พ่อจะทำอะไรน่ะ?”

“แกนั่นแหละจะทำอะไร? ชมพูเป็นใครแกก็ไม่ได้ไม่รู้นี่นา ถ้าหากติดเชื้อขึ้นมาจะทำยังไง?”

จะพูดยังไงคุณท่านขวัญชัยก็ไม่ยอมปล่อยให้ชมพูไป

ธเนศพลพูดขึ้นด้วยความกลัดกลุ้ม: “เธอไม่มา ที่นี่จะควบคุมไม่ได้ แค่กานต์ไม่อยู่การป้องกันของที่นี่ต้องรักษาเอาไว้ไม่ได้แน่ๆ”

“แกก็ไม่ต้องยกยอว่าลูกชายของบุริศร์เทพขนาดนั้นหรอก แค่เด็ก8-9ขวบคนหนึ่ง เป็นพระเจ้าหรือไง? ธเนศพล วันนี้ไม่ว่าแกจะพูดยังไง ฉันก็ไม่ให้ชมพูไป”

คุณท่านขวัญชัยพูดจบก็ตัดสายไปทันที ทำให้ธเนศพลโมโหสุดๆ แค่หันกลับมาก็เจอกานต์พิงอยู่ที่หน้าประตู มือทั้งคู่อยู่ในกระเป๋ากางเกง มองเขาด้วยสายตาเย็นชา

ธเนศพลจึงอดไม่ได้ที่จะทำตัวไม่ถูก

“เอ่อชมพูใกล้จะมาแล้ว จริงๆ ใกล้แล้ว”

“ไม่ต้องแล้ว ไอรามาแล้ว พริมาก็คอยช่วยเธออยู่ข้างหลัง มีพวกเธอสองคนกับนะโมอยู่ การป้องกันศัตรูคงไม่มีปัญหา คุณเก็บของเถอะ เราจะได้ออกเดินทางกัน”

กานต์พูดแต่เรื่องที่จำเป็น แล้วหมุนตัวเดินออกไปทันที

นี่ธเนศพลถึงพบว่ามือของเขากำลังถือกระเป๋าเล็กๆใบหนึ่ง คงจะเป็นกระเป๋าเดินทางสินะ

ก็หมายความว่าตอนที่คุณท่านของพวกเขากำลังปกป้องชมพูไม่ยอมปล่อยให้เธอมา ไอราได้มาถึงแล้วงั้นเหรอ?

ดูความตื่นตัวของเธอสิ!

จู่ๆธเนศพลก็รู้สึกว่าใบหน้าของตนเองร้อนผ่าว

ด้วยสถานะที่เป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งเหมือนกัน แต่อรรณพกลับเป็นคนตัดสินใจ นอกจากยังไม่ได้รับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ อื่นๆก็ไม่ได้แตกต่างกันมาก แล้วดูเขาสิ ไม่ว่าจะตรงไหนก็โดนพ่อของตนเองบังคับไปหมด ไม่อยากให้จัดการยากเกินไปจริงๆเลย

ธเนศพลลุกขึ้นอย่างกลุ้มใจ พากระเป๋าเดินทางขึ้นเครื่องบินไปพร้อมกับกานต์

ก่อนขึ้นเครื่องบินกานต์มองไปที่ตำแหน่งของห้องคอมพิวเตอร์ ที่นั่นมีร่างที่งดงามร่างหนึ่งกำลังนั่งทำงานอยู่ที่หน้าคอมพิวเตอร์อย่างเร่งรีบ

อืม ดูแล้วก็เหมือนคนที่ทำได้จริงๆนั่นแหละ!

มุมปากของกานต์ยิ้มเล็กน้อย แล้วขึ้นเครื่องบินไป พิงอยู่บนที่นั่งแล้วหลับตาลงทันที

ตั้งแต่มาถึงที่นี่ได้นอนแค่ไม่กี่ชั่วโมงเอง ตอนนี้เหนื่อยมากจริงๆ สำหรับการตัดสินใจของคุณท่านขวัญชัยและคำขอโทษของธเนศพล เขาก็ขี้เกียจจะฟัง

หลังจากที่ธเนศพลนั่งลงไปถึงได้พบว่ากานต์หลับไปแล้ว

ตอนที่ทุกคนกำลังตื่นตระหนกกับเชื้อไวรัสนี้ กานต์ได้นั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์เริ่มทำงานทั้งวันทั้งคืนเพื่อผลดีต่อประเทศชาติ

เขายังเป็นแค่เด็กคนหนึ่งเท่านั้น!

เด็กคนอื่นๆที่เหมือนเขาตอนนี้คาดว่าคงจะออดอ้อนพ่อแม่อยู่ในอ้อมกอดสินะ

แต่พวกเขาตระกูลธนเกียรติโกศลทำอะไรล่ะ?

ถึงกานต์จะไม่ได้พูดอะไรเลย แต่ในใจของธเนศพลก็ยังคงเป็นทุกข์มาก รู้สึกอยู่เสมอว่าติดค้างตระกูลโตเล็กมากเกินไปแล้ว

กานต์ไม่รู้ถึงคลื่นที่ซัดอยู่ในใจของธเนศพลตอนนี้หรอก เขากำลังจมอยู่ในห้วงนิทรา

ช่วงหลายวันนี้เขาไม่เคยมีความสบายใจอย่างนี้มาก่อนเลย

แม้เขาจะเชื่อว่ากิจจาจะสามารถผลิตยาถอนพิษที่ดีกว่าออกมาทำให้ทุกคนผ่านความลำบากเพียงครั้งเดียวเพื่อพบกับความสุขสบายตลอดไปได้ แต่ปัญหาทางเทคโนโลยียังต้องอาศัยตัวเขาเอง ทักษะของนะโมก็ไม่เลว ยังไงก็ตามบางเวลาที่ระมัดระวังตัวเกินไป คาดว่าถ้าจะให้เขาปลดปล่อยความเป็นตัวเองยังคงต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่ง

ส่วนเขาที่ต้องต่อสู้เพียงลำพังนั้นมันเหนื่อยจริงๆ

ตอนนี้มีความช่วยเหลือของพริมากับไอราแล้ว เส้นประสาทของเขาจึงถือว่าได้ผ่อนคลายลงอย่างสมบูรณ์ แม้ไอราจะเทียบกับเขาไม่ได้ แต่ในสายงานเดียวกันก็ถือว่าเป็นบุคคลที่โดดเด่น

กานต์ไม่ได้รู้สึกเลยสักนิดว่าท่าทีและความเชื่อมั่นของตนเองที่มีต่อไอรากำลังค่อยๆเปลี่ยนไปและเพิ่มมากขึ้น เขายิ่งมอบสิ่งที่สำคัญที่สุดของตัวเองให้ไอราไปโดยที่ไม่รู้เนื้อรู้ตัว ทั้งยังสบายใจขนาดนั้น

เครื่องบินกำลังบินอย่างคงที่ แต่นรมนที่ด้านนี้กลับเจอสถานการณ์ใหม่

แค้นรักสามีตัวร้าย

แค้นรักสามีตัวร้าย

Status: Ongoing

ไฟเผาความรักทั้งหมดของนรมนที่มีต่อบุริศร์ หลังจากห้าปี เธอกลับไปอย่างงดงามและเพื่อทวงความยุติธรรมสำหรับตัว เธอเอง แต่คาดไม่ถึงว่าเด็กชายที่ถูกพากลับมาด้วยนั้นมีแผน มากกว่าเธอ เด็กน้อยยืนอยู่ข้างหน้าบุริศร์ กล่าวอย่างไร้เดียง สาว่า “คุณลุง สามารถช่วยผมได้ไหม? ผมขอร้อง” บุริศร์ รู้สึกว่าไม่สามารถต้านทานการวิงวอนของเด็กได้ คุกเข่าลง เพื่อช่วย แต่คาดไม่ถึงว่าจะถูกพ่นใส่หน้า อยู่มาวันหนึ่ง บุริศร์ พูดกับเด็กชายหน้าตาดีว่า “เด็กน้อย นี่คือห้องของฉัน!” “แต่ ว่าผมอยากนอนกับหม่าม พวกเรานอนด้วยกันมาห้าปีแล้ว” ชายหนุ่มร้องไห้… แค่ไปจีบภรรยากลับมาเท่านั้น ทำไมลูก ของฉันถึงเอาใจยากเหลือเกิน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท