แค้นรักสามีตัวร้าย – บทที่ 1734 ไอ้บ้านี่ต้องจงใจแน่ๆ

บทที่ 1734 ไอ้บ้านี่ต้องจงใจแน่ๆ

ทั้งสองเริ่มหอบหายใจ ถ้าไม่ใช่เพราะกานต์ควบคุมตัวเองได้ ทั้งสองจะไปถึงขั้นไหนก็ไม่มีใครรู้

ไอราถูกกานต์อุ้มมาถึงเตียงตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้ ในตอนนี้เธอกับกานต์กำลังนอนอยู่บนเตียงผู้ป่วยด้วยกัน รู้สึกเหมือนไม่ใช่เรื่องจริง

ทันใดนั้นเธอก็หยิกกานต์อย่างแรง

กานต์ขมวดคิ้วเล็กน้อย เอ่ยพูดว่า “ประสาทเสียหรือไง?”

“ฉันอยากรู้ว่าตัวเองกำลังฝันอยู่หรือเปล่า”

ไอรายิ้มจนดวงตากลายเป็นพระจันทร์เสี้ยว น้ำเสียงก็หวานล้ำกว่าที่เคย

มุมปากของกานต์กระตุกขึ้นเล็กน้อย แต่กลับพูดออกมาว่า “อยากรู้ว่าฝันหรือเปล่าต้องหยิกตัวเองไม่ใช่เหรอ?”

“ก็เจ็บน่ะสิ!”

แล้วยังไง?

เขาเลยต้องเป็นฝ่ายเจ็บแทนงี้เหรอ?

สมกับเป็นไอราจริงๆ

กานต์ใช้แขนหนุนท้ายทอยตัวเอง ดวงตาจดจ้องเพดาน ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่

เมื่อไอราไม่ได้ยินเขาโต้ตอบกลับมา จึงนิ่งไปเล็กน้อย เมื่อหันหน้าไปมองก็เห็นรอยแผลบนหน้าของกานต์ ถึงเลือดจะแข็งตัวไปแล้วก็เถอะ แต่เมื่อกี้มัวแต่สนใจเรื่องจูบ จึงไม่ได้สังเกตเห็นตรงนี้

“ฉันจะเรียกหมอมาทำแผลให้นาย”

ไอราผุดตัวลุกขึ้น จากนั้นก็ได้ยินกานต์พูดว่า “ไม่ว่าเธอจะไปโผล่ที่นั่นด้วยเหตุผลอะไร ตั้งแต่นี้เป็นต้นไปก็ไม่ต้องพูดหรือคิดมากอะไรอีก เธอไม่เคยไปที่นั่น เธอในตอนนั้นอยู่กับนะโม”

คำพูดของกานต์ทำให้ดวงตาของไอราร้อนผ่าว เธอเกือบวู่วามพูดสาเหตุที่เธอไปที่นั่นในตอนนั้นออกไป แต่ว่าเธอเก็บมันเอาไว้ได้ทัน

“ฉันจะไปเรียกหมอ”

“อืม”

ไอราก้าวเดินออกไป ทว่าการก้าวเดินกลับเต็มไปด้วยความหนักอึ้ง

ในตอนที่เธอเดินมาถึงหน้าประตูก็ได้ยินเสียงกานต์พูดว่า “ไอรา”

“หืม?”

เธอหันกลับไป ก็เห็นกานต์ใช้มือค้ำคาง ดวงตาเฉี่ยวคมน่ามองจดจ้องมาที่เธอด้วยประกายแวววาว “มาเป็นแฟนฉันไหม เธอต้องรับผิดชอบที่ทำกับฉันเมื่อกี้ ตอนนี้ฉันเป็นแค่คนหูหนวกคนหนึ่ง แถมอาจจะถูกถอดยศด้วย หลังจากนี้คงเป็นแค่คนน่าสงสารที่ไม่รู้ว่าต้องทำอะไรดี ถ้าเธอทิ้งฉันไปก็ไม่มีใครต้องการฉันแล้วนะ”

หัวใจของไอราสั่นไหวขึ้นมาในทันที

นี่อะไรเนี่ย?

แกล้งทำตัวน่าสงสาร เรียกร้องความสนใจ?

เพื่อให้เธอตอบตกลงเป็นแฟนกับเขา?

ทั้งๆที่เขารู้ว่าเธออยากเป็นแฟนเขาใจแทบขาด ที่ทำอยู่ตอนนี้ก็เพื่อให้เธอไม่ต้องรู้สึกกระดากอายขึ้นมาสินะ

ดวงตาของไอราร้อนผ่าว

“นายเป็นคนจูบฉันก่อนนะ!”

“งั้นเดี๋ยวฉันรับผิดชอบเธอเอง เป็นไง?”

“ไสหัวไปเลย!”

ไอราสบถด่าออกมา แล้วหันหลังวิ่งออกไป ทว่ามุมปากกลับยกขึ้นเล็กน้อย ชั่ววินาทีที่น้ำตาหยดลง หัวใจก็แตกกระจายเป็นพลุดอกไม้ ส่งเสียงโครมครามขึ้นมาอย่างพร้อมเพรียง

สว่างไสว สวยงาม และหวานซึ้ง

แววตาของกานต์เต็มไปด้วยความขำขัน นิ้วมือเรียวยาวของเขาลูบริมฝีปากตัวเองเบาๆ ความอ่อนหวานนั้นทำให้เขาแทบจะควบคุมเลือดในกายเอาไว้แทบไม่ได้

เฮ้อ!

ไม่ได้อยากไปถึงขั้นนั้นเร็วขนาดนั้น!

ทว่าที่พริมรตาบังคับแต่งงานมันทำให้เขาลนลาน

ส่วนลนลานทำไม กานต์ก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่แค่รู้สึกไม่สบายใจ

ในตอนที่นะโมมาถึงก็เห็นกานต์นอนอยู่บนเตียงด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม เขาจึงอดที่จะขมวดคิ้วเล็กน้อยขึ้นมาไม่ได้

“เฮีย นี่โดนลูกพี่จั๊กจี้มาใช่ไหม?”

ลูกพี่ที่ว่าหมายถึงไอรา

ช่วยไม่ได้นี่นา เพราะถูกไอราตามไล่ตีตั้งแต่เด็กๆ นะโมจึงพลอยกลัวไอราไปด้วย ถึงขั้นเปลี่ยนสรรพนามเรียกอีกฝ่ายว่าลูกพี่

กานต์หุบยิ้ม เอ่ยพูดอย่างเรียบนิ่ง“ไม่ใช่”

“หูเป็นยังไงบ้าง?”

นะโมดึงเก้าอี้ออกมานั่งลงตรงหน้ากานต์

กานต์ส่ายหัว “ไม่น่าจะเป็นอะไร หมอดูให้แล้ว เป็นผลสืบเนื่องหลังจากได้รับแรงสะเทือน อย่างมากเจ็ดวันก็หาย แล้วทางกองหทารมีคำสั่งอะไรไหม?”

“ไม่นะ คุณชายธเนศพลปิดเรื่องนี้ไว้แล้ว”

คำพูดของนะโมทำให้กานต์นิ่งไปทันที

“นายว่าอะไรนะ?”

“คุณชายธเนศพลปิดข่าวเรื่องนี้แล้ว ข่าวไม่มีออกอากาศสักช่อง แค่บอกว่าทุกอย่างเป็นความลับ จะทำการแก้ไขในภายหลัง ผมได้ยินชมพูบอกว่าคุณชายธเนศพลจะส่งคนไปเจรจากับทางบ้านของพริมรตา”

กานต์เข้าใจในทันที

“คุณชายธเนศพลต้องการปกป้องฉัน?”

“มันก็ต้องแน่อยู่แล้วสิ ตั้งแต่เด็กจนโต คุณชายธเนศพลปลูกฝังเฮียให้มาเป็นลูกเขย ทั้งรักทั้งทะนุถนอมเฮียอย่างกับแก้วตาดวงใจ แต่ไหนแต่ไรเฮียก็ไม่เคยทำคะแนนพลาด และนี่ก็เป็นความผิดพลาดครั้งแรกและครั้งเดียว ไม่ว่ายังไงคุณชายธเนศพลก็ไม่มีทางยอมให้เฮียเปลื้องชุดทหารทิ้งหรอก เฮียสบายใจได้เลย”

นะโมกลัวกานต์อ่านปากไม่ทัน จึงจงใจพูดช้าๆ

ไอราที่อยู่ข้างนอกกำลังจะเปิดประตูเข้ามาจึงได้ยินที่นะโมพูดเข้าพอดี ฝีเท้าจึงชะงักนิ่งอยู่กับที่

ก็จริง

ทุกคนรู้กันหมดว่าธเนศพลชื่นชอบกานต์ขนาดไหน เรื่องที่ชมพูชอบกานต์เธอเองก็รู้

จู่ๆไอราก็รู้สึกเสียดาย

เมื่อกี้ที่กานต์ขอเธอเป็นแฟนเธอน่าจะตอบตกลงไปเลย คำว่า “ไสหัวไป”เธอจะพูดมันออกมาทำไมนะ?

ไม่เท่ากับว่าเธอผลักไสกานต์ให้ชมพูเหรอ?

ไม่ได้หรอก!

แค่พริมรตาพูดว่าอยากให้กานต์แต่งงานด้วย เธอยังกระวนกระวายอยู่ไม่สุขแล้ว ถ้าเกิดธเนศพลอยากให้กานต์คบหากับชมพูไอราจะไม่เหมือนโดนฟ้าผ่าเลยเหรอ

ตั้งหลายปีขนาดนี้ เธอไม่ยอมจับผู้ชายที่ตัวเองคอยเฝ้าดูแลใส่พานถวายให้ชมพูหรอกนะ

คิดมาถึงตรงนี้ ไอราก็ผลักประตูพรวดพราดเข้าไป

“กานต์!”

เหมือนเธอจะลืมไปแล้วว่ากานต์ไม่ได้ยินเสียงภายนอก แต่จากการผลักประตูพุ่งพรวดเข้ามา มันทำให้เธอเหมือนถือมีดเล่มใหญ่เข้ามาด้วย ทำเอานะโมสะดุ้งจนต้องสะบถคำว่า“ฉิบหาย”ออกมาแล้วกระเด้งตัวออกจากเก้าอี้

“ลูกพี่ จะทำอะไร?”

ไอราไม่มองเขาเลยสักนิด แต่กลับล้วงโทรศัพท์ออกมา กดเปิดปุ่มอัดวิดีโอ หันกล้องมาทางกานต์ แล้วเอ่ยพูดอย่างจริงจังว่า “กานต์ เป็นแฟนกับฉันนะ!”

เมื่อกานต์เห็นท่าทางเอาเรื่องของไอรา ก็กระตุกมุมปากขึ้นอย่างอดไม่ได้

ยัยนี้คงกำลังกระวนกระวายสินะ?

ไม่อย่างนั้นมือจะสั่นขนาดนั้นเหรอ?

ไม่รู้ว่าทำไม จู่ๆกานต์ก็นึกอยากเล่นสนุก

เขามองมาที่ไอรา เอ่ยพูดอย่างมึนงง “ฉันไม่ได้ยิน หูฉันหนวก ขอโทษด้วย”

ไอ้บ้านี่ต้องจงใจแน่ๆ!

ดวงตาของไอราเต็มไปด้วยไฟลุกโชน

ไม่ได้ยินงั้นเหรอ?

ได้!

ได้เลย!

เขาคิดจะกลับคำใช่ไหม?

“กานต์ นี่นายกินอิ่มแล้วทิ้งไม่คิดจะรับผิดชอบใช่ไหม?”

นะโมพ่นน้ำออกมาเสียงดัง “พรืด”

“กิน…กินอิ่มแล้วทิ้ง? เฮีย นี่เฮีย……”

คำพูดของนะโมทำให้กานต์หน้าแดงขึ้นมา

“พูดไร้สารอะไร?”

“นี่ คราวนี้ได้ยินแล้วใช่ไหม? กานต์ ถ้าวันนี้นายกล้าพูดว่าไม่เป็นแฟนฉันก็ลองดู”

ท่าทางของไอราในตอนนี้เหมือนย้อนกลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง แถมยังเป็นเอามากกว่าเมื่อก่อนอีก

นะโมเริ่มคิดว่างานนี้ชักจะสนุกซะแล้วสิ เขาย้ายเก้าอี้ถอยออกมาข้างหลัง เตรียมจกป็อบคอร์นดูละครตรงหน้า

หัวคิ้วของกานต์ขมวดมุ่นเล็กน้อย

ยัยบ้านี่คิดจะทำอะไรอีก?

แต่ไม่รอให้กานต์ได้พูดอะไร ไอราก็เผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา

“ถ้าวันนี้นายกล้าพูดว่าไม่ ฉันเล่นงานนายบนเตียงนี้แน่เชื่อไหม? ไหนๆที่นี่ก็เป็นโรงพยาบาลแล้ว ถ้าเกิดถึงชีวิตจะได้ช่วยทัน”

เมื่อคำพูดนี้ถูกพูดออกมา ไม่เพียงแค่นะโมที่กลืนน้ำลาย แม้แต่กานต์เองก็ด้วย แถมยังกระแอมไอออกมาติดต่อกัน

แค้นรักสามีตัวร้าย

แค้นรักสามีตัวร้าย

Status: Ongoing

ไฟเผาความรักทั้งหมดของนรมนที่มีต่อบุริศร์ หลังจากห้าปี เธอกลับไปอย่างงดงามและเพื่อทวงความยุติธรรมสำหรับตัว เธอเอง แต่คาดไม่ถึงว่าเด็กชายที่ถูกพากลับมาด้วยนั้นมีแผน มากกว่าเธอ เด็กน้อยยืนอยู่ข้างหน้าบุริศร์ กล่าวอย่างไร้เดียง สาว่า “คุณลุง สามารถช่วยผมได้ไหม? ผมขอร้อง” บุริศร์ รู้สึกว่าไม่สามารถต้านทานการวิงวอนของเด็กได้ คุกเข่าลง เพื่อช่วย แต่คาดไม่ถึงว่าจะถูกพ่นใส่หน้า อยู่มาวันหนึ่ง บุริศร์ พูดกับเด็กชายหน้าตาดีว่า “เด็กน้อย นี่คือห้องของฉัน!” “แต่ ว่าผมอยากนอนกับหม่าม พวกเรานอนด้วยกันมาห้าปีแล้ว” ชายหนุ่มร้องไห้… แค่ไปจีบภรรยากลับมาเท่านั้น ทำไมลูก ของฉันถึงเอาใจยากเหลือเกิน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท