แค้นรักสามีตัวร้าย – บทที่ 1737 ลูกสาวฉันต่างหากคือผู้เสียหาย

บทที่ 1737 ลูกสาวฉันต่างหากคือผู้เสียหาย

“กรี๊ด!”

หลังจากที่พริมรตาถูกลักพาตัวก็รู้สึกหวาดกลัวเลือด โดยเฉพาะเลือดสดๆที่ยังอุ่นร้อน

เธอหวีดร้องออกมาหลังจากนั้นก็สลบไป

เมื่อกันติมาเห็นลูกสาวตัวเองสลบ ก็รีบเดินเข้าไปหา พร้อมผลักกานต์ออก ไม่ได้สนเลยว่ากานต์มีแผล ตรงกันข้ามกลับกอดพริมรตาเอาไว้แล้วร้องโวยวายออกมา

“รีบไปเรียกหมอมาสิ!ตาบอดหรือไง? ไม่เห็นเหรอว่าลูกสาวฉันเป็นลมไปแล้ว? แกไม่ใช่แค่ทำให้เธอเป็นแม่คนไม่ได้ แต่ยังคิดจะฆ่าเธอให้ตายอีกใช่ไหม? ถ้าเธอตายแล้วแกก็จะได้ไปใช้ชีวิตของแกอย่างสบายใจล่ะสิ? ฉันจะบอกแกให้นะ เรื่องที่ลูกสาวฉันต้องเผชิญอยู่ในตอนนี้ฉันไม่มีทางปล่อยให้มันจบง่ายๆแน่!”

กานต์ถือมีดอยู่ในมือ เลือดสดๆบนแขนยังคงไหลพุ่งออกมา เขามองปากที่หุบๆอ้าๆของกันติมา แม้ว่าจะไม่ได้ยินที่อีกฝ่ายพูด แต่ก็พอจะรู้ว่าต้องไม่ใช่คำพูดดีๆแน่นอน

เขาเคยถูกปฏิบัติอย่างนี้ที่ไหน?

แต่เมื่อเห็นใบหน้าซีดขาวราวกระดาษของพริมรตา เมื่อนึกถึงชีวิตหลังจากนี้ของเธอ กานต์จึงเลือกที่จะกดปุ่มเรียกพยาบาลอย่างเงียบๆแทน

ไม่นานหมอก็มาถึง

พวกเขาทำการตรวจให้พริมรตา จึงพบว่าเธอแค่ตื่นตัวมากเกินไปจึงสลบไป ไม่ได้เป็นอะไรมาก เมื่อพยาบาลคนหนึ่งเห็นแขนของกานต์ยังมีเลือดไหลออกมา พลันอุทานออกมาอย่างตกใจ

“คุณชายกานต์ แขนได้รับบาดเจ็บเหรอคะ? มานี่ นั่งนี่เลยค่ะ เดี๋ยวฉันทำแผลให้”

เมื่อหมอได้ยินแบบนั้นก็หน้าซีด

“คุณชายกานต์ ได้แผลแล้วทำไมไม่บอกล่ะ? ขอดูหน่อยว่าติดเชื้อหรือเปล่า”

กันติมาได้ยินว่าลูกตัวเองไม่เป็นอะไร แต่พอเห็นหมอและพยาบาลต่างเข้าไปรุมล้อมกานต์ ก็อดที่จะรู้สึกโมโหไม่ได้

“เขาเป็นตั้งทหารพวกคุณจะไปห่วงอะไรเขานักหนา? ลูกสาวฉันต่างหากคือผู้เสียหาย!”

“เงียบไปเลยคุณน่ะ!คุณชายกานต์ไม่ได้เป็นคนลักพาตัวลูกสาวคุณซะหน่อย!เขาเป็นคนไปช่วยลูกสาวคุณแท้ๆ ถ้าคุณจะโทษก็โทษโจรลักพาตัวโน่น เอาแต่พูดจาถากถางคนช่วยชีวิตลูกตัวเองอยู่ได้ คุณคิดว่าคุณเป็นใครกันแน่?”

พยาบาลทนฟังไม่ได้อีกต่อไป เธอล่ะรู้สึกโชคดีจริงๆที่ตอนนี้กานต์สูญเสียการได้ยิน จะได้ไม่ต้องมาฟังคำพูดกระแนะกระแหนพวกนี้

ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ที่ทหารต้องช่วยเหลือคนอื่นกลายเป็นเรื่องปกติที่สมควรทำ?

คนพวกนี้ไม่รู้สึกขอบคุณพวกเขาหน่อยเหรอ?

กันติมาเดือดดาลเมื่อถูกพยาบาลพูดใส่ ในตอนที่กำลังจะโต้กลับ ก็เห็นกองสัญญาณคนหนึ่งเดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว เมื่อเห็นกานต์นั่งอยู่ตรงนั้น ก็เดินเข้าไปโค้งคำนับทำความเคารพ จากนั้นก็พูดว่า “หัวหน้า เบื้องบนอยากพบคุณ ผมเลยมารับคุณไปครับ!”สรรพนามที่กองสัญญาณใช้ ทำให้กันติมานิ่งอึ้งไปทันที

แม้ว่ากานต์จะยังอยากอยู่ดูว่าพริมรตาเป็นยังไงบ้าง แต่ทว่าในบรรยากาศอย่างนี้เขาอยู่ต่อไปไม่ได้แล้ว อีกอย่างการที่เจ้านายเรียกหาเขามันต้องเกี่ยวกับเรื่องคดีแน่ๆ

เขาหันไปพูดกับหมอว่า “ใช้ยาที่ดีที่สุดรักษาเธอให้หาย ค่าใช้จ่ายทั้งหมดตัดผ่านบัญชีฉันได้เลย”

“ครับ คุณชายกานต์!”

กันติมากลับพูดออกมาอย่างเสียงแข็งว่า “จะโอ้อวดอะไรนักหนา ตัดผ่านบัญชีของเขาได้เลยงั้นเหรอ แค่ทหารจนๆคนหนึ่งจะมีเงินสักเท่าไหร่กันเชียว?”

“พูดเพ้อเจ้ออะไร? คุณชายกานต์เป็นถึงลูกชายของหนึ่งในสี่คุณชายแห่งเมืองชลธีเลยนะ เขาคาบช้อนเงินช้อนทองมาเกิด ต่อให้ไม่เกณฑ์ทหารก็เป็นหนึ่งในมังกรท่ามกลางหมู่คน หลายปีที่ผ่านมาทุกครั้งที่ออกปฏิบัติภารกิจเขาไม่เคยพลาดเลยสักครั้ง เขาคือวีรบุรุษแห่งสงคราม ถ้าคนไม่รู้เรื่องรู้ราวอย่างคุณยังไม่หยุดกล่าวหาคุณชายกานต์อีกล่ะก็ ฉันจะ……”

“เพียง!”

เมื่อคุณหมอเห็นพยาบาลผู้มีนามว่าเพียงอารมณ์ขึ้น จึงรีบเอ่ยห้ามไม่ให้เธอพูดถ้อยคำที่เหลือ

กันติมากลับนิ่งอึ้งไปอีกครั้ง

ลูกชายของหนึ่งในสี่คุณชายแห่งเมืองชลธี?

เป็นลูกเศรษฐีที่คาบช้อนเงินช้อนทองมาเกิด?

ถ้าพริมรตาได้แต่งงานกับเขา แบบนั้นก็ไม่เท่ากับว่าเป็นหนูตกถังข้าวสารเหรอ?

กันติมาหุบปากฉับ ในหัวกำลังคิดวางแผนเพื่อหาผลประโยชน์ใส่ตัว

กานต์ออกมาจากโรงพยาบาล แล้วหันไปมองทางลานจอดรถ เอ่ยพูดขึ้นมาว่า “ส่งคนไปตรวจสอบว่ารถทะเบียนXXXXมีอะไรผิดปกติหรือเปล่า”

รถคันนั้นเป็นรถของไอรา!

กองสัญญาณไปจัดการด้วยความรวดเร็ว

เมื่อกานต์ขึ้นมาบนรถ กลับไม่ได้ถูกพาไปที่กองทหาร แต่กลับถูกพาไปที่พื้นที่ส่วนตัว ตอนแรกคิดว่าคนที่จะได้พบคือธเนศพล แต่คิดไม่ถึงเลยว่าจะเป็นธรรศแทน

“คุณปู่สาม?”

กานต์ค่อนข้างประหลาดใจ

เขามองไปรอบๆ เมื่อเห็นว่ามีแค่ธรรศอยู่คนเดียว เขาถึงได้เดินมานั่งตรงข้ามกับอีกฝ่าย

“เป็นผู้บังคับบัญชาผมตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ?”

เมื่อธรรศมองมาที่กานต์ ก็รู้สึกสงสาร

เขารินน้ำอุ่นๆให้กานต์ จากนั้นก็พูดออกมาชัดๆทีละคำว่า “หูดีขึ้นหรือยัง?”

“ไม่เป็นอะไรแล้วครับ ปู่เองก็รู้ ว่าอาชีพอย่างเราๆสามารถอ่านปากคนอื่นได้ เรื่องนี้ไม่ค่อยเป็นปัญหาสำหรับผมเท่าไหร่หรอกครับ”

กานต์กลับมองโลกในแง่ดี แต่ว่านิสัยแบบนี้ของเขาก็มีให้แค่คนในครอบครัวเห็นเท่านั้น ถ้าเป็นคนนอกส่วนใหญ่มักจะมองว่าเขาเย็นชาทั้งนั้น

ธรรศถอนหายใจออกมา จากนั้นก็ยื่นเอกสารข้อมูลในมือไปให้เขา

กานต์แปลกใจเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา รู้ว่าที่ธรรศเรียกเขามาพบต้องไม่ใช่เพราะอยากรำลึกความหลังอะไรแน่ๆ เขาจึงเปิดเอกสารในมือดู

เมื่อเขาเห็นข้อมูลข้างใน ดวงตาเฉี่ยวคมน่ามองก็หรี่ลงเล็กน้อย

“ข้อมูลนี้ได้มาจากไหน?”

“แกอย่าเพิ่งสนใจว่าได้มาจากไหน ที่ไอราไปโผล่ที่เหตุการณ์ในตอนนั้นแกรู้อยู่แล้วใช่ไหม? ที่แกพลั้งมือทำพลาดก็เพราะเธอใช่หรือเปล่า? และแกก็เป็นคนลบร่องรอยของเธอทั้งหมดใช่ไหม?”

คำถามแต่ละคำถามของธรรศเฉียบแหลมเป็นอย่างมาก

กานต์นิ่งเงียบไม่พูดไม่จา แต่นี่ก็เพียงพอให้ธรรศเข้าใจทุกอย่าง

“สติเลอะเลือนไปแล้วหรือไง!แกคิดว่าบนโลกนี้นอกจากแกแล้วก็ไม่มีใครใช้คอมพิวเตอร์ได้เก่งแล้วใช่ไหม? แกลืมไปแล้วหรือเปล่าว่าชมพูลูกสาวของธเนศพลก็ฝีมือสูสีกับแก? แล้วตัวตนของไอราเป็นใคร? เธอเป็นถึงองค์หญิงแห่งประเทศY! การที่เธอไปโผล่ที่นั่นมันหมายความว่ายังไง? ใครสามารถยืนยันว่าเธอกับโจรลักพาตัวนั่นไม่ได้เกี่ยวข้องกัน? แกเป็นคนของกองทัพ ไม่รู้เหรอว่าตัวเองมีดาวบนบ่ากี่ดวง? การที่แกโจรกรรมข้อมูลที่ตัวเองรับผิดชอบเพียงเพื่อองค์หญิงของประเทศอื่นแบบนี้ เพราะแกคิดว่าธเนศพลจะเก็บแกเอาไว้ คิดว่าแกคงไม่ได้ออกไปจากกองทหารง่ายๆหรอกใช่ไหม?”

ธรรศตบโต๊ะ อารมณ์เริ่มเดือดดาล ถ้าไม่ใช่เพราะยังเห็นว่ากานต์ต้องอ่านปากเขา เขาคงไม่พูดช้าขนาดนี้หรอก แต่ก็เพราะว่าต้องพูดช้านี่แหละเขาถึงได้ร้อนใจกว่าเดิม

“ในเวลาแบบนี้แกยังตกลงคบเป็นแฟนกับเธออีกเหรอ? แกกลัวว่าตัวเองจะไม่ได้ตายไวๆหรือว่ายังไง? เอาแค่ที่แกเป็นแฟนไอรา แกก็จะถูกจับแยกตัวไปสอบสวนแล้วแกรู้ไหม? หลายปีที่ผ่านมาแกรำคาญเธอมากไม่ใช่หรือไง? ทำไมจู่ๆมาเป็นแฟนกับเธอซะแล้วล่ะ? กานต์ แกบอกฉันมาตามตรง ที่แกทำอย่างนี้เพราะเห็นแก่มิตรภาพระหว่างพ่อแม่แกกับอรรณพใช่ไหม?”

กานต์ส่ายหัว เงยหน้ามองธรรศ แล้วเอ่ยอย่างจริงจังว่า “คุณปู่สาม ผมจริงจังกับไอรา”

“จะมาจริงจงจริงจังอะไร? แกรู้ไหมว่ากมลหายตัวไป? ซึ่งเบาะแสที่มีทั้งหมดในตอนนี้บ่งบอกว่ามันเกี่ยวข้องกับไอราอย่างชัดเจน”

เมื่อคำพูดนี้ถูกพูดออกไป กานต์ก็นิ่งไปในทันที

“กมลทำไม? ยัยนั่นออกไปวาดรูปธรรมชาติไม่ใช่เหรอ?”

“ครูของเธอส่งข่าวมาบอกว่า ในระหว่างที่เธอกำลังวาดรูปอยู่นั้นก็ได้รับโทรศัพท์จากใครบางคน คนที่อยู่ด้วยต่างก็ได้ยินเธอเอ่ยเรียกคนในสายว่าพี่ไอรา จากนั้นเธอก็หายไปจากกลุ่ม จนถึงตอนนี้ยังหาร่องรอยไม่เจอเลย”

เดิมทีธรรศว่าจะไม่บอกเรื่องนี้กับกานต์ แต่หลังจากที่ได้รู้เรื่องราวความสัมพันธ์ของกานต์กับไอราเขาก็นั่งไม่ติด

แค้นรักสามีตัวร้าย

แค้นรักสามีตัวร้าย

Status: Ongoing

ไฟเผาความรักทั้งหมดของนรมนที่มีต่อบุริศร์ หลังจากห้าปี เธอกลับไปอย่างงดงามและเพื่อทวงความยุติธรรมสำหรับตัว เธอเอง แต่คาดไม่ถึงว่าเด็กชายที่ถูกพากลับมาด้วยนั้นมีแผน มากกว่าเธอ เด็กน้อยยืนอยู่ข้างหน้าบุริศร์ กล่าวอย่างไร้เดียง สาว่า “คุณลุง สามารถช่วยผมได้ไหม? ผมขอร้อง” บุริศร์ รู้สึกว่าไม่สามารถต้านทานการวิงวอนของเด็กได้ คุกเข่าลง เพื่อช่วย แต่คาดไม่ถึงว่าจะถูกพ่นใส่หน้า อยู่มาวันหนึ่ง บุริศร์ พูดกับเด็กชายหน้าตาดีว่า “เด็กน้อย นี่คือห้องของฉัน!” “แต่ ว่าผมอยากนอนกับหม่าม พวกเรานอนด้วยกันมาห้าปีแล้ว” ชายหนุ่มร้องไห้… แค่ไปจีบภรรยากลับมาเท่านั้น ทำไมลูก ของฉันถึงเอาใจยากเหลือเกิน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท