แค้นรักสามีตัวร้าย – บทที่ 1781 กลัวพี่อยู่คนเดียวแล้วจะเหงาน่ะ

บทที่ 1781 กลัวพี่อยู่คนเดียวแล้วจะเหงาน่ะ

พรุ่งนี้สาวน้อยนั่นยังนัดเขาไปพบอีก

เธอชอบเขางั้นเหรอ?

ข้อมูลนี้กำลังระเบิดอยู่ในก้นบึ้งของหัวใจกิจจา ทำให้เกิดความลนลาน ทำอะไรไม่ถูก ในเวลาเดียวกันก็รู้สึกสุขใจไปด้วย

ความรู้สึกนี้มาอย่างกะทันหันเกินไป ความปลาบปลื้มใจที่ล้นออกมา กลับมีความเจ็บปวดปะปนอยู่ด้วยเล็กน้อย

ทำไมถึงดันกลับมาในตอนนี้ล่ะ?

ทำไมถึงดันมารู้เอาในเวลานี้ล่ะ?

กิจจาขมวดคิ้วเล็กน้อย

ขณะที่กำลังแบกรับความกดดันและสายตาของคนในครอบครัว กิจจาพูดขึ้นมานิ่งๆ: “ผมต้องแต่งงานกับสิชาให้ได้ครับ”

“เพราะอะไร? เพราะเด็กในท้องของเธองั้นเหรอ?”

“ใช่”

กมลหมดคำพูดในทันที

“พี่ใหญ่ ฉันรู้ว่าพี่เป็นคนที่มีความรับผิดชอบมากๆ ฉันไม่สนใจหรอกว่าพี่จะคบกับเธอยังไง แต่เด็กในท้องของเธออาจจะไม่ใช่ลูกของพี่ก็ได้ พี่เคยตรวจสอบดูหรือยัง?”

กิจจามองไปทางกมล ดันๆแว่นตาขอบทองพูดขึ้น: “รอให้ถึงเวลาที่ตรวจสอบได้พี่ต้องทำอยู่แล้ว”

“งั้นก็อย่าเพิ่งรีบร้อนแต่งงาน รอให้แน่นอนก่อนแล้วค่อยว่ากัน”

“พี่ถึงได้บอกว่าหมั้นก่อนไง”

ความหมายของกิจจาจริงๆก็เหมือนกับกมลนั่นแหละ

ตอนนี้ทุกคนจึงเข้าใจความหมายของกิจจาแล้ว

ด้วยอารมณ์ที่พาไปจนทำให้มีลูกโดยไม่ได้ตั้งใจ และกิจจาก็เป็นผู้ชายที่มีความรับผิดชอบ จึงวางแผนจะมอบสถานะให้แก่เด็กคนนี้ ดังนั้นถึงคิดจะแต่งงานกับสิชา

นรมนค่อนข้างไม่สบายใจ

“กิจจา เราไม่ชอบสิชาเหรอ?”

“ไม่ชอบครับ”

คราวนี้กิจจากลับตอบอย่างตรงไปตรงมา

บุริศร์จึงวางตะเกียบลงทันที พูดเสียงดัง

“ไม่ชอบแล้วแกจะอยู่กับเธอได้งั้นเหรอ? แล้วยังมีลูกด้วยกันอีก? กิจจา ทำไมพ่อถึงไม่รู้มาก่อนเลยว่าแกเป็นผู้ชายอย่างนี้? ไม่ชอบเธอก็ไม่ต้องไปยุ่ง แกนี่มัน……”

“พอเถอะ กิจจาก็ไม่ใช่เด็กๆแล้ว คุณอย่าพูดกับเขาอย่างนั้นสิ”

นรมนค่อนข้างเป็นห่วงสถานะลูกชายคนโตของกิจจา จึงอดไม่ได้ที่จะดึงๆบุริศร์เอาไว้

หน้าอกของบุริศร์กำลังคุกรุ่นไปด้วยความโกรธ พูดขึ้นด้วยความโมโห: “ผู้ชายของตระกูลโตเล็กต้องไม่เรื่องแบบนี้ แกเป็นถึงลูกชายคนโตไม่นึกว่าจะสร้างเรื่องวุ่นวายอย่างนี้! ไปวิ่งห้ากิโลที่สนามหญ้าก่อนแล้วค่อยมาคุยกัน”

“ครับ”

กิจจาไม่ได้ตอบโต้อะไรเลย ลุกขึ้นไปที่สนามหญ้าทันที

นรมนพูดด้วยความสงสาร: “กินให้เสร็จก่อนแล้วค่อยไปนะ กิจจา”

แต่กิจจาเดินออกไปแล้ว

ด้วยความโมโหนรมนจึงเตะบุริศร์ไปหนึ่งที

“คุณทำอะไรห๊ะ? ไม่ง่ายเลยกว่าลูกจะได้กลับมาสักครั้ง คุณบอกจะลงโทษก็ลงโทษเลย คุณไม่เห็นหรือไงตอนนี้กิจจาผอมไปตั้งเยอะ”

บุริศร์เจอกับความโกรธเคืองของภรรยา จึงถอนหายใจพูดขึ้น: “ผู้ชายของตระกูลโตเล็กห้ามเป็นผู้ชายเลวๆ”

“เลวเหมือนคุณไหมล่ะ? ถึงยังไงกิจจาก็มีความรับผิดชอบต่อลูกของตัวเอง ทีคุณล่ะ? ตอนฉันท้องกานต์กับกมลไม่เคยเห็นคุณรับผิดชอบฉันอย่างนี้เลย?”

นรมนเริ่มขุดเรื่องเก่าขึ้นมาแล้ว

กานต์พูดกับกมลทันที: “กมล เธอพาไอราเข้าห้องไปหาเสื้อผ้าเปลี่ยนทีนะ พี่จะไปวิ่งเป็นเพื่อนพี่ใหญ่”

“อ้อ โอเค”

กมลก็ตัดสินใจหลบหนีจากพายุลูกนี้อย่างรวดเร็ว

เหลือแค่ภาคินกับภาณที่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ยังจะถามด้วยใบหน้าสงสัยอีก: “แม่ครับ ตอนแรกๆพ่อทำอะไรแม่เหรอครับ?”

บุริศร์อยากจะฆ่าเจ้าตัวแสบสองคนนี้ให้ตายไปเลยจริงๆ

กมลรีบดึงไอราวิ่งไปอย่างรวดเร็ว กานต์ก็วิ่งออกไปนอกห้องอาหารทันที ตรงมาที่สนามหญ้า

กิจจาเห็นเขาวิ่งตามตนเอง จึงอดไม่ได้ที่จะถาม: “ทำไมนายถึงออกมาด้วย?”

“กลัวพี่อยู่คนเดียวแล้วจะเหงาน่ะ ก็เลยออกมาอยู่เป็นเพื่อนพี่”

“พูดความจริง”

มุมปากของกิจจายกขึ้นเล็กน้อย

กานต์ก็ยิ้มๆ ทั้งสองคนชนกำปั้นกัน แล้วเริ่มเร่งความเร็ววิ่งอยู่ในสนามหญ้า

หลังจากไอราโดนกมลดึงเข้ามาในห้อง จึงถามขึ้นด้วยความสงสัย: “คุณลุงกับคุณป้ารักกันขนาดนั้น ทำไมถึงมีอดีตที่ไม่ดีด้วยล่ะ?”

“อย่าพูดถึงเลย จริงๆพ่อฉันน่ะเชื่อถือได้นะ แต่ตอนแรกเริ่มไม่ใช่อย่างนี้ไง”

กมลนั่งอยู่บนเก้าอี้พูดเรื่องในอดีตของบุริศร์กับนรมนให้ไอราฟัง

ไอราฟังอย่างเคลิบเคลิ้ม แต่ทว่าก็ค่อนข้างอิจฉา

“ความรักที่คุณป้ามีให้คุณลุงมั่นคงไม่เปลี่ยนแปลงไปเลยจริงๆ”

“ใช่ ถ้าแม่ฉันยอมแพ้พ่อฉันไปสักนิด ตอนนี้ครอบครัวพวกเราก็คงไม่ได้เป็นอย่างนี้หรอก ดังนั้นเธอว่าพี่ใหญ่ฉันทำไมถึงได้สติเลอะเลือนจะแต่งงานกับผู้หญิงอย่างสิชาล่ะ? ในท้องใช่ลูกของพี่ใหญ่ฉันหรือเปล่าก็ไม่รู้”

กมลยิ่งคิดก็ยิ่งโมโห

ขณะที่กำลังโมโหอยู่ โทรศัพท์ของกมลก็ดังขึ้น

เธอเห็นเบอร์ของณิตาจึงอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจพูดขึ้น: “ดูสิ ณิตาโทรมาแล้ว ฉันคิดมาโดยตลอดว่าเธอต้องเป็นพี่สะใภ้ใหญ่ของฉันแน่ๆ แต่คิดไม่ถึงเลย เฮ้อ!”

“ณิตากลับมาแล้วเหรอ?”

ใครๆก็ไม่รู้ว่าไอรากมลและณิตาทั้งสามคนเป็นเพื่อนสนิทกัน

กมลพยักหน้า แล้วกดรับโทรศัพท์

“กมล ฉันกลับมาแล้ว ตอนบ่ายออกมาเจอกันเถอะ”

“ได้สิ ส่งที่อยู่มาให้ฉัน ฉันจะออกไปพร้อมกับพี่สะใภ้รองของฉัน”

เสียงเรียกพี่สะใภ้รองของกมลทำให้ไอราหน้าแดงระเรื่อ

ณิตาก็ชะงักเล็กน้อย

“พี่สะใภ้รอง ? พี่รองเธอแต่งงานแล้วเหรอ?”

“ยังหรอก แต่ใกล้แล้วแหละ!”

กมลยิ้ม เกี่ยวคอของไอราเอาไว้ทันที พูดขึ้น: “เดาดูสิว่าพี่สะใภ้รองของฉันเป็นใคร?”

“ไอราเหรอ?”

เรื่องที่ไอราตามจีบกานต์มาตั้งแต่เด็กๆไม่ใช่ความลับอะไรอยู่แล้ว ตอนนี้น้ำเสียงของกมลเบิกบานเช่นนี้ ณิตาจึงเดาได้โดยอัตโนมัติ

“บิงโก!”

การยืนยันของกมลทำให้ณิตาดีใจตามไปด้วย

“ยินดีด้วยนะไอรา!”

“เธออย่าไปฟังกมล ฉันกับกานต์ยังไม่ได้จดทะเบียนกันเลย”

ในน้ำเสียงของไอรามีความสุขอยู่เต็มไปหมด

พวกเธอนัดสถานที่กัน แล้วจึงเดินออกไป

บุริศร์กับนรมนกลับห้องไปแล้ว แต่ทว่าในสนามหญ้ามีคนเพิ่มมาอีกสองคน ภาคินกับภาณนั่นเอง

กมลส่ายหัวถอนหายใจพูดขึ้น: “เจ้าน้องชายโง่ๆสองคนนี้ ไม่รู้หรือไงว่าความสงสัยจะทำให้แมวตัวหนึ่งต้องตาย? พวกเขามีเก้าชีวิตเหมือนแมวตรงไหนกันนะ”

ไอราขำพรวดออกมา

ทั้งสองคนมาที่สนามหญ้า กมลยิ้มๆโบกมือให้กานต์พูดขึ้น: “พี่รอง ฉันกับพี่ไอราจะออกไปหาเพื่อนหน่อย พวกพี่วิ่งกันไปก่อนนะ”

กานต์ชะงักเล็กน้อย แล้วหยุดฝีเท้าลง

“พี่ไปส่งพวกเธอแล้วกัน”

“ดีเลย”

กมลก็ไม่ปฏิเสธ

กานต์กลับห้องไปอาบน้ำ เปลี่ยนเป็นชุดสบายๆ แต่ต้องชะงักอยู่หน้าตู้เสื้อผ้าชั่วครู่

ตั้งแต่เด็กจนโตชุดที่เขาใส่มากที่สุดก็คือเครื่องแบบทหาร ถึงขั้นที่ในตู้เสื้อผ้าของเขามีแต่เครื่องแบบทหารทั้งนั้น ตอนนี้ตนเองยื่นหนังสือปลดประจำการแล้ว ยศทหารต่างๆบนเครื่องแบบทหารนี้ควรจะส่งคืนกลับไปได้แล้วสินะ

จู่ๆก็รู้สึกอาลัยอาวรณ์ ความเจ็บปวดรวดร้าวที่ราวกับโดนดึงเส้นเอ็นเลาะกระดูกโหมพัดเข้ามาในทันที

เขายื่นมือออกไปลูบเครื่องแบบทหารที่ซักจนสะอาดเอี่ยมอ่องเบาๆ แววตาเร่าร้อน

จริงๆไอราอยากขึ้นมาคุยกับกานต์นิดหน่อย แต่กลับเห็นเขากำลังลูบไล้ยศทหารบนเครื่องแบบทหารด้วยสีหน้าอาลัยอาวรณ์ แววตาที่หม่นหมองคู่นั้นบีบรัดหัวใจของไอราจนเจ็บปวด

ในที่สุดเขาก็ยังตัดใจไม่ได้สินะ?

แต่เพื่อเธอแล้ว ท้ายที่สุดเขากลับยอมละทิ้งความฝันและความศรัทธาของตนเอง

จู่ๆไอราก็รู้สึกอัดอั้นตันใจ หายใจลำบาก

แค้นรักสามีตัวร้าย

แค้นรักสามีตัวร้าย

Status: Ongoing

ไฟเผาความรักทั้งหมดของนรมนที่มีต่อบุริศร์ หลังจากห้าปี เธอกลับไปอย่างงดงามและเพื่อทวงความยุติธรรมสำหรับตัว เธอเอง แต่คาดไม่ถึงว่าเด็กชายที่ถูกพากลับมาด้วยนั้นมีแผน มากกว่าเธอ เด็กน้อยยืนอยู่ข้างหน้าบุริศร์ กล่าวอย่างไร้เดียง สาว่า “คุณลุง สามารถช่วยผมได้ไหม? ผมขอร้อง” บุริศร์ รู้สึกว่าไม่สามารถต้านทานการวิงวอนของเด็กได้ คุกเข่าลง เพื่อช่วย แต่คาดไม่ถึงว่าจะถูกพ่นใส่หน้า อยู่มาวันหนึ่ง บุริศร์ พูดกับเด็กชายหน้าตาดีว่า “เด็กน้อย นี่คือห้องของฉัน!” “แต่ ว่าผมอยากนอนกับหม่าม พวกเรานอนด้วยกันมาห้าปีแล้ว” ชายหนุ่มร้องไห้… แค่ไปจีบภรรยากลับมาเท่านั้น ทำไมลูก ของฉันถึงเอาใจยากเหลือเกิน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท