แววตาของไอราเปล่งรังสีอำมหิตออกมาเล็กน้อย
กมลจึงรีบจับมือเธอเอาไว้: “เธออย่าเพิ่งวู่วาม ฆ่าคนมันผิดกฎหมาย อีกอย่างไม่จำเป็นต้องทำถึงขั้นนั้น เธอห้ามทำอะไรเด็ดขาด”
“แต่ฉันรู้สึกอยู่ตลอดว่าสายฟ้ากำลังวางแผนร้ายอะไรอยู่ อีกอย่างตอนแรกวันนั้นที่กานต์ออกไปทำภารกิจ สายฟ้าก็โทรมาหาฉัน ให้ฉันเข้าไป บอกว่ารายงานผลสุขภาพของกานต์เหมือนจะมีปัญหา ฉันถึงรีบเข้าไป แต่หลังจากฉันเข้าไปแล้วถึงพบว่าที่นั่นเป็นสถานที่ลักพาตัว แต่ตอนที่จะถอยออกมากลับสบตากับกานต์เข้า ถ้าไม่ได้เป็นเพราะการปรากฏตัวของฉัน กานต์อาจจะไม่ทำพลาดก็ได้ พริมรตาก็คงไม่บาดเจ็บจนถึงขั้นมีลูกไม่ได้ เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดตอนนี้มาคิดๆดูเหมือนกับวางแผนมาตั้งแต่แรกแล้ว แต่ฉันไม่กล้ายืนยันว่าโจรลักพาตัวคนนั้นกับสายฟ้าเป็นพวกเดียวกันไหม ถึงยังไงเขาก็ไม่ได้อยู่ที่ด้านนี้ คงหมดหนทางที่จะตรวจสอบ”
ไอราพูดความคิดในหลายวันนี้ออกมา
แน่นอนว่ากานต์ไม่ใช่คนไร้ความสามารถ ภารกิจในแต่ละครั้งจบลงอย่างสมบูรณ์แบบ ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวก็เป็นเพราะเธอปรากฏตัวอยู่ในที่ลักพาตัว
คำพูดเหล่านี้ไอราไม่ได้พูดกับกานต์ ข้อแรกไม่รู้จะอธิบายความสัมพันธ์ระหว่างสายฟ้าว่ารู้จักกันได้ยังไง ข้อสองเธอไม่มีหลักฐาน ถ้าใช้สถานะเจ้าหญิงของประเทศอื่นของเธอในตอนนี้มาตัดสินเรื่องนี้ มันดูไม่ค่อยดี
แต่กมลไม่เหมือนกัน
พวกเธอเป็นแค่เพื่อนสนิทกัน ถือว่าเป็นการเล่าสู่กันฟัง อีกอย่างด้วยเส้นสายของกมล อยากสืบหาอะไรก็เป็นไปไม่ได้ที่จะหาไม่เจอ
ต้องบอกว่า สถานะของไอราที่เป็นเจ้าหญิงของประเทศตอนที่อยู่ประเทศZยังถูกจำกัดอยู่มาก เส้นสายกับลู่ทางของตนเองยังไม่ถึงขั้นหมดหนทางก็ไม่สามารถใช้ได้ ทั้งนี้จะได้ไม่ดึงดูดให้เบื้องบนสนใจและเกิดการคาดเดา ไม่ต้องสร้างความลำบากที่ไม่จำเป็นให้แก่กานต์และตระกูลโตเล็ก
แต่ถ้ากมลไปสืบหาก็จะไม่ดึงดูดความสนใจจนมากเกินไป
“เรื่องนี้ให้ฉันจัดการ เธอไม่ต้องยุ่งแล้ว ตอนนี้ภารกิจที่สำคัญที่สุดของเธอก็คือตรวจสุขภาพให้ดี ไม่สิ ฉันฟังเธอพูดไม่ได้ แค่เป็นเรื่องราวที่เกี่ยวกับพี่ฉันเธอก็จะพูดแต่เรื่องดีๆเท่านั้น เป็นอย่างนี้แล้ว ยังจะดื่มกาแฟอะไรอีก? ไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วเหรอ? รีบลุกขึ้นแล้วไปโรงพยาบาลกับฉัน ต้องตรวจสุขภาพก่อนฉันถึงสบายใจ”
กมลทิ้งกาแฟที่อยู่ตรงหน้าของไอราไปทันที แล้วรีบโทรหาคนของตนเองให้นัดโรงพยาบาลตรวจสุขภาพ ด้วยชื่อของเธอ
ไอราซึ้งใจมาก แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธ
บางทีคงมีแค่วิธีนี้แหละที่จะทำให้กมลสบายใจได้
หลังจากทั้งสองคนไปโรงพยาบาลแล้ว ดำเนินการเสร็จสิ้นสักพัก ผลตรวจสุขภาพของไอราก็ออกมา
เห็นรายงานผลตรวจสุขภาพถือว่าเป็นข้อมูลที่ใช้ได้ ในที่สุดกมลก็คลายกังวลได้ซะที
ไอราเดินเข้าไปเกี่ยวคอของเธอเอาไว้ ยิ้มอย่างเบิกบานพูดขึ้น: “เธอรับปากฉันแล้วนะ ต้องรักษาความลับให้ฉันด้วย”
“รู้แล้วหน่า”
กมลค่อนข้างกลุ้มใจ แต่ก็รู้สึกเป็นห่วงไอรา จึงลากเธอไปที่ร้านอาหารเสริมบำรุงร่างกาย แล้วซื้อของไปมากมาย
ไอราแทบจะพูดไม่ออกแล้ว
“เธออย่าทำอย่างนี้ได้ไหม? นี่ไม่ได้เป็นการบอกคนอื่นว่าสุขภาพฉันไม่ดีอย่างโจ่งแจ้งเหรอ?”
“เธอใกล้จะแต่งงานกับพี่ฉันแล้ว ในฐานะที่ฉันเป็นน้องสามีซื้ออาหารเสริมบำรุงร่างกายให้เธอนิดหน่อยจะเป็นไรไป? อีกอย่างนะ เธอคิดว่าบนโลกนี้มีความลับหรือไง? เธอจะปิดบังพี่ฉันไปได้นานเท่าไหร่เชียว?”
กมลกลับไม่คิดว่ากานต์จะไม่รู้เรื่องอะไรเลย
เธอเอาแต่รู้สึกว่าที่กานต์ยอมรับความรู้สึกของไอราอย่างกะทันหัน ไม่แน่อาจจะรู้อะไรก็ได้
แต่ทว่าเรื่องนี้เธอไม่มั่นใจ จึงพูดออกมาไม่ได้อยู่แล้ว
ดวงอาทิตย์ตกไปแล้วทั้งสองคนถึงได้กลับมาที่บ้านของตระกูลโตเล็ก
นรมนเริ่มเตรียมอาหารเย็นแล้ว
สองปีนี้นรมนกลับมุ่งมั่นที่จะพัฒนาฝีมือการทำอาหารให้มากขึ้น แม้บุริศร์จะเป็นกังวล แต่ก็ทนเห็นภรรยารู้สึกแย่ไม่ได้ ทำได้เพียงเป็นลูกมือช่วยเธออยู่ในครัว
หลังจากกมลและไอรากลับมาก็มีเสียงดังโครมคราม กิจจากับกานต์จึงโดนรบกวนไปด้วย ทยอยๆกันออกมาจากห้องหนังสือ
ภาคินกับภาณไปอยู่หอที่โรงเรียนแล้ว ตอนเย็นไม่กลับมา ดังนั้นผู้ชายสองคนที่หมกมุ่นอยู่กับการทำงานและวิจัยตอนที่เห็นผู้หญิงสองคนขนของถุงเล็กถุงใหญ่เข้ามา จึงดึงแขนเสื้อขึ้นเข้าไปช่วยพวกเธอขนของเข้ามาในบ้านพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย
“นี่พวกเธอขนทุกอย่างในห้างกลับมาหมดเลยเหรอ?”
กานต์เห็นอาหารเสริมบำรุงร่างกายเต็มรถ แววตาก็เหมือนกำลังคิดอะไรอยู่
กมลยิ้มพูดขึ้น: “พี่ชายฉันใกล้จะแต่งงานแล้ว ฉันก็ต้องซื้ออาหารเสริมมาให้พี่สะใภ้ในอนาคตของฉันบำรุงร่างกายหน่อยสิ ทำไม? ไม่ได้เหรอ?”
“พี่ต้องขอบใจเธอแทนพี่สะใภ้เธอด้วย”
กานต์ยิ้มบางๆ แล้วลูบๆหัวของไอราพูดขึ้น: “เห็นหรือยัง? เดี๋ยวฉันจะควบคุมให้เธอกินอาหารเสริมพวกนี้ให้หมดเลย”
“อะไรนะ? นายจริงจังเหรอเนี่ย?”
ไอราพูดไม่ออกทันที
กานต์จะตามใจน้องสาวก็ต้องมีขอบเขตบ้างนะ
เธอกินของพวกนี้ได้ไม่หมดจริงๆ
แต่กานต์กลับไม่ได้พูดอะไรอีก ช่วยขนของเข้ามา
แม้กิจจาจะไม่ได้พูดอะไร แต่ก็ยิ้มบางๆ ขนของเข้าไปข้างใน
กมลถือโอกาสตอนที่ไอราไม่เห็น ดึงๆแขนเสื้อของกานต์ พูดเบาๆ: “พี่ อีกเดี๋ยวฉันมีเรื่องจะคุยกับพี่ เจียดเวลามาให้ฉันหน่อย”
“ได้”
กานต์พยักหน้าแล้วก็ขนของต่อไป
พวกลูกๆช่วยกันโดยที่ไม่ให้คนอื่นเข้ามายุ่ง ขนของมากมายก่ายกองครึ่งชั่วโมงกว่าในที่สุดก็ขนเข้ามาเสร็จสักที ปัญหาของการจัดเก็บของให้เรียบร้อยที่เหลืออยู่ก็มอบให้กับคนรับใช้แล้ว
กานต์เห็นไอราซื้อเสื้อผ้ามาให้ตนเอง จึงยิ้มพูดขึ้น: “ยังจำได้ด้วย”
“แน่นอนสิ ฉันไม่ยอมให้นายไม่มีเสื้อผ้าใส่หรอกนะ”
ใบหน้าออดอ้อนของไอรา ทำให้ใจสั่นไหวดีจริงๆ
“ฉันขึ้นไปลองก่อนนะ”
“อื้ม”
ไอรายิ้มแล้วเอาเสื้อผ้าทั้งหมดให้กานต์
กานต์ขึ้นไปข้างบนพร้อมกับเสื้อผ้า ตอนก่อนจะไปก็มองไปที่กมลทีหนึ่ง ไม่นานกมลก็ลุกขึ้น: “ฉันขึ้นข้างบนไปอาบน้ำนะ เหม็นจะตายแล้ว”
“ไปเถอะ ฉันพักแป๊บ ปวดเท้า”
วันนี้ไอราใส่รองเท้าส้นสูง จึงรู้สึกค่อนข้างเหนื่อย
กมลให้คนรินน้ำผสมน้ำผึ้งให้เธอ ส่วนตนเองขึ้นข้างบนเข้าไปในห้องของตนเอง
ไอราเห็นกมลเข้าไปในห้องของตัวเองแล้วถึงได้คลายกังวล
จนปัญญา เธอกลัวกมลจะบอกเรื่องนั้นกับกานต์ ถึงจะไม่ได้ปกปิดตลอดไป แต่ตอนนี้ไม่อยากให้กานต์แต่งงานกับเธอเพื่อเป็นการตอบแทนบุญคุณจริงๆ
นั่นไม่ใช่ความรักที่ไอราต้องการ
แต่ที่เธอไม่รู้ก็คือ จริงๆแล้วห้องของกานต์กับกมลมันทะลุกัน
ตอนเด็กๆกมลนอนหลับไม่สนิท หวาดกลัวอยู่บ่อยๆ ตื่นขึ้นมาก็เอาแต่หากานต์ บุริศร์หมดหนทางจึงทำให้ห้องของทั้งสองคนทะลุกัน ทิ้งประตูลับเอาไว้บานหนึ่ง
แต่เมื่อทั้งกมลกับกานต์โตขึ้น ประตูลับบานนี้จริงๆก็ไม่มีประโยชน์อะไร เพราะน้อยมากที่กานต์จะกลับบ้าน ส่วนกมลก็รักษาระยะห่างระหว่างชายหญิง จึงไม่ได้เข้าไปในห้องของกานต์บ่อยๆอยู่แล้ว
วันนี้ถ้าไม่ใช่เพราะมีเหตุ เธอก็แทบจะลืมไปแล้วว่ามีประตูลับบานนี้อยู่
ตอนที่เปิดประตูลับ กานต์กำลังนั่งต้มชาอยู่บนโซฟาอย่างสบายใจ กลับทำให้กมลค่อนข้างผิดหวัง
เธอคิดว่าจะได้เห็นพี่ชายของตนเองกำลังเปลี่ยนเสื้อผ้าซะอีก