แค้นรักสามีตัวร้าย – บทที่ 1817 พี่ใช่พี่ชายแท้ๆของผมไหมเนี่ย

บทที่ 1817 พี่ใช่พี่ชายแท้ๆของผมไหมเนี่ย

“แล้วไง? ฉันต้องไม่แต่งงานกับใครไปตลอดชีวิต ปล่อยให้เธอดันทุรังคิดไปเรื่อยเปื่อยว่าใช่บุญคุณหรือไม่ใช่บุญคุณอย่างนั้นเหรอ?”

กานต์ไม่รอให้ไอราพูดอะไร เอ่ยพูดต่อว่า “จริงๆเอาอย่างนี้ก็ได้นะ ฉันจะได้แต่งานหรือไม่มันไม่ใช่เรื่องใหญ่ ถึงยังไงตระกูลโตเล็กก็ไม่ได้บังคับให้ฉันต้องส่งไม้ต่อให้รุ่นต่อไปอยู่แล้ว”

ไอราถูกพูดขัดจนพูดอะไรไม่ออกสักคำ

หลุมนี้เธอเป็นคนขุดมันเอง และตอนนี้เธอก็กำลังฝังตัวเองลงไปในนั้น ซึ่งท่าทางเย็นชาของกานต์มันทำให้เธอเจ็บเสียดหัวใจเป็นอย่างมาก

กรอบตาของไอราแดงก่ำ กานต์ไม่ได้พูดอะไรออกมา ปล่อยให้เธอกำคอเสื้อของตัวเองอยู่อย่างนั้น ทั้งสองวางท่าใส่กันอย่างไม่มีใครยอมใคร

กิจจารู้สึกอึดอัดเป็นอย่างมาก ถ้าเขาพูดว่าขอตัวออกไปก่อน คาดว่าสายตาของกานต์คงแช่แข็งเขาแน่ๆ แต่ถ้าต้องอยู่ต่อก็รู้สึกอึดอัดจริงๆนี่นา

“อะแฮ่ม เอ่อไอรา แกปล่อยกานต์ก่อนเถอะ ค่อยๆพูดกันดีๆนะ”

ในที่สุดกิจจาก็เอ่ยปากพูดออกมา

ไอรามองมาที่กานต์ เมื่อเห็นเขายังคงนิ่ง ไม่มีอารมณ์ใดๆเร็ดรอดออกมาทางสีหน้า ถึงได้ทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจ และกระวนกระวาย

ใขณะที่ใจเธออยู่สุข แต่กานต์กลับมีท่าทีเรียบนิ่ง ราวกับว่าตัดสินใจมาแล้วว่าผลลัพธ์มันจะเป็นแบบไหน

ไอราพลันลนลานขึ้นมาในทันที

“กานต์ นายจะเลิกกับฉันจริงๆเหรอ?”

เสียงของเธอแผ่วเบา และสั่นไหว

ดวงตาของกานต์วูบไหว เขารู้ว่าจริงๆแล้วไอรายอมลดตัวตนลงเมื่ออยู่ต่อหน้าเขา

เธอเป็นถึงองค์หญิง ที่ถูกเลี้ยงดูมาอย่างประคบประหงม เธอหยิ่งยโสตลอดเมื่ออยู่ต่อหน้าคนอื่น แต่จะทำตัวน่าสงสารเมื่ออยู่ต่อหน้าเขาคนเดียว

โดยเฉพาะกรอบตาแดงๆของเธอในตอนนี้ ท่าทางที่จะร้องแหล่ไม่ร้องแหล่ของเธอยิ่งบีบหัวใจคนมองเป็นอย่างมาก

เดิมทีกานต์อยากพูดอย่างเด็ดขาดว่า “นี่คือสิ่งที่เธอหวังไม่ใช่เหรอ” แต่เมื่อเห็นสีหน้าของไอราในขณะนี้ จำต้องกลืนคำพูดที่กำลังโพ่งออกมาลงไป

“อยากดูเคสผ่าตัดของเธอไหม?”

กานต์เปลี่ยนเรื่องทำให้ไอราไม่พอใจเป็นอย่างมาก

“ไม่!พอผ่าตัดเสร็จนายก็จะไม่สนใจฉันแล้วไม่ใช่หรือไง? นายจะได้ทิ้งฉันอย่างสบายใจใช่ไหมล่ะ? ถ้าสลัดตัวน่ารำคาญอย่างฉันออกไปได้นายก็ดีใจมากใช่หรือเปล่า? แทบจะอยากให้เป็นแบบนั้นเลยล่ะสิ?”

ช่วงหลายวันที่ผ่านมาไอราเก็บกดและเครียดเกร็งมาตลอด สุดท้ายตอนนี้ก็ระเบิดมันออกมา เปลี่ยนไปจนเก็บเอาไว้ไม่อยู่ เริ่มควบคุมตัวเองได้ยาก

จริงๆเธอก็รู้ว่าเป็นแบบนี้มันน่ารำคาญ อาจจะถึงขั้นทำให้คนเกลียดขี้หน้าเอาได้ เธอเองก็เคยไม่ชอบคนประเภทนี้ แต่คิดไม่ถึงเลยว่าตัวเองจะกลายมาเป็นผู้หญิงแบบนี้ซะเอง

เมื่อกานต์เห็นว่าเธอเริ่มคุมตัวเองไม่อยู่ ในใจก็เกิดความรู้สึกเศร้า

ผู้หญิงที่เคยหยิ่งผยอง โหวกเหวกผ่าเผย ตอนนี้กลับมีท่าทางต่ำต้อยหวาดหวั่น แค่นี้ก็อธิบายได้แล้วว่าเธอไร้ซึ่งความรู้สึกปลอดภัยเพราะมาอยู่กับเขา

ในความรู้สึกของไอรา คงคิดว่าเขาไม่ได้ยอมรับเธอจริงๆ เพราะเธอตามจีบเขา ตลอดเวลาที่ผ่านมากานต์เองก็ไม่ได้แสดงท่าทีอะไร เอาแต่เฉยชามาตลอด อันที่จริงไอราจะหมดความอดทนและความรู้สึกก็ยังได้

ทันใดนั้นกานต์ก็อ้าแขน รับไอราเข้ามาในอ้อมกอดอย่างแนบแน่น เอ่ยพูดเสียงเบาว่า “พอคืนไตให้เธอ เราสองคนก็ถือว่าหายกัน”

“ใครจะไปหายกับนาย? กานต์ นายอย่าแม้แต่จะคิดเลยนะ!”

ประสาทที่กำลังเครียดเกร็งของไอราเมื่อได้ยินคำพูดนี้ก็ระเบิดออกมาเหมือนแมวพองขน ยื่นมือออกไปผลักกานต์อย่างฉับพลัน แรงที่ใช้ผลักมีมากจนกานต์ถอยไปชนเก้าอี้

แรงชนอย่างรุนแรงทำให้แผ่นหลังของกานต์ได้แผลเจ็บจนทำให้หายใจติดขัด แต่เขาก็กัดฟันอดทนเอาไว้ ทว่าเหงื่อเย็นๆกลับผุดขึ้นมาตามหน้าผาก

“ไอรา ฉันไม่อยากจดจำบุญคุณของเธอเลยตอบตกลงผ่าตัดไง หลังจากนี้ก็ทางใครทางมัน ไม่ต้องมีใครติดค้างใคร มันก็ดีแล้วนี่”

“หุบปาก!ชาตินี้ทั้งชาตินายอย่าคิดว่าจะหนีฉันพ้น! คิดจะให้ฉันกับนายหายกันงั้นเหรอ เป็นไปไม่ได้หรอกนอกเสียจากว่าฉันตาย!”

ร่างกายของไอราสั่นเทิ้ม เธอรู้สึกว่าตัวเองอยู่ไม่ได้แล้ว

ถ้าอยู่ที่นี่ต่อไปเธอคงได้ฆ่ากานต์ หรือไม่ก็ฆ่าเธอเอง

เธอจึงเลือกวิ่งออกไปอย่างฉุนเฉียว

กานต์ทรุดตัวลงหลังจากที่เธอวิ่งออกไป เหงื่อเม็ดใหญ่ไหลลงสู้พื้นทีละหยด

กิจจาหน้าเปลี่ยนสี รีบเข้าไปพยุงเขาเอาไว้ ในตอนนี้เองถึงได้พบว่าแผ่นหลังของเขาอาบไปด้วยเลือดสดๆสีแดง

“แกเป็นอะไร?”

“ผมไม่เป็นไร พี่ช่วยผมทำแผลหน่อย”

กานต์ยิ้มออกมา ทว่ารอยยิ้มของเขากลับทำให้กิจจาอยากซัดหมัดใส่หน้าเขาซักฉาด

“แกจงใจยั่วโมโหไอราทำไม?”

“ถ้าไม่ทำอย่างนี้ อารมณ์เครียดเกร็งของเธอจะไม่ถูกระบายออกมา ถ้าเอาแต่กระวนกระวาย ระแวงอยู่ในใจ มันจะไม่เป็นผลดีต่อการผ่าตัดและการพักฟื้น ถ้าอยากให้เธอผ่าตัดอย่างปลอดภัย ก็ต้องกำจัดอารมณ์หนักอึ้งและอารมณ์แย่ๆของเธอออกไปเสียก่อน พี่ก็เห็นสภาพของยัยนั่นในตอนนี้ ถ้าพูดด้วยดีๆเธอไม่ยอมฟังหรอก มีแค่กระตุ้นให้เธอร้องไห้ออกมาแบบนี้เท่านั้น อารมณ์จะได้ผ่อนคลายและทำการผ่าตัดได้อย่างราบรื่น”

กานต์พูดไปพลาง นั่งลงบนเก้าอี้ไปพลาง

รู้สึกเจ็บตึงบริเวณแผ่นหลัง แต่เขาก็อดกลั้นมันเอาไว้ เอ่ยพูดกับกิจจาว่า “พี่ รีบๆหน่อย น้องพี่เจ็บจะตายอยู่แล้ว”

“ฉันก็ไม่เห็นว่าแกจะดูเจ็บตรงไหน”

กิจจาจงใจตบลงบนหลังของเขา จนกานต์ต้องส่งเสียงอื้ออึงออกมา

“พี่ใช่พี่ชายแท้ๆของผมไหมเนี่ย?”

“ฉันถูกเก็บมาเลี้ยง ไม่รู้จักแก”

กิจจามองบนใส่เขาอย่างโมโหเล็กน้อย สุดท้ายก็ต้องหยิบกล่องปฐมพยาบาลออกมาอย่างห้ามไม่ได้

เสื้อของกานต์แนบติดไปกับแผลบนหลังหมดแล้ว

หลังจากที่อรรณพตีเขาเสร็จ เขาก็รีบร้อนนั่งเครื่องบินกลับมา พอมาถึงก็ทะเลาะกับไอรา เขาจึงไม่ได้พักผ่อนจริงๆจังๆเลย กิจจาค่อนข้างทึ่งที่ตอนนี้เขาไม่เป็นลมล้มพับไป

อีกอย่างเหมือนกานต์จะมีไข้นิดๆด้วย

เมื่อเขาเห็นแผลบนหลังกานต์ก็พอจะเดาได้ว่าเกิดอะไรขึ้น จึงหยิบกรรไกรออกมาตัดเสื้อข้างหลังของเขาออกทีละนิดอย่างช่วยไม่ได้

“กานต์ จริงๆแล้วแกรักไอราสินะ”

คำพูดของกิจจาทำให้กานต์นิ่งไปเล็กน้อย

“หมายความว่าไง?”

“แกเองก็ถูกเลี้ยงดูมาอย่างประคบประหงม ตั้งแต่เด็กจนโตนอกจากฉันกับกมล และน้องๆอีกสองคนแล้ว แกก็ไม่เคยยอมอ่อนให้ใครแบบนี้ พูดไม่น่าฟังหน่อย ใครมันจะไปมีความสามารถทำให้คนอย่างแกยอมรับความขมขื่นได้อย่างเต็มใจ? ถ้าไม่ใช่เพราะแกให้ความสำคัญกับคนคนนั้นมากกว่าตัวเอง แกไม่มีทางทำอะไรไร้สติแบบนี้ออกมาหรอก”

แม้คำพูดของกิจจาจะไม่ค่อยน่าฟัง แต่กานต์ก็ยังคงฟังมันเข้าหูอยู่ดี

เขานิ่งไปทั้งตัว อดที่จะคิดตามไม่ได้ นี่เขารักไอราเหรอ?

ผลสรุปนี้คือสิ่งที่เขาเพิ่งจะรู้ตัวในช่วงนี้ ที่กิจจาพูดว่าเขารักไอรากิจจารู้ได้ยังไง?

ทว่าเขาก็ไม่อาจคัดค้านคำพูดของกิจจาได้ เพราะมันคือความจริงทั้งหมด

คนอย่างกานต์ไม่เคยปล่อยให้ตัวเองทรมาน หรือปล่อยให้ตัวเองบาดเจ็บทนกล้ำกลืนเหมือนคนโง่แบบนี้ มันชวนให้รู้สึกสับสนจริงๆ

หรือว่าเขาจะรักไอราแล้วจริงๆ?

แค้นรักสามีตัวร้าย

แค้นรักสามีตัวร้าย

Status: Ongoing

ไฟเผาความรักทั้งหมดของนรมนที่มีต่อบุริศร์ หลังจากห้าปี เธอกลับไปอย่างงดงามและเพื่อทวงความยุติธรรมสำหรับตัว เธอเอง แต่คาดไม่ถึงว่าเด็กชายที่ถูกพากลับมาด้วยนั้นมีแผน มากกว่าเธอ เด็กน้อยยืนอยู่ข้างหน้าบุริศร์ กล่าวอย่างไร้เดียง สาว่า “คุณลุง สามารถช่วยผมได้ไหม? ผมขอร้อง” บุริศร์ รู้สึกว่าไม่สามารถต้านทานการวิงวอนของเด็กได้ คุกเข่าลง เพื่อช่วย แต่คาดไม่ถึงว่าจะถูกพ่นใส่หน้า อยู่มาวันหนึ่ง บุริศร์ พูดกับเด็กชายหน้าตาดีว่า “เด็กน้อย นี่คือห้องของฉัน!” “แต่ ว่าผมอยากนอนกับหม่าม พวกเรานอนด้วยกันมาห้าปีแล้ว” ชายหนุ่มร้องไห้… แค่ไปจีบภรรยากลับมาเท่านั้น ทำไมลูก ของฉันถึงเอาใจยากเหลือเกิน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท