สวินหยาง ยอดหญิงไร้พ่าย ภาค 2 – ตอนที่ 28.2

ตอนที่ 28.2

บทที่ 28 แผนการของหลัวฮองเฮา! (2)
โดย
Ink Stone_Romance
“เจ้า…” ฉู่ฉีเหยียนยกนิ้วขึ้นมาชี้ไปที่นางอย่างโมโห

ฉู่หลิงอวิ้นกลับยืดคอตั้งเผชิญหน้ามองเขาด้วยแววตาท้าทาย “หากเจ้าเกลียดที่ข้าเป็นความอัปยศจริงๆ เหตุใดไม่ฆ่าข้าเสียเล่า? อย่างไรในสายตาท่านพ่อและท่านแม่ตอนนี้ข้าก็เป็นเพียงคนไร้ค่าคนหนึ่ง ไม่มีข้า พวกเขาคงจะรู้สึกโล่งใจ”

ฉู่หลิงอวิ้นในตอนนี้สำหรับจวนอ๋องหนานเหอแล้วกลับไม่มีคุณค่าอันใดอีกแล้ว ในทางกลับกันยังเป็นดั่งภาระที่ทำให้ชื่อเสียงของพวกเขาติดร่างแหไปด้วย

ในยามที่ฉู่หลิงอวิ้นพูดคำพวกนี้ออกมาราวกับทิ้งสิ้นซึ่งความหวังที่เคยมี

ฉู่ฉีเหยียนเห็นท่าทางของนาง ที่ขณะนี้ไม่อาจปิดบังความลำบากไว้ได้อีกต่อไปแล้ว ท้ายที่สุดก็ทำเพียงแค่ปล่อยมือลงอย่างอ่อนแรง

“พอแล้ว!” สุดท้ายเขาก็ทำได้เพียงถอดถอนหายใจ เบือนหน้าหนีไปอีกครั้ง “ปัญหาของสกุลจางข้าจะพยายามเก็บกวาดแทนเจ้า หลังจากนี้…ก็ทำเป็นว่าไม่เคยมีเรื่องนี้เกิดขึ้น!”

ฉู่หลิงอวิ้นเมื่อฟังจบ แววตาก็ประกายวาบทันที ทว่ากลับปกปิดไว้ได้อย่างรวดเร็ว

ฉู่ฉีเหยียนหมุนกายเตรียมจะจากไป

ฉู่หลิงอวิ้นกลับเงยหน้าขึ้นมองแผ่นหลังของเขาในฉับพลันพลางกล่าวด้วยเสียงเย็น “คิดจะปิดเงียบไปเช่นนี้น่ะหรือ เจ้าคิดว่ามีประโยชน์อย่างงั้นรึ?”

ฉู่ฉีเหยียนขมวดคิ้ว ข่มอารมณ์ครุกรุ่นไว้ในใจ กล่าวว่า “เช่นนั้นเจ้าต้องการสิ่งใด?”

“เจ้ารู้ดี!” ฉู่หลิงอวิ้นเพียงแค่จ้องมองเขา ทั้งไม่ลดละไม่หลบหลีกสายตา

ฉู่ฉีเหยียนค่อยๆ เก็บมือไว้ด้านหลัง กำนิ้วมือแน่น ใช้ใบหน้าที่ราบเรียบมืดมนหันกลับไปมองนาง

ฉู่หลิงอวิ้นกลับไม่รู้สึกเกรงกลัวท่าทีดุดันของเขาแม้แต่น้อย “มาถึงจุดนี้แล้ว เจ้าคิดว่าแค่ปล่อยข้าไปเช่นนี้ก็พอแล้วอย่างนั้นรึ? เจ้าไม่ใช่ว่าไม่อยากติดร่างแหกับข้าไปด้วยหรอกหรือ? ไม่ฆ่าข้าให้ตายเพื่อจบเรื่องไป หรือไม่ก็…”

นางพูดเป็นพักๆ ในตอนที่กำลังจะเปิดปากอีกครั้งก็เผยประกายสายตาเยือกเย็นที่อบอวลไปด้วยจิตสังหาร

ฉู่ฉีเหยียนมิอาจอดทนได้อีกต่อไป หัวเราะขึ้นในลำคอทีหนึ่ง ก่อนจะพูดเหน็บอย่างอดสู “เจ้ายังไม่ยอมแพ้อีกรึ? หากเหยียนหลินจวินผู้นั้นมีความรู้สึกดีๆ ให้เจ้าสักหน่อย เจ้าคงไม่ตกอยู่ในสภาพเช่นนี้หรอก จนถึงเวลานี้แล้วเจ้าคิดว่าอย่างไรเล่า?”

“ข้าหาได้สนไม่!” ฉู่หลิงอวิ้นตัดบทเขาด้วยโมโห เบือนหน้าไปทางด้านข้างอย่างโกรธเกรี้ยว ”ในเมื่อข้าไม่ได้ นางก็อย่าหวังที่จะสมปรารถนาเลย!”

พี่น้องสองคน เผชิญหน้าอย่างไม่ยอมกัน ไม่ว่าใครก็ไม่ยอมถอยให้ใคร

ความดื้อรั้นของฉู่หลิงอวิ้นนั้น ฉู่ฉีเหยียนรู้ดีมาตลอด

แต่ว่า…

“ข้าไปล่ะ!” จ้องหน้ากันมาค่อนวัน ฉู่ฉีเหยียนทำเพียงแค่สะบัดชายเสื้อเดินออกไป

หลี่หลินคอยอยู่ที่หน้าประตู เมื่อพบว่าเขามีสีหน้าไม่ยินดีนัก ก็รีบก้าวเข้าไปหาอย่างรวดเร็ว

“เรื่องของสกุลจาง จัดการให้เรียบร้อยซะ!” ฉู่ฉีเหยียนกล่าวเน้นย้ำทุกคำอย่างหนักแน่น “สามวันหลังจากนี้ข้าต้องการให้พวกเขาหายไปอย่างไร้ร่องรอย!”

ฉู่หลิงอวิ้นอดทนกับจางอวิ๋นอี้ได้ หนึ่งเพราะยังมีเรื่องที่ค้างคา ส่วนสอง…

ก็เพราะอยากจะบีบเขาให้ลงมือ

พี่สาวคนนี้ของตน อยากจะดึงดันขึ้นมาจริงๆ ก็มีเพียงให้นางตายเท่านั้นถึงจะสามารถจบเรื่องได้

“ขอรับ!” หลี่หลินรับคำสั่งอย่างตั้งใจ ไม่ได้พูดถึงคำอื่นใดขึ้นมาอีก

ภายในห้อง ฉู่หลิงอวิ้นเผยใบหน้ามืดมนทอดสายตามองแผ่นหลังของเขาออกไปจากเรือน มุมปากโค้งขึ้นร้อยเรียงกันก็ยิ่งให้ความรู้สึกเยียบเย็นน่าขนลุกขึ้นมา

จื่อเหวยเดินนำขึ้นมาด้านหน้า กล่าวด้วยเสียงต่ำ “ท่านหญิง!”

ฉู่หลิงอวิ้นเงยหน้ามอง สายตาพลันเหลือบไปเห็นใบหน้าตนเองที่ดูดุร้ายและน่าหวาดกลัวยิ่งนักในกระจกทองเหลือง จู่ๆ ก็หัวเราะออกมาเสียงดังลั่น

วันนี้นางดูคล้ายกับผีเช่นนี้ มิสู้ตายเสียยังดีกว่า แต่ถ้าหากตายอย่างเช่นนี้…

นางไม่ยินดี!

ฉู่สวินหยางถือสิทธิ์อันใดอยากได้อะไรก็ล้วนสมปรารถนา กลับยังต้องการทำให้นางรู้สึกอยู่ก็เหมือนตาย?

เดิมทีแล้วนางควรจะได้เป็นราชนิกุลที่สูงส่งล้ำค่าคนนั้น ถือสิทธิ์อันใดจึงพลิกหน้ามือเป็นหลังมือเช่นนี้? ถือสิทธิ์อันใดเหยียนหลิงจวินถึงต้องการนางอย่างสุดหัวใจ?

เสียงหัวเราะของนางทำให้สาวใช้ทั้งสองคนหวาดกลัว จึงพยายามข่มตาลงไป

นิสัยของฉู่ฉีเหยียนก็เป็นเช่นนั้น ไม่ยอมถูกใครควบคุม ไม่ยอมฟังคำขู่ของผู้อื่น หากเป็นฉู่หลิงอวิ้นย่อมต้องบีบให้เขาไปทำอะไรสักอย่าง เช่นนั้นผลลัพธ์สุดท้ายก็มีเพียงเป็นผลตรงข้ามกับสิ่งที่คาดหวัง ดังนั้นนางจึงทำเรื่องในทางตรงกันข้าม ทำได้เพียงเลือกใช้เรื่องของจางอวิ๋นอี้ แล้วปล่อยให้มันเปลี่ยนไปตามเรื่องตามราว

เวลานี้นางกลายเป็นเรื่องเล่าตลกของผู้อื่น ทั้งยังกลายเป็นความอัปยศมิอาจลบออกได้จากชีวิตของฉู่ฉีเหยียน

ความรู้สึกระหว่างพี่น้องของพวกเขาแท้จริงแล้วยังคงมีอยู่ ยิ่งฉู่ฉีเหยียนเป็นเช่นนี้ก็ยิ่งไม่มีทางไม่สนใจนาง เพราะว่า…

เขาเป็นคนที่เชิดชูในอำนาจ เดิมทีก็ไม่อาจรับเรื่องอับอายเช่นนี้ได้อยู่แล้ว

ฉู่หลิงอวิ้นหัวเราะร่วนอย่างชั่วร้าย ใช้มือจับผ้าเช็ดหน้าเปียกจากอ่างทองแดงด้านข้างขึ้นมา กดไว้กับบาดแผลบนหน้าผากที่เลือดยังไหลไม่ยอมหยุด

วันที่สองของเทศกาลซ่างซื่อ ฮูหยินรองหลัวพาหลัวอวี่ก่วนเข้ามาส่งในวัง ไปคารวะหลัวฮองเฮา

จวนหลัวกั๋วกงหลังจากเกิดเรื่องของหลัวส่วงขึ้นแล้ว หลัวฮองเฮายังคงมีโทสะอยู่บ้าง เวลานี้จึงทำเป็นไม่สนใจจวนรองสกุลหลัวเท่าไร

ฮูหยินรองหลัวเกลี้ยกล่อมนางอย่างสงวนท่าที กลับไม่เห็นความอ่อนโยนจากนางแม้แต่น้อย

“ฮองเฮาเพคะ เรื่องครั้งที่แล้วไม่ใช่ว่าหลานอยากจะปิดบังพระองค์นะเพคะ พวกเราก็ล้วนไม่รู้ว่าส่วงเอ๋อร์แท้จริงแล้วเขา…” ฮูหยินรองหลัวกล่าวอธิบายอย่างพะเน้าพะนอ

หลัวฮองเฮาเพียงแค่เผยสีหน้าราบเรียบ ตรัสว่า “เจ้ามีอะไรก็พูดมาตรงๆ อยู่ต่อหน้าข้าไม่จำเป็นต้องอ้อมค้อม”

ใจของฮูหยินรองหลัวหดเข้า ท่าทีนั้นยังแฝงด้วยความลำบากใจอยู่ไม่กี่ส่วน จึงตรึกตรองในใจอีกครั้งก่อนกล่าว

“เมื่อวานท่านหญิงทั้งสองแห่งวังบูรพาเข้าพิธีปักปิ่น หลานได้ไปร่วมพิธี กลับพบว่าท่านหญิงฉู่สวินหยางผู้นี้มีความอ่อนน้อมถ่อมตน ดูดีที่เดียว…”

“หื้ม?” หลัวฮองเฮาไม่ได้รอให้นางพูดจบ ก็เงยหน้ามองนางอย่างสงสัย

ฮูหยินรองหลัวกัดฟันกล่าว “อายุของเสียงเอ๋อร์ ก็เหมาะที่จะมีคู่แล้วเพคะ!”

เป็นไปตามคาด นางเพิ่งจะพูดจบไป หลัวฮองเฮาก็เผยใบหน้าเย็นเยียบขึ้นมา วางถ้วยชาลงกับโต๊ะอย่างแรง

“เป็นเช่นนั้น? เจ้าถูกใจเด็กคนนี้งั้นรึ?”

ฮูหยินรองหลัวถูกนางพูดด้วยท่าทีถมึงทึงจึงตกใจสั่นไหว น้ำเสียงก็อ่อนลงสามส่วนอย่างไม่รู้ตัว “หลานกับนางเหมือนรู้สึกว่าถูกชะตากัน…”

“ในเมื่อถูกชะตา เช่นนั้นเจ้าก็ไปพูดตัวต่อตัวกับนางเอง เหตุใดจึงต้องมาหาข้าที่นี่เล่า?” หลัวฮองเฮากล่าวด้วยน้ำเสียงไม่ยินดี

“ฮองเฮาเพคะ ท่านแม่เพียงแค่พูดขึ้นลอยๆไปเช่นนั้น การแต่งงานของท่านพี่อย่างไรก็ต้องเป็นพระองค์ตัดสินใจจึงจะเหมาะสมเพคะ” หลัวอวี่ก่วนเมื่อเห็นว่าเรื่องราวเริ่มเดินไปผิดทาง จึงรีบร้อนออกมาเกลี้ยกล่อม หยัดกายขึ้นส่งถ้วยชาไปให้

หลัวฮองเฮาส่งเสียงหัวเราะในลำคอ ไม่ได้พูดสิ่งใดออกมา

บนหน้าผากของฮูหยินรองหลัวปรากฏเหงื่อชื้นขึ้นอยู่รางๆ ไม่รู้ว่าหลังจากนี้ควรจะพูดอย่างไรต่อไปดี

หลัวอวี่ก่วนลองหยั่งเชิงอย่างรักษาท่าที “ฮองเฮาคิดว่าท่านหญิงสวินหยางและท่านพี่ของข้าไม่เหมาะสมกันจริงๆหรือเพคะ?”

หลัวฮองเฮาเผยประกายแววตาดุดัน

แม้ว่าจะเตรียมคำพูดมาอย่างดี แต่หลัวอวี่ก่วนก็ยังมิวายถูกนางข่มขู่จนกลัวเกรง จึงหลบสายตานางพลางกล่าว “หลังจากเกิดเรื่องของพี่ห้า ท่านพี่หญิงไม่ได้รับความเป็นธรรมดังนั้นท่านลุงจึงให้ความสำคัญกับนาง ทั้งวันต่อหน้าท่านลุงก็เอาแต่ทำให้เรื่องลุกลามใหญ่โต ครอบครัวนั้นเมื่อรวมเข้าด้วยกัน ท่านพี่ที่อยู่ในจวนกั๋วกงก็ล้วนผ่านแต่ละวันไปอย่างยากลำบาก แท้จริงแล้วท่านแม่ก็ไม่ได้มีความหมายอื่นใด เพียงอยากหาสกุลทางบ้านพ่อแม่สามี ที่มีรากฐานแข็งแรง เผื่อวันหลังจะได้คอยช่วยเหลือเขาได้”

เรื่องของหลัวส่วง แม้ว่าหลัวซืออวี่จะเดินไปอย่างสุดโต่ง แต่ก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่ากลับได้ช่วยหลัวเหว่ยไว้จากเรื่องร้าย เวลานี้แม้ว่าหลัวเหว่ยจะหนีหน้าไม่สนใจอะไรนาง แต่ว่าสำหรับฮูหยินรองหลัวและหลัวเถิงสองแม่ลูกแล้วกลับให้ความสนใจมากขึ้น

——————————–

สวินหยาง ยอดหญิงไร้พ่าย ภาค 2

สวินหยาง ยอดหญิงไร้พ่าย ภาค 2

Status: Ongoing

วังหลวงโรยแสงกับสุราพิษหนึ่งจอก พี่ชายฝาแฝดสละชีพ สีเลือดชโลมลาน ตระกูลรัชทายาทถูกประหารยกครัว

โลหิตย้อมคม เทียนแดงร่ำไห้ เขาว่า จะไม่มีใครบนโลกนี้ล่วงรู้ฐานะแท้จริงของเจ้า เจ้าก็รั้งอยู่ข้างกายข้าอย่างสบายใจเถอะ

นางเป็นกากเดนในราชวงศ์ก่อน ฉากนองเลือดครั้งนี้ ก็แค่อุบายสวยหรูที่อ้างชื่อของความรัก!

นางฟื้นตื่นจากฝันร้าย ลืมตาอีกครั้ง…

นางยังเป็นองค์หญิงสวินหยางผู้ไร้เทียมทานคนเก่า

บิดาผู้ชุบเลี้ยงยังมี ชายผู้เป็นพี่ยังอยู่เคียงข้าง ทุกสิ่งทุกอย่าง ยังไม่สายเกินแก้

นางรวบรวมไพร่พล สวมชุดนักรบกรุยทางแห่งอำนาจ นางจะพลิกบัลลังก์ด้วยคมดาบเปื้อนเลือดในมือ

ของของนาง นางจะปกป้อง

ของที่อยากได้ นางก็จะแย่งมา!

กบฏแห่งใต้หล้า นางมารล่มเมือง!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน