สวินหยาง ยอดหญิงไร้พ่าย ภาค 2 – ตอนที่ 30.1

ตอนที่ 30.1

บทที่ 30 ใครโหดเหี้ยมกว่ากัน? (1)
Ink Stone_Romance

หัวใจของฉู่สวินหยางบีบรัดแน่น

เหยียนหลิงจวินเม้มปาก นัยน์ตามีไอเย็นวาบผ่าน

ฉู่ฉีเฟิงหันกลับไปมองหน้าประตูห้องทรงอักษรที่มีองครักษ์พร้อมอาวุธครบมือประจำอยู่ นำคนทั้งสองเดินไปที่ด้านข้างของลานกว้างหน้าตำหนัก แล้วหันไปพูดกับเจี่ยงลิ่วด้วยสีหน้าจริงจังว่า “เล่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นอีกรอบสิ”

“เมื่อครู่เลยขอรับ ประมาณครึ่งชั่วยามก่อนหน้า มีมือสังหารลอบเข้าจวน บุกไปที่เรือนที่ชายารองพักอยู่” เจี่ยงลิ่วเล่า หัวคิ้วขมวดพันกันวุ่น และเพราะยังทำใจให้เชื่อไม่ได้ จึงพยายามบังคับลมหายใจให้สงบลงก่อน

“เจี๋ยหงกับเฉี่ยนลวี่เล่า?” เหยียนหลิงจวินถาม

ก่อนออกมาเขาได้กำชับให้สาวใช้ทั้งสองคอยเฝ้าคนแซ่ฟางไว้ไม่ให้ห่าง

“ตอนนั้นข้างกายชายารองมีเพียงแม่นางสองคนคอยดูแลรับใช้ พวกองครักษ์ต่างเฝ้าอยู่ด้านนอก ต่อมาได้ยินเสียงเอะอะข้างใน ตอนที่เข้าไปถึงก็เห็นแม่นางทั้งสองล้มลงไปแล้ว!” เจี่ยงลิ่วเล่าไปก็หอบหายใจไป

“จับคนไว้ได้ไหม?” ฉู่สวินหยางถามบ้าง

นานเท่าไรแล้วที่วังบูรพาของพวกเขาไม่เคยเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น ถึงขั้นมีคนอาจหาญบุกเข้าไปถึงเรือนหลัง

“ไม่ขอรับ!” เจี่ยงลิ่วรู้สึกละอายนัก “ตอนที่องครักษ์เข้าไปมันก็โดดออกหน้าต่างไปแล้ว”

“คนเดียว?” ฉู่ฉีเฟิงทักเสียงเบา

“น่าจะ…ขอรับ!”

เหยียนหลิงจวินเอาแต่เม้มปากไม่ออกเสียง พอดีกับตอนนั้นมีคนประคองหลัวฮองเฮาออกมาจากด้านหลังห้องทรงอักษร

ฉู่ฉีเฟิงมองตามสายตาของเหยียนหลิงจวินไป เอ่ยว่า “เจ้าสงสัย…”

เหยียนหลิงจวินไม่ตอบรับและไม่ปฎิเสธ

ความจริงแล้วทั้งสามต่างรู้ดี เรื่องนี้มีความเป็นไปได้น้อยมากที่จะเกี่ยวพันไปถึงหลัวฮองเฮา ถึงแม้จุดประสงค์ของทั้งสามจะต้องการล้มหลัวฮองเฮา แต่ในใจต่างก็กระจ่างชัดถึงความจริงในข้อนี้

“เจี๋ยหงกับเฉี่ยนลวี่เป็นอย่างไรบ้าง?” ฉู่สวินหยางถามอย่างครุ่นคิด

“แค่ถูกตีจนสลบไปขอรับ” เจี่ยงลิ่วตอบ “ไม่อันตรายถึงชีวิต”

ไม่สังหารคน?

“ท่านแม่ล่ะ?” ฉู่ฉีเฟิงถาม

“หมอกู่ตรวจดูแล้ว อาการของชายารองยังเหมือนเดิม อีกฝ่าย…เหมือนจะไม่ได้ต้องการทำร้ายคน” เจี่ยงลิ่วตอบพลางขมวดคิ้วทำหน้าคิดไม่ตก

คนทั้งสามมองหน้ากันอีกครั้ง ต่างเห็นความหนักอึ้งฉายชัดที่นัยน์ตาของอีกฝ่าย

ไม่ฆ่าคน ไม่เอะอะเปิดเผย แล้วอีกฝ่ายยอมเสี่ยงตายบุกเข้ามาวังบูรพาเพื่อสิ่งใด?

ต้องมีจุดประสงค์อื่นแน่!

“กลับไปดูก่อนเถอะ!” ฉู่สวินหยางกล่าว พลางหันกลับไปมององครักษ์ที่หน้าห้องทรงอักษรอีกครั้ง

ฉู่ฉีเฟิงกำลังพยักหน้ารับ พลันเห็นคนวิ่งกระหืดกระหอบมาตามระเบียงทางเดินที่เชื่อมระหว่างห้องทรงอักษรกับตำหนักโซ่วคัง นั่นก็คือหัวหน้าขันทีประจำตำหนักโซ่วคัง หนีอันขุย

“แย่…แย่แล้ว…แย่แล้วพ่ะย่ะค่ะ!” หนีอันขุยไร้ซึ่งสติโดยสิ้นเชิง วิ่งล้มลุกคลุกคลานเข้ามาด้วยสีหน้าไร้เลือด พอเห็นหลัวฮองเฮาถูกคนพยุงออกมา ไม่ทันสังเกตท่าทางไร้เรี่ยวแรงของนาง ก็โผไปที่แทบเท้าทันที แล้วรายงานเสียงดังลั่น “ฮองเฮา เกิดเรื่องแล้ว แม่นมเหลียง…แม่นมเหลียงกับไฉ่เยวี่ย ตายแล้วพ่ะย่ะค่ะ!”

ฮองเฮาหลัวเดิมก็หัวใจทดท้อ เหี่ยวเฉาไปทั้งตัว พอได้ฟังความนัยน์ตาพลันสว่างวาบ

เพราะหนีอันขุยโหวกเหวกเสียงดังเกินไป ทำให้หลี่รุ่ยเสียงที่อยู่ด้านในก้าวฉับๆ ออกมาด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์นัก

หนีอันขุยหวาดกลัวเขา รีบหุบปากแน่น แต่เพราะจิตใจสับสน ทุกอย่างจึงฟ้องออกมาผ่านแววตา

“อาจารย์” เย่าสุ่ยโผล่ออกมาจากด้านข้าง กระซิบที่ข้างหูหลี่รุ่ยเสียงว่า “หนีกงกงพูดว่าแม่นมเหลียงกับไฉ่เยวี่ยตายแล้วขอรับ”

ตามหลักแล้ว ตำหนักหลัวฮองเฮาจะมีสาวใช้ตายสักคนหรือสองคนก็หาได้จำเป็นต้องรายงานฮ่องเต้ไม่ จัดการให้เรียบร้อยแค่ภายในเป็นอันใช้ได้แล้ว ต่อให้ทั้งสองคนจะเป็นคนสนิทของหลัวฮองเฮาก็ตาม

แต่ตอนนี้หลัวฮองเฮาเพิ่งจะถูกยึดอำนาจคืนไป

คิ้วของหลี่รุ่ยเสียงกระตุกเบาๆ สีหน้าที่เคยแต่ราบเรียบไร้อารมณ์ บัดนี้กลับตวัดสายตาคมกริบไปทางหนีอันขุย

ร่างของหนีอันขุยสั่นสะท้าน พยายามก้มหน้าลงต่ำ

ทางด้านสองพี่น้องฉู่สวินหยางที่กำลังเตรียมออกจากวัง เห็นทางนี้เกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้น ก็อดจะระแวดระวังไม่ได้

ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ฉู่สวินหยางก็หันไปบอกฉู่ฉีเฟิงว่า “พี่ชายเป็นห่วงท่านแม่ก็กลับไปก่อนเถิด ข้ารั้งอยู่ที่นี่อีกสักพัก”

ฉู่ฉีเฟิงไม่วางใจจริงๆ หยุดคิดเล็กน้อยแล้วพยักหน้า “ได้ เจ้าก็ระวังตัวด้วย”

กล่าวจบก็หันไปมองเหยียนหลิงจวิน

เหยียนหลิงจวินคิดหนัก ก่อนจะฝืนยิ้มส่งให้ฉู่สวินหยาง ตอบว่า “ข้าตามไปดูชายารองหน่อย ถ้าที่นี่ไม่มีอะไร…”

“ข้าจะรีบกลับ!” ฉู่สวินหยางตอบ

“อืม!” เหยียนหลิงจวินหัวเราะ หมุนกายจากไปพร้อมกับฉู่ฉีเฟิง

ฉู่สวินหยางมองตามแผ่นหลังของทั้งคู่อยู่ไม่นาน จากนั้นก็รีบดึงสติแล้วพุ่งตัวไปทางทิศทางของห้องทรงอักษร

“หัวหน้าหลี่ เกิดเรื่องอะไรขึ้นรึ?” ฉู่สวินหยางถาม

“เหมือนว่าตำหนักของฮองเฮาจะเกิดเรื่องขอรับ!” หลี่รุ่ยเสียงตอบ “ท่านหญิงจะออกจากวังหรือไม่? ข้าน้อยจะให้คนยกเกี้ยวมารับ?”

“ไม่ต้องหรอก!” ฉู่สวินหยางยิ้มให้ หันไปกล่าวกับหลัวฮองเฮาด้วยสีหน้านิ่งเรียบ “เสด็จย่าไม่สบาย น่ากลัวจะได้รับความสะเทือนใจ ไม่ใช่เกิดเรื่องที่ตำหนักหรือเพคะ? เดี๋ยวหม่อมฉันจะไปส่งเสด็จย่าเอง!”

“ไม่…” หนีอันขุยตกใจ รีบปฏิเสธหลบเลี่ยง

สายตาเย็นเยียบของฉู่สวินหยางตวัดไปมองทันที

หัวใจของอีกฝ่ายสั่นไหว รีบกัดลิ้นแล้วหุบปากฉับ

แม่นมเหลียงเป็นสาวใช้ที่ติดตามนางมาเมื่อครั้งแต่งออกจากสกุลเก่า ทั้งเป็นคนรู้ใจ ส่วนไฉ่เยวี่ยก็เป็นข้ารับใช้ข้างกายของนาง สองคนมาจบชีวิตลงพร้อมกัน หากปิดเรื่องเงียบก็จบแล้วไปเถอะ ทว่าตอนนี้รู้กันจนทั่ว คงไม่อาจจบเรื่องได้ง่ายๆ

ทั้งฉู่สวินหยางคนนี้…

เห็นชัดว่าพยายามก่อกวนให้วุ่นวายยิ่งกว่าเก่า

หลัวฮองเฮาทำหน้าดุร้าย จ้องนางอย่างเกลียดชัง แต่เพราะร่างกายอ่อนแอเกินกว่าจะทะเลาะกับนาง

หลี่รุ่ยเสียงครุ่นคิดเล็กน้อย ประจวบกับฮ่องเต้ก็ถูกประคองออกมาจากห้องทรงอักษรพอดี เห็นว่าหลายคนรวมตัวกันอยู่ก็ตรัสถามด้วยสีหน้าอึมครึมว่า “มาทำอะไรกันตรงนี้?”

“ฝ่าบาท!” หลี่รุ่ยเสียงคารวะหนึ่งที ทูลด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบดังที่เคยเป็น “ร่างกายของฮองเฮาไม่สู้ดี หม่อมฉันจะไปส่งฮองเฮาด้วยตัวเองพ่ะย่ะค่ะ”

หลี่รุ่ยเสียงทำงานรอบคอบ ฮ่องเต้ย่อมไม่ติดใจคิดมาก เพียงหมุนกายเดินจากไป

มองส่งฮ่องเต้จากไปไกล หลี่รุ่ยเสียงสั่งให้ส่งรถลากเข้ามา เพื่อไปส่งหลัวฮองเฮากลับตำหนักโซ่วคังด้วยตนเอง

ก่อนขึ้นรถหลัวฮองเฮาหันมามองฉู่สวินหยางอย่างมาดร้ายทีหนึ่ง ก่อนจะปีนขึ้นไปด้วยร่างที่สั่นระริก

ฉู่สวินหยางสบตากับนาง ทั้งยังส่งยิ้มน้อยๆ ให้

หลี่รุ่ยเสียงเห็นสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างทั้งสองคน จึงถามอย่างลังเลว่า “ให้ข้าน้อยเรียกเกี้ยวมารับท่านหญิงดีไหมขอรับ?”

รถลากนั้นใหญ่มาก นั่งสองคนยังมีที่เหลือเฟือ เห็นได้ชัดว่าหลัวฮองเฮาไม่อยากจะใกล้ชิดกับฉู่สวินหยาง

———————————-

สวินหยาง ยอดหญิงไร้พ่าย ภาค 2

สวินหยาง ยอดหญิงไร้พ่าย ภาค 2

Status: Ongoing

วังหลวงโรยแสงกับสุราพิษหนึ่งจอก พี่ชายฝาแฝดสละชีพ สีเลือดชโลมลาน ตระกูลรัชทายาทถูกประหารยกครัว

โลหิตย้อมคม เทียนแดงร่ำไห้ เขาว่า จะไม่มีใครบนโลกนี้ล่วงรู้ฐานะแท้จริงของเจ้า เจ้าก็รั้งอยู่ข้างกายข้าอย่างสบายใจเถอะ

นางเป็นกากเดนในราชวงศ์ก่อน ฉากนองเลือดครั้งนี้ ก็แค่อุบายสวยหรูที่อ้างชื่อของความรัก!

นางฟื้นตื่นจากฝันร้าย ลืมตาอีกครั้ง…

นางยังเป็นองค์หญิงสวินหยางผู้ไร้เทียมทานคนเก่า

บิดาผู้ชุบเลี้ยงยังมี ชายผู้เป็นพี่ยังอยู่เคียงข้าง ทุกสิ่งทุกอย่าง ยังไม่สายเกินแก้

นางรวบรวมไพร่พล สวมชุดนักรบกรุยทางแห่งอำนาจ นางจะพลิกบัลลังก์ด้วยคมดาบเปื้อนเลือดในมือ

ของของนาง นางจะปกป้อง

ของที่อยากได้ นางก็จะแย่งมา!

กบฏแห่งใต้หล้า นางมารล่มเมือง!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน