สวินหยาง ยอดหญิงไร้พ่าย ภาค 2 – ตอนที่ 36.2

ตอนที่ 36.2

บทที่ 36 ฮูหยิน รอข้าด้วย! (2)
Ink Stone_Romance
พวกเขาตื่นตระหนกเงยศีรษะขึ้นมอง ทว่ากลับเห็นการปรากฏตัวขึ้นของคนชุดดำพวกนั้น กำลังยืนบังฉู่หลิงซิ่วที่ขดตัวกลัวเป็นก้อนอยู่ใต้บานหน้าต่างเอาไว้

ผู้มาเยือนเป็นหญิงสาวสองคนในชุดพรางกายสีดำสนิท ดูท่าน่าจะอายุราวๆ สิบเจ็ดสิบแปดปีได้ แต่ว่าฝีมือของพวกนางนั้นถือว่าไม่เลวเลยทีเดียว

ซูหลินเห็นพวกนางสองคนยืนขวางฉู่หลิงซิ่วเอาไว้ ก็รู้สึกไม่สบอารมณ์ยิ่งกว่าเดิม เขาตะโกนขึ้นมาอย่างโมโห “พวกเจ้าเป็นคนของจวนอ๋องหนานเหอรึ?”

ในระหว่างที่พูดอยู่ ก็รู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่างจึงเงยหน้ามองคานหลังคาบนหัวอีกครั้ง

บนนั้นฉู่สวินหยางในชุดสีดำแขนสั้นขาสั้นคล่องตัว กำลังยิ้มมองมาที่เขา แถมยังล้วงถั่วดำในกระเป๋าคาดเอวขึ้นกินอย่างไม่รู้ร้อนอีก

“ฉู่สวินหยางรึ?” ซูหลินโพล่งออกมาอย่างคาดไม่ถึง “ทำไมถึงเป็นเจ้า?”

“แล้วทำไมถึงเป็นข้าไม่ได้เล่า?” ฉู่สวินหยางถามกลับ นั่งชันเข่าอยู่บนคานเรือนอันนั้นแล้วหยิบถั่วกินอย่างสบายใจ

ซูหลินยังไม่เข้าใจสถานการณ์ตรงหน้าเท่าไร สีหน้ามึนงง จ้องอีกฝ่ายด้วยความระมัดระวังอยู่นาน แต่สุดท้ายก็เอ่ยปากถามขึ้นอย่างไม่อยากจะเชื่อว่า “เจ้าทำแบบนี้หมายความว่าอย่างไร?”

“เจ้ายังดูไม่ออกอีกงั้นหรือ?” ทว่าฉู่สวินหยางยังคงย้อนถามเขากลับ ปรายตามองฉู่หลิงซิ่วหนึ่งทีแล้วพูดต่อว่า “ขอโทษด้วยซูซื่อจื่อ แม่หญิงนางนี้ข้าคงให้ท่านจัดการนางไม่ได้หรอก อย่างไรก็แล้วข้าขอพาตัวนางไปก่อนแล้วกัน!”

ซูหลินรู้สึกเหมือนได้ฟังเรื่องตลก เขาหัวเราะชอบใจออกมาอย่างไม่มีใครทันตั้งตัว “ฉู่สวินหยาง ข้าว่าเจ้าคงยุ่งไม่เข้าเรื่องเท่าไรมั้ง ตระกูลลซูของข้ากับเรื่องจวนอ๋องหนานเหอมันเกี่ยวอะไรกับเจ้า? เจ้าคิดว่าข้าไม่รู้ความสัมพันธ์ของพวกเจ้าวังบูรพากับจวนอ๋องหนานเหองั้นเหรอ? เจ้าจะพาตัวนางไปเนี่ยนะ?”

เขาส่ายหัว ถลึงตามองฉู่หลิงซิ่วอย่างดุร้าย จากนั้นหันไปมองฉู่สวินหยางแล้วเปลี่ยนประเด็น เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา “อีกอย่าง…เจ้ามีสิทธิ์อะไร?”

“เจ้าไม่ต้องสนใจหรอก อย่างไรก็ตามเจ้าก็ห้ามข้าไว้ไม่ได้อยู่ดี!” ฉู่สวินหยางยิ้ม

เจี๋ยหงกับเฉี่ยนลวี่พยุงตัวฉู่หลิงซิ่วขึ้นมา

ซูหลินเห็นเข้าก็รีบร้อนผลักองครักษ์ที่ยืนขวางทางไว้ เดินเข้าไปแล้วตะโกนอย่างโมโหว่า “เจ้ากล้าพาตัวนางไปงั้นรึ เพียงเพื่อผู้หญิงที่มีความสัมพันธ์ห่างเหินกับเจ้าคนนี้งั้นรึ เจ้าคิดจะเป็นปรปักษ์กับพวกเราจวนอ๋องฉางซุ่นงั้นหรือ?”

“จวนอ๋องฉางซุ่นรึ?” ฉู่สวินหยางเบ้ปากอย่างไม่สนใจไยดี ท่าทางนั้นเต็มไปด้วยความเยาะเย้ย “พวกเจ้าไปมาหาสู่กันตั้งนาน ฉู่ฉีเหยียนเป็นคนเยี่ยงไรเจ้าก็คงรู้ดีอยู่แล้วนี่? เรื่องท้ายเรือนจุกจิกพวกนี้เขาไม่สนใจหรอก แต่เจ้าคิดเหรอว่าเขาจะยอมปล่อยให้เจ้ากลับไปอย่างโดยดี แล้วปล่อยให้เจ้ามาต่อกรกับจวนอ๋องหนานเหอของพวกเขาน่ะ? ซูซื่อจื่อ ท่านนี่คิดแง่ดีเกินไปหรือเปล่า?”

ซูหลินตกใจ สีหน้าค่อยๆ มืดมนลง

“ทำไมฮ่องเต้ถึงยอมปล่อยให้ท่านออกจากเมืองหลวงไปได้อย่างง่ายดายเยี่ยงนี้? ซูจิ่นรั่งเองก็เสียชีวิตไปแล้ว ท่านคงไม่โง่ถึงขั้นไม่รู้ว่าคนมีชื่อเสียงมากมักจะถูกเป็นเป้าโจมตีหรอกใช่ไหม?” ใบหน้าของฉู่สวินหยางเต็มไปด้วยความเยาะเย้ยประชดประชัน ในระหว่างที่พูดอยู่ก็ยันแขนลงกับคานไม้นั่นด้วยมือข้างเดียว แล้วกระโดดลงมาอย่างสวยงาม

นางยืนมือไพล่หลังอยู่ตรงหน้าซูหลิน มองเขาด้วยแววตาสงบนิ่ง “หากท่านรู้จักทำตัวดีๆ หัดทำตัวไหลไปตามน้ำเสียหน่อย หรือไม่ถ้าซูหังเขารู้ตัวว่าต้องทำอะไร รีบเรียกกำลังพลนับหมื่นพวกนั้นออกมาแต่แรก ไม่แน่ฮ่องเต้อาจจะมองพวกท่านเปลี่ยนไป คงไม่สนใจเรื่องพวกนี้หรอก แต่ในเมื่อตอนนี้…”

ฉู่สวินหยางปรายตามองฉู่หลิงซิ่วที่นั่งอยู่ด้านหลัง ที่ยังคงงุนงงกับสถานการณ์ตรงหน้าอยู่ ส่ายศีรษะไปมาอย่างน่าเสียดายแล้วพูดต่อ “ถึงแม้นางจะทำผิดมหันต์สักเท่าใด แต่ท่านอย่าลืมไปสิว่าแท้จริงแล้วนางแซ่ฉู่นะ หากต้องการปิดข่าวฉาว? ยุติความขัดแย้งนี้? แค่คำพูดของฮ่องเต้คำเดียวก็จบแล้ว นางเป็นถึงหลานสาวแท้ๆ ของฮ่องเต้ ท่านคิดว่าตัวเองทำร้ายนางเยี่ยงนี้ ฮ่องเต้ยังยิ้มยินดีปล่อยให้ท่านกลับไปเสวยสุขที่จวนอ๋องฉางซุ่นหรือ?”

เดิมทีฮ่องเต้ก็เป็นคนใจกว้างอยู่แล้วนี่

ก่อนหน้านี้ซูหลินคิดว่าตัวเองมีเหตุผลมากเพียงพอ แต่เมื่อฟังคำพูดของฉู่สวินหยางแล้ว ก็หวาดกลัวจนมือไม้เย็นขนลุกอย่างอดไม่ได้

เขาก้าวเท้าถอยหลังไปอย่างไม่รู้สึกตัว ใบหน้าอึ้งตกใจพูดขึ้นว่า “เจ้าอย่ามาพูดให้คนอื่นตกใจเลย ท่านพ่อของข้าเป็นขุนนางที่คอยช่วยให้ฮ่องเต้ยึดอำนาจมาได้ เขาไม่กล้า…”

“ท่านจะคิดอย่างไรก็แล้วแต่!” ฉู่สวินหยางไม่รอให้อีกฝ่ายพูดจบก็ชิงตัดบทพูดขึ้น “นั่นเป็นเรื่องระหว่างตระกูลซูกับเขา อย่างไรก็แล้วแต่ข้าขอพาตัวฉู่หลิงซิ่วไปก่อนแล้วกัน”

พูดจบก็หันหลังจากไปอย่างไม่สนไใยดี

ซูหลินยังคงสงสัยคิดไม่ตก ใจหนึ่งก็พยายามนึกถึงความรู้สึกอันแปลกประหลาดที่ฮ่องเต้ยอมปล่อยเขาให้รอดไปวันนั้น อีกใจหนึ่งก็รู้สึกไม่ชอบใจที่ต้องปล่อยฉู่หลิงซิ่วไปเฉยๆ เยี่ยงนี้

เขาปล่อยเรื่องปวดหัวเรื่องอื่นไปก่อน เขากัดฟันแล้วเดินขึ้นหน้าไป ยกแขนขึ้นขวางเอาไว้อย่างดุดัน

“นางเป็นพระชายาที่ได้รับการแต่งตั้งเข้าจวนอ๋องฉางซุ่นอย่างถูกต้องตามประเพณี เจ้าไม่มีสิทธิ์พาตัวนางไป!”

เขาคิดว่าการที่ฉู่สวินหยางต้องการพาตัวผู้หญิงคนนี้ไป ก็เพราะต้องการเปิดโปงเรื่องฉาวโฉ่พวกนี้ ทำให้จวนอ๋องหนานเหอกับจวนอ๋องฉางซุ่นบาดหมางจนมีปากเสียงกัน

ฉู่สวินหยางเหลือบตามองแขนที่ยื่นเข้ามารั้งไว้ แล้วหัวเราะเยาะออกมา ค่อยๆ พูดขึ้นว่า “อย่างไรเสียก็มีคนต่อคิวรอขึ้นครองอำนาจอยู่แล้วนี่? ตอนนี้ข้าพาตัวนางไป ก็ถือว่าช่วยให้พวกท่านสมหวังก็แล้วกัน!”

ซูหลินเผยสีหน้าอารมณ์สับสนมึนงงออกมา แล้วโพล่งตะโกนออกมาอย่างโมโหว่า “เจ้าพูดซี้ซั้วอะไร?”

“หลังจากพรุ่งนี้ไป แม่นางหลัวอวี่ก่วนก็จะเดินทางออกจากเมืองหลวงแล้ว พวกท่านนัดกันไว้แล้วไม่ใช่หรอกรึ?” ฉู่สวินหยางมองเขาแล้วถามขึ้นเสียงเรียบ ไม่สนใจว่าเขาจะเปลี่ยนสีหน้าเป็นอย่างไร แถมยังพูดเยาะเย้ยอีกว่า “ถึงแม้สิ่งที่พระชายาทำลงไปมันก็ไม่เหมาะสมนัก แต่พวกท่านสองคนเองก็เลวไม่แพ้กันเลยนะ เรื่องคบชู้แบบนี้…จะพูดก็พูดเถอะ แล้วแต่ว่าท่านจะคิดอย่างไรก็แล้วกัน แต่หากต้องสืบสาวราวเรื่องของความสัมพันธ์ระหว่างท่านกับแม่หญิงหลัวอวี่ก่วนขึ้นมาจริงๆ เรื่องมันเกิดขึ้นก่อนพระชายานานพอสมควรเลยนะเจ้าคะ ในเมื่อต่างคนต่างเป็นเหมือนกันแบบนี้ แถมท่านยังทำมาเป็นกัดนางไม่ยอมปล่อยอย่างไร้เหตุผลเยี่ยงนี้อีก? ดูท่าคงแอบร่วมมือกันหรือเปล่า?”

ซูหลินหน้าดำมืดลง ท่าทางเย็นชาขึ้น จ้องนางตาขวาง หักนิ้วกรอบอย่างโมโหโกรธแค้น

หลัวอวี่ก่วนไม่ได้บอกเรื่องที่ตนถูกฉู่สวินหยางข่มขู่ให้เขารู้ เพราะกลัวว่าถ้าซูหลินรู้แล้ว ซูหลินจะกลัวจนตัดขาดความสัมพันธ์กับนางไป เพราะงั้นซูหลินเลยคิดว่าที่ผ่านมาตนนั้นซ่อนเรื่องนี้ไว้ได้อย่างแนบเนียน

ฉู่หลิงซิ่วที่ยืนตัวสั่นอยู่ด้านข้างเงยหน้าขึ้นมาทันใด นางเบิกตาจ้องมองซูหลินที่อยู่ฝั่งตรงข้าม

ฉู่สวินหยางหัวเราะ นางไม่แม้แต่สนใจเรื่องราวความโกรธแค้นของพวกเขา จู่ๆ นางก็เอ่ยพูดเปลี่ยนประเด็นขึ้นว่า “อ้อ ใช่แล้ว ยังมีอีกเรื่องหนึ่ง ที่ผ่านมาแม่นางหลัวอวี่ก่วนเองก็ถือว่าลำบากพอพอสมควรที่ต้องแอบๆ ซ่อนๆ มาหลับนอนกับซื่อจื่อ เดี๋ยวไว้วันหลังถ้าพวกท่านสองคนได้อยู่ด้วยกันขึ้นมาจริงๆ ท่านคงต้องเอาใจใส่นางหน่อยนะ ต้องรู้เอาไว้นะว่าการที่นางหาคนที่กล้าหาชายผู้กล้าหาญสองคน มาหลอกคนอย่างซูซื่อจื่อว่าภรรยาคบชู้ได้นั้น นางเองก็เสียเงินไปมากโขเลยทีเดียวนะ ดูจากมิตรภาพครั้งนี้แล้ว ก็เห็นได้ว่านางนั้นหลงรักซื่อจื่อท่านหัวปักหัวปำเลยล่ะเจ้าค่ะ!”

ร่างกายของฉู่หลิงซิ่วโยกไปมา ขาอ่อนจนแทบยืนไม่ไหว

ซูหลินอึ้งราวกับถูกสายฟ้าฟาดใส่ ยืนนิ่งราวกับรูปปั้นหิน ขนาดสีหน้าอารมณ์บนใบหน้าก็ยังคงเดิมเอาไว้

ฉู่หลิงซิ่วงุนงงในหัวสับสนปนเปไปหมด พยายามนึกคิดสถานการณ์ตอนนั้นขึ้นมา

นางมีใจอิจฉาริษยา แถมยังเป็นคนเจ้าเล่ห์เพทุบาย แต่นางก็ยังเกิดในตระกูลสูงส่ง ได้รับการสั่งสอนที่ดีมาตั้งแต่เล็ก เพราะฉะนั้นนางยังคงมีความอับอายอยู่บ้าง

ถึงแม้ซูหลินจะไม่สนใจไยดีนาง นางก็เจ็บปวดทรมานใจ แต่นางไม่เคยมีความคิดอื่นเลย จนกระทั่งเมื่อเดือนที่แล้วครั้งนั้น ครั้งที่นางดื่มเหล้าจนเมาแล้วตื่นขึ้นมาท่ามกลางผู้ชายแปลกหน้าด้วยร่างกายเปล่าเปลือย

ตอนนั้นนางตกใจจนสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว หลังจากนั้นไม่ว่าจะทำอย่างไร ซูหลินก็ไม่เคยแตะเนื้อต้องตัวนางอีก นางก็ยิ่งคับแค้นใจ ยิ่งโมโหจนทำเรื่องเลวร้ายยิ่งกว่าเดิมลงไป

ตอนนี้มาคิดดูแล้วมันก็น่าสงสัย…

ถึงแม้นางจะเมาเหล้า แต่ถ้าเรื่องมันเป็นอย่างที่คนนั้นพูดไว้จริง นางเป็นคนจู่โจมก่อนจริง แต่ถ้าคนคนนั้นไม่ได้มีคนคอยบงการอยู่เบื้องหลัง เขาจะกล้าแตะต้องนางได้เยี่ยงไร!

“ซูหลิน…” เมื่อคิดถึงจุดนี้แล้ว ฉู่หลิงซิ่วโมโหอาละวาดออกมา ตะโกนแหกปากเข้าไปตบตีซูหลินอย่างรุนแรง

เฉี่ยนลวี่เห็นดังนั้นก็รีบขึ้นไปรั้งนางเอาไว้!

———————————–

สวินหยาง ยอดหญิงไร้พ่าย ภาค 2

สวินหยาง ยอดหญิงไร้พ่าย ภาค 2

Status: Ongoing

วังหลวงโรยแสงกับสุราพิษหนึ่งจอก พี่ชายฝาแฝดสละชีพ สีเลือดชโลมลาน ตระกูลรัชทายาทถูกประหารยกครัว

โลหิตย้อมคม เทียนแดงร่ำไห้ เขาว่า จะไม่มีใครบนโลกนี้ล่วงรู้ฐานะแท้จริงของเจ้า เจ้าก็รั้งอยู่ข้างกายข้าอย่างสบายใจเถอะ

นางเป็นกากเดนในราชวงศ์ก่อน ฉากนองเลือดครั้งนี้ ก็แค่อุบายสวยหรูที่อ้างชื่อของความรัก!

นางฟื้นตื่นจากฝันร้าย ลืมตาอีกครั้ง…

นางยังเป็นองค์หญิงสวินหยางผู้ไร้เทียมทานคนเก่า

บิดาผู้ชุบเลี้ยงยังมี ชายผู้เป็นพี่ยังอยู่เคียงข้าง ทุกสิ่งทุกอย่าง ยังไม่สายเกินแก้

นางรวบรวมไพร่พล สวมชุดนักรบกรุยทางแห่งอำนาจ นางจะพลิกบัลลังก์ด้วยคมดาบเปื้อนเลือดในมือ

ของของนาง นางจะปกป้อง

ของที่อยากได้ นางก็จะแย่งมา!

กบฏแห่งใต้หล้า นางมารล่มเมือง!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน